เมื่อเกิดโรคทางกายต้องเจ็บปวด ทั้งฉี่และถ่ายออกมาปนเลือด ก็ทำให้การไม่มีเพศสัมพันธ์และช่วยตนเอง 7-8 เดือน สั่นคลอนได้

ปกติผมสามารถระงับดับ กามราคะแบบเมถุนธรรม แบบไม่ต้องมีเพศสัมพันธ์ และช่วยตัวเองเลย ได้ด้วยกำลังสมาธิ ที่ฝึกมาอย่างดีแล้ว ด้วยการปฏิบัติธรรมอยู่เนื่องๆ  แม้กิเลสแมถุนธรรมยังพอมีกำลังปรากฏได้อยู่ตามออร์โมนทางเพศของร่างกายที่ยังไม่ได้ละหมดสิ้น จึงอยู่อย่างสงบทุกข์น้อยลังไปอีก ปรับสมดุลร่างกายสบายขึ้นไปตามลำดับ ร่างกายไม่ต้องทุกข์กับความกดดันได้แล้ว แม้จะมีครอบครัวยังนอนเตียงเดียวกับภรรยา ล่วงเลยมา 7-8 เดือน

     แต่เมื่อผมเกิดปวดท้องอย่างมาก ต้องเข้าโรงพยาบาลในวันเสาร์ เพราะฉี่ปนเลือด ต้องฉีดยาแก้ปวด 1 เข็มจึงบรรเทาดีขึ้น และต้องเข้าโรงพยาบาลอีกรอบเพราะถ่ายเป็นเลือดสดๆ ในวันอาทิตย์  ผมจึงผว่ากลัวมีปัญหาเรื่องต่อมลูกหมาก ใจจึงเริ่มเกิดสั่นคลอนที่ไม่มีเพศสัมพันธ์และช่วยตัวเองใดๆ เลย จะกลายเป็นก่อให้เกิดโรคร้ายแรงกับตนเอง กระทบกับต่อมลูกหมากและลำใส้ใหญ่ เพราะหลังจากนั้นผมยังถ่ายเป็นเลือดเป็นเวลา 15 วัน.
     
    ในช่วงวัน 2 วันแรกก็หวั่นไหวจะต้องระบายมันออกบ้าง เพื่ออาจบรรเทาโรคได้   แต่ด้วยคำพูดของภรรยาที่เป็นธรรมเตือนทำให้ผมถอยกลับที่ว่า

     "เมื่อเราผ่านพ้นมันไปแล้ว ระงับได้แล้ว ทำไมเราต้องไปเกลือกครั่ว กับสิ่งที่เป็นทางต่ำอย่างนั้นอีกเล่า"   (ยังพูดอีกเยอะ และภรรยามีปัญหาสุขภาพมานานแล้ว)

     ทำให้ผมเกิดหน้าชา และระอายตนเอง ด้วยคำพูดที่เป็นธรรมอย่างนั้น เพราะเห็นว่า "จริง ร่างกายจะเป็นอะไร ก็รักษาไปตามอาการ แล้วเราจะลงไปเกลือกครั่ว(พิมพ์ไม่ถูก)  กับสิ่งที่เป็นทางต่ำอย่างนั้นอีกหรือ?"

