Mini Review Leh Ladakh 2019 ไปคนเดียว!! ไปยังไง ไปดูกัน




การไปlehคนเดียวไม่ยากอย่างที่คิดเลยครับ แต่ก็สิ่งที่ควรรู้อยู่สักหน่อย เดี๋ยววันนี้จะมาบอกเล่าคร่าวๆกัน

Ep.1การเตรียมตัว
1.ไปอินเดียต้องทำvisa 80usd ทำonlineง่ายๆเอกสารครบอีกวันอนุมัติ
2.หาวันลาควรไปสัก5-7วัน ไปได้ทุกฤดู แต่ละฤดูความงามไม่เหมือนกัน
3.ตั๋วเครื่องบินหาในgoogle flightจะได้ราคาดี
4.เนื่องด้วยภูมิประเทศเป็นที่สูง ออกซิเจนน้อย เตรียมยาdiamoxไปด้วย แพ้ความสูงเดี๋ยวจะเที่ยวไม่สนุก
5.เตรียมใจ ด้วยความที่เลห์เป็นเมืองที่มีความธรรมชาติสูงมาก สิ่งอำนวยความสะดวกก็อาจน้อยหน่อย เนตมือถือซิมจากไทยไม่ต้องซื้อไปเพราะเอาไปก็ใช้ที่เลห์ไม่ได้ ใช้wifiจากรร โหลดoffline mapไปเผื่อด้วยก็ดี ห้องน้ำระหว่างทางคือส้วมหลุม สำหรับผช.ก็ข้างทางเลยครับเป็นการขับถ่ายที่วิวสวยที่สุดในชีวิตละ 55

Ep.2แพลน
ไปเที่ยวเลห์ก็จะมีไม่กี่รูทที่นิยมๆกัน
-ในตัวเมืองleh ก็จะมีวัดวังต่างๆ shanti stupa, Leh palace,
-รอบๆเมืองleh วัดlamayuru, magnetic hillเป็นถนนที่เหมือนมีภูเขาสูงมากกั้นอยู่ข้างหน้า,จุดชมวิวแม่น้ำสองสายบรรจบกัน
-Nubra ทางไปก็จะผ่านถนนที่สูงที่สุดในโลกkadunhla pass มีหิมะฟินๆ มีวัด ละตอนเย็นก็ไปขี่อูฐที่ทะเลทราย15นาที300inr
-Pangong ทะเลสาปที่สวยมากๆ มองไปทางใหนก็สวย ทางไปก็สวย โคตรฟิน ละก่อนถึงตรงทุ่งหญ้าก็จะพบน้องแพรี่ด้อก หรือที่คนเขาเรียกว่าเจ้าตัวมามอทเป็นสัตว์จำพวกกระรอกดิน พวกนี้เชื่องมากเพราะนักท่องเที่ยวไปให้ขนมจนมันเสียนิสัย (แต่วันนั้นผมเจอหมาป่าด้วย ขนลุกเลย)
-TsoMoriri เป็นอีกทะเลสาปนึงที่อยู่สูงกว่าแปงกองเดินทางก็ใช้เวลาเป็นวันอยู่ มองออกไปจากจุดชมวิวนึกว่าเป็นทะเล กว้างใหญ่มาก มองด้วยตาเหมือนใหญ่กว่าแปงกองแต่ที่จริงแปงกองใหญ่กว่า แต่.. วันที่ไปท้องฟ้าปิด ฝนตก และอากาศหนาวมากก ที่นี่ก็มีเจ้ามามอทเหมือนกันแต่ไม่เชื่องเหมือนแปงกอง
-วันสุดท้ายต้องไปต่อเครื่องก็แวะเที่ยวนิวเดลีนิดหน่อย ไม่ประทับใจเมืองนี้เลย แหะๆ คนที่นี่หิวเงินมาก ตามตื้อน่ากลัว

