ป่วยเป็นโรคซึมเศร้าเพราะความหวังดีของแฟน

กระทู้สนทนา
ก่อนอื่นเลยขอเกริ่นก่อนว่าแฟนเจ้าของกระทู้เป็นคนดีนะคะ ดีมาก คนอ่านอาจจะงงว่าดีมากแล้วทำไมถึงทำให้เรากลายเป็นโรคซึมเสร้าได้ ที่เราเป็นก็มาจากความหวังดีของเค้านั่นแหละค่ะ

ปัจจุบันเราอายุ30 ต้นๆ ประกอบธุรกิจส่วนตัว  เข้ารับการรักษาดรคซึมเศร้ามาประมาณปีกว่าๆ แต่เราไม่ได้ป็นขั้นรุนแรงถึงขั้นทำร้ายตัวองนะคะ มีอค่อารมณ์หดหู่ หน่วง อยากจะร้องไห้ อารมณ์ร้ายมากๆ แต่ตอนนี้ทุกอย่างกลับเข้าสู่ภาวะปกติ แต่ยังทานยาอยู่นะคะ

เรื่องเริ่มมาจากการที่คุรพ่อของเราเสียชีวิตเมื่อประมาณ 2 ปีที่แล้ว เราก็เสียใจในระดับหนึ่ง แต่ไม่ร้องไห้เลยแม้แต่นิดเดียว จัดงานศพทุกอย่างให้คุณพ่อเป็นอย่างดี(ช่วยกันกับพี่น้องและคุณแม่) ตอนนั้นใจก็ห่วงแต่แม่ ว่าแม่จะโอเคมั้ย จะเสียใจมากรึเปล่า ใครจะอยู่เป็นเพื่อน แต่สุดท้ายปัญหาทุกอย่างก็มีทางออกของมันเสมอ ณ ตอนนี้ คุณแม่เราใช้ชีวิตได้ปกติและมีความสุขดี สุขภาพจิตดีกว่าเราไปอีก555

หลังงานศพซัก 2 สัปดาห์ เรามีอาการแน่นหน้าอก หายใจไม่ออก เหมือนคนหายใจเข้าไม่เต็มปอด หรือลืมหายใจ เรากHคิดว่าเราจะมีอาการของโรคหัวใจรึเปล่า(คุณพ่อเราเสียชีวิตด้วยโรคหัวใจ)  เราเลยไปตรวจที่โรงพยาบาล โดยตรวจคลื่นหัวใจ นู่น นี่นั่น สรุป ทุกอย่างปกติ จากนั้นแพทย์ก็วินิจฉัยว่า เรามีภาวะซึมเศร้า ก็ให้ยามาทาน เราก็ยังงงว่า มาตรวจโรคหัวใจ ไหง กลายเป็นซึมเศร้าเฉย

จากนั้น เราก็ใช้ชีวิตปกติมาเรื่อยๆ แต่สิ่งที่เปลี่ยนไปคือ เราอารมณ์ร้ายขึ้นมากกกกกก  จากปกติเป็นคนที่อารมณ์ร้อน อยู่แล้ว มาคราวนี้คูณร้อยเข้าไปเลย คือหงุดหงิดกับทุกอย่างที่เกิดขึ้นบนโลก กับทุกเรื่อง เป็นแบบนี้อยู่เป็นเดือน วันก่อนที่เราจะไปพบแพทย์คือ  เรานั่งรถและคุยกับแฟนเรื่องทั่วๆไป ซึ่งมันเป็นเรื่องปัญญาอ่อนมากๆ ว่า ผีมีจริงมั้ย ปกติ เรา 2 คนจะชอบคุยกันเรื่องต่างๆอยู่แล้วเป็นปกติ และรับฟังเหตุผลของกันและกัน ต่อให้ความเห็นไม่ตรงกัน แต่ก็จะไม่มีการทะเลาะ แต่วันนั้น คือเราเหมือนคนสติหลุด พอเค้าให้ความเห็นขัดแย้งขึ้นมานิดนึง เราอาละวาด และโมโหเบอร์1000 ระเบิดอารมณ์อย่างรุนแรง ทั้งด่า ทั้งว่า ทั้งกรี๊ดกร๊าด เหมือนเรื่องที่คุยกันเป็นปัญหาสำคัญของชีวิต55 แฟนเราเลยบอกว่า ให้ไปพบจิตแพทย์กันเหอะ ซึ่งจริงๆ เราเคยคุยกันเรื่องนี้มาก่อนว่า อยากไปพบจิตแพทย์ เพราะเรารู้สึกหดหู่แปลกๆ เอาแต่ฝันถึงคุณพ่อที่เสียไป ทั้งๆที่ตอนท่านมีชีวิตอยู่เราก็ไม่ได้ติดต่อกันตลอดเวลานะคะ

