[ดาวโจนส์พุ่งเกือบ 100 จุด ขานรับจีนกระตุ้นเศรษฐกิจ,ตลาดจับตาเจรจาการค้า]
ดัชนีดาวโจนส์พุ่งขึ้นเกือบ 100 จุดในวันนี้
ขานรับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของจีน
รวมทั้งความคาดหวังที่ว่าสหรัฐและจีนจะกลับมาเจรจาการค้า ณ เวลา
21.00 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 25,997.48 จุด บวก 98.65
จุด หรือ 0.38% หุ้นกลุ่มรถยนต์ของสหรัฐดีดตัวขึ้น
หลังจากที่จีนเปิดเผยมาตรการกระตุ้นการซื้อรถยนต์ในวันนี้
โดยหวังเพิ่มการใช้จ่ายของผู้บริโภค ขณะที่เศรษฐกิจจีนชะลอตัวลง
โดยได้รับผลกระทบจากการทำสงครามการค้ากับสหรัฐ ทั้งนี้ สภาแห่งรัฐ
หรือคณะรัฐมนตรีจีน ออกแถลงการณ์ในวันนี้ ระบุว่า
รัฐบาลท้องถิ่นควรผ่อนคลายข้อจำกัดในการขายรถยนต์
และสนับสนุนให้มีการซื้อรถยนต์ประหยัดพลังงาน
คณะรัฐมนตรีจีนออกมาตรการดังกล่าว
หลังจากที่ยอดขายรถยนต์ดิ่งลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 13 ในเดือนก.ค.
นอกจากนี้ คณะรัฐมนตรีแถลงว่า
รัฐบาลจะสนับสนุนให้มีการแปลงสภาพช็อปปิ้งมอลล์ที่มีปัญหา รวมทั้งสนามกีฬา
และโรงงานเก่า ให้เป็นศูนย์การค้า ศูนย์บันเทิง และยิมเนเซียม
ขณะเดียวกัน รัฐบาลจะอนุญาตให้ห้างสรรพสินค้า และร้านอาหารเปิดให้บริการนานขึ้น
เพื่อส่งเสริมเศรษฐกิจช่วงยามค่ำคืน นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า
รัฐบาลจีนจะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจมากขึ้นอีกในช่วงหลายเดือนข้างหน้า
เพื่อกระตุ้นการบริโภค และการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน
รวมทั้งการผ่อนคลายนโยบายการเงิน ประธานาธิบดีโดนัลด์
ทรัมป์กล่าวในที่ประชุม G7 ว่า เขาเชื่อว่าจีนมีความจริงใจ
และมีความต้องการอย่างมากที่จะทำข้อตกลงการค้ากับสหรัฐ นอกจากนี้
ต่อข้อถามที่ว่า
จีนได้ปฏิเสธคำกล่าวของปธน.ทรัมป์เกี่ยวกับคำกล่าวอ้างที่ว่าจีนได้โทรศัพท์ไปยังเจ้าหน้าที่การค้าสหรัฐ
เพื่อขอกลับสู่โต๊ะเจรจา ปธน.ทรัมป์กล่าวว่า "ทางการจีนไม่ได้กล่าวเช่นนั้น"
ปธน.ทรัมป์กล่าวย้ำว่า
เจ้าหน้าที่สหรัฐได้มีการสนทนาทางโทรศัพท์กับเจ้าหน้าที่ในระดับสูงสุดของจีน
อย่างไรก็ดี ปธน.ทรัมป์ไม่ได้ระบุรายละเอียดดังกล่าว ทั้งนี้
เจ้าหน้าที่จีนแสดงความกังขาต่อการที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์กล่าวอ้างว่า
จีนได้โทรศัพท์ติดต่อสหรัฐเพื่อเรียกร้องให้กลับสู่โต๊ะเจรจา
นายเกิง ชวง โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของจีน กล่าวยืนยันในวันนี้ว่า
เขาไม่ได้รับทราบข่าวที่ว่า เจ้าหน้าที่จีนได้โทรศัพท์ 2
ครั้งมายังเจ้าหน้าที่สหรัฐเพื่อเรียกร้องให้ทั้งสองฝ่ายกลับมาเจรจาการค้า
ตามที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์กล่าวอ้าง
นายเกิงกล่าวยืนยันไม่ทราบเรื่องดังกล่าวเป็นครั้งที่ 2 ในวันนี้
หลังจากที่เขาได้กล่าวปฏิเสธเมื่อวานนี้
"เป็นที่น่าเสียใจที่สหรัฐยังคงเพิ่มการเรียกเก็บภาษีต่อสินค้านำเข้าจากจีน
สิ่งนี้จะส่งผลกระทบต่อทั้งสองฝ่าย และไม่สร้างสรรค์" นายเกิงกล่าว
ส่วนนายหู สีจิน บรรณาธิการของหนังสือพิมพ์ โกลบอล ไทมส์ของจีน ทวีตข้อความ
ยืนยันว่า คณะเจรจาการค้าจากทั้งสองฝ่ายไม่ได้พูดคุยกันทางโทรศัพท์แต่อย่างใด
"เท่าที่ผมทราบ
เจ้าหน้าที่เจรจาการค้าจากจีนและสหรัฐไม่ได้สนทนากันทางโทรศัพท์ในช่วงหลายวันที่ผ่านมา
โดยทั้งสองฝ่ายติดต่อกันในระดับเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคนิค
และไม่ได้มีความสำคัญมากอย่างที่ปธน.ทรัมป์พูดไว้
โดยจีนยังคงไม่ได้เปลี่ยนแปลงจุดยืน และไม่ได้ยอมแพ้ต่อแรงกดดันจากสหรัฐ"
นายหูกล่าว ส่วนการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐในวันนี้
ผลสำรวจของเอสแอนด์พี คอร์โลจิก เคส ชิลเลอร์ ระบุว่า
ดัชนีราคาบ้านทั่วประเทศในสหรัฐเพิ่มขึ้น 3.1% ในเดือนมิ.ย.
เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีที่แล้ว แต่ชะลอตัวจากที่เพิ่มขึ้น 3.3%
ในเดือนพ.ค. ส่วนดัชนีราคาบ้านใน 20 เมืองของสหรัฐ เพิ่มขึ้น 2.1%
ในเดือนมิ.ย. ชะลอตัวจากระดับ 2.4% ในเดือนพ.ค.
ราคาบ้านเพิ่มขึ้นสูงสุดในเมืองฟีนิกซ์ ลาสเวกัส และแทมปา
ทางด้านบริษัทฟิลิป มอร์ริส อินเตอร์เนชั่นแนล ออกแถลงการณ์ในวันนี้ ระบุว่า
ทางบริษัทกำลังอยู่ในระหว่างการเจรจาควบกิจการกับบริษัทอัลเทรีย
หากฟิลิป มอร์ริสประสบความสำเร็จในการควบกิจการอัลเทรีย
ก็จะเป็นอีกครั้งหนึ่งที่ธุรกิจทั้งสองอยู่ภายใต้บริษัทเดียวกัน
หลังจากที่อัลเทรียได้ขายกิจการฟิลิป มอร์ริสออกไปในปี 2551
เพื่อเน้นการขายบุหรี่ในตลาดสหรัฐ โดยเฉพาะแบรนด์"มาร์ลโบโร" ขณะที่ฟิลิป
มอร์ริสเน้นการขายบุหรี่ในต่างประเทศ
ดาวโจนส์พุ่งเกือบ 100 จุด ขานรับจีนกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่,ตลาดจับตาเจรจาการค้า
ดัชนีดาวโจนส์พุ่งขึ้นเกือบ 100 จุดในวันนี้
ขานรับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของจีน
รวมทั้งความคาดหวังที่ว่าสหรัฐและจีนจะกลับมาเจรจาการค้า ณ เวลา
21.00 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 25,997.48 จุด บวก 98.65
จุด หรือ 0.38% หุ้นกลุ่มรถยนต์ของสหรัฐดีดตัวขึ้น
หลังจากที่จีนเปิดเผยมาตรการกระตุ้นการซื้อรถยนต์ในวันนี้
โดยหวังเพิ่มการใช้จ่ายของผู้บริโภค ขณะที่เศรษฐกิจจีนชะลอตัวลง
โดยได้รับผลกระทบจากการทำสงครามการค้ากับสหรัฐ ทั้งนี้ สภาแห่งรัฐ
หรือคณะรัฐมนตรีจีน ออกแถลงการณ์ในวันนี้ ระบุว่า
รัฐบาลท้องถิ่นควรผ่อนคลายข้อจำกัดในการขายรถยนต์
และสนับสนุนให้มีการซื้อรถยนต์ประหยัดพลังงาน
คณะรัฐมนตรีจีนออกมาตรการดังกล่าว
หลังจากที่ยอดขายรถยนต์ดิ่งลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 13 ในเดือนก.ค.
