สวัสดีครับ พอดีวันนี้ว่าง ไปเจอเหตุการณ์คาใจที่ทำให้คิดเรื่องตามหัวข้อกระทู้มาซักพัก เลยอยากตั้งกระทู้สนทนา แชร์ความคิดเห็นกับชาวพันทิพกันครับ
ส่วนตัวผมทำธุรกิจเล็กๆอยู่ตอนเรียน ด้วยความโชคดีที่ไปได้โอเค พอเรียนจบ ก็ได้ไปทำงานประจำอยู่ปีนึงค้นหาตัวเอง สุดท้ายก็ออกมาทำธุรกิจตัวเองต่อ
ต้นปีก่อน (2561) ไฟแรง บวกแรงยุของคนรอบตัว ทำให้ออกจาก comfort zone ของตัวเอง ทุ่มหมดตัว ทำให้เราออกจากกำแพงบางอย่าง ธุรกิจไปได้ดีขึ้น มีรายได้มากขึ้น กิเลศก็มากขึ้นเป็นเงาตามตัว
บ้าน รถ กับอีกหลายสิ่งที่เป็น the must ของเราๆก็แห่มา เดือนๆนึงเสียค่าใช้จ่ายกับการผ่อนสิ่งเหล่านี้
ผมเป็นคนไม่ค่อยกินใช้อะไรแพง แต่บ้านซื้อค่อนข้างใหญ่(เกินตัว) ผ่อนบ้านให้แม่ ผ่อนคอนโดให้พ่อ รถแฟน .... ทำแบบนี้ได้ร่วม 2 ปี แล้ว
ทำงาน หอบงานกลับบ้าน นอน ตื่นตี 5 ทำงาน เสาร์ทำงาน อาทิตย์นอนเดี้ยง แบบนี้ทุกวันๆ จนวันนึง เราเริ่มคิด ว่าพอผ่อนบ้านจบ ผ่อนรถจบ ต่อมา ก็แต่งงาน มีครอบครัว ก็ทำงานเลี้ยงลูกละ....สมัยนี้ ก็มีแต่คนอยากให้ลูกเรียนอินเตอร์ เพราะคาดหวังอะไรไม่ได้เท่าไร กับระบบการศึกษาบ้านเรา เห็นค่าเทอมก็ลมจับเเล้ว
ชีวิตคนเรา เกิดมาเพื่อหาคนเงินแบบนี้ไปเรื่อยๆหรอ ..... ก็ได้แต่คิด แต่ก็ยังต้องใช้ชีวิตแบบเดิม เพราะภาระมันค้ำคอเต็มๆ หยุดไม่ได้ ถอยไม่ได้
จน 2 3 เดือนมานี้ รู้เลยว่าเศรษฐกิจมีปัญหาจริงๆ inputที่เข้ามาแต่ละวัน น้อยลงอย่างเห็นได้ชัด ลูกค้าเราก็แย่ เก็บเงินยากขึ้น เชคลูกค้าเด้งนี่ไม่แปลกใจเลย projectใหม่ๆเกิดน้อยลงอย่างเห็นได้ชัด ฝืดกันไปหมด คู่ค้าคู่แข่งที่สนิทๆกัน เลิกกิจการไปบ้างก็มี ทุกๆวันจะมีไลน์เข้ามาหา ว่าเราไม่แบ่งงานมาให้ทำบ้างหรอ คุณเงียบ ผมก็เงียบ เราก็ยิ่งต้องขยันมากขึ้น เพราะรู้ว่าสถานการณ์ไม่ปกติ ที่เคยหาได้ก่อนหน้านี้ ไม่รู้จะหาได้เท่านี้ไปอีกเท่าไร
รู้ตัวอีกที เราเหมือนหนูปั่นจักร ไปแล้ว
จนเมื่อ เดือนก่อน ได้ไปคุยกับลูกค้าท่านนึงที่ตั้งตัวมาจากการทำงานทำงานแบบเราๆนี่แหละแต่สามารถตั้งตัวจนเป็น Self-made millionaireได้ มีโอกาสนั่งคุยกัน 2 3 ชั่วโมง ที่ไม่เกี่ยวกับเรื่องงาน ได้นั่งฟังชีวิต มุมมอง และที่สำคัญมากๆที่ทำให้ผมแปลกใจคือ ทัศนคติที่เกี่ยวกับการเงิน ของท่าน ที่แตกต่างจากคนทั่วๆไปอย่างเราๆอย่างมาก
ต้องเรียนว่าที่ผ่านมา ไม่เคยได้มีโอกาสสัมผัสคนระดับนี้ซักเท่าไร แต่ที่รู้แน่ๆ คือแกใจกว้างมากๆ ไม่ได้มีความเขี้ยวความงกอย่างคนรวยๆที่เราได้ยินมาเลย (คนเราทุกระดับก็มีความหลากหลายแหละครับ)
ผมเสียดาย ที่มีเวลานั่งคุยกับท่านสั้นไปหน่อย แต่ที่แน่ๆคือ ท่านพูดกับผมว่า เรื่องเบสิกอย่าง หุ้น พันธบัตร กองทุน REIT อสังหาริมทรัพย์ เรื่องพวกนี้ คือสิ่งที่ทุกคนต้องสร้าง Wealth ต้องศึกษาต้องเรียนรู้อยู่เเล้ว แต่ Key สำคัญคือ ถ้าทุกคนที่ศึกษาเรื่องพวกนี้แล้วสำเร็จ ป่านนี้ คนที่ลงทุนต้องประสบความสำเร็จกันเต็มไปหมดเเล้ว แต่ทำไมอัตราส่วนยังเป็น 90 : 10 อยู่ละ?
