บนโลกนี้มีคนตายมากเกินเกณฑ์
วิญญาณเร่ร่อนไร้ที่อยู่เหลือคณา
บ้างก็แย่งกันไปสิงสู่ตามอาคารร้าง ห้องพัก จนล้น
บางตนไปสิงสู่ในตู้ต่าง ๆ ไม่เว้นแม้กระทั่งตู้เสื้อผ้า ตู้รองเท้า ตู้จดหมาย
วิญญาณน่าอนาถบางรายไปสิ่งสู่กระทั่งข้าวของเครื่องใช้ เพื่อให้มีหลักแหล่ง
วิญญาณบางประเภท ชื่นชอบศิลปะ ก็ไปอาศัยในรูปถ่าย ภาพวาด โดยเฉพาะภาพคนเหมือน
...เพียงหวังว่า จะได้เศษบุญ เศษความรัก จากผู้ที่มองภาพเหล่านั้น.....
.
คำว่า ขอให้ไปสู่ที่ชอบ ที่ชอบ...คือที่ใดกันแน่
.
จิตรกรข้างถนนวัยกลางคน
ที่ไร้ผู้จดจำ วาดภาพมาแล้วนับหมื่นๆภาพ แต่ก็ไม่เคยสัมผัสความสำเร็จ
เพียงจุนเจือให้พอยาไส้ไปรายวัน
ก็คงจะไร้ใครคนึงถึง หากเขาไม่ได้ฝากผลงานชิ้นสุดท้าย เป็นภาพวาดที่ไร้เจ้าของ
ในช่วงเศรษฐกิจฝืดเคืองสาหัส
ย่านถนนท่องเที่ยวที่เขาปักหลักหาเลี้ยงชีพมาหลายปี บัดนี้กลับอ้างว้าง
อย่างไม่เคยเป็นมาก่อน อย่าหวังว่าจะมีคนมาจ้างวาดภาพเลย
แม้แต่ผู้คนที่เคยจอแจมาต่อคิวร้านอาหารดังฝั่งตรงข้าม ที่เคยต้องเข้าแถวรอแต่รุ่งสาง
บัดนี้กลับมีโต๊ะว่างจนน่าสงสาร
เวลาว่างเหลือเฟือ อุปกรณ์เหลือเก็บ
การระบายอารมณ์บนกระดาษ
คือการฆ่าเวลาที่ดีที่สุดในเวลานั้น
...และมันทำให้เขาได้ผลงาน ที่ไม่รู้จะเรียกว่าแสนวิเศษอัศจรรย์ หรือสุดสะพรึงหวาดหวั่นกันแน่
ภาพนั้นเป็นภาพของสตรีที่คงค้างในจินตนาการมาหลายปี
ดรุณีผู้นั้นสดใส ผุดผ่อง ปานหลุดมาจากเทพนิยาย
แต่แววตา กลับเต็มไปด้วยการแสดงออกทางอารมณ์ขื่นขมดั่งทุกข์ทรมานชั่วกาล
ใครที่จ้องไปในแววตาคู่นั้น
อาจต้องเสียน้ำตาเป็นสายเพราะสงสารจับจิตให้กับความระทมนั้น
จิตรกรลึกลับ พยายามแก้ไขนับครั้งไม่ถ้วนกับตาคู่นั้น ตลอด 3 เดือนเต็ม เพื่อให้ดวงตาพ้นความขมขื่น
แต่ยิ่งฝืนดวงตากลับยิ่งส่งผลตรงข้าม และต้องยินยอมพ่ายแพ้ยามไร้ผล จนสุดท้ายจิตใจตกระกำ จมดิ่งลึกอยู่ในวังวนสัปดนมืดมัวหมอง และตอบสนองความพ่ายต่อสิ่งดำมืด ด้วยการผูกยึดคอกับเชือกบนขื่อเพียงลำพัง
.
ที่ชอบ ที่ชอบ คงไม่ใช่บนขื่อเป็นแน่
.
หลังจาก สิ้นปลายเดือนฤดูฝนห่าสุดท้าย เจ้าของห้องเช่า ก็ได้รับทราบความ

ที่เกิดขึ้น จากกลิ่นไม่พึงประสงค์
ที่สะสมจนอัดแน่นปะทุออกมาตามร่องหลืบหน้าต่างประตูที่ปิดไว้ จนใครที่ผ่านสัญจรสัมผัสได้
และเมื่อทีมเจ้าหน้าที่มาถึงและจัดการเปิดประตูสีโอ๊คบานนั้น ต่างก็ต้องประหวั่นกับภาพน่าสะเอียน
ร่างที่กำลังเน่าเฟะได้ที่ มีแมลงกินซากจำนวนมากกำลังร่าเริงอยู่กับอาหารโอชะมหึมา
ทั้งเต็มวัยและร่างตัวอ่อน ที่ใคร ๆเรียกว่าหนอน พากันชอนไชเบียดเสียดสวาปาม
จนเศษผิวหนังกำพร้าบางส่วนหลุดร่อนเห็นเอ็นและกระดูก
ดวงตานั้นเล่ากลับเบิกโพลงกว้าง เพียงหนึ่งข้าง อีกข้างกลวงโบ๋ คงไม่พ้นฝีมือเจ้าตัวร้ายที่บินว่อนทั่วห้องในขณะนี้
กลิ่นตลบอบอวนชวนสังเวช ที่ลมหอบพัดพาไปฟุ้งทั่วบริเวณฟ้องให้ใคร ๆรู้ว่า มีศพอยู่ที่นี่
.....