นอกจากนี้ คณะรัฐมนตรีแถลงว่า
รัฐบาลจะสนับสนุนให้มีการแปลงสภาพช็อปปิ้งมอลล์ที่มีปัญหา รวมทั้งสนามกีฬา
และโรงงานเก่า ให้เป็นศูนย์การค้า ศูนย์บันเทิง และยิมเนเซียม
ขณะเดียวกัน รัฐบาลจะอนุญาตให้ห้างสรรพสินค้า และร้านอาหารเปิดให้บริการนานขึ้น
เพื่อส่งเสริมเศรษฐกิจช่วงยามค่ำคืน นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า
รัฐบาลจีนจะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจมากขึ้นอีกในช่วงหลายเดือนข้างหน้า
เพื่อกระตุ้นการบริโภค และการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน
รวมทั้งการผ่อนคลายนโยบายการเงิน ประธานาธิบดีโดนัลด์
ทรัมป์กล่าวในที่ประชุม G7 ว่า เขาเชื่อว่าจีนมีความจริงใจ
และมีความต้องการอย่างมากที่จะทำข้อตกลงการค้ากับสหรัฐ นอกจากนี้
ต่อข้อถามที่ว่า
จีนได้ปฏิเสธคำกล่าวของปธน.ทรัมป์เกี่ยวกับคำกล่าวอ้างที่ว่าจีนได้โทรศัพท์ไปยังเจ้าหน้าที่การค้าสหรัฐ
เพื่อขอกลับสู่โต๊ะเจรจา ปธน.ทรัมป์กล่าวว่า "ทางการจีนไม่ได้กล่าวเช่นนั้น"
ปธน.ทรัมป์กล่าวย้ำว่า
เจ้าหน้าที่สหรัฐได้มีการสนทนาทางโทรศัพท์กับเจ้าหน้าที่ในระดับสูงสุดของจีน
อย่างไรก็ดี ปธน.ทรัมป์ไม่ได้ระบุรายละเอียดดังกล่าว ทั้งนี้
เจ้าหน้าที่จีนแสดงความกังขาต่อการที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์กล่าวอ้างว่า
จีนได้โทรศัพท์ติดต่อสหรัฐเพื่อเรียกร้องให้กลับสู่โต๊ะเจรจา
นายเกิง ชวง โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของจีน กล่าวยืนยันในวันนี้ว่า
เขาไม่ได้รับทราบข่าวที่ว่า เจ้าหน้าที่จีนได้โทรศัพท์ 2
ครั้งมายังเจ้าหน้าที่สหรัฐเพื่อเรียกร้องให้ทั้งสองฝ่ายกลับมาเจรจาการค้า
ตามที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์กล่าวอ้าง
นายเกิงกล่าวยืนยันไม่ทราบเรื่องดังกล่าวเป็นครั้งที่ 2 ในวันนี้
หลังจากที่เขาได้กล่าวปฏิเสธเมื่อวานนี้
"เป็นที่น่าเสียใจที่สหรัฐยังคงเพิ่มการเรียกเก็บภาษีต่อสินค้านำเข้าจากจีน
สิ่งนี้จะส่งผลกระทบต่อทั้งสองฝ่าย และไม่สร้างสรรค์" นายเกิงกล่าว
ส่วนนายหู สีจิน บรรณาธิการของหนังสือพิมพ์ โกลบอล ไทมส์ของจีน ทวีตข้อความ
ยืนยันว่า คณะเจรจาการค้าจากทั้งสองฝ่ายไม่ได้พูดคุยกันทางโทรศัพท์แต่อย่างใด
"เท่าที่ผมทราบ
เจ้าหน้าที่เจรจาการค้าจากจีนและสหรัฐไม่ได้สนทนากันทางโทรศัพท์ในช่วงหลายวันที่ผ่านมา
โดยทั้งสองฝ่ายติดต่อกันในระดับเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคนิค
และไม่ได้มีความสำคัญมากอย่างที่ปธน.ทรัมป์พูดไว้
โดยจีนยังคงไม่ได้เปลี่ยนแปลงจุดยืน และไม่ได้ยอมแพ้ต่อแรงกดดันจากสหรัฐ"
นายหูกล่าว ส่วนการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐในวันนี้
ผลสำรวจของเอสแอนด์พี คอร์โลจิก เคส ชิลเลอร์ ระบุว่า
ดัชนีราคาบ้านทั่วประเทศในสหรัฐเพิ่มขึ้น 3.1% ในเดือนมิ.ย.
เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีที่แล้ว แต่ชะลอตัวจากที่เพิ่มขึ้น 3.3%
ในเดือนพ.ค. ส่วนดัชนีราคาบ้านใน 20 เมืองของสหรัฐ เพิ่มขึ้น 2.1%
ในเดือนมิ.ย. ชะลอตัวจากระดับ 2.4% ในเดือนพ.ค.
ราคาบ้านเพิ่มขึ้นสูงสุดในเมืองฟีนิกซ์ ลาสเวกัส และแทมปา
ทางด้านบริษัทฟิลิป มอร์ริส อินเตอร์เนชั่นแนล ออกแถลงการณ์ในวันนี้ ระบุว่า
ทางบริษัทกำลังอยู่ในระหว่างการเจรจาควบกิจการกับบริษัทอัลเทรีย
หากฟิลิป มอร์ริสประสบความสำเร็จในการควบกิจการอัลเทรีย
ก็จะเป็นอีกครั้งหนึ่งที่ธุรกิจทั้งสองอยู่ภายใต้บริษัทเดียวกัน
หลังจากที่อัลเทรียได้ขายกิจการฟิลิป มอร์ริสออกไปในปี 2551
เพื่อเน้นการขายบุหรี่ในตลาดสหรัฐ โดยเฉพาะแบรนด์"มาร์ลโบโร" ขณะที่ฟิลิป
มอร์ริสเน้นการขายบุหรี่ในต่างประเทศ