     ผมจึงระงับกามราคะที่เป็นเมถุนธรรม ได้ดังเดิม

    หมายเหตุ ช่วงนั้นผมกังวล เรื่องแม่ที่นอนติดเตียง ถ้าผมเป็นอะไรไป ใครจะมีเงินจ่ายค่าดูแลแม่ได้ เพราะไม่มีใครสามารถเลยในบรรดาพี่ๆ  ผมมีรุ่นพี่อายุมากกว่า 3 ปี  และรุ่นน้องอายุน้อยกว่า 3ปี ที่ทุกอย่างปกติดี ดูแข็งแรงดี อาการเริ่มจากปวดท้อง เข้าโรงพยาบาลแค่เวลา 2 เดือนก็เสียชีวิตกันแล้ว ด้วยโรค มะเร็งตับอ่อน ระยะที่ 4 แล้ว ระยะ ที่ 1 - 3 ไม่ทราบก่อนเลย ทั้งที่มีสิทธิ์รักษาพยาบาลทางราชการฟรีอยู่แล้ว
     ทำให้ผมปลงคิดไปว่า  แม่ผมนอนติดเตียงมานาน 7-8 ปี ปัจจุบันท่านมีอายุยืนถึง 95 ปี แม้จะผ่านเกือบเสียชีวิตไปเมื่อ อายุ 91 ปี ด้วยปอดติดเชื่อ หลังจากนั้นไม่ไปหาหมอโรงพยาบาลอีกเลย 4 ปี  และเกือบเสียไปอีกเมื่อไม่กี่เดือนมานี้ แต่ก็ผ่านมาได้ ก็ด้วยการได้รับการดูแลที่เหมาะสมกับที่ผมได้จ่ายไป ต่างกับพ่อลูกเขยแม่ ที่อายุเท่ากันแก่กว่าเพียง 4 เดือน  ร่างกายแข็งแรงมาตลอดหาหมอดีมาตลอด เคยอยู่บ้านเดียวกันกับแม่ พออายุย่าง 95 ปี เดินไม่ค่อยได้แล้ว  ลูกๆ จึงพาไปอยู่ศูนย์ดูแล ที่ค่าใช้จ่ายสูง ที่ผมเคยเอาแม่ไปอยู่ในระยะแรก แล้วเปลี่ยนศุนย์ใหม่เพราะผมสู้ค่าใช้จ่ายไม่ไหว  พ่อพี่เขยไปอยู่ศูนย์ดูแลเพียง  4 เดือน ท่านก็เสียแล้ว  (บางครั้งการอยู่ศูนย์ดูแลแพง ที่มีคนป่วยชราเยอะ ก็ทำให้เกิดติดเชื่อกันได้ง่าย)   
      ทำให้ผมคิดว่า ถ้าแม่ไม่รับการดูแลอย่างแบบไม่ต้องไปโรงพยาบาลมา 4 ปีเต็ม แม่คงจากไปอย่างรวดเร็วถ้าผมเป็นอะไรไป หรือเกิดเหตุการณ์ผมไม่มีงานทำแล้วรับมาดูแลเอง.

    สรุป ณ. ตอนนี้ ผมเป็นนิ้ว ก้อนนิ้วทำให้เกิดแผลจึงปวดท้องอย่างมาก เลือดจึงไหลปนมากับฉี่  และก้อนนิ้วได้หลุดออกมาแล้ว หลังจากหาหมอได้ 5 วัน และเกิดแผลริดสิดวง ทำให้เลือดไหลมากเวลาถ่ายท้องทุกวัน เพราะผมกินยาแอสไฟริน ละลายลิ้มเลือด เนื่องจากเคยเกิดสะโตร็ก มาก่อน  เมื่อกินยาแก้อักเสบก็ค่อยดีขึ้นไปตามลำดับ.
ความคิดเห็นจาก Expert Account
ความคิดเห็นที่ 17
ขออนุญาตแนะนำในสาขาของตัวเองละกันนะครับ ศัลยกรรมทางเดินปัสสาวะ

1.เรื่อง นิ่ว ในทางเดินปัสสาวะครับ

ปกตินิ่วเกิดจากผลึกและสิ่งแปลกปลอมที่มีการตกตะกอนเป็นก้อน ซึ่งปัจจัยที่ทำให้เกิดนิ่วในระบบทางเดินปัสสาวะ คือกรรมพันธุ์ อายุ เพศ อาหารที่รับประทาน ปริมาณน้ำที่ดื่ม ยาที่รับประทาน รวมถึงภาวะติดเชื้อในระบบทางเดินปัสสาวะ และความผิดปกติทางกายวิภาคของระบบทางเดินปัสสาวะ โดยนิ่วสามารถพบได้ตั้งแต่ใน ไต ท่อไต กระเพาะปัสสาวะ และท่อปัสสาวะครับ