ชายอนาถา ไม่มีแม้ญาติสนิท ศพถูกจัดการอย่างเรียบง่ายและแสนประหยัด ทรัพย์สิน
ที่แทบจะขายเป็นเงินไม่ได้มูลค่านั้นถูกส่งต่อไปยังที่ต่าง ๆ
เคราะห์ดี ที่มีผู้เห็นค่าของงานศิลป์บางชิ้น
ก็นำไปมอบให้กับทางโรงเรียนต่าง ๆ ถือเป็นงานครูให้เด็ก ๆดูเป็นตัวอย่าง สร้างบุญให้แก่วิญญาณนายจิตรกรน่าสังเวชได้พอประมาณหนึ่ง
มีเพียงผลงานมาสเตอร์พีซชิ้นสุดท้าย ที่ถูกเก็บไว้โดยอดีตเศรษฐีม่ายผู้ตกยาก
ผู้มีรสนิยมประหลาด และตัดสินใจเด็ดขาดอย่างน่าฉงนในการสงเคราะห์
เป็นเจ้าภาพงานศพให้ชายแปลกหน้า แลกกับงานศิลปะชิ้นที่เขาสะดุดตา
เมื่อได้มาเป็นหนึ่งในอาสาทีมกู้ภัยในครั้งบังเอิญนี้
...
โชคชะตา หรือความบังเอิญสุดหฤหรรษ์ จนนำพาเรื่องนี้ไปสู้สิ่งอย่างเกินคาดหมายและจินตนาการได้...จะไม่เกิดขึ้น
…….หากอดีตเศรษฐี ไม่หลงระเริงมัวเมาในยามใกล้เฒ่า ไปกับตัญหาราคะ
โดยไม่คำนึงถึงผลกระทบเลวร้ายที่ตามมาเป็นคาราวานบุฟเฟ่ต์
ภรรยาที่ไม่สามารถตั้งครรภ์ได้แม้พยายามมาหลายปีจนท้อแท้
สุดท้ายสังขารร่างก็เฉลยว่า มะเร็งได้ลุกลามไปทั่วรังไข่ และจากไปในเวลาอันแสนสั้น
.... เมื่อไร้แหล่งยืดเหนี่ยว ไร้ภาระ
หรือผู้ทัดทานห้ามปราม...เสี่ยวัยกลางคนจึงไหลไปตามลำธาราจิตใฝ่ต่ำปรารถนา
ดั่งรถเบรคแตก
ลืมคนึงไปว่า ทรัพย์ที่เคยเหลือคณา
หมดสิ้นไปกับค่ารักษาพยายาบาลภรรยามหาศาล และไม่ได้ทำงานหามาเพิ่มเติมกองคลัง
ทั้งยังนำไปสุรุ่ยสุร่ายกับนารีเหล้ายาราคะวันละหลักหมื่น
.....สุดท้ายทรัพย์ที่มากมายถึงต้องทยอยขายชดใช้หนี้เครดิต
และมาคิดได้ยามที่เกือบไม่เหลือที่ซุกหัวนอน แต่อนิจจา
อดีตเสี่ยวัยที่จะครบวาระเกษียณ ในไม่ถึง10ปีเต็ม
ตกเป็นทาสของสุราเข้าเสียแล้ว ยิ่งเศร้า ยิ่งสูญ ยิ่งทุกข์ทม ยิ่งจมดิ่ง
และพึ่งพิงสุราเป็นสหาย ไม่ยอมรับแม้รู้ดีว่าพิษร้ายนั้นจะสนองสักวัน
....สุดท้าย เมาแล้วขับ
ชนเข้ากับเด็กนักเรียนสาวแรกแย้มเกือบพิการ ค่าปรับ ค่าทำขวัญ ค่ารักษาพยาบาล
ข้อหาและผลพิจารณาคดี นั้นหนักหนาจนเสี่ยตาสว่างกระจ่างใจ...ไร้อารมณ์หรือความต้องการที่จะจับต้องแอลกอฮอล์อีกต่อไป
เสี่ย จึงเสียบ้านที่ซุกหัวนอน ต้องออกมาเช่าห้องพักผ่อน
และทำงานอย่างปุถุชนในยามใกล้เฒ่าชรา
..ทั้งยังต้องแบ่งเวลามาทำงานชดเชยตอบแทนสังคม
ตามคำสั่งศาล ด้วยการมาช่วยงานกู้ภัย และในวันหนึ่งจึงได้ร่วมเก็บกู้ศพอนาถา...และบังเอิญสะดุดตา
กับภาพหนึ่งบนกองงานศิลป์เรียงรายในห้องสี่เหลี่ยมหม่นหมอง
.
ที่ชอบกับของชอบ เหมือนหรือต่างกันตรงไหน
.
