
คนสองคนรักกัน จะใช้ชีวิตคู่ด้วยกัน ปกติแล้วแล้ว ยิ่งอยู่ด้วยกันยิ่งต้องเข้าใจกันและต้องปรับตัวเข้าหากันใช่ไหมคะ แรกๆก็คอยถามกันตลอดว่าเรามีข้อเสียอะไรไหม จะปรับตัวเข้าหากันยังไง เหมือนกับว่าพร้อมที่จะยอมรับปัญหาและข้อบกพร่องของกันและกัน แต่พอนานไป สิ่งที่ถามกันนั้นไม่ได้รับการปรับปรุงตัวขึ้นมาเลย ยังเป็นแบบเดิมซ้ำๆ แล้วพอทะเลาะกัน ก็มานั่งคุยเหมือนเดิม แล้วก่บอกว่าจะปรับตัว แต่ก็ไม่ ยิ่งต้องมาอยู่บ้านเค้าพอเราบ่นเรื่องส่วนตัวของเค้า เค้ากลับพูดให้แม่เค้าเข้าข้างอีก เรากลายเป็นหมาหัวเน่า พูดมากขี้บ่น สิ่งที่เราไม่อยากให้ทำกลับไปอ้อนแม่เค้าให้มาคุยกับเราให้เรายอมให้ทำ บางทีมีแอบคุยกันกับแม่แล้วแอบทำโดยที่เรามารู้ทีหลังอีก เป็นแบบนี้เรื่อยๆ จนบางครั้งเราเฉย และเฉื่อยชากับความรักมาก ไม่อยากทำอะไรเพื่อใคร ทำไปแล้วก็ไม่เกิดประโยชน์ ห้ามอะไรก็ไม่ฟัง เตือนก็ไม่เชื่อ บางทีเค้าก็บ่นว่าทำไมไม่คิดจะสร้างอนาคตด้วยกัน คือเราก็อยากสร้างนะ แต่เมื่อเราให้คำแนะนำ ปรึกษากัน ถ้าขัดกับความคิดเห็นเค้า เค้าก็ไม่ทำ ถ้าเรื่องไหนที่เค้าอยากจะทำแล้วเราคิดว่ามันไม่โอเคไม่ดี เค้าก็ไปแอบทำกับแม่เค้าหรือไม่ก็ให้แม่เค้ามาคุยกับเรา บังคับเราให้ยอมทำด้วย คือมันอึดอัดมาก จนบางครั้งบอกเค้าว่าให้อยู่กับแม่สองคน เราจะกลับไปอยู่บ้าน เค้าก็เริ่มจะดีขึ้น ได้1-2 วันก็เป็นอีก คือมันเป็นแบบนี้ตลอดจนเราเริ่มจะไม่ไหว พูดไปก่เหมือนเดิม มันทีผลกระทบกับการใช้ชีวิตประจำวันเรามาก เหมือนเรากลายเป็นคนหมดไฟ ไม่อยากทำอะไร คิดอยากทำอะไร พอมาคิดข้อนี้แล้วไม่อยากทำต่อ เพราะมันไม่เกิดประโยชน์ อะไร ไม่อยากเป็นแบบนี้ ตอนนี้คือทรงตัว กับรออาการทรุดลง แค่นั้นเอง เราควรทำยังไงดีคะ จะเดินหน้า หรือจะถอนตัวออกมาดี...
ความรักของคุณเคยมีอาการทรงแล้วรอวันทรุดลงไหม แก้ยังไงดี