สวัสดีวันคล้ายวันเกิดของตัวเอง ขอให้ใช้ชีวิตอย่างมีความสุข มีสติรู้ตัวตลอดเวลา
ตื่นเช้าในขณะหลับตาบนความมืดในห้องนอน เวลาประมาณ 4:00 น.ตื่นมาบนความมืดมิดวันนี้ เป็นวันคล้ายวันเกิดของตัวเองสินะ ขอให้ตัวเองมีความสุขนะ น้ำตาไหลออกมาจากตาตลอดเลย มันเกิดอะไรขึ้นกับตัวเองนี่ ใจมันหวิวๆ หัวใจเต้นแรงเป็นระยะระยะ พยายามสูดลมหายใจลึกๆ 3 ครั้ง 4 ครั้งจนถึง 10 ครั้งละ ใจมันโล่งๆๆและเริ่มมีความเหงาเหงาเคว้งคว้างมากขึ้น น้ำตาก็กลับมาไหลอีกครั้ง นี่ฉันไม่ได้อยู่คนเดียวนะ มีภรรยา มีลูกอยู่ด้วย ทำไมมันดูเหงามากจัง สมองออกมึนๆซึมๆ ลูกชายเปิดไฟด้านล่าง ภรรยารีบเดินลงไปข้างล่าง เพราะเธอลืมตั้งนาฬิกาปลุก ผมยังรู้ตัวแต่ก็ยังหลับตาอยู่ พยายามทุกทวนตัวเองกับอาการที่เกิดขึ้นตอนนี้ ตัดสินใจลุกขึ้นจากที่นอนนั่งเฉยๆรู้ลมหายใจนิ่งๆ 2 นาทีแล้วขอบคุณตัวเอง ขอบคุณทุกๆคน ขอบคุณ ขอบคุณ หลังจากนั้นก็เดินลงข้างล่าง ตาเห็นภรรยารีบแต่งตัวไปทำงาน สายตาผมเห็นลูกชายนำกระเป๋านักเรียนขึ้นรถ สักพักหนึ่ง ภรรยาเขาพูดว่า”เสร็จแล้ว”ทั้งๆที่ตัวผมเองยังไม่ได้ทำอะไรเลย เวลาผ่านไป 10 นาที ภรรยาโอบกอดแล้วบอกว่าสุขสันต์วันเกิดนะปะป๊า ขอบคุณครับ ลูกชายไม่น้อยหน้า วิ่งมากอดด้านหลัง Happy Birthday ครับปะป๊าขอบคุณครับลูกชาย เป็นคำที่ผมตอบอย่างจริงใจ แบบซึมๆ ซึ่งอาการแบบนี้ไม่เคยเกิดกับผมมาก่อนเลยมาพร้อมกันเลยนะ เหงา ซึม เบื่อหน่าย
ผมใส่บาตรด้วยเงินสดทั้งๆที่ภรรยาบอกให้ไปถวายอาหารแห้งและกรวดน้ำ ผมบอกว่าไม่เป็นไรหรอก ได้อุทิศส่วนกุศลให้แม่และพ่อแล้ว ไม่เป็นไรทำอย่างนี้ก็ได้ สายแล้วปะปาต้องไปส่งลูกที่โรงเรียน ลูกชายเปิดเพลงฟังในรถ แต่สมองผมมันมึนๆคล้ายๆว่าจะไม่ได้ยินอะไรเลย มีคนบอกผมว่าการพูดออกมาว่าขอบคุณ ขอบคุณ ขอบคุณ จะทำให้ใจนั้นมีพลังงานพองโต ผมพูดขอบคุณสารพัดสิ่ง ขอบคุณตัวเอง ขอบคุณขอบคุณ จนกระทั่งผมเขียนบันทึกเหตุการณ์นี้ ที่ท่านก็กำลังอ่าน ขอบคุณมากครับสวัสดีครับ