เพราะ 10% เค้ามีอะไรมากกว่านั้น? เเล้วสิ่งนั้นคืออะไรละครับ เสียดายจริงๆตอนนั้น คือตั้งใจฟังมากจนไม่ได้ถาม(เกร็งๆด้วยแหละเพราะแกเป็นผู้ใหญ่มาก)
ที่ผ่านมา อ่านหนังสือเกี่ยวกับ การเงินส่วนบุคคลมาพอสมควร ทุกเล่มก็จะบอกว่า ให้ลงทุนๆ ให้ทำ A B C แล้วทำไมคนส่วนมากถึงยังใช้ชีวิตเป็นหนูปั่นจักรอยู่??
เป็นสิ่งที่ค้างคาในใจพอสมควร ไม่อยากใช้ชีวิตวนในอ่างแบบนี้ตลอดไป ยิ่งถ้าเราทำแบบเดิม เราก็ได้แบบเดิม เพราะมันเป็นแบบเดิมแบบนี้มาหลายปีเเล้ว
อะไร ที่จะช่วยปลดเราออกจากวังวนเดิมๆหรือที่เค้าเรียกกันว่า กับดักชนชั้นกลาง
เราจะหาความรู้ ทัศนคติแบบนั้นได้จากไหน มีหนังสืออะไรบอกมั้ย หรือสิ่งนั้นคืออะไรกัน
เพื่อนๆพันทิปบางคนผ่านจุดนี้มาเเล้ว หาเจอแล้วคิดว่า มาแชร์ให้ฟังกันหน่อยครับผม
ขอบคุณสำหรับทุกความคิดเห็นครับ
ทำอย่างไร คนธรรมดาๆอย่างเราๆก็มี ความรู้ทางการเงิน(financial literacy) แบบคนระดับ Wealth (กระทู้บ่นคนว่าง)
ส่วนตัวผมทำธุรกิจเล็กๆอยู่ตอนเรียน ด้วยความโชคดีที่ไปได้โอเค พอเรียนจบ ก็ได้ไปทำงานประจำอยู่ปีนึงค้นหาตัวเอง สุดท้ายก็ออกมาทำธุรกิจตัวเองต่อ
ต้นปีก่อน (2561) ไฟแรง บวกแรงยุของคนรอบตัว ทำให้ออกจาก comfort zone ของตัวเอง ทุ่มหมดตัว ทำให้เราออกจากกำแพงบางอย่าง ธุรกิจไปได้ดีขึ้น มีรายได้มากขึ้น กิเลศก็มากขึ้นเป็นเงาตามตัว
บ้าน รถ กับอีกหลายสิ่งที่เป็น the must ของเราๆก็แห่มา เดือนๆนึงเสียค่าใช้จ่ายกับการผ่อนสิ่งเหล่านี้
ผมเป็นคนไม่ค่อยกินใช้อะไรแพง แต่บ้านซื้อค่อนข้างใหญ่(เกินตัว) ผ่อนบ้านให้แม่ ผ่อนคอนโดให้พ่อ รถแฟน .... ทำแบบนี้ได้ร่วม 2 ปี แล้ว
ทำงาน หอบงานกลับบ้าน นอน ตื่นตี 5 ทำงาน เสาร์ทำงาน อาทิตย์นอนเดี้ยง แบบนี้ทุกวันๆ จนวันนึง เราเริ่มคิด ว่าพอผ่อนบ้านจบ ผ่อนรถจบ ต่อมา ก็แต่งงาน มีครอบครัว ก็ทำงานเลี้ยงลูกละ....สมัยนี้ ก็มีแต่คนอยากให้ลูกเรียนอินเตอร์ เพราะคาดหวังอะไรไม่ได้เท่าไร กับระบบการศึกษาบ้านเรา เห็นค่าเทอมก็ลมจับเเล้ว
ชีวิตคนเรา เกิดมาเพื่อหาคนเงินแบบนี้ไปเรื่อยๆหรอ ..... ก็ได้แต่คิด แต่ก็ยังต้องใช้ชีวิตแบบเดิม เพราะภาระมันค้ำคอเต็มๆ หยุดไม่ได้ ถอยไม่ได้
