สรุปใจความสั้นๆของกระทู้ คือ “ทำเลสิคแบบ ReLEX ไม่เจ็บเลยซักนิด” รู้งี้ทำตั้งนานละ ผ่าตัดใช้เวลาไม่ถึง 10 นาที ไม่มีความเจ็บ ผ่าตัดเสร็จไม่นานภาพก็ชัดเลยทันที เหมือนได้ตาดวงใหม่ ได้ภาพคมชัดแบบจอ HD แล้วชีวิตคือสะดวกสบายขึ้นเยอะ ขับรถตอนกลางคืนได้ปกติเลย หลังทำตามีแห้งบ้างก็อาศัยหยอดน้ำตาเทียมเอา
ใครอยากอ่านแบบละเอียดอ่านต่อข้างล่างโลด เนื้อหาข้างล่างเป็นการเล่าประสบการณ์การทำเลสิค ReLEX แบบค่อนข้างละเอียด โดยเฉพาะตอนผ่าตัด! คืออยากมาแชร์ทุกคนว่าทำเลสิคมันไม่ได้น่ากลัวเลย ทำแล้วชีวิตสบายขึ้นเยอะ
Phase I : รู้จักเลสิคแบบ ReLEX กันก่อน
ปัจจุบัน LASIK มีหลายแบบมาก แต่ ReLEX เป็นเทคนิคที่ใหม่และทันสมัยที่สุด
ความแตกต่างระหว่าง ReLEX กับเลสิคแบบธรรมดา หลักๆ คือ
1. ReLEX แผลผ่าตัดเล็กมากๆ คุณหมอจะใช้เลเซอร์เปิดกระจกตาขึ้นมาแค่นิดเดียว แล้วคีบชิ้นเนื้อเล็กๆ ออก แต่เลสิคแบบธรรมดาคือต้องเปิดกระจกตาออกมาทั้งฝา ทำให้แผลใหญ่กว่ามาก
2. ด้วยแผลที่ผ่าตัดมีขนาดเล็กมาก ทำให้ไม่รู้สึกเจ็บเวลาผ่าตัดเลย ผ่าตัดเสร็จก็ไม่รู้สึกหนักหรือหน่วงที่ตา
3. การทำ ReLEX จะรบกวนกระจกตาน้อยมากๆ ทำให้หลังผ่าตัดกระจกตามีความแข็งแรง และแผลหายไวมาก
4. ห้ามโดนน้ำแค่ 3 วัน หลังจาก 3 วันคือล้างหน้าได้ปกติเลย ในขณะที่เลสิคแบบธรรมดาต้องรออย่างน้อย 7 วัน
5. คุณหมอบอกว่าหลังทำ ReLEX มีโอกาสเห็นแสงแตกตอนกลางคืนน้อยกว่าทำเลสิคแบบธรรมดามากๆ และตาจะแห้งน้อยกว่าด้วย
เราเลือกทำเลสิคที่ TRSC เพราะหลังจากไปข้อมูลมา ทุกคนบอกว่าเป็นศูนย์เลสิคที่ดีที่สุดในเมืองไทยและที่นี่เป็นที่แรกในเมืองไทยที่ทำเลสิคแบบ ReLEX คุณหมอที่นี่ทุกท่านมีประสบการณ์และความชำนาญสูง การบริการดูแลเอาใจใส่ของพนักงานก็เป็นเลิศ และหลังผ่าตัดเสร็จก็ยังดูแลกันต่อแบบตลอดชีวิต โดยถ้าหลังทำเลสิคไปแล้วสายตามีการเปลี่ยนแปลงก็สามารถกลับมาแก้ไขได้ โดยไม่มีค่าใช้จ่ายเลย จะเสียแค่ค่ายาเป็นหลักพันบาทเท่านั้น คล้ายๆ เป็นการรับประกันหลังการขาย พอฟังพนักงานเค้าอธิบายแบบนี้ก็รู้สึกอุ่นใจละ เลยตัดสินใจว่าทำที่นี้แหละ