ในสมัยใดก็ตามที่เศรษฐกิจเฟื่องฟู
งานศิลป์ก็รุ่งเรืองตามไปด้วย ยามหนึ่งครั้งนั้น ในวันที่ชนชั้นสูง อู้ฟู่
ใช้ชีวิตโก้หรูอวดรวยแข่งกัน
งานศิลป์ต่าง ๆ ก็เป็นหนึ่งสิ่งอย่างที่แสดงออกถึงรสนิยม และความอวดว่ารวย ว่าเงินเหลือ
งานจิตรกรรม
ที่เพ่งมองอย่างถี่ถ้วนอย่างไร ก็เห็นเพียงเส้นขยุกขยิก มีเส้นสีต่าง ๆจากฝีแปรงตวัดไปมาอย่างสะเปะสะปะ
ไร้ทิศทางแน่นอน สีเป็นก้อนๆ ถูกทิ้งไว้ให้สงสัย ตามมุมต่าง ๆของภาพ ได้รับการยกย่องว่าสุดบรรเจิดเลิศ เลอค่า
ได้รับการประมูลราคา หลักล้านบาท
ทั้งที่งานศิลปะของเด็กออทิสติก อายุ 18 แต่ปัญญาเท่าเด็กอนุบาล
ที่ตั้งอยู่ในตึกตรงข้ามถนนห่างเพียง 100 เมตร
หากมาวางเทียบกัน เชื่อว่า คนส่วนใหญ่ก็แยกไม่ออกว่าไหนงานของศิลปินกันแน่
.
และหลายต่อหลายครั้ง
ที่การใช้ชีวิตอวดรวยของภรรยา ที่ต้องสร้างหน้าตาในสังคม นำพาให้เขา
ต้องติดตามไปในงานประมูลศิลป์
และงานเปิดตัวแกลลอรี่ ต่างๆ ได้เห็นงานศิลป์มามาก จนพอที่จะมีรสนิยมอยู่บ้าง
ดังนั้น
เมื่อเขาได้เห็นภาพเขียนที่เต็มไปด้วยพลัง ความหวังก็กำเนิด และการพนันจึงเกิดขึ้น
..... การพนันที่ว่านี้
คือการเสี่ยงดวงชีวิตครั้งสุดท้ายของเขา เพื่อให้เขากลับไปยืนจุดเดิมอย่างราชสีห์
คืนศักดิ์ศรี และชีวีที่เต็มไปด้วยยศฐาเงินทอง ดังเช่นเดิม
.
เงินเดือนพนักงานกระจอก
ในสำนักพิมพ์บ้านนอกที่เขาแอบมาทำประทังชีวิต ไกลห่างหลายขุมกับสังคมเดิม
หักจากค่าใช้จ่ายจำเป็น เหลือไม่แทบไม่เกินพันบาทต่อเดือน
จึงตัดสินใจบากหน้าขอความอนุเคราะห์ อดีตลูกน้องคนหนึ่ง ที่คงไม่ไปปริปากกับใครว่า
เขาสิ้นไร้จนต้องลดตัวมาขอหยิบยืมเงิน และสัญญามั่นว่า
จะรีบคืนจำนวนเต็มให้พร้อมดอกเบี้ยก้อนใหญ่ในเร็วๆนี้
.
แผนการดำเนินไปตามที่ตั้งเป้า
เขาหาทาง ลัดเลาะ วิ่งเต้น จนสามารถนำงานศิลป์ไปอยู่ในงานประมูลไฮโซงานหนึ่ง
พร้อมประวัติลวงหลอกตุ๋นมนุษย์หน้าโง่
ว่าเป็นภาพเหมือนลูกสาวอภิมหาเศรษฐีผู้ลึกลับ ผลงานของศิลปินมีชื่อผู้ดับขันธ์
คุณค่าเกินประมาณได้ แต่มีราคาเริ่มต้นประมูล ที่ 10 ล้านบาท!!!
....แม้เศรษฐกิจโลก
ตกต่ำมากที่สุดในรอบ 50 ปี รัฐบาลไทยอยู่ในยุคที่โกงกินกันอย่างไร้ยางอาย แต่เจ้าสัวยักษ์ใหญ่ในวงการน้ำเมายังคงนอนอยู่บนกองเงินกองทองไม่สะเทือน
บรรดาเศรษฐีขี้ฉ้อ ต่างยังคงระเริงอย่างไม่สะท้าน การประมูลอวดรวย ที่ฉาบหน้าว่าเพื่อการกุศล
ก็ดำเนินไปจนถึงจุดไคลแมกซ์ งานศิลป์แพงระยับ ภาพสาวงามวัยแรกรุ่น พร้อมรอยยิ้มบางเบา
แฝงนัยยะมหาศาล ที่มีการอวดอ้างสรรพคุณถึงขั้น เทียบเท่ากับผลงานชิ้นเอกของ
ดาวินชี ยกยอสรรพนามภาพ ให้ขนลุกขนชันว่า.........“โมนาสยาม”
...และผู้ครอบครอง ทุบราคาไปที่ 70 ล้านบาทไทย...
บรรดา ผู้เกี่ยวข้อง
กับการวิ่งเต้นผลงานต่างอิ่มหนำ เบิกสราญ โดยเฉพาะเสี่ยใหญ่
ผู้กลับมาพร้อมความยิ่งใหญ่หลังจากหายหน้าจากวงการไปหลายปี....
สื่อใหญ่ทั่วทุกมุมโลก
ต่างหันมาจับตาวงการศิลปะไทย....ข่าวสารถูกเผยแพร่ไปในสื่อต่าง ๆทั่วโลก
“โมนาสยาม” เป็นคำค้นหาอันดับหนึ่งของกูเกิ้ลทั่วโลกอยู่ถึง 3 สัปดาห์เต็ม
เศรษฐกิจไทยกระเตื้องขึ้น
เป็นผลจากความเชื่อมั่นในการลงทุนจากต่างชาติที่เล็งเห็นความมั่งคงทางการเงินของไทยจากการที่มีการซื้อผลงานศิลปะราคาระดับโลก
แม้ในยามที่ทั่วโลกระส่ำระสาย
“เพียงผีเสื้อขยับปีก ก็สะเทือนถึงดวงจันทร์”...อาจคล้ายคลึงกัน หรือยกมาเพียงเอาเท่ เท่านั้นก็มิทราบได้
.