วันรุ่งขึ้นเราก็ไปพบจิตแพทย์เลยค่ะ เล่าปัญหาที่เกิดขึ้น ว่าเราเป็นอะไรยังไง คุยกันประมาณ1 ชั่วโมง คุณหมอก็วินิจฉัยว่าเราเป็นโรคซึมเศร้า ทีนี้ที่เราบอกว่าเราเป็นโรคซึมเศร้ามาจากแฟนนี่คือเราไม่ได้พูดเองนะคะ คุณหมอเป็นคนวินิจฉัยให้ เรื่องของเรื่องก็คือ แฟนเราเค้าเป็นคนใจเย็นมากๆ " มองโลกในแง่ดีสุด" "ให้อภัยง่าย " เข้าใจโลก หมอยังแซวว่าถ้าเค้าบวชคงสำเร็จอรหันต์ไปแล้ว เวรกรรม
ก่อนไปหาหมอ ช่วงที่เราหงุดหงิดเบอร์แรง เวลาแฟนเราเค้าเห็นเราโมโห หงุดหงิด หรือโกรธใคร เค้าก็เป็นห่วง ไม่อยากให้เราเป็นแบบนั้นเพราะมันทำให้เราไม่มีความสุข เค้าก็เลยพยายามจะหาทางช่วยเรา แต่การช่วยของเค้ามันผิดวิธีไปหน่อย(อันนี้คุณหมอบอกมา) คือ สมมุติว่า เราเห็นว่าลูกน้องของเราพูดจาไม่ดีต่อลูกค้าในไลน์ เราอ่านแล้วก็โมโห อยากด่าลูกน้องมาก แต่ตอนนั้นใจเราอยากลองดูว่าแฟนเราจะว่ายังไง ก็เลยส่งไลน์ที่ลุกน้องพิมพ์ไปให้แฟนอ่าน แฟนเราอ่านแล้วก็บอกว่า ไม่เห็นมีอะไรเลย ไม่เห็นว่าลูกน้องเราจะพูดไม่ดีตรงไหน เราก็เก็บเรื่องนี้มาโมโหคนเดียว หรือมีเรื่องอะไรที่เราเห็นว่ามันไม่ถูกต้อง ไม่ดี เราก็จะถามเค้า เค้าก็จะบอกเราว่า ไม่เห็นมีอะไรเลย อย่าโมโห ประมาณนั้นค่ะ

ตอนพบคุณหมอ เราเล่าเรื่องนี้ให้คุณหมอฟัง แล้วแฟนเราก็บอกคุณหมอว่า จริงๆเค้าก็รู้สึกว่าลูกน้องเราทำไม่ถูกแหละ แต่เค้าแค่อยากให้เราจัดการอารมณ์ตัวเองให้ได้ อย่าโมโหได้มั้ย เพราะมันมีเรื่องอีกตั้งเยอะบนโลกนี้ที่เราไม่สามารถควบคุมให้เป็นไปดังใจเราต้องการได้ ก็เท่านั้นเอง (แฟนเราใช้วิธีนี้กับเรามาเป็นเดือนค่ะ) แต่ยิ่งเค้าคัดค้านเรา เรายิ่งโมโหหนักขึ้นทุวันๆ จนกลายเป็นนิ่ง ไม่สนใจอะไรไปเลย

