[CR] Review ชี้พิกัดอาคารโบราณนานมา ถนนบำรุงเมือง Ep.1

     เคยมั้ยที่บังเอิญเห็นภาพสถานที่แปลกๆโบราณๆใน Internet แล้วอยากไปพยายามหาข้อมูลเท่าไหร่ก๋ไม่ค่อยจะได้เจอความกระจ่างซักเท่าไหร่ผมเป็นคนนึงที่รู้สึกแบบนั้นวันนี้ผมจะมาแนะนำสถานที่เป็นอาคารโบราณที่อยู่บนถนนบำรุงเมือง ย่านสี่กั๊กพระยาศรีตัดเข้าไปเสาชิงช้า จะเป็นอาคารโบราณ 3 หลังขอ

บอกไว้ก่อนว่าอาคาร 3 หลังนี้เป็นการเจอโดยบังเอิญทั้ง 3 หลัง

1.ร้านบำรุงชาติสนายาไทยหรือบ้านหมอหวาน    2.S Hotel 1962  3. โรงพิมพ์บำรุงนุกูลกิจ

เรามาดูการเดินทางเพื่อมาเยี่ยมชมทั้ง 3 สถานที่กัน

1. ทางรถยนต์ แนะนำให้มาจอดรถรอบๆบริเวณข้าง วัดสุทัศ เสียตังค์บ้างฟรีบ้างแล้วแต่จังหวะ เราสามารถจอดได้โดยรอบทั้งฝั่งหน้าโรงเรียนภารตะวิทยาลัยหรือตรงข้างวัดสุทัศดูเส้นจราจรให้ดีๆด้วยนะครับ

2. รถไฟฟ้า MRT มาลงสถานีสามยอด แล้วเดินตัดกลับมาเริ่มตรงเสาชิงช้าไม่น่าเกิน 5-6 นาที เพราะมันใกล้ๆกัน

3. รถเมล์มาลงตรงเสาชิงช้าหรือลงตรง วงเวียนสี่กั๊กพระยาศรี

แผนที่ตำแหน่งพิกัดสถานที่ทั้ง 3 อาคาร คล้ายการเดินตามลายแทงสมบัติรับลองน่าจะถูกใจคนชอบแนวนี้แน่ๆ มะเรามาเริ่มกันโดยเราจะเริ่มเดินจากเสาชิงช้าเข้าสู่ ถนนบำรุงเมือง 

เดินมาไม่ไกลจากสี่แยกทางซ้ายมือจะเจออาคารหลังแรก ชื่ออาคารบำรุงชาติสนยาไทยเป็นอาคารโบราณที่สร้างในปลายสมัยรัชกาลที่ 6 เป็นอาคารอเนกประสงค์ คือ เป็นทั้งร้านขายยา เป็นที่ผลิตยาและเป็นที่พักอาศัยของครอบครัวของทายาทรุ่นปัจจุบันการเข้าเยี่ยมชมถ้ามาถึงหน้ารั้วแล้วมีการล๊อคประตูรั้วให้กดกริ่งเพื่อขอเข้าเยี่ยมชมภายในได้เจ้าของใจดีมากๆ

มีป้ายบอกสถานที่ไว้อยู่หน้าทางเข้าต้องคอยสังเกตุดูดีไม่งั้นมีเลยทางกันได้ เสียดายที่มีรถจอดขวางทางเลยถายภาพชัดๆจากมุมหน้าถนนไม่ค่อยได้

รูปไม้แกะสลักเสือคาบดาปเป็นการถือเคล็ดว่ากิจการที่เกี่ยวกับการรักษาหรือการซ่อมบำรุงถ้ามีการแขวนอาวุธหรืออาวุธแหลมคมไว้หน้าอาคารจะทำให้กิจการยิ่งรุ่งเรืองเช่นเดียวกับตำแหน่งของอาคารซึ่งทางท่านหมอหวานเป็นผู้เลือกซื้อตำแหน่งที่ดินตรงทางสามแพร่งนี้เองก็เพราะเป็นการถือเคล็ดเช่นเดียวกัน

การใช้สีดั้งเดิมของอาคารเป็นสีขาวนวลเปลือกไข่ไก่ตัดกับป้ายอาคารสีเขียวไข่กา ตัวหนังสือและหัวสิงค์คาบดาปสีทองสว่างตัดกับสีไม้ธรรมชาติมันช่างลงตัวยิ่งนัก