ภาพวาด เดินทางไปสู่ผู้ที่ชอบ?
.
ภาพวาดมูลค่าเทียบเท่ากองอัญมณีสูงค่า
กลายเป็นของขวัญวันเกิด ครบ 12 ปี หลานสาวคนโตของเจ้าสัวหมื่นล้าน
เศรษฐีระดับต้นของประเทศไทยและติดโผผู้มีอิทธิพลด้านการเงินในเอเชียอาคเนย์
แต่เดิม
ภาพบนกรอบทองแกะสลักลวดลายประณีตละเอียดลออ ด้วยเถาเครือดอกไม้ลายไทยประยุกต์
มีสัตว์ในวรรณคดี 12 ตนรายรอบกรอบที่ทำจากไม้สักปิดทองคำเปลวเคลือบวัสดุพิเศษ
ถูกติดตั้งเหนือหัวเตียงนอน หันหน้าไปทางทิศใต้
เมื่อดวงอาทิตย์สาดแสงที่หน้าต่างยามเช้าจะกระทบเข้ากับภาพเป็นแสงระยิบงดงามน่าพิศมัย
ใครต่อใครหากได้มาจ้องมองภาพต่างคล้ายถูกมนต์สะกดให้หลงใหลไม่รู้ตัว
...ภาพวาดเลอค่า
เป็นภาพของดรุณีแรกแย้ม อมยิ้มบางเบา สดใส ผุดผ่อง ปานหลุดมาจากเทพนิยาย ดวงตานั้น ดำขลับ เป็นประกายจนคล้ายมีแววตาสะท้อนออกมาดั่งคนจริง
น่าฉงนสนเท่มิน้อย...ไม่น่าแปลกใจที่มูลค่านั้นสูงค่าเช่นที่เป็น
.
ผ่านไปไม่ถึงปีดรุณีโมนาสยาม ถูกถอดออกจากข้างฝา มาอยู่ข้างเตียงถูกใช้แทนกระจกสะท้อนใบหน้าหญิงสาวแรกรุ่นผู้มั่งคั่งและหลงตนเอง
และใฝ่ฝันจะงดงามได้เทียบเท่าสาวในภาพ70ล้าน
ช่างน่าเหลือเชื่อ...นับวัน
ใบหน้าหลานสาวคนโตของเจ้าสัวหมื่นล้าน
ยิ่งนับวันยิ่งคล้ายคลึงกับใบหน้าในภาพวาดเหมือนจริง
...หรือแท้จริงแล้วภาพค่อยๆปรับเปลี่ยนไปเหมือนเจ้าของกันแน่ก็มิอาจทราบได้....มีเพียงหญิงสาวคนใช้คนสนิทรับใช้ใกล้ชิดหลายปี
ที่รู้สึกถึงความประหลาดน่าสะพรึงกลัวที่ค่อยๆเกิดขึ้นในบ้านหลังนี้
หลังวันเกิดครบ 15 ปี ของสาววัยรุ่นที่น่าอิจฉาที่สุดในประเทศ เพียง 1 วัน พี่เลี้ยงส่วนตัวที่เลี้ยงดูประคบประหงมตั้งแต่แบเบาะจนเหมือนหนึ่งคนในครอบครัวผูกพันธุ์และรักกันอย่างเหลือล้น
ก็ลาออกอย่างไม่แจ้งสาเหตุ ทิ้งให้ครอบครัวรู้สึกใจหายอย่างไร้คำตอบ....
เป็นวันเดียวกัน
กับที่มีภาพข่าวปรากฏบนหน้าหนึ่งหนังสือพิมพ์ทั่วประเทศ เรื่องของเศรษฐีม่ายผู้มั่งคั่งหัวใจวายตายอย่างปริศนา
ในบ้านพักส่วนตัว...ขณะที่ในบ้าน เต็มไปด้วยภาพวาดพอร์ตเทรตผู้หญิง แทบจะล้นบ้าน
ล้านแล้วแต่อยุ่ในอิริยาบทเดียวกัน คล้ายจะเลียนแบบภาพ โมนาสยาม แต่ก็ได้เพียงคล้ายคลึง
คลับคล้าย แต่ไม่เหมือนซะทีเดียว
จากนั้นไม่นาน
ไม่นานพอที่ใครจะลืมข่าวของเสี่ยม่าย....ก็มีข่าวใหญ่ปรากฏหน้าหนึ่งหนังสือพิมพ์ทุกฉบับอีกครั้ง
เมื่อวัยรุ่นสาวสวยเจ้าของภาพวาดระดับโลก หลานสาวมหาเศรษฐีดัง ถูกพบกลายเป็นศพ!!
