สวัสดีค่ะ ก่อนอื่นต้องบอกว่ากระทู้อาจจะยาวหน่อยเพราะเรารีวิวรวดเดียวจบในกระทู้เดียวเลยนะคะ จะพยายามรวบรวมข้อมูลที่จำได้มาฝากให้ได้มากที่สุดค่ะ หวังว่าคงเป็นประโยชน์กับผู้ที่กำลังวางแผนเที่ยวนอร์เวย์นะคะ
ถ้าพูดถึงสถานที่เด็ดๆที่มี Landscape ธรรมชาติสวยงามแปลกตาแล้ว “Lofoten” ก็คงเป็นสถานที่ที่ติดอยู่อันดับต้นๆเลยจริงมั้ยคะ ทีนี้พอแพลนไป Lofoten ก็อยากจะไปเมืองอื่นใน Norway ด้วยจะได้คุ้มๆค่าตั๋วหน่อย ด้วยนอร์เวย์เป็นประเทศที่น่าท่องเที่ยวมากๆ เพราะมีลักษณะภูมิประเทศเป็นเกาะแก่ง มีภูเขาสูง มีทุ่งหญ้า มีฟยอร์ดสวยงาม สถานที่ท่องเที่ยวเยอะมากๆ ไปครั้งเดียวไม่พอค่ะ ครั้งนี้เรียกว่าแค่มาเชอร์เวย์เลยค่ะ เมืองในแพลนมี Stavanger, Bergen, Ålesund, Trondheim, Lofoten และ Oslo ค่ะ

เราขอข้ามขั้นตอนการขอวีซ่ากับเที่ยวบินระหว่างประเทศไปเลยนะคะ เพราะมีรีวิวดีๆละเอียดๆเยอะมากอยู่แล้ว เราขอเล่าเรื่องประกอบภาพและข้อมูลบางอย่างที่เราเคยหาไม่เจอ และที่สำคัญค่าใช้จ่ายมีอะไรบ้างมาค่ะเริ่ม!
- ทริปนี้เดินทางช่วงสงกรานต์ ออกจากไทย 5 เมษายน กลับถึงไทย 16 เมษายน แต่นับเวลาที่อยู่นอร์เวย์ก็แค่ 5-15 นะคะ
- สมาชิกที่ไปด้วยกันทั่งหมด 8 คน และมีเพิ่มอีก 1 คนที่ตามมาที่ Lofoten ค่ะ
- อากาศอุณภูมิแต่ละเมืองต่างกันค่ะ อยู่ที่ราวๆ ไม่เกิน 10 เจอหนาวสุดที่ Trondheim ช่วงเช้า -4 ค่ะ ช่วงขับรถเจอหิมะหนาข้างทางบนเขาสูง แต่บนถนนไม่มีค่ะ เค๊าจัดการดี ส่วน Lofoten หนาวไม่ติดลบและไม่มีหิมะตกแต่เจอฝนค่ะ ถ้าหนาวให้เดินค่ะเดินๆๆๆๆ จะอุ่นขึ้น อิอิ
- เมษายนกลางวัน 14 ชั่วโมง 06:00-20:00 โดยประมาณค่ะ
แพลนการเดินทางคร่าวๆดังนี้ค่ะ (แรกเริ่มจะค้างคืนที่ Loen แต่ยกเลิก)