เริ่มมีความเหงาเหงาเคว้งคว้างมากขึ้น น้ำตาไหลตลอด นี่ฉันไม่ได้อยู่คนเดียวนะ มีภรรยา มีลูกอยู่ด้วย ทำไมมันดูเหงามากจัง
ตื่นเช้าในขณะหลับตาบนความมืดในห้องนอน เวลาประมาณ 4:00 น.ตื่นมาบนความมืดมิดวันนี้ เป็นวันคล้ายวันเกิดของตัวเองสินะ ขอให้ตัวเองมีความสุขนะ น้ำตาไหลออกมาจากตาตลอดเลย มันเกิดอะไรขึ้นกับตัวเองนี่ ใจมันหวิวๆ หัวใจเต้นแรงเป็นระยะระยะ พยายามสูดลมหายใจลึกๆ 3 ครั้ง 4 ครั้งจนถึง 10 ครั้งละ ใจมันโล่งๆๆและเริ่มมีความเหงาเหงาเคว้งคว้างมากขึ้น น้ำตาก็กลับมาไหลอีกครั้ง นี่ฉันไม่ได้อยู่คนเดียวนะ มีภรรยา มีลูกอยู่ด้วย ทำไมมันดูเหงามากจัง สมองออกมึนๆซึมๆ ลูกชายเปิดไฟด้านล่าง ภรรยารีบเดินลงไปข้างล่าง เพราะเธอลืมตั้งนาฬิกาปลุก ผมยังรู้ตัวแต่ก็ยังหลับตาอยู่ พยายามทุกทวนตัวเองกับอาการที่เกิดขึ้นตอนนี้ ตัดสินใจลุกขึ้นจากที่นอนนั่งเฉยๆรู้ลมหายใจนิ่งๆ 2 นาทีแล้วขอบคุณตัวเอง ขอบคุณทุกๆคน ขอบคุณ ขอบคุณ หลังจากนั้นก็เดินลงข้างล่าง ตาเห็นภรรยารีบแต่งตัวไปทำงาน สายตาผมเห็นลูกชายนำกระเป๋านักเรียนขึ้นรถ สักพักหนึ่ง ภรรยาเขาพูดว่า”เสร็จแล้ว”ทั้งๆที่ตัวผมเองยังไม่ได้ทำอะไรเลย เวลาผ่านไป 10 นาที ภรรยาโอบกอดแล้วบอกว่าสุขสันต์วันเกิดนะปะป๊า ขอบคุณครับ ลูกชายไม่น้อยหน้า วิ่งมากอดด้านหลัง Happy Birthday ครับปะป๊าขอบคุณครับลูกชาย เป็นคำที่ผมตอบอย่างจริงใจ แบบซึมๆ ซึ่งอาการแบบนี้ไม่เคยเกิดกับผมมาก่อนเลยมาพร้อมกันเลยนะ เหงา ซึม เบื่อหน่าย
ผมใส่บาตรด้วยเงินสดทั้งๆที่ภรรยาบอกให้ไปถวายอาหารแห้งและกรวดน้ำ ผมบอกว่าไม่เป็นไรหรอก ได้อุทิศส่วนกุศลให้แม่และพ่อแล้ว ไม่เป็นไรทำอย่างนี้ก็ได้ สายแล้วปะปาต้องไปส่งลูกที่โรงเรียน ลูกชายเปิดเพลงฟังในรถ แต่สมองผมมันมึนๆคล้ายๆว่าจะไม่ได้ยินอะไรเลย มีคนบอกผมว่าการพูดออกมาว่าขอบคุณ ขอบคุณ ขอบคุณ จะทำให้ใจนั้นมีพลังงานพองโต ผมพูดขอบคุณสารพัดสิ่ง ขอบคุณตัวเอง ขอบคุณขอบคุณ จนกระทั่งผมเขียนบันทึกเหตุการณ์นี้ ที่ท่านก็กำลังอ่าน ขอบคุณมากครับสวัสดีครับ