โดยมีข่าวกระซิบจากวงใน
ลือกันไปทั่วว่า
ติดเชื้อในกระแสเลือดสาเหตุจากการบ้าคลั่งเสพติดการศัลยกรรมจนผิดวิสัย....มีเป้าหมายจะศัลยกรรมให้เหมือน
หญิงในภาพ “โมนาสยาม”
......////เดี๋ยวมาต่อคืนนี้...ถ้ากระแสดี
ภาพหลอน วิญญาณเร่ ///เรื่องแต่ง มั้ง
วิญญาณเร่ร่อนไร้ที่อยู่เหลือคณา
บ้างก็แย่งกันไปสิงสู่ตามอาคารร้าง ห้องพัก จนล้น
บางตนไปสิงสู่ในตู้ต่าง ๆ ไม่เว้นแม้กระทั่งตู้เสื้อผ้า ตู้รองเท้า ตู้จดหมาย
วิญญาณน่าอนาถบางรายไปสิ่งสู่กระทั่งข้าวของเครื่องใช้ เพื่อให้มีหลักแหล่ง
วิญญาณบางประเภท ชื่นชอบศิลปะ ก็ไปอาศัยในรูปถ่าย ภาพวาด โดยเฉพาะภาพคนเหมือน
...เพียงหวังว่า จะได้เศษบุญ เศษความรัก จากผู้ที่มองภาพเหล่านั้น.....
.
คำว่า ขอให้ไปสู่ที่ชอบ ที่ชอบ...คือที่ใดกันแน่
.
จิตรกรข้างถนนวัยกลางคน
ที่ไร้ผู้จดจำ วาดภาพมาแล้วนับหมื่นๆภาพ แต่ก็ไม่เคยสัมผัสความสำเร็จ
เพียงจุนเจือให้พอยาไส้ไปรายวัน
ก็คงจะไร้ใครคนึงถึง หากเขาไม่ได้ฝากผลงานชิ้นสุดท้าย เป็นภาพวาดที่ไร้เจ้าของ
ในช่วงเศรษฐกิจฝืดเคืองสาหัส
ย่านถนนท่องเที่ยวที่เขาปักหลักหาเลี้ยงชีพมาหลายปี บัดนี้กลับอ้างว้าง
อย่างไม่เคยเป็นมาก่อน อย่าหวังว่าจะมีคนมาจ้างวาดภาพเลย
แม้แต่ผู้คนที่เคยจอแจมาต่อคิวร้านอาหารดังฝั่งตรงข้าม ที่เคยต้องเข้าแถวรอแต่รุ่งสาง
บัดนี้กลับมีโต๊ะว่างจนน่าสงสาร
เวลาว่างเหลือเฟือ อุปกรณ์เหลือเก็บ
การระบายอารมณ์บนกระดาษ
คือการฆ่าเวลาที่ดีที่สุดในเวลานั้น
...และมันทำให้เขาได้ผลงาน ที่ไม่รู้จะเรียกว่าแสนวิเศษอัศจรรย์ หรือสุดสะพรึงหวาดหวั่นกันแน่
ภาพนั้นเป็นภาพของสตรีที่คงค้างในจินตนาการมาหลายปี
ดรุณีผู้นั้นสดใส ผุดผ่อง ปานหลุดมาจากเทพนิยาย
แต่แววตา กลับเต็มไปด้วยการแสดงออกทางอารมณ์ขื่นขมดั่งทุกข์ทรมานชั่วกาล
ใครที่จ้องไปในแววตาคู่นั้น
อาจต้องเสียน้ำตาเป็นสายเพราะสงสารจับจิตให้กับความระทมนั้น
จิตรกรลึกลับ พยายามแก้ไขนับครั้งไม่ถ้วนกับตาคู่นั้น ตลอด 3 เดือนเต็ม เพื่อให้ดวงตาพ้นความขมขื่น
แต่ยิ่งฝืนดวงตากลับยิ่งส่งผลตรงข้าม และต้องยินยอมพ่ายแพ้ยามไร้ผล จนสุดท้ายจิตใจตกระกำ จมดิ่งลึกอยู่ในวังวนสัปดนมืดมัวหมอง และตอบสนองความพ่ายต่อสิ่งดำมืด ด้วยการผูกยึดคอกับเชือกบนขื่อเพียงลำพัง
.
ที่ชอบ ที่ชอบ คงไม่ใช่บนขื่อเป็นแน่
.
หลังจาก สิ้นปลายเดือนฤดูฝนห่าสุดท้าย เจ้าของห้องเช่า ก็ได้รับทราบความ
ที่สะสมจนอัดแน่นปะทุออกมาตามร่องหลืบหน้าต่างประตูที่ปิดไว้ จนใครที่ผ่านสัญจรสัมผัสได้
และเมื่อทีมเจ้าหน้าที่มาถึงและจัดการเปิดประตูสีโอ๊คบานนั้น ต่างก็ต้องประหวั่นกับภาพน่าสะเอียน
ร่างที่กำลังเน่าเฟะได้ที่ มีแมลงกินซากจำนวนมากกำลังร่าเริงอยู่กับอาหารโอชะมหึมา
ทั้งเต็มวัยและร่างตัวอ่อน ที่ใคร ๆเรียกว่าหนอน พากันชอนไชเบียดเสียดสวาปาม
จนเศษผิวหนังกำพร้าบางส่วนหลุดร่อนเห็นเอ็นและกระดูก
ดวงตานั้นเล่ากลับเบิกโพลงกว้าง เพียงหนึ่งข้าง อีกข้างกลวงโบ๋ คงไม่พ้นฝีมือเจ้าตัวร้ายที่บินว่อนทั่วห้องในขณะนี้
กลิ่นตลบอบอวนชวนสังเวช ที่ลมหอบพัดพาไปฟุ้งทั่วบริเวณฟ้องให้ใคร ๆรู้ว่า มีศพอยู่ที่นี่
.....
