[CR] Sydney จ้า ปรานีฉันด้วย EP.1

สวัสดีค่าทุกคน  เราชื่อเต่าเขียวคะ เรามาแลกเปลี่ยนที่ซิดนีย์ เป็นเวลา 4 เดือน เราก็เลยอยากจะมาแชร์ประสบการ์ณและพาทุกคนไปเที่ยวพร้อมกับเรา
กล้องที่เราใช้ถ่ายคือกล้องมือถือธรรมดาเลยคะ ของ Sony  xeperia XA1 อันนี้เป็นกระทู้แรกขอเราเลย ดีไม่ดียังไงก็ขออภัยมานะที่นี้ด้วยค่า เราไปเริ่มกันเลยดีกว่าคะ

ปล.เต่าเขียวถ่ายรูปไม่ค่อยสวยเท่าไร ยังไงก็ขอโทษด้วยนะคะ

เรามาปลายเดือน 7 คะ เป็นหน้าหนาวของที่นี้คะ แต่ก็ประมาณ 7 องศา ถึง 10กว่า องศาคะ ไม่หนาวมาก กำลังดีเลย

เริ่มเดินทางออกจากสุวรรณภูมิกันเลยค่า เราบินของ TG นะคะ เครื่องออกตอน19.20น. เราก็มุ่งหน้าไปที่gate กันเลยค่าพอเครื่องลง เราก็รีบเดินออกจากเครื่องเลยคะ กลัวว่าจะรอคิวที่ตม.นาน ตอนเราเดินจากเครื่องไปที่ตม. เราก็เห็นตู้สีฟ้าๆ เรียงกันเยอะมากคะ เราก็เห็นว่ามันเขียนว่า self-serve แล้วก็มีจอเป็นธงประเทศต่างๆอยู่ข้างๆ ในนั้นก็มีประเทศไทยด้วยนะคะ ตอนแรกเราก็ไม่ได้สนใจนะคะ พอเดินไปสักพัก ก็เห็นคนเริ่มต่อแถวที่ตู้ เราก็เลยไปต่อดูบ้าง
ที่นี้พอถึงตู้เขาก็จะมีวิธีทำให้เหมือนเวลาที่เราออกจากไทยเลยคะ มีให้สแกนpassport แล้วก็ถามเกี่ยวกับโรคทั่วไปคะ ที่นี้มันก็จะมีกระดาษแข็งสีฟ้าออกมา เราก็หยิบใบสีฟ้านี้และเดินไปที่ตม.ได้เลยคะ พอถึงหน้าตม. จะมีทางแยกสองทาง อันซ้ายมือคือเจอเจ้าหน้าที่ปกติ ทางขวาคือตู้อัตโนมัติคะ เราก็เดินไปที่ตู้อัตโนมัติได้เลยคะ ที่นี้เขาก็จะมีให้สอดกระดาษแข็งสีฟ้าของเราเข้าไป แล้วก็ถ่ายรูปเราคะ ที่นี้กระดาษใบเดิมก็จะออกมาจากที่สอด (ให้เก็บใบนี้ไว้ก่อนนะคะ เพราะจะต้องให้เจ้าหน้าพร้อมกับใบเหลืองก่อนออกจากgateคะ) แล้วประตูก็จะเปิดให้เราไปรอรับกระเป๋าได้เลยคะ (ตอนแรกคือเรางงมากเพราะเท่าที่เคยอ่านรีวิวมาไม่มีใครเคยเล่าเลย ตอนนั้นคิดอย่างเดียวว่าไม่ผ่านก็ค่อยไปต่อแถวละ) รอไม่นานกระเป๋าเต่าก็มาคะ ด้วยความที่เรามาแลกเปลี่ยน เราก็เลยหอบอาหารแห้งมาเยอะมากคะ ไม่ว่าจะเป็นมาม่า (ที่ขาดไม่ได้) น้ำพริก ขนม ผลไม้ (เราเอาไว้กินตอนอยู่บนเครื่องคะ) ในใบdeclare
(ใบสีเหลือง)เราก็ติกว่าเราเอามาเลยนะคะ เวลาจะเดินออกเขาจะเอาใบฟ้ากับใบเหลืองเราไปคะ แล้วเขาก็จะดุว่าเราติกอะไรไปในใบเหลืองบ้าง เขาก็จะให้เราเดินไปตามช่องนั้นคะ ที่นี้เขาก็จะปล่อยน้องหมาออกมาดมกลิ่นกระเป๋าเราคะ ถ้าน้องหมานั่งที่กระเป๋าเราก็เตรียมตัวเปิดกระเป๋าให้เขาดูได้เลยคะ
แต่เราโชคดีว่าไม่มีอะไร น้องหมาแค่เดินมาดมๆ แล้วก็ผ่านไปเลยคะ เราก็ออกมาจากgateได้เลยค่า