อาการที่นำผู้ป่วยมาพบแพทย์

– มีอาการปวดที่บริเวณบั้นเอวหรือบริเวณท้อง ซึ่งขึ้นอยู่กับตำแหน่งของนิ่ว
– มีปัสสาวะเป็นเลือด
– มีปัสสาวะแสบ,ขัด,ปัสสาวะลำบาก
– มีไข้
– มีอาการคลื่นไส้ อาเจียน
– ปัสสาวะไม่ออก กรณีเป็นนิ่วบริเวณท่อปัสสาวะ
– ไม่มีน้ำปัสสาวะ กรณีที่มีภาวะอุดตันของไตอย่างรุนแรงทั้งสองข้าง

การรักษาโรคนิ่วในระบบทางเดินปัสสาวะ

ปัจจุบันการรักษามีหลายวิธีแล้ว ปกตินิ่วถ้าขนาดเล็กกว่าครึ่งเซนต์ มักจะหลุดมาเองได้ครับ แต่ก่อนหลุดก็อาจจะมีอาการปวดพอสมควรครับ ซึ่งทางที่ดีควรไปตรวจก่อนว่าปวดจากนิ่วแน่ ๆ แลละขนาดเท่าไหร่ครับ ซึ่งแพทย์จะเลือกวิธีที่เหมาะสมที่สุดให้กับผู้ป่วยแต่ละราย ถ้าใหญ่มากก็อาจจะเป็นการผ่าตัด การเจาะเพื่อดูดเอานิ่วออกครับ หรือการสลายนิ่ว ซึ่งแต่ละวิธีก็มีข้อดีและข้อจำกัดบางประการโดยแพทย์จะเลือกวิธีที่เหมาะสมที่สุดให้กับผู้ป่วยแต่ละคนครับ  ส่วนในรายของจขกท เนื่องจากทานยาละลายลิ่มเลือดด้วยก็เลยทำให้เลือดออกมามากกว่าปกตินิดหน่อย แต่ถ้านิ่วหลุดแล้วดื่มน้ำเยอะ ๆ ฉี่ใสดีก็ไม่น่ามีปัญหาครับ

2.โรคต่อมลูกหมากโต อันนี้เป็นในผู้ชายทุกคนที่อายุเกิน 60 อยู่แล้วครับ เป็นโรคตามวัย อาการก็ฉี่ไม่คล่อง ไม่สุด ฉี่บ่อย ฉี่ไม่ออก การรักษาเป็นน้อยก็ทานยา เป็นมากก็ผ่าตัดครับ

3.มะเร็งต่อมลูกหมาก อันนี้คนละอันกับต่อมลูกหมากโตครับ ผู้ชายเกิน 60 ปีทุกคนจะมีอาการต่อมลูกหมากโต แต่คนเป็นต่อมลูกหมากโต 1000 คนจะเป็นมะเร็งต่อมลูกหมาก 2 คนครับ ดังนั้นก็ไม่ได้เยอะมากจนน่ากลัวครับ

4.เรื่องมะเร็งต่อมลูกหมากกับเพศสัมพันธ์อันนี้เมืองนอกเค้าพึ่งรายงานครับ แต่อย่าพึ่งไปตื่นตูมอะไรมากครับ มันมีหลายปัจจัย ทั้งอาหารอีก อะไรอีก และอีกอย่างมะเร็งต่อมลูกหมากมักไม่มีอาการครับ แถมต่อให้เป็นจริงก็อยู่ได้เป็นสิบปีอีก ดังนั้นไม่ต้องกังวลครับ ถ้ามีปัสสาวะเป็นเลือดอีกน่านึกถึงอย่างอื่นมากกว่า และไม่เกี่ยวกับเพศสัมพันธ์ครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่