ชายอนาถา ไม่มีแม้ญาติสนิท ศพถูกจัดการอย่างเรียบง่ายและแสนประหยัด ทรัพย์สิน
ที่แทบจะขายเป็นเงินไม่ได้มูลค่านั้นถูกส่งต่อไปยังที่ต่าง ๆ
เคราะห์ดี ที่มีผู้เห็นค่าของงานศิลป์บางชิ้น
ก็นำไปมอบให้กับทางโรงเรียนต่าง ๆ ถือเป็นงานครูให้เด็ก ๆดูเป็นตัวอย่าง สร้างบุญให้แก่วิญญาณนายจิตรกรน่าสังเวชได้พอประมาณหนึ่ง
มีเพียงผลงานมาสเตอร์พีซชิ้นสุดท้าย ที่ถูกเก็บไว้โดยอดีตเศรษฐีม่ายผู้ตกยาก
ผู้มีรสนิยมประหลาด และตัดสินใจเด็ดขาดอย่างน่าฉงนในการสงเคราะห์
เป็นเจ้าภาพงานศพให้ชายแปลกหน้า แลกกับงานศิลปะชิ้นที่เขาสะดุดตา
เมื่อได้มาเป็นหนึ่งในอาสาทีมกู้ภัยในครั้งบังเอิญนี้
...
โชคชะตา หรือความบังเอิญสุดหฤหรรษ์ จนนำพาเรื่องนี้ไปสู้สิ่งอย่างเกินคาดหมายและจินตนาการได้...จะไม่เกิดขึ้น
…….หากอดีตเศรษฐี ไม่หลงระเริงมัวเมาในยามใกล้เฒ่า ไปกับตัญหาราคะ
โดยไม่คำนึงถึงผลกระทบเลวร้ายที่ตามมาเป็นคาราวานบุฟเฟ่ต์
ภรรยาที่ไม่สามารถตั้งครรภ์ได้แม้พยายามมาหลายปีจนท้อแท้
สุดท้ายสังขารร่างก็เฉลยว่า มะเร็งได้ลุกลามไปทั่วรังไข่ และจากไปในเวลาอันแสนสั้น
.... เมื่อไร้แหล่งยืดเหนี่ยว ไร้ภาระ
หรือผู้ทัดทานห้ามปราม...เสี่ยวัยกลางคนจึงไหลไปตามลำธาราจิตใฝ่ต่ำปรารถนา
ดั่งรถเบรคแตก
ลืมคนึงไปว่า ทรัพย์ที่เคยเหลือคณา
หมดสิ้นไปกับค่ารักษาพยายาบาลภรรยามหาศาล และไม่ได้ทำงานหามาเพิ่มเติมกองคลัง
ทั้งยังนำไปสุรุ่ยสุร่ายกับนารีเหล้ายาราคะวันละหลักหมื่น
.....สุดท้ายทรัพย์ที่มากมายถึงต้องทยอยขายชดใช้หนี้เครดิต
และมาคิดได้ยามที่เกือบไม่เหลือที่ซุกหัวนอน แต่อนิจจา
อดีตเสี่ยวัยที่จะครบวาระเกษียณ ในไม่ถึง10ปีเต็ม
ตกเป็นทาสของสุราเข้าเสียแล้ว ยิ่งเศร้า ยิ่งสูญ ยิ่งทุกข์ทม ยิ่งจมดิ่ง
และพึ่งพิงสุราเป็นสหาย ไม่ยอมรับแม้รู้ดีว่าพิษร้ายนั้นจะสนองสักวัน
....สุดท้าย เมาแล้วขับ
ชนเข้ากับเด็กนักเรียนสาวแรกแย้มเกือบพิการ ค่าปรับ ค่าทำขวัญ ค่ารักษาพยาบาล
ข้อหาและผลพิจารณาคดี นั้นหนักหนาจนเสี่ยตาสว่างกระจ่างใจ...ไร้อารมณ์หรือความต้องการที่จะจับต้องแอลกอฮอล์อีกต่อไป
เสี่ย จึงเสียบ้านที่ซุกหัวนอน ต้องออกมาเช่าห้องพักผ่อน
และทำงานอย่างปุถุชนในยามใกล้เฒ่าชรา
..ทั้งยังต้องแบ่งเวลามาทำงานชดเชยตอบแทนสังคม
ตามคำสั่งศาล ด้วยการมาช่วยงานกู้ภัย และในวันหนึ่งจึงได้ร่วมเก็บกู้ศพอนาถา...และบังเอิญสะดุดตา
กับภาพหนึ่งบนกองงานศิลป์เรียงรายในห้องสี่เหลี่ยมหม่นหมอง
.
ที่ชอบกับของชอบ เหมือนหรือต่างกันตรงไหน
.