เราซื้อซิมของ Telstra คะ ลองคำนวณวันที่จะอยู่แล้วอันนี้คือคุ้มสุดแล้วคะ ส่วนopal card เราต้องใช้แบบadultคะ ก็ซื้อได้กับเจ้าหน้าที่เลย ขั้นต่ำเขาให้เติม 20aud คะ ไม่เสียค่าบัตรด้วย แต่ค่ารถไฟจากสนามบินคือแพงมากคะ 17aud ปกติแล้วจะแค่2.8คะ นั่งไกลแค่ไหนก็ได้

เราพักใน Surry Hill คะ ใกล้กับ central station มากๆคะ สะดวกเวลาไปเรียนดีคะ เพราะมหาลับอยู่ในเมืองเลย ปกติเราจะเดินไปเรียนคะ ไม่ค่อยได้นั่งรถเท่าไร เต่าเขียวแนะนำว่าถ้าใครจะมาอยู่นานๆ ให้ลองหาที่พักใน facebook page ของคนไทยในซิดนีย์คะ เขาจะมีปล่อยเช่าอยู่เรื่อยคะ ด้วยความที่ว่าที่นี้ค่าครองชีพค่อนข้างแพง เขาก็จะแบ่งห้องนั่งเล่นให้เช่ากันอยู่คะ central station เป็นที่ที่มีhomeless อยู่กันเยอะเหมือนกันคะ โดยเฉพาะโซนที่ติดกับ Surry Hills เลย แต่เต่าเขียวว่าไปเดินตรงtown hall ก็มีhomelessอยู่เหมือนกันนะคะ

ซุปเปอร์ของที่นี้ก็มีของ Woolworth (สีเขียว) กับ coles (สีแดง) คะ ราคาของในแต่ละซุปเปอร์ก็จะแตกต่างกันไปคะ ต่อให้เป็นของเจ้าเดียวกัน แต่ราคาก็ไม่เท่ากันนะคะ ถ้าเป็นอันใหญ่ๆราคาก็จะถูกกว่าร้านเล็กๆคะ

เรามาเริ่มเที่ยวกันเลยดีกว่าคะ เกริ่นมานานแล้ว 5555

เต่าเขียวไม่ได้วางแผนเที่ยวอะไรมาเลย เราก็คิดว่าเรามาอยู่นานเน้อะ ค่อยๆไปเที่ยวก็ได้ ก็เลยไปแค่วันละทีสองทีเองคะ อันนี้เราจะรวมๆมาเลยนะคะว่ามีที่ไหนบ้าง แน่นอนว่ามาถึงซิดนีย์เราก็ต้องไป Opera House คะ ขาไปเราเดินไปจากที่พักคะ เดินประมาณ 1 ชม. ได้คะ กะว่าเดินชมเมืองไปด้วยเลย
ระหว่างทางก็จะผ่าน Hyde Park คะ เป็นสวนนั่งเล่นของคนที่นี้กันคะ มีคนเขาร้องเพลงบ้าง วิ่งบ้าง เดินเล่น หรือมาปิกนิกกันคะ

