นิยาย...emergency love วิกฤตรักฉบับฉุกเฉิน ตอนที่ 3

ตอนที่ 3 คำมั่นสัญญา
 
            บริเวณดาดฟ้าของโรงพยาบาล แพทย์หญิงสิริลักษณ์ในชุดนอกเครื่องแบบกำลังนั่งเหมอคิดถึงแต่เรื่องเมื่อวาน เริ่มจากคนไข้หายตัวไปจากห้องพักฟื้นและวินาทีช่วยชีวิตคนไข้รายนั้นตลอดจนคำสั่งที่อยู่ในเอกสารฉบับนั้น


              “เฮ้อ”             
      
อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจออกมายังจำบทสนทนากับหัวหน้าแผนกได้ดี แต่คิดเรื่องนั้นทีไรก็อดเศร้าไม่ได้ รู้สึกอาภัพในโชคชะตาที่คอยแต่จะกลั่นแกล้งคนไม่มีเส้นสายอย่างเธอ เรียนหมอก็ใช้ทุนของรัฐบาล ครอบครัวก็ไม่ได้เป็นข้าราชการจึงยากเข้าไปใหญ่ที่จะต่อรอง แม้แต่จะอ้าปากพูดก็ยังไม่มีใครรับฟัง

ร่างเล็กเอนตัวลงนอนอย่างเหนื่อยล้า อยากใช้เวลาในส่วนที่ว่างจากการไม่ต้องขึ้นเวรคิดทบทวนเพื่อวางแผนชีวิตต่อไป

ทันทีที่หัวแตะพื้นก็แทบจะลุกขึ้นมาเลยด้วยความตกใจถึงขีดสุด จังหวะนั้นก็ทำเอาหน้าผากของเธอชนกับหน้าผากใครบางคนเข้าอย่างจัง

“โอ๊ย”

เสียงร้องของใครคนนั้นทำเอาคนที่กำลังตกใจเริ่มมีสติ จะว่าไปเธอควรจะด่าเขาด้วยซ้ำ โทษฐานที่โผล่มาแบบไม่ให้สุ่มให้เสียง แถมยังปรากฏตัวแบบคนปกติไม่ทำกัน

“เมื่อกี้คิดจะทำอะไร” แพทย์หญิงถามแววตาขุ่นเคือง ก็เล่นเอาหน้ามายื่นใกล้ๆ บุญเท่าไรแล้วไม่เอานิ้วจิ้มตา

“ขอโทษ ผมก็แค่อยากแกล้งเป็นผี อยากหลอกคนแถวนี้ให้ตกใจเล่น อยากรู้น่ะครับว่าหมอกลัวผีหรือเปล่า” เขาว่าพร้อมกับเอามือขึ้นมาถูหน้าผากตัวเอง ตอนที่ถูกหน้าผากเธอชนก็ทำเอามึนได้เหมือนกัน

“ผีกลางวันมีซะทีไหนกัน” เธอตอบเสียงอ่อนทำท่าจะลุกแต่เห็นอีกฝ่ายยื่นมือมา ได้แต่มองมือนั้นนิ่งเพียงคิดว่าทำไมหมู่นี้ที่มักเจอปัญหาจะต้องมีเขาคนนี้มาอยู่ข้างๆ เธอตลอด สุดท้ายก็ตัดสินใจวางมือบนฝ่ามือหนาก่อนจะถูกเขาดึงขึ้นมายืน

“นึกว่าจะได้เห็นน้ำตาของคุณหมอแล้ว แบบนี้ผมก็เลยอดปลอบใจ” คนเอ่ยเสียงอ่อนเอียงหน้ามองหญิงสาวข้างกาย แม้ไม่เห็นหยดน้ำตาอย่างที่คิดแต่สีหน้าของเธอกลับเศร้าเหลือเกินพลอยทำให้หัวใจเขาอ่อนยวบ

แพทย์หญิงสิริลักษณ์ฟังแล้วยิ้มเจื่อนๆ การมาปรากฏตัวของเขาทำให้เธอนึกถึงสิ่งที่ติดค้างเพียงแต่วันนี้ยังไม่มีแก่จิตแก่ใจทำอะไรทั้งนั้น

