ความเจ็บปวดของผู้ต้องขังพ้นโทษ

ก่อนอื่นขอแนะนำตัวก่อนนะครับ พอดีเป็นผู้ต้องขังพ้นโทษคดียาเสพย์ติด เพิ่งพ้นโทษได้แค่สองอาทิตย์

ข้อหามียาเสพย์ติดไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย

หลังจากอยู่ในเรือนจำได้ เกือบสี่ปี ก้อพ้นโทษออกมา ความรู้ก้อพอมีนะครับ เรียนจบ ปริญญาตรี ก่อนโดนจับก้อมีประสบการณ์การทำงานมากพอสมควร แต่หลังจากออกมา ไปสมัครงานไว้หลายแห่ง บางแห่งเรียกสัมภาษณ์งาน เกือบรับเข้าทำงานอยู่แล้ว แต่ก่อนเข่าทำงานต้องเช็คประวัติอาชญากรรมส่งให้ฝ่ายบุคคลก่อน ผมเลยแจ้งไปตามตรงว่าเพิ่งพ้นโทษออกมา จะเป็นอะไรมั๊ยถ้ามีประวัติ คำตอบที่ได้รับส่วนใหญ่คือ ขออภัยครับ ขออภัยค่ะ เป็นนโยบายของทางบริษัท เราไม่สามารถรับคุณเข้าทำงานได้

..............เจอปัญหาแบบนี้ เพื่อนเลยแนะนำ ไปสมัคร วิ่งพวก grab bike ก้อเลยลองไปสมัคร เพราะเห็นว่าเป็นงานอิสระ พอหาเลี้ยงตัวเองได้ ไปสมัครไปอบรม ส่งหลักฐานครบเรียบร้อย ผลการสมัครคือไม่ผ่าน เนื่องจากทาง grab ตรวจพบประวัติย้อนหลังของท่าน เค้าไม่ได้บอกหรอกนะครับว่าประวัติย้อนหลังอะไร แต่เดาว่าน่าจะใช่ประวัติที่เราเคยติดคุกมา ................ตกลงว่า ที่เรากลับตัวกลับใจ กลับมาหางานสุจริตทำ หลังจากที่เรารับโทษตามความผิดที่เราก่อเอาไว้เรียบร้อยแล้ว  สังคมยังไม่ให้โอกาสอีกเหรอครับ ขนาดคนที่มีความรู้ พอมีการศึกษายังไม่ได้มีโอกาสและทางเลือกให้มากนัก นับประสาอะไรกับคนที่ความรู้น้อย แถมยังเพิ่งพ้นโทษออกมาอีก หากเค้าคิดจะกลับตัวกลับใจเปลี่ยนตัวเองเป็นคนใหม่ แต่ไม่มีใครให้โอกาสแบบนี้ มันก้อเหลือทางเลือกอีกไม่กี่ทางให้เลือกนักหรอกครับ
..............ขอโอกาสขอที่ยืนกันบ้างเถิดครับ เพราะถึงอย่างไรพวกเราก้อ ได้รับโทษในสิ่งที่พวกเราก่อไว้แล้ว โปรดอย่าตราหน้าพวกเรา กดดันให้พวกเราหวนกลับไปทำในสิ่งผิดๆอีกเลยครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่