-> เราทำกับคุณหมอปัจฉิมา ได้ยินมาว่าคุณหมอเป็นคุณหมอคนแรกๆ ในไทยที่ทำ ReLEX ได้ และเป็นอาจารย์สอนนักศึกษาแพทย์ที่จุฬาด้วย คุณหมอสวย ใจดี เป็นกันเอง และมือเบามากๆๆ
Phase II : วันตรวจตาก่อนทำเลสิค
ใช้เวลาในศูนย์ไม่เกิน 3 ชม (ห้ามขับรถมาเอง)
1. เค้าจะให้ดูวีดีโอประมาณ 30 นาที วีดีโอก็จะอธิบายวิธีการและหลักการของการทำเลสิคแบบต่างๆ เครื่องมือที่ใช้ ข้อดี ข้อเสีย ผลข้างเคียง บลาๆๆ
2. พาเราไปตรวจวัดสภาพสายตา ดูค่าสายตา ความดันตา ความหนากระจกตา ต่างๆนานา
3. หยอดยาขยายม่านตา (หยอดเสร็จจะมองใกล้ไม่ชัด แบบกลายเป็นคนสายตายาวไปประมาณ 6 ชม)
4. พบคุณหมอ พอคุยกับคุณหมอเรียบร้อยก็นัดคิวผ่าตัดเลย ความรู้สึกตอนนั้นคือดีใจมากๆ ที่จะไม่ต้องใส่แว่นแล้ว
Phase III : วันผ่าตัด
ใช้เวลาในศูนย์ไม่เกิน 2 ชม (ห้ามขับรถมาเอง)
1. เจ้าหน้าที่ก็จะพาไปนอนทำความสะอาดหน้า ล้างยา หยอดยาชา แล้วก็ให้กินยาผ่อนคลาย
2. คุณหมอออกมารับไปห้องผ่าตัดเองเลย คุณหมอมานั่งคุยด้วยก่อนแล้วก็มีซ้อมกันนิดหน่อยว่าเราต้องทำตายังไง มองอะไร คุณหมอให้เรามองนิ้วชี้และมองตามที่คุณหมอบอก แล้วคุณหมอก็ชมว่าเราเก่งมาก ทำตามที่หมอบอกได้ทุกอย่างเลย5555 เข้าไปก็ทำเหมือนที่เราซ้อมกันไว้เลยนะ ความรู้สึกตอนนั้นคือแบบมีกำลังใจมาก แบบพร้อมละ แต่ก็ยังตื่นเต้นอยู่นะ555
3. เข้าไปนอนในห้องผ่าตัดละ ตอนนี้คือตาไม่มีความรู้สึกละนะ เค้าเอาที่ถ่างตามาใส่ยังไม่รู้สึกเลย คุณหมอเอาเครื่องเลเซอร์มาไว้ตรงหน้าเราแล้วบอกว่าจะเริ่มละนะ แล้วหมอก็นับถอยหลัง 25 วินาที เราก็แค่ต้องมองไปที่จุดที่เขียวๆอย่างเดียว พอเหลือซัก 10 กว่าวินาทีเหมือนไฟเขียวมันค่อยๆ หายไป แล้วกลายเป็นหมอกๆ สีเทาๆ หลังจากนั้นก็จะมีไฟสีขาวๆ คุณหมอก็บอกให้มองที่ไฟสีขาวๆ ตอนนี้คือรู้สึกแค่คุณหมอกำลังทำอะไรอยู่บนตาแค่นั้น ไม่มีความรู้สึกเจ็บเลยแม้แต่นิดเดียว หมอกสีเทาๆ ก็ค่อยๆ เริ่มจางหายไปทีละนิด คุณหมอทำอะไรซักอย่างอยู่บนตานี่แหละประมาณแค่ 3 นาที คุณหมอก็บอกว่าเสร็จแล้วนะข้างนึง คือแบบไวมากกก แล้วไม่มีความรู้สึกเจ็บใดๆทั้งสิ้นเลย แล้วคุณหมอก็ทำอีกข้าง รวมๆทำ 2 ข้างคือใช้เวลาไม่ถึง 10 นาทีอะ พอผ่าตัดเสร็จก็ล้างตา ออกจากห้องผ่าตัด ตอนเดินออกจากห้องผ่าตัด (คือหลังผ่าตัดเสร็จไม่ถึง 