ต่อให้แพ้เวียดนาม ตามด้วยแพ้อินโด ผมก็ยังเชื่อมั่นในนิชิโนะ

นิชิโนะให้สัมภาษณ์ถึงช่วงเวลาในการคุมญี่ปุ่นลุยบอลโลกปีที่แล้ว เขายอมรับว่า กว่าจะมั่นใจถึงทีมและแนวทางที่เขาเลือกใช้กับญี่ปุ่น ก็ต้องถึงนัดอุ่นเครื่องนัดที่ 3 กับปารากวัย ซึ่งเป็นเวลาแค่ 7 วันก่อนญี่ปุ่นแข่งจริงนัดแรกในบอลโลกเท่านั้น

2 นัดแรกในการคุมทีมของนิชิโนะ ญี่ปุ่นดูเหมือนยังไม่ฟื้นจากการคุมทีมของโค้ชคนเก่า นัดแรกญี่ปุ่นแพ้กาน่าในบ้าน 0-2 ตามด้วยแพ้สวิตซ์นอกบ้านอีก 0-2 เช่นกัน แต่นัดที่ 3 ญี่ปุ่นกลับมาชนะปารากวัย 4-2

นิชิโนะบอกว่า "นัดที่ 3 คือจุดเปลี่ยน 2 นัดแรก ผมใช้ทีมเดิมๆ ที่เคยเล่นกันมาตลอด แต่พอนัดนี้ผมเปลี่ยนทีมทั้งหมด และทั้งทีมโชว์ฟอร์มได้ดี ชนะนัดนั้นให้กำลังใจพวกเรา และเป็นการกระตุ้นทุกคนในทีมให้มีการแข่งขัน ทุกคนไปบอลโลกด้วยสถานะเดียวกัน นัดนั้นคือนัดที่ความเชื่อมั่นเราเริ่มเติบโต"

นิชิโนะพาญี่ปุ่นแพ้อุ่นเครื่อง 2 นัดแรก แต่หลังจากนั้น เริ่มที่ชนะปารากวัยในการอุ่นเครื่องนัดสุดท้าย ญี่ปุ่นเข้าบอลโลกด้วยความมั่นใจ ชนะโคลัมเบีย เสมอเซเนกัล และถึงแม้จะแพ้โปแลนด์ แต่ก็เข้ารอบสอง ไปแพ้เบลเยี่ยมหวุดหวิด ชนิดนำก่อน 2-0

แน่นอน เมื่อนิชิโนะคุมไทย ทุกคนตั้งความหวังไว้สูงว่าเราต้องถล่มเวียดนาม ตามด้วยชนะอินโด แต่ผมอยากให้อ่านคำสัมภาษณ์ของนิชิโนะ ว่าการคุมทีมใหม่ต้องใช้เวลา ขนาดคุมทีมระดับญี่ปุ่น นิชิโนะยังต้องใช้เวลาปรับทีมถึง 2 นัด นัดที่ 3 ถึงเข้าที่ ดังนั้น สำหรับการคุมทีมไทย นิชิโนะชัดเจนว่าต้องปรับทีมมากกว่าตอนคุมญี่ปุ่น ดังนั้นโอกาสที่เราจะแพ้เวียดนามคาบ้าน และตามด้วยแพ้อินโดนอกบ้านติดๆกันจึงเป็นไปได้

ถ้าเป็นอย่างนั้นจริง ผมเชื่อว่านิชิโนะจะสร้างจุดเปลี่ยนในนัดที่ 3 เมื่อเจอกับ UAE เหมือนตอนเขาคุมญี่ปุ่น ดังนั้นถ้าเราแพ้รวด 2 นัดแรก ผมจะไม่ตกใจ และจะขอเชื่อมั่นในการทำทีมของนิชิโนะต่อไป

https://www.japantimes.co.jp/sports/2018/08/29/soccer/international-soccer/akira-nishino-reflects-japans-wild-world-cup-ride/#.XWssu_xS_IU