ในสมัยใดก็ตามที่เศรษฐกิจเฟื่องฟู
งานศิลป์ก็รุ่งเรืองตามไปด้วย ยามหนึ่งครั้งนั้น ในวันที่ชนชั้นสูง อู้ฟู่
ใช้ชีวิตโก้หรูอวดรวยแข่งกัน
งานศิลป์ต่าง ๆ ก็เป็นหนึ่งสิ่งอย่างที่แสดงออกถึงรสนิยม และความอวดว่ารวย ว่าเงินเหลือ
งานจิตรกรรม
ที่เพ่งมองอย่างถี่ถ้วนอย่างไร ก็เห็นเพียงเส้นขยุกขยิก มีเส้นสีต่าง ๆจากฝีแปรงตวัดไปมาอย่างสะเปะสะปะ
ไร้ทิศทางแน่นอน สีเป็นก้อนๆ ถูกทิ้งไว้ให้สงสัย ตามมุมต่าง ๆของภาพ ได้รับการยกย่องว่าสุดบรรเจิดเลิศ เลอค่า
ได้รับการประมูลราคา หลักล้านบาท
ทั้งที่งานศิลปะของเด็กออทิสติก อายุ 18 แต่ปัญญาเท่าเด็กอนุบาล
ที่ตั้งอยู่ในตึกตรงข้ามถนนห่างเพียง 100 เมตร
หากมาวางเทียบกัน เชื่อว่า คนส่วนใหญ่ก็แยกไม่ออกว่าไหนงานของศิลปินกันแน่
.
และหลายต่อหลายครั้ง
ที่การใช้ชีวิตอวดรวยของภรรยา ที่ต้องสร้างหน้าตาในสังคม นำพาให้เขา
ต้องติดตามไปในงานประมูลศิลป์
และงานเปิดตัวแกลลอรี่ ต่างๆ ได้เห็นงานศิลป์มามาก จนพอที่จะมีรสนิยมอยู่บ้าง
ดังนั้น
เมื่อเขาได้เห็นภาพเขียนที่เต็มไปด้วยพลัง ความหวังก็กำเนิด และการพนันจึงเกิดขึ้น
..... การพนันที่ว่านี้
คือการเสี่ยงดวงชีวิตครั้งสุดท้ายของเขา เพื่อให้เขากลับไปยืนจุดเดิมอย่างราชสีห์
คืนศักดิ์ศรี และชีวีที่เต็มไปด้วยยศฐาเงินทอง ดังเช่นเดิม
.
เงินเดือนพนักงานกระจอก
ในสำนักพิมพ์บ้านนอกที่เขาแอบมาทำประทังชีวิต ไกลห่างหลายขุมกับสังคมเดิม
หักจากค่าใช้จ่ายจำเป็น เหลือไม่แทบไม่เกินพันบาทต่อเดือน
จึงตัดสินใจบากหน้าขอความอนุเคราะห์ อดีตลูกน้องคนหนึ่ง ที่คงไม่ไปปริปากกับใครว่า
เขาสิ้นไร้จนต้องลดตัวมาขอหยิบยืมเงิน และสัญญามั่นว่า
จะรีบคืนจำนวนเต็มให้พร้อมดอกเบี้ยก้อนใหญ่ในเร็วๆนี้
.
แผนการดำเนินไปตามที่ตั้งเป้า
เขาหาทาง ลัดเลาะ วิ่งเต้น จนสามารถนำงานศิลป์ไปอยู่ในงานประมูลไฮโซงานหนึ่ง
พร้อมประวัติลวงหลอกตุ๋นมนุษย์หน้าโง่
ว่าเป็นภาพเหมือนลูกสาวอภิมหาเศรษฐีผู้ลึกลับ ผลงานของศิลปินมีชื่อผู้ดับขันธ์
คุณค่าเกินประมาณได้ แต่มีราคาเริ่มต้นประมูล ที่ 10 ล้านบาท!!!
....แม้เศรษฐกิจโลก
ตกต่ำมากที่สุดในรอบ 50 ปี รัฐบาลไทยอยู่ในยุคที่โกงกินกันอย่างไร้ยางอาย แต่เจ้าสัวยักษ์ใหญ่ในวงการน้ำเมายังคงนอนอยู่บนกองเงินกองทองไม่สะเทือน
บรรดาเศรษฐีขี้ฉ้อ ต่างยังคงระเริงอย่างไม่สะท้าน การประมูลอวดรวย ที่ฉาบหน้าว่าเพื่อการกุศล
ก็ดำเนินไปจนถึงจุดไคลแมกซ์ งานศิลป์แพงระยับ ภาพสาวงามวัยแรกรุ่น พร้อมรอยยิ้มบางเบา
แฝงนัยยะมหาศาล ที่มีการอวดอ้างสรรพคุณถึงขั้น เทียบเท่ากับผลงานชิ้นเอกของ
ดาวินชี ยกยอสรรพนามภาพ ให้ขนลุกขนชันว่า.........“โมนาสยาม”
...และผู้ครอบครอง ทุบราคาไปที่ 70 ล้านบาทไทย...
บรรดา ผู้เกี่ยวข้อง
กับการวิ่งเต้นผลงานต่างอิ่มหนำ เบิกสราญ โดยเฉพาะเสี่ยใหญ่
ผู้กลับมาพร้อมความยิ่งใหญ่หลังจากหายหน้าจากวงการไปหลายปี....
สื่อใหญ่ทั่วทุกมุมโลก
ต่างหันมาจับตาวงการศิลปะไทย....ข่าวสารถูกเผยแพร่ไปในสื่อต่าง ๆทั่วโลก
“โมนาสยาม” เป็นคำค้นหาอันดับหนึ่งของกูเกิ้ลทั่วโลกอยู่ถึง 3 สัปดาห์เต็ม
เศรษฐกิจไทยกระเตื้องขึ้น
เป็นผลจากความเชื่อมั่นในการลงทุนจากต่างชาติที่เล็งเห็นความมั่งคงทางการเงินของไทยจากการที่มีการซื้อผลงานศิลปะราคาระดับโลก
แม้ในยามที่ทั่วโลกระส่ำระสาย
“เพียงผีเสื้อขยับปีก ก็สะเทือนถึงดวงจันทร์”...อาจคล้ายคลึงกัน หรือยกมาเพียงเอาเท่ เท่านั้นก็มิทราบได้
.