“แล้ว...มาหากาแฟดื่มหรอคะ” เธอถามอีกฝ่ายส่ายหน้าไปมา

“เปล่าครับ วันนี้ผมตั้งใจมาหาคุณหมอโดยเฉพาะ” เขาเอ่ยสายตาแน่วแน่ไม่มีแววขี้เล่น

“อ๋อ นี่คงจะมาทวงเรื่องกาแฟใช่ไหมคะ ขอโทษด้วยจริงๆ ถ้าจะบอกว่าวันนี้ไม่มีอารมณ์พาคุณไปเลี้ยงกาแฟ”

“ก็ไม่ได้ต้องการแบบนั้นซะหน่อย”

จิตแพทย์สาวมองหน้าชายหนุ่มด้วยความไม่เข้าใจ เขาบอกมาหาเธอแต่ไม่ได้มาเพื่อต้องการให้เลี้ยงกาแฟแล้วเช่นนั้นอะไรล่ะ คือสาเหตุที่เขาตั้งใจมาหาเธอ

“งั้นที่คุณมาหาฉัน คุณต้องการอะไรคะ” เอ่ยปากถามด้วยความไม่เข้าใจแกมอยากรู้

นายแพทย์ครรชิตจ้องใบหน้าสวยตรงหน้าอย่างตั้งใจ เป็นไปได้ยังไงที่เขาจะตกหลุมรักคนคนนี้ เธอไม่ใช่สาวกรุงเทพ สไตล์การแต่งตัวก็ไม่ได้หวาน อีกทั้งชีวิตประจำวันก็อยู่ต่างจังหวัดซะส่วนใหญ่ ดังนั้น โชคชะตาหรือพรหมลิขิตกันแน่ที่ทำให้เราได้พบกัน

“ยังไม่บอกฉันเลยนะคะว่ามาหาฉันทำไม หรือว่าต้องการอะไรจากฉัน”

“ผมก็แค่...ต้องการเพื่อน”

“เพื่อน”

“ครับ สำหรับตอนนี้ผมอยากเป็นเพื่อนกับคุณ” นายแพทย์ครรชิตเอ่ย ความจริงที่สุดคือเขาอยากเอ่ยอีกคำที่มีความหมายมากกว่านั้นแต่กลัวจะเร็วเกินไปและแนวโน้มที่จะถูกปฏิเสธก็ค่อนข้างสูง ดังนั้น เป็นไปตามลำดับขั้นมันน่าจะดีกว่า ถึงจะเห็นผลช้าแต่เก้าสิบเก้าเปอร์เซ็นต์จะไม่ผิดหวัง”

“คงไม่รู้สินะว่าฉันไม่เปิดใจยอมรับใครเป็นเพื่อนง่ายๆ แต่เอาเถอะสำหรับคนที่ช่วยชีวิตคนไข้ของฉันเอาไว้ ฉันยอมเป็นเพื่อนกับคุณก็ได้ค่ะ” เธอเอ่ยพร้อมส่งยิ้มให้

“งั้น เป็นเพื่อนกันแล้วก็เปิดใจพูดคุยกันได้ทุกเรื่องสินะครับ”

“พูดแบบนี้หมายความว่ายังไงคะ”

“ผมก็แค่อยากเป็นเพื่อนคนหนึ่งที่รู้ถึงการเคลื่อนไหวของคุณ เป็นเพื่อนกันแล้วก็สามารถแลก Line แลก Faceหรือไม่ เพื่อมิตรภาพที่ดีก็น่าจะได้แลกเบอร์กันได้”

“แสดงว่าที่ขอคบเป็นเพื่อนเพียงเพราะหวังสิ่งนี้สินะ”