คุณหมอสรุปให้ฟังว่า วิธีที่แฟนเราใช้กับเรานั้นมันผิด มันเหมือนกับที่กระแสน้ำกำลังเชี่ยว(หมายถึงอารมณ์ของเราในตอนโมโห) แล้วเค้าเอากำแพงมาบังไว้ มันก็ทำให้น้ำมันปะทะกำแพงตลอดเวลา พอนานๆเค้ามันก็เลยพัง(หมายถึงสมองเรา) ที่ถูกต้องก็คือ ปล่อยเราไปก่อนในตอนที่โมโห เห็นดีเห็นงานไปกับความคิดเรา แต่ค่อยๆตะล่อมด้วยเหตุผล ข้อดี ข้อเสีย หลังจากที่เราอารมณ์เย็นแล้ว..... ง่ายๆก็คือ ให้ตามใจเรานั่นเอง555

เราเป็นคนเก็บความโมโหไว้ได้นานมากๆ เหมือนเวลาทะเลาะกับแฟน ต่อให้คุยกันรู้เรื่อง เค้าขอโทษแล้ว เราหายโกรธแล้ว แต่ความรู้สึกเศร้า ไม่สบายใจ หน่วงๆ มันจะอยู่กับเราไปเป็นอาทิตย์ นี่คือก่อนที่เราจะไปรักษานะคะ

ส่วนตอนนี้หลังรักษามา ปีกว่า ทุกอย่างดีขึ้นมากกกกก   ความเจ้าอารมณ์ ขี้โมโห ขี้วีน หายไปเกิน 90% แฟนเราก็เข้าใจวิธีการคุยกับเรามากขึ้น ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็น แล้วแต่เธอเลยจ้ะ เธอทำอันไหนมีความสุขทำเลย555

ขอเล่าถึงการรักษาก่อน ครั้งแรกเราไปปรึกษาที่คลินิกจิตแพทย์นะคะ หาไปได้ 1 สัปดาห์เรายังข้องใจอยู่ว่า เราเป้นโรคซึมเศร้าจริงเหรอ เพราะเราไม่มีอาการอยากฆ่าตัวตาย เลยลองมาหาคุณหมอที่โรงพยาบาลใหญ่แห่งหนึ่งในกทม. คุณหมอเป็นอาจารย์หมอผู้หญิงมีอายุพอสมควร ท่านก็ซักถามอาการโดยทั่วไป เล่าปัญหาที่เกิดขึ้น แล้วเราก็แจ้งท่านไปว่าเรารักษาที่คลินิกอื่นอยู่แต่ไม่แน่ใจว่าคุรหมอวินิจฉัยถูกรึเปล่า ท่านก็แจงมาว่า นอกจากจะเป็นโรคซึมเศร้าแล้ว อาจจะเป็นไทรอยด์หรือการกระทบกระเทือนทางสมองก็ได้ เพื่อที่จะวินิจฉัยให้ถูกต้อง เราก็เลยต้องตรวจเลือด ตรวจคลื่นสมอง และก็ตรวจอย่างอื่นเพิ่มเติม ผลตรวจออกมาคือ ทุกอย่างปกติ  คุณเป็นโรคซึมเศร้าที่แท้ทรูจ้า555

คุณหมอผู้หญิงท่านนี้เลยบอกว่าให้กลับไปรักษาที่คลินิกเดิม เพราะอยุ่ใกล้บ้านกว่าโรงพยาบาล เนื่องจากการรักษาโรคซึมเศร้าต้องใช้ระยะเวลานาน รักษาที่ใกล้ๆจะสะดวกกว่า วันที่ไปฟังผลคุณหมอไม่เก็บค่ารักษาด้วย น่ารักจริงๆ

ณ ปัจจุบัน เจ้าของกระทู้ยังคงทานยาอยู่นะคะ แต่ชีวิตแฮปปี้มาก หวังว่ากระทู้นี้จะช่วยให้คนที่กำลังลังเลอยุ่ว่าจะไปหาหมอดีมั้ย รีบๆไปหานะคะ

 
แก้ไขข้อความเมื่อ
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่