สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 4
กำลังทำอยู่ ขอแชร์ไอเดียนะคะ
ซื้อหุ้นแล้วรับปันผล ไม่ยากนะ
ขอเครดิตภาษีก็ไม่ยาก คลิกไม่กี่ทีก็ได้เงินคืนมาตั้งเยอะแล้ว
แต่ยากตรงที่
1. ทนถือหุ้นนั้นได้นานขนาดไหน ?
เวลาหุ้นตก จะมีคำถามในใจเสมอๆ ว่า เราเลือกถูกตัวรึเปล่า ปัจจัยพื้นฐานมันเปลี่ยนรึเปล่า ผลประกอบการจะเน่ารึเปล่า เงินปันผลจะลดลงเยอะรึเปล่า
เวลาหุ้นขึ้น จะมีคำถามในใจเสมอๆ ว่า ขายดีมั๊ย กำไรเยอะกว่าเงินปันผลตั้งเยอะ ทำ SAP ดีรึเปล่า ? ถ้าขายไปแล้วหุ้นขึ้นต่อล่ะ ?
2. เวลาได้เงินปันผลมาแล้ว ได้กลับเอาไป reinvest มั๊ย ?
ถ้าไม่ใช่คนที่มีเงิน 6 ล้านบาท เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว
(อัตราเงินปันผล 5% จะได้เงินปันผล 25,000 บาท/เดือน
อัตราเงินปันผล 4% จะได้เงินปันผล 20,000 บาท/เดือน)
การจะมีเงินปันผลมากพอกับค่าใช้จ่าย ซัก 15,000-25,000 บาท/เดือน มันยากนะ
ช่วงที่ยังมีรายได้จากการทำงานอยู่ เวลามีเงินปันผล+เงินใหม่เติมเข้ามา มันต้อง reinvest เข้าไปเรื่อยๆ เติมไปเรื่อยๆ จนพอร์ตใหญ่กว่า 6 ล้านบาท ถึงจะอยู่ในเกณฑ์ที่พอจะสบายใจได้
3. สามารถซื้อหุ้นแค่ 5-10 ตัว ในพอร์ตได้มั๊ย ?
จำนวนหุ้น แค่นี้ล่ะ จะทำให้เราโฟกัสได้ และสามารถคัดหุ้นที่ดีจริงๆและเหมาะสมกับเราได้
ถ้าจำนวนหุ้นมากกว่านี้ พอร์ตจะเละ เพราะดูไม่ทัน อ่านงบ อ่านข่าว วิเคราะห์เองไม่ทัน
กล้าถือหุ้นตัวละ 5 แสนบาท - 1 ล้านบาท มั๊ย ?
ประเมินราคาเหมาะสมเอง คาดการณ์เงินปันผลเอง โดยไม่พึ่งโบรคเกอร์ได้มั๊ย ?
ขอให้โชคดีค่ะ
ใครมีไอเดียอื่น มาแชร์กันนะคะ
ซื้อหุ้นแล้วรับปันผล ไม่ยากนะ
ขอเครดิตภาษีก็ไม่ยาก คลิกไม่กี่ทีก็ได้เงินคืนมาตั้งเยอะแล้ว
แต่ยากตรงที่
1. ทนถือหุ้นนั้นได้นานขนาดไหน ?
เวลาหุ้นตก จะมีคำถามในใจเสมอๆ ว่า เราเลือกถูกตัวรึเปล่า ปัจจัยพื้นฐานมันเปลี่ยนรึเปล่า ผลประกอบการจะเน่ารึเปล่า เงินปันผลจะลดลงเยอะรึเปล่า
เวลาหุ้นขึ้น จะมีคำถามในใจเสมอๆ ว่า ขายดีมั๊ย กำไรเยอะกว่าเงินปันผลตั้งเยอะ ทำ SAP ดีรึเปล่า ? ถ้าขายไปแล้วหุ้นขึ้นต่อล่ะ ?
2. เวลาได้เงินปันผลมาแล้ว ได้กลับเอาไป reinvest มั๊ย ?
ถ้าไม่ใช่คนที่มีเงิน 6 ล้านบาท เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว
(อัตราเงินปันผล 5% จะได้เงินปันผล 25,000 บาท/เดือน
อัตราเงินปันผล 4% จะได้เงินปันผล 20,000 บาท/เดือน)
การจะมีเงินปันผลมากพอกับค่าใช้จ่าย ซัก 15,000-25,000 บาท/เดือน มันยากนะ
ช่วงที่ยังมีรายได้จากการทำงานอยู่ เวลามีเงินปันผล+เงินใหม่เติมเข้ามา มันต้อง reinvest เข้าไปเรื่อยๆ เติมไปเรื่อยๆ จนพอร์ตใหญ่กว่า 6 ล้านบาท ถึงจะอยู่ในเกณฑ์ที่พอจะสบายใจได้
3. สามารถซื้อหุ้นแค่ 5-10 ตัว ในพอร์ตได้มั๊ย ?
จำนวนหุ้น แค่นี้ล่ะ จะทำให้เราโฟกัสได้ และสามารถคัดหุ้นที่ดีจริงๆและเหมาะสมกับเราได้
ถ้าจำนวนหุ้นมากกว่านี้ พอร์ตจะเละ เพราะดูไม่ทัน อ่านงบ อ่านข่าว วิเคราะห์เองไม่ทัน
กล้าถือหุ้นตัวละ 5 แสนบาท - 1 ล้านบาท มั๊ย ?
ประเมินราคาเหมาะสมเอง คาดการณ์เงินปันผลเอง โดยไม่พึ่งโบรคเกอร์ได้มั๊ย ?