ภาพวาด เดินทางไปสู่ผู้ที่ชอบ?
.
ภาพวาดมูลค่าเทียบเท่ากองอัญมณีสูงค่า
กลายเป็นของขวัญวันเกิด ครบ 12 ปี หลานสาวคนโตของเจ้าสัวหมื่นล้าน
เศรษฐีระดับต้นของประเทศไทยและติดโผผู้มีอิทธิพลด้านการเงินในเอเชียอาคเนย์
แต่เดิม
ภาพบนกรอบทองแกะสลักลวดลายประณีตละเอียดลออ ด้วยเถาเครือดอกไม้ลายไทยประยุกต์
มีสัตว์ในวรรณคดี 12 ตนรายรอบกรอบที่ทำจากไม้สักปิดทองคำเปลวเคลือบวัสดุพิเศษ
ถูกติดตั้งเหนือหัวเตียงนอน หันหน้าไปทางทิศใต้
เมื่อดวงอาทิตย์สาดแสงที่หน้าต่างยามเช้าจะกระทบเข้ากับภาพเป็นแสงระยิบงดงามน่าพิศมัย
ใครต่อใครหากได้มาจ้องมองภาพต่างคล้ายถูกมนต์สะกดให้หลงใหลไม่รู้ตัว
...ภาพวาดเลอค่า
เป็นภาพของดรุณีแรกแย้ม อมยิ้มบางเบา สดใส ผุดผ่อง ปานหลุดมาจากเทพนิยาย ดวงตานั้น ดำขลับ เป็นประกายจนคล้ายมีแววตาสะท้อนออกมาดั่งคนจริง
น่าฉงนสนเท่มิน้อย...ไม่น่าแปลกใจที่มูลค่านั้นสูงค่าเช่นที่เป็น
.
ผ่านไปไม่ถึงปีดรุณีโมนาสยาม ถูกถอดออกจากข้างฝา มาอยู่ข้างเตียงถูกใช้แทนกระจกสะท้อนใบหน้าหญิงสาวแรกรุ่นผู้มั่งคั่งและหลงตนเอง
และใฝ่ฝันจะงดงามได้เทียบเท่าสาวในภาพ70ล้าน
ช่างน่าเหลือเชื่อ...นับวัน
ใบหน้าหลานสาวคนโตของเจ้าสัวหมื่นล้าน
ยิ่งนับวันยิ่งคล้ายคลึงกับใบหน้าในภาพวาดเหมือนจริง
...หรือแท้จริงแล้วภาพค่อยๆปรับเปลี่ยนไปเหมือนเจ้าของกันแน่ก็มิอาจทราบได้....มีเพียงหญิงสาวคนใช้คนสนิทรับใช้ใกล้ชิดหลายปี
ที่รู้สึกถึงความประหลาดน่าสะพรึงกลัวที่ค่อยๆเกิดขึ้นในบ้านหลังนี้
หลังวันเกิดครบ 15 ปี ของสาววัยรุ่นที่น่าอิจฉาที่สุดในประเทศ เพียง 1 วัน พี่เลี้ยงส่วนตัวที่เลี้ยงดูประคบประหงมตั้งแต่แบเบาะจนเหมือนหนึ่งคนในครอบครัวผูกพันธุ์และรักกันอย่างเหลือล้น
ก็ลาออกอย่างไม่แจ้งสาเหตุ ทิ้งให้ครอบครัวรู้สึกใจหายอย่างไร้คำตอบ....
เป็นวันเดียวกัน
กับที่มีภาพข่าวปรากฏบนหน้าหนึ่งหนังสือพิมพ์ทั่วประเทศ เรื่องของเศรษฐีม่ายผู้มั่งคั่งหัวใจวายตายอย่างปริศนา
ในบ้านพักส่วนตัว...ขณะที่ในบ้าน เต็มไปด้วยภาพวาดพอร์ตเทรตผู้หญิง แทบจะล้นบ้าน
ล้านแล้วแต่อยุ่ในอิริยาบทเดียวกัน คล้ายจะเลียนแบบภาพ โมนาสยาม แต่ก็ได้เพียงคล้ายคลึง
คลับคล้าย แต่ไม่เหมือนซะทีเดียว
จากนั้นไม่นาน
ไม่นานพอที่ใครจะลืมข่าวของเสี่ยม่าย....ก็มีข่าวใหญ่ปรากฏหน้าหนึ่งหนังสือพิมพ์ทุกฉบับอีกครั้ง
เมื่อวัยรุ่นสาวสวยเจ้าของภาพวาดระดับโลก หลานสาวมหาเศรษฐีดัง ถูกพบกลายเป็นศพ!!
โดยมีข่าวกระซิบจากวงใน
ลือกันไปทั่วว่า
ติดเชื้อในกระแสเลือดสาเหตุจากการบ้าคลั่งเสพติดการศัลยกรรมจนผิดวิสัย....มีเป้าหมายจะศัลยกรรมให้เหมือน
หญิงในภาพ “โมนาสยาม”
......////เดี๋ยวมาต่อคืนนี้...ถ้ากระแสดี