“จะว่าอย่างนั้นก็ได้ครับ แต่ขอให้คุณหมอรู้ไว้ว่าผมไม่เคยขอใครก่อน คุณหมอคือคนแรกและคือคนสุดท้ายที่ผมคิดจะทำแบบนี้” นั่นคือความจริง สำหรับศัลยแพทย์หนุ่มที่มีพร้อมทั้งหน้าตาและฐานะ เขาไม่เคยต้องทำอะไรที่มันยุ่งยาก ชีวิตไม่เคยต้องวุ่นวายกระทั่งได้มาเจอกับเธอคนนี้ เขายอมรับว่าทุกวันนี้ทำทุกอย่างก็เพื่ออยากอยู่ใกล้เธอ ฟังดูเหมือนโง่งมแต่มันคือเรื่องจริงที่ได้เกิดขึ้นแล้วและเขาก็ไม่อยากผิดหวังกับสิ่งที่เรียกว่า ‘รักแรกพบ’

“ผมบอกแบบนี้แล้ว คิดว่าคุณหมอคงจะเห็นใจผมบ้าง” เขาว่านล้อมด้วยคำพูดประโยคนั้นและหวังอยู่ลึกๆ ว่าแพทย์สาวจะใจอ่อน ยื่นมือถือตัวเองให้หญิงสาวตรงหน้าอย่างกล้าๆ กลัวๆ แต่ทั้งหมดที่ทำก็เพราะอยากลองใจเธอ อยากจะรู้ว่าทฤษฎีที่ว่าผู้หญิงชอบคนหน้าตาดีจะใช้ได้กับแพทย์สาวผู้นี้หรือเปล่า

“ถึงฉันจะยอมรับคุณเป็นเพื่อนแล้วแต่ฉันก็ยังไม่ไว้ใจใครง่ายๆ เอาไว้คราวหน้าถ้าเราได้เจอกันอีก ฉันรับปากค่ะว่าจะให้ในสิ่งที่คุณขอ”

“รับปากผมแล้วก็ห้ามลืมนะครับ” เขาเห็นเธอพยักหน้าหงิกๆ

“งั้นไว้ถึงตอนนั้นเราไปหากาแฟดื่มแล้วผมจะคืนป้ายชื่อให้คุณเลยละกัน” เขาสังเกตเห็นว่าสีหน้าของเธอเปลี่ยนไปหลังจากได้ยินประโยคนั้นจากเขา

“ฉันคง...ไม่จำเป็นต้องใช้มันอีกแล้วละค่ะ” สิริลักษณ์เอ่ย แววตาดูเศร้าๆ

“ทำไมจะไม่ได้ใช้ล่ะครับ คุณไปลงพื้นที่เสี่ยงนั่นแค่ไม่กี่เดือนเองไม่ใช่หรือครับ”

“นี่รู้เรื่องนี้ด้วยหรือคะ” แพทย์หญิงสิริลักษณ์หันมาถามหน้างง แปลกใจที่เขาซึ่งเป็นคนนอกก็รู้เรื่องนี้ด้วย ดูเหมือนการไปของเธอจะไม่เป็นความลับเอาซะเลย

“ผมบังเอิญได้รู้จักกับหมอขวัญ เธอบอกผมมา”

“อ๋อ..” หญิงสาวพยักหน้าเบาๆ

“ฉันมีเวลาเหลืออยู่ที่นี่อีกแค่สองวันเท่านั้น ยังไม่รู้เลยว่าจะทำยังไงกับปัญหาที่ยังแก้ไม่ตก” เผลอถอนหายใจแล้วทำท่าจะเดินจากแต่ชะงักตรงที่เขาจับมือเอาไว้ สบตาคู่คมที่กำลังจ้องอยู่นิ่ง จะรู้บ้างไหมว่าสายตาแบบนี้แหละมันยิ่งทำให้รู้สึกอ่อนแอ

“ปัญหาที่แก้ไม่ตกเกิดจากเราไม่ยอมปลดปล่อย ผมคิดว่าถ้ามองในทางบวก คุณได้ไปทำหน้าที่หมออย่างเต็มที่ เพราะที่นั่นคงต้องการจิตแพทย์เก่งๆ อย่างคุณเยอะเลย”

“ก็จริงค่ะ คิดว่าที่นั่นขาดแคลนหมอเฉพาะทางอยู่หลายสาขา แต่ฉันไม่อยากทิ้งสิ่งที่อยู่นี่ ครอบครัว ความสงบ ความสุข ทั้งหมดที่ฉันมี ฉันไม่อยากจากไปแบบนี้”