จน 2 3 เดือนมานี้ รู้เลยว่าเศรษฐกิจมีปัญหาจริงๆ inputที่เข้ามาแต่ละวัน น้อยลงอย่างเห็นได้ชัด ลูกค้าเราก็แย่ เก็บเงินยากขึ้น เชคลูกค้าเด้งนี่ไม่แปลกใจเลย projectใหม่ๆเกิดน้อยลงอย่างเห็นได้ชัด ฝืดกันไปหมด คู่ค้าคู่แข่งที่สนิทๆกัน เลิกกิจการไปบ้างก็มี ทุกๆวันจะมีไลน์เข้ามาหา ว่าเราไม่แบ่งงานมาให้ทำบ้างหรอ คุณเงียบ ผมก็เงียบ เราก็ยิ่งต้องขยันมากขึ้น เพราะรู้ว่าสถานการณ์ไม่ปกติ ที่เคยหาได้ก่อนหน้านี้ ไม่รู้จะหาได้เท่านี้ไปอีกเท่าไร
รู้ตัวอีกที เราเหมือนหนูปั่นจักร ไปแล้ว
จนเมื่อ เดือนก่อน ได้ไปคุยกับลูกค้าท่านนึงที่ตั้งตัวมาจากการทำงานทำงานแบบเราๆนี่แหละแต่สามารถตั้งตัวจนเป็น Self-made millionaireได้ มีโอกาสนั่งคุยกัน 2 3 ชั่วโมง ที่ไม่เกี่ยวกับเรื่องงาน ได้นั่งฟังชีวิต มุมมอง และที่สำคัญมากๆที่ทำให้ผมแปลกใจคือ ทัศนคติที่เกี่ยวกับการเงิน ของท่าน ที่แตกต่างจากคนทั่วๆไปอย่างเราๆอย่างมาก
ต้องเรียนว่าที่ผ่านมา ไม่เคยได้มีโอกาสสัมผัสคนระดับนี้ซักเท่าไร แต่ที่รู้แน่ๆ คือแกใจกว้างมากๆ ไม่ได้มีความเขี้ยวความงกอย่างคนรวยๆที่เราได้ยินมาเลย (คนเราทุกระดับก็มีความหลากหลายแหละครับ)
ผมเสียดาย ที่มีเวลานั่งคุยกับท่านสั้นไปหน่อย แต่ที่แน่ๆคือ ท่านพูดกับผมว่า เรื่องเบสิกอย่าง หุ้น พันธบัตร กองทุน REIT อสังหาริมทรัพย์ เรื่องพวกนี้ คือสิ่งที่ทุกคนต้องสร้าง Wealth ต้องศึกษาต้องเรียนรู้อยู่เเล้ว แต่ Key สำคัญคือ ถ้าทุกคนที่ศึกษาเรื่องพวกนี้แล้วสำเร็จ ป่านนี้ คนที่ลงทุนต้องประสบความสำเร็จกันเต็มไปหมดเเล้ว แต่ทำไมอัตราส่วนยังเป็น 90 : 10 อยู่ละ?
เพราะ 10% เค้ามีอะไรมากกว่านั้น? เเล้วสิ่งนั้นคืออะไรละครับ เสียดายจริงๆตอนนั้น คือตั้งใจฟังมากจนไม่ได้ถาม(เกร็งๆด้วยแหละเพราะแกเป็นผู้ใหญ่มาก)
ที่ผ่านมา อ่านหนังสือเกี่ยวกับ การเงินส่วนบุคคลมาพอสมควร ทุกเล่มก็จะบอกว่า ให้ลงทุนๆ ให้ทำ A B C แล้วทำไมคนส่วนมากถึงยังใช้ชีวิตเป็นหนูปั่นจักรอยู่??
เป็นสิ่งที่ค้างคาในใจพอสมควร ไม่อยากใช้ชีวิตวนในอ่างแบบนี้ตลอดไป ยิ่งถ้าเราทำแบบเดิม เราก็ได้แบบเดิม เพราะมันเป็นแบบเดิมแบบนี้มาหลายปีเเล้ว
อะไร ที่จะช่วยปลดเราออกจากวังวนเดิมๆหรือที่เค้าเรียกกันว่า กับดักชนชั้นกลาง
เราจะหาความรู้ ทัศนคติแบบนั้นได้จากไหน มีหนังสืออะไรบอกมั้ย หรือสิ่งนั้นคืออะไรกัน
เพื่อนๆพันทิปบางคนผ่านจุดนี้มาเเล้ว หาเจอแล้วคิดว่า มาแชร์ให้ฟังกันหน่อยครับผม
ขอบคุณสำหรับทุกความคิดเห็นครับ