ขอให้โชคดีค่ะ
ใครมีไอเดียอื่น มาแชร์กันนะคะ
ความคิดเห็นที่ 3
ผมเป็นคนหนึ่งที่ดำรงชีวิตอยู่ด้วยเงินปันผลอย่างเดียว ซึ่งผมพอทำได้เพราะไม่มีภาระ (แต่งงานแต่ไม่มีลูก คอนโด รถยนต์จ่ายหมดแล้ว ไม่มีหนี้) เงินไม่มากก็สามารถใช้ชีวิตอยู่ได้อย่างมีความสุข
ผมออกจากงานประจำระดับบริหารเงินเดือนหกหลักด้วยเหตุผลทางบ้าน (ต้องดูแลพ่อแม่ที่เริ่มอายุมากขึ้น และผมเป็นลูกคนเดียว) แน่นอนว่ามีเงินเก็บ และเงินกองทุนสำรองเลี้ยงชีพมาเป็นทุนพอประมาณ ตอนแรกก็คิดว่าตัวเองเก่ง เก็งกำไรเทรดเอาส่วนต่างราคา ซึ่งได้บ้างเสียบ้าง รวมๆแล้วเสมอตัว ผ่านมาสองสามปี กลับมานั่งทบทวนตัวเอง พบว่าตัวเองไม่ใช่นักเก็งกำไร ไม่ชอบการพนัน (ไม่เคยเล่นพนันเลยทั้งชีวิต แม้แต่ซื้อหวยก็ไม่เคย) เลยลองปรับเปลี่ยนเป็นลงทุนยาว และต้องมีกระแสเงินสดมาใช้จ่ายประจำวันด้วย เริ่มมองหาหุ้นปันผลที่คุณภาพดี บริษัทดูแล้วไม่เจ๊งง่ายๆ รอซื้อตอนที่คนบ่นกันเยอะๆ (ยิ่งฝรั่งขายติดๆกันนี่ผมยิ่งซื้อ) ซื้อแล้วถือรับปันผล ราคาขึ้นหรือลงมากแค่ใหนถ้าพื้นฐานยังโอเคก็ไม่ขาย
ผ่านมาสองสามปีรู้สึกว่าดีขึ้น นอกจากเงินปันผลที่ได้พอดำรงชีวิตแล้ว พอร์ตยังบวกพอประมาณอีกด้วย โดยรวมๆ ปีนึงได้ปันผลรวมเครดิตภาษีประมาณเกือบ 10% ตลอด และยังมีส่วนต่างราคาที่เพิ่มขึ้นอีกประมาณ 5-10% ในแต่ละปี แต่ละช่วงเวลา
ทั้งนี้การทำแบบนี้ต้องเริ่มจาก ถามตัวเอง (และคู่ชีวิต) ก่อนว่าเป็นคนแบบใหน ใช้ชีวิตยังไง และชอบจะมีชีวิตยังไง แต่ละคนมีจริตไม่เหมือนกัน จำนวนของ Passive Income ที่เพียงพอสำหรับแต่ละคนไม่เท่ากัน ขอให้โชคดีครับ
ผมออกจากงานประจำระดับบริหารเงินเดือนหกหลักด้วยเหตุผลทางบ้าน (ต้องดูแลพ่อแม่ที่เริ่มอายุมากขึ้น และผมเป็นลูกคนเดียว) แน่นอนว่ามีเงินเก็บ และเงินกองทุนสำรองเลี้ยงชีพมาเป็นทุนพอประมาณ ตอนแรกก็คิดว่าตัวเองเก่ง เก็งกำไรเทรดเอาส่วนต่างราคา ซึ่งได้บ้างเสียบ้าง รวมๆแล้วเสมอตัว ผ่านมาสองสามปี กลับมานั่งทบทวนตัวเอง พบว่าตัวเองไม่ใช่นักเก็งกำไร ไม่ชอบการพนัน (ไม่เคยเล่นพนันเลยทั้งชีวิต แม้แต่ซื้อหวยก็ไม่เคย) เลยลองปรับเปลี่ยนเป็นลงทุนยาว และต้องมีกระแสเงินสดมาใช้จ่ายประจำวันด้วย เริ่มมองหาหุ้นปันผลที่คุณภาพดี บริษัทดูแล้วไม่เจ๊งง่ายๆ รอซื้อตอนที่คนบ่นกันเยอะๆ (ยิ่งฝรั่งขายติดๆกันนี่ผมยิ่งซื้อ) ซื้อแล้วถือรับปันผล ราคาขึ้นหรือลงมากแค่ใหนถ้าพื้นฐานยังโอเคก็ไม่ขาย
ผ่านมาสองสามปีรู้สึกว่าดีขึ้น นอกจากเงินปันผลที่ได้พอดำรงชีวิตแล้ว พอร์ตยังบวกพอประมาณอีกด้วย โดยรวมๆ ปีนึงได้ปันผลรวมเครดิตภาษีประมาณเกือบ 10% ตลอด และยังมีส่วนต่างราคาที่เพิ่มขึ้นอีกประมาณ 5-10% ในแต่ละปี แต่ละช่วงเวลา
ทั้งนี้การทำแบบนี้ต้องเริ่มจาก ถามตัวเอง (และคู่ชีวิต) ก่อนว่าเป็นคนแบบใหน ใช้ชีวิตยังไง และชอบจะมีชีวิตยังไง แต่ละคนมีจริตไม่เหมือนกัน จำนวนของ Passive Income ที่เพียงพอสำหรับแต่ละคนไม่เท่ากัน ขอให้โชคดีครับ
แสดงความคิดเห็น
รายได้จากเงินปันผล