Hyde Park

ปล. สวนก็เป็นอีกที่ที่มี homeless อยู่กันเยอะคะ

ข้างๆถัดจาก Hyde Park ก็จะเป็น 
St. Mary Cathedral เรายังไม่มีโอกาษได้เข้าไปนะคะ เห็นแค่ข้างนอก อันนี้เป็นโบสถ์ที่เก่าแก่มากของที่นี้คะ

St. Mary Cathedral

เดินไปเรื่อยก็จะเจอ Opera House เลยคะ เราเปิด google map แล้วก็เดินตามเลย

Opera House

อยากจะบอกว่าผู้ที่นี้งานดีมากคะ มีคนนึงที่เราเจอะที่opera house คือเขามาคนเดียว ตัวสูง หุ่นดี ผมแดงด้วยคะ แล้วเวลาลมพัดแล้วผมเขาปลิ่วไปด้วยคือดีมากกกกก ต้องบอกก่อนลยว่าปกติเราชอบแนวเกาหลีนะคะ แต่คนนี้คือดีจริงคะ (เราไม่ได้ถ่ายรูปเขามานะคะ ถือว่าให้ความเป็นส่วนตัวเขา)
ด้านซ้ายของ Opera house ก็จะเป็น Habour bridge คะ

Habour Bridge

แดดที่นี้แรงมากนะคะ ควรทาครีมกันแดดกัน เพราะเขาว่า2 ใน3 คนเป็นโรคมะเร็งผิวหนังคะ (น่ากลัวมากจริงๆ)

แถวนั้นก็จะมีร้านอาหารเยอะมากเลยคะ แต่เราเลือกที่จะซื้อwrap fish กินคะ หลังจากที่ซื้อ เราก็มานั่งกินที่เก้าอี้คะ เวลากินอะไรที่นี้ต้องระวังนักที่นี้คะ เขาจะเข้ามาฉกอาหารจากมือเราเลย น่ากลัวมากนกเขาไม่กลัวคนเลย จนเราเริ่มกลัวน้องแทน อาหารที่นี้ portion ใหญ่มาก ซื้อครั้งหนึงแบ่งกินได้สองครั้งเลย หลังจากชมวิวที่Opera House เสร็จ เราก็เดินไปอีกฝั่งของ circular quay เราก็เลียบท่าไปเรื่อยๆคะ มีร้าน The rock ที่เราควรไปกิน pancake on the rock แต่เรายังไม่ได้ไปกินเลยนะ

Darling Quarter + Chinese Garden of Friendship

อันนี้เราเดินมาแบบงงๆนะคะ คือเราตั้งใจจะไป Darling Habour แต่เดินผ่านก็เลยแวะสะหน่อย อันนี้เป็นลานกว้างๆ ในนั้นก็จะมี
Chinese Garden of Friendship คะ อันนี้ต้องเสียค่าเข้านะคะ ถ้าจำไม่ผิดคือ 10 aud เต่าเขียวชอบข้างในมากเลยคะ มันสงบแล้วก็เงียบมากเลย ต่างจากสถานที่เที่ยวปกติ

ถ้าเดินลงไปจาก Darling Square หน่อยจะเป็นร้านอาหารเยอะมากเลยคะ มีให้เลือกเยอะเลย ไว้เต่าเขียวจะมารีวิวให้ฟังอีกกระทู้นะคะ

เดินขึ้นไปเรื่อยๆก็จะเป็น Darling Habour ที่เราตั้งใจจะมาคะ เราเดินไปด้านซ้ายของ Habour คะวันนั้น ก็จะมีห้าง เดินไปเรื่อยๆก็จะเจอ Maritime Museum คะ เขาดูทำดีมากเลยนะคะ เราไม่ได้เขาไปแต่จะมีโซนหนึงที่เราเข้าไปดูได้

Maritime Museum

ยังไงวันนี้เต่าเขียวก็ขอรีวิวไว้เท่านี้ก่อนนะคะ ep หน้าจะพาไปไหนไว้ติดตามกันได้เลยค่า
ชื่อสินค้า:   ที่เที่ยวในSydney
คะแนน:     

CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่