ประวัติส่วนตัว จะเรียกยังไงก็ช่างเถอะ แต่ที่จะพิมพ์ต่อไปนี้ อาจจะเป็นอะไรที่อยากจะระบาย สักอย่าง

ประวัติส่วนตัว  จะเรียกยังไงก็ช่างเถอะ

แต่ที่จะพิมพ์ต่อไปนี้ อาจจะเป็นอะไรที่อยากจะระบาย สักอย่าง

 ผมชื่อนิกกี้ครับเกิดมาพร้อมกับสมาธิสั้น 

ตั้งแต่เป็นเด็กที่เล่นซนไม่สนรอบข้างว่าจะว่ายังไงและเคยทำให้เพื่อนร้องไห้โดยการกระโดดทับเพื่อนแต่เอาจริงๆเด็กคนนั้นไม่รู้ว่ามีคนอยู่ข้างล่างก็เลยทับทำให้เด็กนั้นร้องไห้และหลังจากเลิกเรียนก็กลับบ้านมาเล่นเกมต่อ   

ต่อมาก็ขึ้น ประถม เป็นเด็กที่เรียนไม่เก่งเลย  เพราะยังเด็กไปรึป่าวก็จำไม่ได้ แต่ที่รู้ความทรงจำได้ คือโดนเพื่อนแกล้งยัดผลไม้ใส่ปากที่จำได้คือโดนบังคับให้กินแล้วหลังจากนั้นก็อ้วก หลังจากเลิกเรียนก็กลับบ้านมาเล่นเกมต่อ  พอขึ้น ป.2 ผมจำได้ว่า ผมมีเพื่อนสนิทอยู่ 2-3คน  คนแรกชื่อหมีพู  คนสองชื่อบันทิต  คนสามชื่อไอซ์ 
จำได้ กลุ่มพวกเป็นกลุ่มนั่งคุยกันไม่ได้อะไรเลยนอกจากเล่นไปวันๆ  จนมาวันหนึ่ง ครูที่สอน เขามาพูดว่า ’’ พวกเธอทำโจทย์บนกระดานหน่อยสิกลุ่มพวกจะไม่มีเกรดเอานะ” พวกผมก็ทำเพราะผมจำได้ว่าครูน่าจะใช้น้ำเสียงดุใส่พวกผม  แล้วหลังจากนั้นก็ครูคนไหนไม่รู้เหมือนกันผมก็จำไม่ได้มาเอาสมุดพวกผมที่วาดภาพเล่นกันฉีกทิ้งแล้วก็บอกว่า“  วาดอะไรกันนักหนาไม่ประโยชน์เลย ” แล้วเพื่อนๆผมก็หันหน้าเข้ากระดานหมด จากตอนนั้นมาก็ไม่มีใครวาดรูปอีกเลยและผมก็ไม่ได้คุยกับเพื่อนอีกเลย และเหมือนเดิมเลิกเรียนมาก็เล่นเกม   ต่อมาผมก็ขึ้น ป.3ผมจำได้ว่าผมเป็นเด็กที่ไม่ทำการบ้านเลย  และพอไม่ทำการบ้านก็จะโดนตี ทุกครั้งเลย และเป็นทุกวันที่จะโดนตีด้วยแต่ทุกครั้งที่กลับมาบ้านแม่ก็จะถามทุกว่ามีการบ้านไหม ผมก็ตอบแบบนี้ทุกครั้งว่า   “ ไม่มีครับ”   แล้วก็เล่นเกมเหมือนเคย และมีครั้งหนึ่งเคยเล่นกับเพื่อนจนตัวเองหัวแตก
เข้าโรงบาลมั้งจำไม่ได้ แต่ที่รู้ คือหัวมีความรู้สึกแปลกๆเย็บประมาณ 3เข็มมั้ง  และเคยป่วย 3วันติดกันไข้สูงมากๆเลยจนไม่สามารถลุกไปไหนได้แต่แปลกนะคนเราหายจากอาการป่วยได้โดยการดูการ์ตูนแต่รู้ไหมวันที่ผมหายป่วยเป็นวันที่ไข้หวัดนกกำลังระบาดผมก็ไม่ได้สนใจอะไรกับข่าวแล้วก็ไปเล่นเกมเหมือนเดินและพอ ป.4 อันนี้บอกตรงๆเลยนะ ผมจำไม่ได้จริงๆ  ข้ามไป ป.5ถึง ป.6 เลยละกัน  เป็นอะไรที่ไม่อยากจำจริงๆ  ตั้งแต่เปิดเทอมมี คนหนึ่ง
