มีไหม? ผีที่ไม่อยากไปเกิด อยากบำเพ็ญแบบเป็นสัมภเวสี มีไหม?
มีเหมือนกัน แต่ถ้าวาระธรรมต้องเป็นเช่นนั้น จะฝืนไม่ได้ แต่ถ้าเกิดเป็นคนก็มีสิทธิ์เหมือนกัน การตั้งจิตบำเพ็ญเหนือวิบากกรรม เพราะว่า ถ้าเราตั้งจิตบำเพ็ญ หรือมีจิตสำนึก ก็จะเหนือวิบากกรรม คำว่า "เหนือวิบากกรรม" แต่ไม่ใช่ว่าจะไม่ไปรับวิบากกรรมนะ แต่เขารับอย่างเข้าใจ มันลดเร็ว รับแล้วก็ลดไว ไม่หนักเหนี่ยวอะไร เพราะเกิดตัวเจ้ากรรมอโหสิ เพราะเราตั้งใจมาดี ถ้าไม่เกรงใจเราก็ต้องเกรงใจพระโพธิสัตว์ หรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เพราะเขามาในนามพระโพธิสัตว์
นี่แหละ จิตสำนึกสำคัญ ไม่ว่าจะเก่งสักแค่ไหน ถ้าไม่มีจิตสำนึกก็ใช้ไม่ได้
จิตสำนึก คือ ยอมรับว่าเราผิด เต็มใจเลยว่าเราผิด แล้วเราจะต้องรับผลที่ต้องถูกทำโทษ หรือต้องได้รับทุกข์ ยอมรับในผลกรรม ไม่ใช่รับแต่ "เหตุ" ต้องรับที่ "ผล" ด้วย ไม่ใช่เวลารับที่ผลว่า "เกินไป" "ไม่เอา" อะไรอย่างนี้ คำว่ายอมรับนี้ ต้องจริงใจ เต็มใจ และปิติ ยินดีที่จะแก้ไข เช่น ตัวอย่างต้องทำงานหนัก ๕ เดือน แต่พอทำงานหนัก ๕ เดือนแล้วบ่นไปเรื่อย แล้วจะแก้ไขได้อย่างไร
บางคนแก้กรรมแล้ว บอกว่าท้อ จิตใจหวั่นไหว เพราะท้อ นี่แหละ "ท้อ" เป็นจุดมิจฉา เป็นตัวจุดลบ แล้วเรายังบอกว่าท้อ แล้วผลจะสำเร็จได้อย่างไร ไม่มีทางเลย จะให้ผู้รู้ชี้แนะได้เลย แล้วผู้รู้จะชี้แนะได้อย่างไร
^_^ ..._/\_... ^_^
ขอความเคารพ หากผู้รู้มีสิ่งชี้แนะ น้อมรับฟังเสมอ และขอความกรุณาแย้ง ชี้แจง ชี้แนะ แม้แต่ต้องการให้เพิ่มเติมสิ่งใด ก็ขอได้บอกกล่าวมา
อ.พรหมสิทธิ์ ทิพย์ธาดาวงศ์
เอื้อ-เกื้อ-กัน เป็นกัลยาณมิตรทุกขณะจิต
สัมภเวสี ผีที่ไม่อยากไปเกิด อยากบำเพ็ญแบบเป็นสัมภเวสี มีไหม?
มีเหมือนกัน แต่ถ้าวาระธรรมต้องเป็นเช่นนั้น จะฝืนไม่ได้ แต่ถ้าเกิดเป็นคนก็มีสิทธิ์เหมือนกัน การตั้งจิตบำเพ็ญเหนือวิบากกรรม เพราะว่า ถ้าเราตั้งจิตบำเพ็ญ หรือมีจิตสำนึก ก็จะเหนือวิบากกรรม คำว่า "เหนือวิบากกรรม" แต่ไม่ใช่ว่าจะไม่ไปรับวิบากกรรมนะ แต่เขารับอย่างเข้าใจ มันลดเร็ว รับแล้วก็ลดไว ไม่หนักเหนี่ยวอะไร เพราะเกิดตัวเจ้ากรรมอโหสิ เพราะเราตั้งใจมาดี ถ้าไม่เกรงใจเราก็ต้องเกรงใจพระโพธิสัตว์ หรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เพราะเขามาในนามพระโพธิสัตว์
นี่แหละ จิตสำนึกสำคัญ ไม่ว่าจะเก่งสักแค่ไหน ถ้าไม่มีจิตสำนึกก็ใช้ไม่ได้
จิตสำนึก คือ ยอมรับว่าเราผิด เต็มใจเลยว่าเราผิด แล้วเราจะต้องรับผลที่ต้องถูกทำโทษ หรือต้องได้รับทุกข์ ยอมรับในผลกรรม ไม่ใช่รับแต่ "เหตุ" ต้องรับที่ "ผล" ด้วย ไม่ใช่เวลารับที่ผลว่า "เกินไป" "ไม่เอา" อะไรอย่างนี้ คำว่ายอมรับนี้ ต้องจริงใจ เต็มใจ และปิติ ยินดีที่จะแก้ไข เช่น ตัวอย่างต้องทำงานหนัก ๕ เดือน แต่พอทำงานหนัก ๕ เดือนแล้วบ่นไปเรื่อย แล้วจะแก้ไขได้อย่างไร
บางคนแก้กรรมแล้ว บอกว่าท้อ จิตใจหวั่นไหว เพราะท้อ นี่แหละ "ท้อ" เป็นจุดมิจฉา เป็นตัวจุดลบ แล้วเรายังบอกว่าท้อ แล้วผลจะสำเร็จได้อย่างไร ไม่มีทางเลย จะให้ผู้รู้ชี้แนะได้เลย แล้วผู้รู้จะชี้แนะได้อย่างไร
^_^ ..._/\_... ^_^
ขอความเคารพ หากผู้รู้มีสิ่งชี้แนะ น้อมรับฟังเสมอ และขอความกรุณาแย้ง ชี้แจง ชี้แนะ แม้แต่ต้องการให้เพิ่มเติมสิ่งใด ก็ขอได้บอกกล่าวมา
อ.พรหมสิทธิ์ ทิพย์ธาดาวงศ์
เอื้อ-เกื้อ-กัน เป็นกัลยาณมิตรทุกขณะจิต