ส่วนค่าใช้จ่ายหลักจะสรุปเป็นตารางให้ตอนจบนะคะ
เริ่มจาก วันที่ 5 เมษายน เดินทางถึง Oslo
พวกเราถึง Oslo ประมาณ 2 ทุ่ม แล้วพักที่โรงแรมใกล้ๆสนามบินเพื่อรอต่อเครื่องตอนเช้าไปเมือง Stavanger ค่ะ โรงแรมที่พักชื่อ Gardermoen Airport มีรีวิวมาว่าสามารถเดินไปได้ แต่พอเดินออกมานอกอาคารอากาศหนาวมาก เราเลยตัดสินใจนั่งรถ Shuttle Bus รถขับไปเรื่อยๆ 10 นาทีถึงที่พัก จึงพบว่าถ้าเดินไปต้องตายหยังเขียดแน่นอน คุณหลอกดาว!
การใช้บัสสาธารณะในนอร์เวย์ เมื่อขึ้นรถแล้วบอกคนขับว่าจะลงที่ไหน จะจ่ายให้กี่คน เค๊าจะบอกยอดเงินมาคุณก็เสียบบัตรเครดิตที่เครื่อง ดูตัวเลขที่หน้าปัด ถ้าถูกก็กดพินหรือกดปุ่ม OK จากนั้นเค๊าจะให้ตั๋วคุณ เป็นอันเสร็จพิธีค่ะ
ที่ Gardermoen Airport Hotel เราจองแบบเตียง 2 ชั้น นอนได้ห้องละ 4 คน ห้องแคบมากกางกระเป๋าแทบไม่ได้แต่ก็พออยู่ได้ค่ะ
เราจองที่พักเกือบทั้งหมดผ่าน Booking.com ค่ะ จะมี Preikestolen Mountain Lodge ที่ Stavanger ที่เดียวเท่านั้นที่ส่งเมล์จองกับที่พักโดยตรงค่ะ ค่าที่พักทั้งหมดอยู่ในตารางค่าใช้จ่ายหลักตอนจบรีวิวนะคะ
รายละเอียด Gardermoen Airport Hotel
https://www.booking.com/hotel/no/gardermoen-airport.th.html
วันนี้อาบน้ำเสร็จก็หลับเป็นตายกันเลยค่ะ
วันที่ 6 เมษายน วันนี้ตื่นแต่เช้ามืดเพื่อขึ้นเครื่องต่อไป Stavanger
เช้าวันนี้พวกเรากินอาหารเช้าที่โรงแรมค่ะ อาหารเช้าเป็นบุฟเฟ่ต์ดีใช้ได้เลยค่ะ หลังจากนั้นก็ขึ้น Shuttle Bus กลับไปแอร์พอร์ต แนะนำให้ซื้อตั๋วรถบัสไว้ตอนเช็คอินกับพนักงานต้อนรับที่โรงแรม และสอบถามเวลารถเอาไว้เลยค่ะ ราคา Shuttle Bus ไปกลับรวมคนละ 140 Kr ค่ะ (ค่าเงินช่วง Apr 19 เกือบ 4 บาท ตอนนี้ 3 บาทเอง ไม่ไปตอนนี้จะรอตอน 5 บาทหรอคะ #ป้ายยาอิอิ)
วันนี้เครื่องออกจะออกจาก Oslo 07:40 ถึง Stavanger 08:35 ค่ะ
ขั้นตอนเช็คอินที่นอร์เวย์ จะมีตู้อัตโนมัติของสายการบินต่างๆ เรากดเลขตั๋ว,เลือกที่นั่ง พอได้บอร์ดดิ้งพาสมาแล้ว ก็เอากระเป๋าไปชั่ง เครื่องก็จะปริ้น Tag มาให้ค่ะ ดังนั้น ถ้าน้ำหนักเกินก็ต้องเอาออกเพราะจะไม่มีเจ้าหน้าที่ให้เราต่อรองค่ะ
เมื่อถึงสนามบิน Stavanger พวกเราจะเอากระเป๋าไปฝากในล๊อกเกอร์ที่อยู่ในสนามบิน แล้วเอาเฉพาะของใช้จำเป็นเดินทางไป Preikestolen เพราะต้องเดินทางหลายต่อถ้าแบกกระเป๋าไปด้วยอาจจะไม่สะดวก ล๊อกเกอร์แบบนี้มีทุกสนามบินราคาใกล้เคียงกัน บางที่หยอดเหรียญ บางที่เสียบบัตรเครดิต
ล๊อกเกอร์ที่ Stavanger อยู่ในลานจอดรถตรงกันข้ามอาคารขาเข้า วิธีใช้ล๊อกเกอร์คือเอาของใส่ ล๊อคเก็บกุญแจไว้ กลับมาหยอดเหรียญเพื่อเอาของออกค่ะ เช็คราคาได้ที่ลิงค์นี้
https://avinor.no/en/airport/stavanger-airport/plan-your-trip/check-in-and-baggage/baggage-storage/

รูปนี้แบบใช้บัตรเครดิต (ที่ Oslo Airport)

การเดินทางไป Pulpit Rock นั้น ต้องไปท่าเรือ
Fiskepiren เพื่อข้ามไป Tau Kai /Jørpeland ค่ะ ขึ้นบัสที่หน้าอาคารขาเข้าได้เลย ดูป้ายหน้ารถ "
Fiskepiren" ค่ารถจาก Airport ไปกลับรวมคนละ 220 Kr ค่ะ นั่งรถไม่นานค่ะ ราวๆ 20 นาทีก็ถึงค่ะ
รูปถ่ายจากบนเรือฝั่ง
Fiskepiren ค่ะ ป้ายรถเมล์ตามลูกศรไปทางซ้าย บนเรือก็จะมีร้านค้ามีที่นั่งอย่างดี ใช้เวลา 40 นาทีถึง ค่าเฟอร์รี่จ่ายไปคนละ 62Kr ต่อเที่ยวจะมีจนท.มาเก็บบนเรือค่ะ

เรือออกมาไกลอีกหน่อย

เมื่อมาถึงพอถึงท่าเรือ Tau Kai เมือง Jørpeland พวกเราเดินไปรอรถบัสสาธารณะที่ป้ายหยุดรถด้านนอกท่าเรือ จึงพบว่ารถโดยสารไม่ได้มีเหมือนกันทุกฤดู (อ่านเวลาที่ป้าย) เดือนเมษายนถือว่ายังอยู่ในฤดูหนาว หลายชั่วโมงถึงจะมีคันนึง บรรลัย! มองซ้ายมองขวามีแต่ความเงียบ และแล้วรถแท๊กซี่คันสุดท้ายที่มีผู้โดยสารเต็มแล้วก็จอด แล้วบอกเราว่าจะเรียกเพื่อนมารับให้รออยู่ตรงนี้ รอดแล้วจ้า ดังนั้นถ้าจะไปควรหาข้อมูลเวลารถดีๆค่ะ เบื้องต้นเช็คได้ที่เว็บนี้
https://www.kolumbus.no/en