“ทำไมถึงคิดว่าทั้งหมดที่คุณได้จากที่นี่ จะไม่มีที่นั่นล่ะครับ ครอบครัว ความสงบ ความสุข บางทีที่นั่นอาจมีทั้งหมดที่คุณหมอต้องการ”

“คุณเป็นนักการทูตหรือคะ”

“หะ”

“ก็คุณพูดเก่ง โน้มน้าวก็เก่ง เข้าใจพูดและก็มองการณ์ไกล ฉันว่าคุณต้องทำงานด้านนั้นแน่ๆ หรือว่าคุณเป็นผู้พิพากษาคะ” เสียงหัวเราะของเขาทำเธอขมวดคิ้วด้วยความไม่เข้าใจ

“ผมเป็นอะไรก็ได้ที่คุณหมออยากให้ผมเป็น”

“ถ้างั้น...ช่วยมาเป็นคนขับรถให้ฉันหน่อยได้ไหมคะ” แพทย์สาวพูดแล้วขำแต่พออีกฝ่ายบอกว่าได้เธอถึงกับนิ่งงันพลางทำหน้าไม่ถูก ได้แต่มองเขาอย่างค้นคว้า

สองวันที่ผ่านมาผู้ชายคนนี้ได้วนเวียนเข้ามาในชีวิตของเธอ ไม่เพียงแค่นั้นยังคอยช่วยเหลือเธอและตอนนี้ก็ยังอยู่ปลอบใจเธออีก แบบนี้มันคืออะไรกัน พรหมลิขิตหรือโชคชะตากันแน่ที่ทำให้เกิดเรื่องแบบนี้

“ความจริงที่มาวันนี้ตั้งใจจะมาหาคุณหมอจริงๆ คือผมเองก็แค่มาเที่ยวและอีกไม่กี่วันก็จะเดินทางกลับแล้ว ผมเลยอยากชวนไปดื่มกาแฟด้วยกันเพราะคิดว่าเราน่าจะคอกาแฟเหมือนกันน่าจะคุยกันถูกคอ แต่มันไม่ใช่เลย วันนี้มันคงไม่เหมาะจริงๆ”

“ค่ะ วันนี้มันคงไม่เหมาะ” เธอเอ่ยเสียงอ่อนแล้วก็ต่ออีกประโยค

“ฉันคงต้องไปแล้ว มีคนไข้คนหนึ่งที่ฉันต้องฝากหมอที่ไว้ใจได้ดูแลต่อ รู้สึกแย่เหมือนกันที่ต้องไปทั้งๆ ที่ยังมีคนไข้ที่ต้องดูแลอยู่”

“อย่าคิดมากเลยครับ ผมเชื่อว่าการไปทำหน้าที่ครั้งนี้ของคุณหมอจะเป็นการเสียสละที่ยิ่งใหญ่ ขอให้อดทนไม่ท้อแท้ ถ้าหมดที่พึ่งทางใจเมื่อไรขอให้นึกถึงผมไว้ บางทีผมอาจจะไปปรากฏตัวต่อหน้าคุณ”

“ถึงฉันจะรู้ว่ามันไม่ทางเป็นไปได้แต่ก็ต้องขอบคุณสำหรับกำลังใจของคุณ ฉันอยากบอกว่าฉันดีใจที่ได้รู้จักคนดีๆ อย่างคุณ”

“ผมเองก็เหมือนกัน ดีใจ...ที่ได้พบคุณอีก”

แววตาที่เขาส่งมานั้นทำให้หัวใจดวงน้อยๆ เริ่มสั่นไหว มันไม่ใช่เรื่องที่จะเกิดขึ้นง่ายๆ กับเธอ ถึงยังไงปมร้ายๆ ที่เคยเกิดขึ้นกับชีวิตของเธอก็ยังคงฝั่งลึกอยู่ในจิตใจและในความคิดของเธอ ผู้ชายก็ยังน่ากลัวเสมอ

50 %

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่