5 นาที) ภาพก็เริ่มมาละนะ หมอกสีเทาๆก็ค่อยๆจางลงๆเรื่อยๆ แล้วเจ้าหน้าที่ก็เอาที่ปิดตามาปิดตาเราไว้ ที่ปิดตามันจะเป็นรูๆ อะ คือเรายังสามารถมองเห็นได้ผ่านรู ทำเสร็จไม่ถึง 10 นาที ภาพมันก็ชัดมาเลยนะ จริงๆ แล้วคุณหมอบอกว่าหมอกสีเทาๆ อาจจะยังมีอยู่บ้างเป็นเรื่องปกติ กว่าจะหายหมดบางทีอาจจะเป็นอาทิตย์ แต่ของเราคือทำเสร็จแค่ไม่ถึงครึ่งชม มันก็หายไปหมดเลยนะ คือตอนนั่งรถกลับบ้านนี่ภาพชัดแล้วอะ คุณหมอบอกว่าหลังผ่าตัดอาจมีเคืองตาและน้ำตาไหลบ้าง แต่ของเราคือไม่เป็นเลย ก็แอบแปลกใจแต่ก็ดีแล้วแหละ5555
Phase IV : หลังผ่าตัด
1. ที่ครอบตาหลังผ่าตัดต้องครอบไว้ตลอด แล้วเช้าวันรุ่งขึ้นก็กลับมาที่ศูนย์ให้คุณหมอเปิดตาแล้วเช็คแผล
2. ต้องใส่ที่ครอบตาต่อเฉพาะเวลานอนให้ครบ 3 วัน
3. หยอดยาฆ่าเชื้อกับน้ำตาเทียมที่ทางศูนย์ให้มา
4. นัด follow up หลังผ่าตัด 1 สัปดาห์ 1 เดือน 3 เดือน 1 ปี เวลานัดเค้าก็จะตรวจค่าสายตา ความดันตาต่างๆ แล้วก็พบคุณหมอ
5. ตามีแห้งบ้าง ต้องคอยหยอดน้ำตาเทียมเอาเรื่อยๆ
6. คุณหมอบอกว่าภาพจะชัดที่สุด หลังจากผ่าตัดไปแล้วประมาณ 3 เดือน แต่คือเราว่าวันที่ 3 ก็ได้ภาพ HD แล้วอะ แต่ภาพมันก็ค่อยๆ ชัดขึ้นจริงๆ เพราะตอนทำมาแรกๆ นั่งโต๊ะทำงานแล้วยังอ่านตัวหนังสือบนผนังไม่ได้ แต่พอผ่านไปซักเดือนกว่าๆ คืออ่านได้ชัดแจ๋วทุกตัวเลย
7. ขับรถตอนกลางคืนได้ปกติเลย ก่อนที่จะทำคุณหมอบอกว่าอาจจะเห็นแสงไฟแตกตอนกลางคืนบ้าง เป็นมากเป็นน้อยแล้วแต่คน ถ้าเป็นมากก็ใส่แว่นตัดแสงช่วยได้ เราเริ่มขับรถกลางคืนหลังทำได้ซักอาทิตย์นึง ของเราคือไม่รู้สึกว่าแสงแตกเลย คือเหมือนคนตาปกติเลยอะ แค่รู้สึกว่าแสงมันจะจ้าๆ หน่อย ทุกวันนี้เราขับรถกลางคืนได้ปกติเลย
สิ่งที่เราเล่าแชร์ไปทั้งหมดเป็นความรู้สึกและประสบการณ์ที่เกิดขึ้นกับตัวเราเอง อาการหลังการผ่าตัดหรือพวกผลข้างเคียงที่เกิดขึ้นจากการผ่าตัดของแต่ละคนอาจจะไม่เหมือนกัน หวังว่าข้อมูลที่แชร์ไปจะเป็นประโยชน์กับคนที่กำลังตัดสินใจทำเลสิค หรือคนที่คิดอยากทำเลสิคทุกคน
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านกันนะครับ
[CR] รีวิวทำ LASIK แบบ ReLEX ไม่เจ็บเลยซักนิด!