มีประตูเข้าด้านข้างอาคารได้น่าจะเป็นประตูทางรองเพื่อจะได้ไม่ต้องผ่านเข้ากับตัวอาคารหลักด้านหน้าเพิ่มความเป็นส่วนตัวของแต่ละพื้นที่ใช้สอยของอาคาร

รูปแบบอาคารโคโลเนียลเป็นมรดกตกทอดจาก นายหวาน รอดม่วง แพทย์โบราณที่มีชีวิตอยู่ในช่วงระหว่าง ปีพศ.2411 ถึง พศ.2488 จวบจนปัจจุบันและตอนนี้สืบทอดติดต่อกันยาวนานกว่า 4 ชั่วอายุคน

เครื่องบดยาโบราณที่ใช้งานคู่กับอาคารมาดั้งเดิมแต่โบราณแต่เดียวนี้ไม่ได้ใช้งานแล้ว

ภาพบรรยากาศภายในร้านส่วนหนึ่งขวดยาโบราณและสินค้าที่มีขายอยู่ในบัจจุบันตัวยาโดดเด่นของที่นี่คือ ยาหอม อันมีสรรพคุณให้ความสดชื่น บำรุงธาตุและหัวใจคนรุ่นก่อนจึงนิยมให้กันเป็นของขวัญแทนการมอบความสดชื่น ดังมีสำนวนโบราณว่า "โปรยยาหอม" และยังมีสินค้าอื่นๆที่แปรรูปให้เข้ากับยุคสมัยปัจจุบัณเรียนเชิญผู้สนใจเข้าชมและสนับสนุนกันได้นะครับ

หน้าบานประตูสลักเป็นรูปเฉลวและหม้อยาก็สื่อถึงอุปกรณ์ที่ใช้ในการแพทย์แผนโบราณถือว่าเป็นอาคารที่น่าสนใจเปรียบเสมือนเป็นอาคารที่ยังมีชีวิตเพราะยังมีคนอยู่อาศัยและสามารถพูดคุยถึงอดีตความเป็นมาของอาคารได้   ร้านบำรุงชาติสาสนายาไทย เปิดเวลา 09.00-16.00 น. ทุกวัน โทร. 0-2221-8070

อาคาร 2 ข้างทางบนถนนรองเมืองเป็นอาคารเก่าควรค่าแก่การอนุรักษณ์มากมาย เราเดินต่อไปยังอาคารหลังต่อไปขอนำเสนอโรงแรมที่ชื่อ

S HOTEL 1962 เป็นบ้านเก่าโบราณที่ปรับปรุงให้เป็นโรงแรมที่มีการอนุลักษณ์รูปแบบรูปทรงเดิมไว้ได้เป็นอย่างดี

ถ้ามีโอกาศได้มาพักที่โรงแรมนี้จะมารีวิวภายในเพิ่มเติมอีกครั้งนะครับขอชื่นชมแต่เพียงภายนอบรอบๆบริเวณไปก่อน

อาคารหลังสุดท้ายเป็นอาคารหลังแรกๆใน 3 หลังนี้เลยก็ว่าได้ที่อยากเจอมากที่สุดอาคารหลังนี้จะอยู่ฝั่งตรงข้ามฝั่งถนนกับ S HOTEL 1962  อาคารหลังนี้มีชื่อว่า โรงพิมพ์บำรุงนุกูลกิจ เป็นอาคารโบราณที่สร้างกลางสมัยรัชการที่ 5 ก่อตั้งเมื่อ ร.ศ.113(พศ. 2438) ยังคงเหลือซากตั้งแต่ซุ้มทางเข้าแบบดั้งเดิมอยู่ก่อนเข้าพื้นที่ 

เสียดายสถานที่แห่งนี้ไม่ได้ทำประโยชน์อะไรนอกจาก ทำเป็นพื้นที่ให้เช่าจอดรถรายเดือน

โดยภาพรวมยังคงสภาพอาคารไว้ได้ดีไม่ว่าจะเป็นลายไม้ฉลุต่างๆโครงสร้างอาคารโดยรอบแต่น่าจะมีการบูรณะให้โดยเร็วที่สุดน่าจะดีกว่าที่จะปล่อยให้อาคารอันทรงคุณค่าแบบนี้เสื่อมโทรมไปตามกาลเวลาขอบคุณความบังเอิญในวันนี้ที่ทำให้ได้เจออาคารโบราณทั้ง 3 หลัง จบทริปวันนี้ลากันไปด้วยภาพรอบๆบริเวณเสาชิงช้ากันครับ

ขอขอบคุณที่ติดตามรับชมจนจบนะคับ