Ep.3การเดินทาง
-ระหว่างประเทศ จะต้องไปต่อเครื่องที่new delhi ครั้งนี้ผมบินair indiaจองทีเดียว จะได้ไม่มีปัญหาเวลาเกิดดีเลย์ แต่ทำใจเรื่องกลิ่นนะครับบนเครื่องคนอินเดีย90%ได้ และอาหารบนเครื่องไม่อร่อย ส่วนการต่อเครื่องก็ไม่ยากเลย เดินตามป้าย domestic transferแค่นั้น ละก็นอนรอ (สนามบินก็ไม่มีwifi)
-การเดินทางในLeh แบ่งเป็น3แบบ
1.มอเตอร์ไซต์ royal Enfield ใครขี่เป็นคือโคตรเท่
2.ไปติดต่อtaxiในตลาด
3.ติดต่อรถผ่านagency *ไปคนเดียวผมแนะนำวิธีนี้ สะดวกและปลอดภัย

Ep.4ลุย
ขอเล่าเป็นประสบการณ์รวมที่เจอมานะครับ
-อย่างแรกเลย คนเลห์ใจดีไม่โก่งราคานักท่องเที่ยว
-เลย์เป็นเมืองที่วิวระหว่างทางสวยมาก การเดินทางของแต่ละสถานที่มองเป็นระยะทางอาจไม่ไกล แต่ความจริงใช้เวลานานมากเพราะทางเป็นทางลัดเลาะไหล่เขา ซึ่งถือเป็นhighlightเลย วิวสวยมากกกกกกกกก ในรูปไม่สวยเท่าตาเห็นอะพูดเลย
-คนเป็นโรคปวดหลัง หมอนรองกระดูกสันหลังเคลื่อนกระดูกหลังเสื่อม ผมว่าถ้าไม่แข็งแรงจริงไม่ควรมาเพราะทางระหว่างเมืองคือสุดมากจริงๆ ด้วยความหวังดีจากนักกายภาพบำบัดผู้ชอบเที่ยว
-ของกินไม่แพง ราคาอาหารราคาขนมพอๆกับไทยเลย อาหารของที่นั่นโดยรวมถือว่ากินได้นะครับ รสไม่จัด ไม่ได้เป็นอาหารอินเดียจ๋า แต่พกน้ำพริกหรือมาม่าไปด้วยก็ดีเพราะวันท้ายๆคือโหยหาอาหารไทยมาก
-เวลาขับรถคนที่นั่นเค้าไม่ใช้แอร์หรือฮีตเตอร์นะครับ เปิดกระจกอย่างเดียว พกmaskไปด้วยก็ได้ แต่ไม่ได้พกไปก็ไม่ได้เป็นแญหาคอขาดบาดตาย
-วัดหรืออารามของที่นู่เค้าจะสร้างบนเขาสูง แบบสร้างบนหน้าผา คือทึ่งในความพยายามของคนสมัยก่อนมาก แบกอิฐขึ้นไปสร้างข้างบนได้ยังไง

สำหรับมินิรีวิวเที่ยวคนเดียวจบสั้นๆประมานนี้ ถามว่าไปได้ไหม อันตรายไหม ก็ต้องบอกว่าแล้วแต่ว่าคุณเดินทางยังไง เพราะที่นั่sim netจากไทยใช้ไม่ได้ ภาษาอังกฤษก็ต้องพอเอาตัวรอดได้ด้วยนะครับ ไม่ต้องเก่งแต่ต้องเอาตัวรอดได้อะ แต่จากที่ผมไปผมติดต่อagencyไปก่อน ให้เค้าช่วยจองโรงแรม ติดต่อรถ ละก็ทำpassการเดินทางให้ครบ ก็เลยมั่นใจได้ว่าไม่อันตรายและหายห่วงแน่นอน ให้เค้าช่วยวางแผนปรับแผนปรับรูทต่างๆให้เหมาะสมกับตัวเรา ถ้าใครมีคำถามอะไรถ้าผมตอบได้ก็จะตอบนะครับ แต่ถ้าตอบไม่ได้ถามคนนี้ก็ได้เพราะตอบได้แน่นอน พี่เขาเป็นคนไทยที่อยู่ที่เลห์ คุยภาษาไทยได้เลย ที่เพจfb Luckyteam in ladakh

ส่วนเรื่องค่าใช้จ่ายก็แล้วแต่แพลนว่าจะไปที่ไหน จะนอนแบบใหนราคาก็จะแตกต่างกันไป เอาเป็นว่าไปคนเดียวไม่มีคนหารก็จะหนักหน่อย แต่เชื่อเถอะว่าพอเห็นวิว ได้ใช้เวลาอยู่ที่นั้น ได้เปิดประสบการณ์ใหม่ๆ ยังไงก็คุ้ม
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่