ใครอยากอ่านแบบละเอียดอ่านต่อข้างล่างโลด เนื้อหาข้างล่างเป็นการเล่าประสบการณ์การทำเลสิค ReLEX แบบค่อนข้างละเอียด โดยเฉพาะตอนผ่าตัด! คืออยากมาแชร์ทุกคนว่าทำเลสิคมันไม่ได้น่ากลัวเลย ทำแล้วชีวิตสบายขึ้นเยอะ
Phase I : รู้จักเลสิคแบบ ReLEX กันก่อน
ปัจจุบัน LASIK มีหลายแบบมาก แต่ ReLEX เป็นเทคนิคที่ใหม่และทันสมัยที่สุด
ความแตกต่างระหว่าง ReLEX กับเลสิคแบบธรรมดา หลักๆ คือ
1. ReLEX แผลผ่าตัดเล็กมากๆ คุณหมอจะใช้เลเซอร์เปิดกระจกตาขึ้นมาแค่นิดเดียว แล้วคีบชิ้นเนื้อเล็กๆ ออก แต่เลสิคแบบธรรมดาคือต้องเปิดกระจกตาออกมาทั้งฝา ทำให้แผลใหญ่กว่ามาก
2. ด้วยแผลที่ผ่าตัดมีขนาดเล็กมาก ทำให้ไม่รู้สึกเจ็บเวลาผ่าตัดเลย ผ่าตัดเสร็จก็ไม่รู้สึกหนักหรือหน่วงที่ตา
3. การทำ ReLEX จะรบกวนกระจกตาน้อยมากๆ ทำให้หลังผ่าตัดกระจกตามีความแข็งแรง และแผลหายไวมาก
4. ห้ามโดนน้ำแค่ 3 วัน หลังจาก 3 วันคือล้างหน้าได้ปกติเลย ในขณะที่เลสิคแบบธรรมดาต้องรออย่างน้อย 7 วัน
5. คุณหมอบอกว่าหลังทำ ReLEX มีโอกาสเห็นแสงแตกตอนกลางคืนน้อยกว่าทำเลสิคแบบธรรมดามากๆ และตาจะแห้งน้อยกว่าด้วย
เราเลือกทำเลสิคที่ TRSC เพราะหลังจากไปข้อมูลมา ทุกคนบอกว่าเป็นศูนย์เลสิคที่ดีที่สุดในเมืองไทยและที่นี่เป็นที่แรกในเมืองไทยที่ทำเลสิคแบบ ReLEX คุณหมอที่นี่ทุกท่านมีประสบการณ์และความชำนาญสูง การบริการดูแลเอาใจใส่ของพนักงานก็เป็นเลิศ และหลังผ่าตัดเสร็จก็ยังดูแลกันต่อแบบตลอดชีวิต โดยถ้าหลังทำเลสิคไปแล้วสายตามีการเปลี่ยนแปลงก็สามารถกลับมาแก้ไขได้ โดยไม่มีค่าใช้จ่ายเลย จะเสียแค่ค่ายาเป็นหลักพันบาทเท่านั้น คล้ายๆ เป็นการรับประกันหลังการขาย พอฟังพนักงานเค้าอธิบายแบบนี้ก็รู้สึกอุ่นใจละ เลยตัดสินใจว่าทำที่นี้แหละ
-> เราทำกับคุณหมอปัจฉิมา ได้ยินมาว่าคุณหมอเป็นคุณหมอคนแรกๆ ในไทยที่ทำ ReLEX ได้ และเป็นอาจารย์สอนนักศึกษาแพทย์ที่จุฬาด้วย คุณหมอสวย ใจดี เป็นกันเอง และมือเบามากๆๆ
Phase II : วันตรวจตาก่อนทำเลสิค
ใช้เวลาในศูนย์ไม่เกิน 3 ชม (ห้ามขับรถมาเอง)
