สวัสดีครับ ขออนุญาตแบ่งปันเรื่องราวครับ ตอนนี้ผมอายุ 30 ปี ครับ อยากได้บ้านเป็นของตัวเองมานานแล้ว
ก่อนหน้านี้อยู่ห้องชุดมา 12 ปี กับแม่และน้องชาย (ค่าไฟโหดมากกกก) และเมื่อ 2 เดือนก่อนทางห้องที่พัก
ได้ประกาศเพิ่มค่าเช่า+อื่นๆ เพิ่มเติม ทำให้ต้องจ่ายเพิ่มอีกราวๆ 30% จากเดิม ทำให้ต้องเริ่มหาซื้อบ้านจริงจังครับ
โดยผมมองไว้เป็นบ้านมือสอง แถบรถไฟฟ้าสายสีม่วง จริงๆ จะเป็นโซนไหนก็ได้ ขอแค่เดินทางไปรถไฟฟ้าสะดวก
ก็พอ แต่แถวนี้น่าจะถูกที่สุด ก็เลยเริ่มมองหาโครงการแถวนี้ครับ จนไปเจอบริษัทขายบ้านมือสองแถวนี้ก็เลยลอง
ติดต่อไป
วันแรกที่ไปดูบ้าน ดูไปทั้งหมด 3 หลัง ราคาไม่เกิน 2.2 ล้านทั้งหมด ด้วยความใจร้อนเลยตัดสินใจวางเงินมัดจำเลย
5,000 บาท หลังจากวันนั้น แม่ก็มาบ่นว่าไม่น่ารีบตัดสินใจเลย น่าจะดูให้มากกว่านี้ ก็เลยไปวนดูเพิ่ม ช่วงนั้นคือเหนื่อย
สุดๆ ไหนจะต้องทำงาน ไหนจะต้องหาบ้าน ศึกษาเส้นทางของโครงการต่างๆ ระหว่างนี้บริษัทเดิมก็เสนอบ้านหลังใหม่
มาเรื่อยๆ จนในที่สุดก็เจอหลังที่ถูกใจจริงๆ ครับ
หลังนี้ใหญ่กว่าเดิมเยอะ เป็นบ้านเดี่ยว สภาพยังดีด้วย แต่ราคาก็เพิ่มขึ้นมาเยอะเป็น 2.7 ล้าน ก็ตัดสินใจจริงจังละ
เอาหลังนี้แหละ อายุงานของผมราวๆ 1 ปี 10 เดือน บริษัทไม่มีสลิปคาร์บอน เงินเดือนก็ 2 หมื่นกลางๆ แต่โชคดีที่ไม่มี
หนี้สินอะไรเลย บัตรเครดิตใช้เยอะแต่ก็จ่ายเต็มทุกงวด (แต่ก็ต้องปิดพวกบัตรกดเงินสดไปทุกใบครับ ปกติเอาไว้ผ่อนของ)
หลังจากนั้นก็ช่วงยื่นกู้ครับ ทางบริษัทดำเนินการกับทางธนาคารให้ทุกอย่าง เราแค่นอนรอ รับสายคุยกับธนาคารเท่านั้น
ซึ่งผมตัดสินใจกู้ 2 ล้าน จ่ายดาวน์ไป 700k เพราะไม่อยากผ่านหนัก อันนี้ขอชมทางบริษัทขายบ้านเลยว่าจัดการให้หมด
และตามเรื่องให้ตลอด เอกสารเราขาดตรงไหน ชี้แจงเร็วมาก สุดท้ายก็ผ่านครับ เพิ่งไปโอนบ้านมาเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา
ได้ดอกเบี้ย 3 ปีแรกที่ 3.4% (พอมาศึกษาทีหลัง ทำไมทุกคนได้ต่ำกว่า 3 หมดเลย 5555+) ผ่อนเดือนละ 8,900 บาทเท่านั้น
ถือว่าเบากว่าที่คิดเอาไว้เยอะมากๆ เพราะตอนแรกคุยไว้ว่าไม่อยากผ่อนเกินเดือนละ 12,000 บาท
เดือนหน้าน่าจะได้ย้ายเข้าอยู่แล้วครับ มาเจอเรื่องปวดหัวอีกเรื่องคือบ้านตอนแรกก็คิดว่าสวยดีหรอก แต่พอมาคิดถึงค่าติด
เหล็กดัดกับผ้าม่านนี่น่าจะหมดอีกเยอะ บ้านหน้าต่างเยอะมาก 55555