ซึ่งเป็นเพื่อนร่วมห้อง เขาได้บอกผมว่า  “ แม่แกอ่ะติดตังแม่เขา แล้วยังไม่ใช้   ” แต่ตอนนั้นผมก็สงสัยว่าไปติดตอนไหนแต่เดียวก่อนอย่าลืมนะผมเป็นเด็กสมาธิสั้นและเอาจริงๆบวกกับความเอ๋อที่มีตั้งแต่อนุบาลแล้วคับผมก็สงสัยแล้วถามไปว่า” ไปติดตอนไหน ”   มันบอกผมว่า  “ ติดตอนแม่แกอ่ะยึดตังแม่เขาไปเป็นพันเพื่อจะได้เย็บเสื้อผ้ากับกางเกงของผม”  ตอนนั้นผมก็งงเพราะเสื้อผ้าผมตอนนั้นมมันรูขาดเยอะมากโดยเฉพาะกางเกงไม่รู้จะทำยังไง แต่มันบอกว่า “ เอาตังมาใช่จ่ายสิ”  คุณรู้ไหมว่ามันเอาวันล่ะเท่าไร 20บาทนะคุณแต่ล่ะวันพ่อแม่ให้วันละ 20-30บาทมั้ง  แล้วไม่ต้องถามนะ ว่ายอมให้เด็กนั้นไถ่เงิน ตอนนั้นผมเด็กนะ ไม่รู้บวกเรียนไม่เก่ง แถมยังตัวเล็กมากๆไอ้คนที่มาไถตัวใหญ่กว่าผมไม่รู้กี่เท่าแล้วทำไมไม่ฟ้องครูผมลืมบอกตอน ป.3 ผมเคยฟ้องครูเพื่อนในห้องเสียงดังมาดังขนาดที่ว่าเป็นตลาดสดได้เลยแล้วเพื่อนก็มาถามว่าผมไปฟ้องครูมาทำไมโดนทำโทษให้ไปทำการบ้านเพื่อนในห้องมองผมเป็นตาเดียวกันไอ้นี้ขี้ฟ้องหลังจากนั้นก็ไม่มีใครมาคุยกับผมอีกเลยจากตอนนั้นมาก็ไม่ฟ้องครูอีกเลยไม่จะเรื่องอะไรก็ตามแต่  ผมขอต่อจากตอนไถ่เงินเลยแล้วกัน  คุณรู้ไหมพอผมมาเจออย่างนี้เข้าไปตั้งแต่วันนั้นที่โดนไถ่เงินประมาณ 2-3 เดือนได้มั้ง ไม่ใช่ไถ่ตังอย่างเดียว ไถ่กางเกงในผมด้วยสิ เอาซี่ไถ่ทุกอย่าง รู้ไหมผมเครียดมากจากเด็กร่าเริงในโรงเรียนเปลี่ยนเป็นเด็กที่ไม่ยิ้มเลย  แต่รู้ไหมมีความสุขเดียวที่ผมมีคือกลับบ้านมาแล้วนั่งเล่นเกม
แต่คือความสุขผมเพียงอย่างเดียวในช่วง 2-3เดือน  ช่วงนั้นผมแทบไม่ได้กินข้าวกลางวันเลยที่ผมจำได้ว่าผมบอกเพื่อนว่าไม่หิวๆ ไม่ เป็นไรไปกินเลยๆ 
หลังจากนั้นผมจำได้ว่ามันเพิ่มเงิน20จากเป็น30บาท  หลังจากนั้นเรียกได้ว่าผมไม่ได้กินข้าวกลางวันอีกเลย  หลังจากผมก็ได้กินแค่ข้าวเช้ากับเย็นแค่นั้นเอง   ตอนผมไม่สามารถบอกหรือพูดกับใครแม้แต่กับพ่อแม่ผมเอง 