1. เค้าจะให้ดูวีดีโอประมาณ 30 นาที วีดีโอก็จะอธิบายวิธีการและหลักการของการทำเลสิคแบบต่างๆ เครื่องมือที่ใช้ ข้อดี ข้อเสีย ผลข้างเคียง บลาๆๆ
2. พาเราไปตรวจวัดสภาพสายตา ดูค่าสายตา ความดันตา ความหนากระจกตา ต่างๆนานา
3. หยอดยาขยายม่านตา (หยอดเสร็จจะมองใกล้ไม่ชัด แบบกลายเป็นคนสายตายาวไปประมาณ 6 ชม)
4. พบคุณหมอ พอคุยกับคุณหมอเรียบร้อยก็นัดคิวผ่าตัดเลย ความรู้สึกตอนนั้นคือดีใจมากๆ ที่จะไม่ต้องใส่แว่นแล้ว
Phase III : วันผ่าตัด
ใช้เวลาในศูนย์ไม่เกิน 2 ชม (ห้ามขับรถมาเอง)
1. เจ้าหน้าที่ก็จะพาไปนอนทำความสะอาดหน้า ล้างยา หยอดยาชา แล้วก็ให้กินยาผ่อนคลาย
2. คุณหมอออกมารับไปห้องผ่าตัดเองเลย คุณหมอมานั่งคุยด้วยก่อนแล้วก็มีซ้อมกันนิดหน่อยว่าเราต้องทำตายังไง มองอะไร คุณหมอให้เรามองนิ้วชี้และมองตามที่คุณหมอบอก แล้วคุณหมอก็ชมว่าเราเก่งมาก ทำตามที่หมอบอกได้ทุกอย่างเลย5555 เข้าไปก็ทำเหมือนที่เราซ้อมกันไว้เลยนะ ความรู้สึกตอนนั้นคือแบบมีกำลังใจมาก แบบพร้อมละ แต่ก็ยังตื่นเต้นอยู่นะ555
3. เข้าไปนอนในห้องผ่าตัดละ ตอนนี้คือตาไม่มีความรู้สึกละนะ เค้าเอาที่ถ่างตามาใส่ยังไม่รู้สึกเลย คุณหมอเอาเครื่องเลเซอร์มาไว้ตรงหน้าเราแล้วบอกว่าจะเริ่มละนะ แล้วหมอก็นับถอยหลัง 25 วินาที เราก็แค่ต้องมองไปที่จุดที่เขียวๆอย่างเดียว พอเหลือซัก 10 กว่าวินาทีเหมือนไฟเขียวมันค่อยๆ หายไป แล้วกลายเป็นหมอกๆ สีเทาๆ หลังจากนั้นก็จะมีไฟสีขาวๆ คุณหมอก็บอกให้มองที่ไฟสีขาวๆ ตอนนี้คือรู้สึกแค่คุณหมอกำลังทำอะไรอยู่บนตาแค่นั้น ไม่มีความรู้สึกเจ็บเลยแม้แต่นิดเดียว หมอกสีเทาๆ ก็ค่อยๆ เริ่มจางหายไปทีละนิด คุณหมอทำอะไรซักอย่างอยู่บนตานี่แหละประมาณแค่ 3 นาที คุณหมอก็บอกว่าเสร็จแล้วนะข้างนึง คือแบบไวมากกก แล้วไม่มีความรู้สึกเจ็บใดๆทั้งสิ้นเลย แล้วคุณหมอก็ทำอีกข้าง รวมๆทำ 2 ข้างคือใช้เวลาไม่ถึง 10 นาทีอะ พอผ่าตัดเสร็จก็ล้างตา ออกจากห้องผ่าตัด ตอนเดินออกจากห้องผ่าตัด (คือหลังผ่าตัดเสร็จไม่ถึง 5 นาที) ภาพก็เริ่มมาละนะ หมอกสีเทาๆก็ค่อยๆจางลงๆเรื่อยๆ แล้วเจ้าหน้าที่ก็เอาที่ปิดตามาปิดตาเราไว้ ที่ปิดตามันจะเป็นรูๆ อะ คือเรายังสามารถมองเห็นได้ผ่านรู ทำเสร็จไม่ถึง 10 นาที ภาพมันก็ชัดมาเลยนะ จริงๆ แล้วคุณหมอบอกว่าหมอกสีเทาๆ อาจจะยังมีอยู่บ้างเป็นเรื่องปกติ กว่าจะหายหมดบางทีอาจจะเป็นอาทิตย์ แต่ของเราคือทำเสร็จแค่ไม่ถึงครึ่งชม มันก็หายไปหมดเลยนะ คือตอนนั่งรถกลับบ้านนี่ภาพชัดแล้วอะ คุณหมอบอกว่าหลังผ่าตัดอาจมีเคืองตาและน้ำตาไหลบ้าง แต่ของเราคือไม่เป็นเลย ก็แอบแปลกใจแต่ก็ดีแล้วแหละ5555
Phase IV : หลังผ่าตัด
1. ที่ครอบตาหลังผ่าตัดต้องครอบไว้ตลอด แล้วเช้าวันรุ่งขึ้นก็กลับมาที่ศูนย์ให้คุณหมอเปิดตาแล้วเช็คแผล
2. ต้องใส่ที่ครอบตาต่อเฉพาะเวลานอนให้ครบ 3 วัน
3. หยอดยาฆ่าเชื้อกับน้ำตาเทียมที่ทางศูนย์ให้มา
4. นัด follow up หลังผ่าตัด 1 สัปดาห์ 1 เดือน 3 เดือน 1 ปี เวลานัดเค้าก็จะตรวจค่าสายตา ความดันตาต่างๆ แล้วก็พบคุณหมอ
5. ตามีแห้งบ้าง ต้องคอยหยอดน้ำตาเทียมเอาเรื่อยๆ
6. คุณหมอบอกว่าภาพจะชัดที่สุด หลังจากผ่าตัดไปแล้วประมาณ 3 เดือน แต่คือเราว่าวันที่ 3 ก็ได้ภาพ HD แล้วอะ แต่ภาพมันก็ค่อยๆ ชัดขึ้นจริงๆ เพราะตอนทำมาแรกๆ นั่งโต๊ะทำงานแล้วยังอ่านตัวหนังสือบนผนังไม่ได้ แต่พอผ่านไปซักเดือนกว่าๆ คืออ่านได้ชัดแจ๋วทุกตัวเลย
7. ขับรถตอนกลางคืนได้ปกติเลย ก่อนที่จะทำคุณหมอบอกว่าอาจจะเห็นแสงไฟแตกตอนกลางคืนบ้าง เป็นมากเป็นน้อยแล้วแต่คน ถ้าเป็นมากก็ใส่แว่นตัดแสงช่วยได้ เราเริ่มขับรถกลางคืนหลังทำได้ซักอาทิตย์นึง ของเราคือไม่รู้สึกว่าแสงแตกเลย คือเหมือนคนตาปกติเลยอะ แค่รู้สึกว่าแสงมันจะจ้าๆ หน่อย ทุกวันนี้เราขับรถกลางคืนได้ปกติเลย
สิ่งที่เราเล่าแชร์ไปทั้งหมดเป็นความรู้สึกและประสบการณ์ที่เกิดขึ้นกับตัวเราเอง อาการหลังการผ่าตัดหรือพวกผลข้างเคียงที่เกิดขึ้นจากการผ่าตัดของแต่ละคนอาจจะไม่เหมือนกัน หวังว่าข้อมูลที่แชร์ไปจะเป็นประโยชน์กับคนที่กำลังตัดสินใจทำเลสิค หรือคนที่คิดอยากทำเลสิคทุกคน
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านกันนะครับ
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้