แบ่งปันประสบการณ์ ซื้อบ้านหลังแรกของครอบครัวในอายุ 30 ปี
ก่อนหน้านี้อยู่ห้องชุดมา 12 ปี กับแม่และน้องชาย (ค่าไฟโหดมากกกก) และเมื่อ 2 เดือนก่อนทางห้องที่พัก
ได้ประกาศเพิ่มค่าเช่า+อื่นๆ เพิ่มเติม ทำให้ต้องจ่ายเพิ่มอีกราวๆ 30% จากเดิม ทำให้ต้องเริ่มหาซื้อบ้านจริงจังครับ
โดยผมมองไว้เป็นบ้านมือสอง แถบรถไฟฟ้าสายสีม่วง จริงๆ จะเป็นโซนไหนก็ได้ ขอแค่เดินทางไปรถไฟฟ้าสะดวก
ก็พอ แต่แถวนี้น่าจะถูกที่สุด ก็เลยเริ่มมองหาโครงการแถวนี้ครับ จนไปเจอบริษัทขายบ้านมือสองแถวนี้ก็เลยลอง
ติดต่อไป
วันแรกที่ไปดูบ้าน ดูไปทั้งหมด 3 หลัง ราคาไม่เกิน 2.2 ล้านทั้งหมด ด้วยความใจร้อนเลยตัดสินใจวางเงินมัดจำเลย
5,000 บาท หลังจากวันนั้น แม่ก็มาบ่นว่าไม่น่ารีบตัดสินใจเลย น่าจะดูให้มากกว่านี้ ก็เลยไปวนดูเพิ่ม ช่วงนั้นคือเหนื่อย
สุดๆ ไหนจะต้องทำงาน ไหนจะต้องหาบ้าน ศึกษาเส้นทางของโครงการต่างๆ ระหว่างนี้บริษัทเดิมก็เสนอบ้านหลังใหม่
มาเรื่อยๆ จนในที่สุดก็เจอหลังที่ถูกใจจริงๆ ครับ
หลังนี้ใหญ่กว่าเดิมเยอะ เป็นบ้านเดี่ยว สภาพยังดีด้วย แต่ราคาก็เพิ่มขึ้นมาเยอะเป็น 2.7 ล้าน ก็ตัดสินใจจริงจังละ
เอาหลังนี้แหละ อายุงานของผมราวๆ 1 ปี 10 เดือน บริษัทไม่มีสลิปคาร์บอน เงินเดือนก็ 2 หมื่นกลางๆ แต่โชคดีที่ไม่มี
หนี้สินอะไรเลย บัตรเครดิตใช้เยอะแต่ก็จ่ายเต็มทุกงวด (แต่ก็ต้องปิดพวกบัตรกดเงินสดไปทุกใบครับ ปกติเอาไว้ผ่อนของ)
หลังจากนั้นก็ช่วงยื่นกู้ครับ ทางบริษัทดำเนินการกับทางธนาคารให้ทุกอย่าง เราแค่นอนรอ รับสายคุยกับธนาคารเท่านั้น
ซึ่งผมตัดสินใจกู้ 2 ล้าน จ่ายดาวน์ไป 700k เพราะไม่อยากผ่านหนัก อันนี้ขอชมทางบริษัทขายบ้านเลยว่าจัดการให้หมด
และตามเรื่องให้ตลอด เอกสารเราขาดตรงไหน ชี้แจงเร็วมาก สุดท้ายก็ผ่านครับ เพิ่งไปโอนบ้านมาเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา
ได้ดอกเบี้ย 3 ปีแรกที่ 3.4% (พอมาศึกษาทีหลัง ทำไมทุกคนได้ต่ำกว่า 3 หมดเลย 5555+) ผ่อนเดือนละ 8,900 บาทเท่านั้น
ถือว่าเบากว่าที่คิดเอาไว้เยอะมากๆ เพราะตอนแรกคุยไว้ว่าไม่อยากผ่อนเกินเดือนละ 12,000 บาท
เดือนหน้าน่าจะได้ย้ายเข้าอยู่แล้วครับ มาเจอเรื่องปวดหัวอีกเรื่องคือบ้านตอนแรกก็คิดว่าสวยดีหรอก แต่พอมาคิดถึงค่าติด
เหล็กดัดกับผ้าม่านนี่น่าจะหมดอีกเยอะ บ้านหน้าต่างเยอะมาก 55555