ตอนนั้นผมแทบไม่มีน้ำตาเลยเพราะไม่รู้ควรจะทำยังไงดี เพื่อนในห้องก็ไม่มีใครถามครูประจำตอนนั้นก็ไม่รู้เรื่องเพราะอย่างที่ผมบอกไปคับและผมกลัวว่ามันจะทำร้ายผมอีกไม่มีความสุขเลยและในที่สุดประมาณสักอาทิตย์หรือสองอาทิตย์มีเพื่อนคนหนึ่งเข้ามาถามผมว่า ”ทำไมไม่ไปกินข้าว” ตอนแรกผมตอบว่า”ไม่หิว” เพื่อนนี้ก็ถามอีกว่า  ” ตอบแบบนี้หลายครั้งแล้วนะ เป็นอะไรรึป่าวมีตังไหม” ตอนนั้น ผมก็ตอบไปว่า  “ไม่มี  “   แล้วเพื่อนคนเดิมก็ถามว่า “ ตังไปไหน”   ตอนนั้นผมก็ไม่ตอบเพราะผมไม่รู้ว่าจะบอกดีรึป่าว กลัว ว่าจะโดนไอ้คนไถ่เงินมาต่อยตีเอา      แต่เพื่อนก็พูดมาว่า  “  โดนไถ่เงินตังไปใช่รึป่าว  ”  ตอนนั้นผมก็พยักหน้าแล้วเพื่อนก็แน่ใจว่าผมโดนไถ่ตังไป  แล้วเอาไปฟ้องครู ตอนนั้น ผมก็ยังไม่รู้เรื่องอะไรมาก  จนครูประจำชั้นเรียกให้ไปพบแล้วก็ถามผมว่า “ เธอโดนไถ่ตังไปใช่ไหม”  ตอนนั้น ไอ้คนไถ่ไม่อยู่มั้ง ผมจำไม่ได้   ผมก็ตอบว่าคับหรือพยักหน้านี่ล่ะแต่ผมบอกไว้ก่อนว่าคนที่ไถ่ตังผมมันมีนิสัยชอบเลี้ยงเพื่อนเลี้ยงไอติมบ้างและมีครั้งนึงผมจำได้ว่ามันเคยขโมยตังของพ่อมันซึ่งเยอะมากๆ เยอะแบบเกินเด็กประถมพกไว้  และเพื่อนคนที่ถามผมว่าทำไมไม่ไปกินข้าวคนนี้ล่ะ  เห็นผมกับไอ้คนไถ่ตังผมเพื่อนคนนี้มันเห็นผมให้ตังไอ้นี่ก็คงจะสงสัยก็มาถามแต่ถามอ้อมๆมั้ง ผมก็ไม่รู้เอาเท่าที่ผมจำได้ล่ะกัน   และหลังจากวันนั้นประมาณวันหรือสองวันนี่ละ  ผมไม่เห็นหน้าไอ้คนไถ่ตังอีกเลยคับและผมจำได้ว่าแม่ผมจะเอาเรื่องให้ได้เลยและเอาจนถึงที่สุดด้วย
แต่ตอนนั้นทางโรงเรียนมั้งเป็นคนมาจัดการให้ แต่ที่รู้ไอ้คนไถ่ตังผม ลาออกไปเลยตั้งแต่ ป.5  แต่คุณรู้ไหมว่าเด็ก ป.5มีงอกเต็มหัวแล้วเพราะอะไรนะหรอกชีวิตตอนนั้นไม่มีความสุขเลยที่เรียกว่าความสุขกลับบ้านแล้วเล่นเกมและมาจนถึงช่วง ป.6  ผมได้กินข้าว ได้กินทุกอย่างที่ผมต้องการมีชีวิตที่สนุกๆมากในโรงเรียน

 อยากระบายสักครั้งไม่เคยได้คุยกับใครเลย แม้แต่ พ่อกับแม่ ไม่เคยได้ระบายเลย  งง ตรงไหนบอกด้วย เดียวจะตอบให้คับ เพราะว่าเอามาจากความทรงจำทั้งหมดเลย ประมาณ12-13ปีได้คับ
แก้ไขข้อความเมื่อ
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 2
อ่า​
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่