รออยู่สักพักใหญ่ๆ ก็มีรถตู้มารับค่ะ ค่ารถเป็นแบบมิเตอร์ ค่ารถรวมไปกลับให้เลยนะคะเหมาคันละ 1400 Kr เป็นรถตู้ แบบนี้ค่ะ

นั่งรถประมาณ 20 นาทีก็ถึงที่พักค่ะ คืนนี้เราเข้าพักที่ Preikestolen Mountain Lodge เป็นโรงแรมหนึ่งเดียวที่อยู่ตรงจุดที่จะเดินขึ้น Pulpit Rock เลยค่ะ

ห้องพักของเราชื่อห้อง Vatnegården เป็นห้องแบบ Dormitory (หอพักรวม) มี 9 เตียง พวกเรา 8 คน ทางที่พักเลยยกให้เลยค่ะ ในห้องนอนมีโต๊ะกินข้าวกลางห้องไว้นั่งเล่นในบ้านมีครัวและห้องน้ำรวม ส่วนห้องอาบน้ำจะอยู่อีกหลังต้องเดินไปอาบน้ำที่บ้านหลังอื่นค่ะ ซักแห้งซะเลย >.<
รูปตัวบ้าน ที่มีห้อง Vatnegården

รูปเตียงในห้องด้านล่างนี้มาจากเว็บไซด์โรงแรมค่ะ จองห้องพักตรงได้ที่:
https://preikestolenfjellstue.no/vatnegarden/?lang=en

เมื่อเก็บของเข้าที่พักแล้วพวกเราก็พักผ่อน และออกไปเดินเล่นรอบๆที่พักค่ะ


อาหารที่โรงแรมแพงและไม่อร่อยค่ะ พวกเรากินแล้วต้องกลับมาจกข้าวเหนียวต้มมาม่ากันต่อ
รูปเมนูอาหาร

วันนี้พวกเรารีบเข้านอนเพื่อเก็บแรงไว้เดินค่ะ
วันที่ 7 เมษายน Stavanger - Bergen
ตอนเช้าพวกเราเริ่มออกเดิน Hiking ตอนประมาณตีสองตีสามได้ แนะนำให้รีบขึ้นแต่เช้าค่ะ เพราะถ้าขึ้นสายคนจะเยอะ และอาจจะไม่ทันแสงสวยๆช่วงพระอาทิตย์ขึ้น ระยะทางประมาณ 4 กิโล เตรียมน้ำและอาหารช่วยให้พลังงานขึ้นไปด้วยนะคะ บางช่วงทางขึ้นชันมากๆเลยค่ะ คนนอร์เวย์แข็งแรงกันมาก เด็กตัวเล็กๆ หรือแม้กระทั่งน้องหมา ยังวิ่งแซงพวกเราฉิวเลย บรรยากาศช่วงเมษายน หิมะละลายแล้วค่ะ พอขึ้นไปถึงวิวอลังการคุ้มค่ามากค่ะ
รูปบรรยากาศเดินขึ้นบางส่วน

และแล้วก็ถึงค่ะนี่ไง Pulpit Rock


บนนั้นสวยมากจริงๆค่ะแนะนำว่าต้องไปเห็นเอง อิอิ

หลังจากนั้นเดินกลับมากินอาหารเช้าที่ที่พักค่ะ ต้องลงมาให้ทัน 10 โมงนะคะ ขากลับหมดแรงและเหนื่อยสุดๆ
เราออกจากโรงแรมประมาณ 11 โมงค่ะ เก็บของเสร็จก็ให้ทางโรงแรมโทรเรียกแท๊กซี่มารับค่ะ เจอคุณลุงคนเดิม ใช้เวลาเหมือนเดิม 20 นาทีก็ถึงท่าเรือ Tau Kai ก็ข้ามไป Fiskepirenเหมือนเดิมค่ะ ที่ท่าเรือเดินเที่ยวของเมือง Stavanger ได้มีร้านค้า มีแหล่งชอปปิ้ง มีร้านอาหารค่ะ พวกเรามีเวลานิดหน่อยเลยฝากสัมภาระไว้ในล๊อกเกอร์ที่ท่าเรือแล้วเดินเที่ยวค่ะ
Stavanger เป็นเมืองเล็กๆบรรยากาศเงียบสงบริมทะเล บ้านเรือน ร้านค้าเป็นแบบเก่า สะอาดสวยงามน่ารัก บรรยากาศดีมากๆ เลยค่ะ รูปส่วนใหญ่ที่ถ่ายมามีเพื่อนๆเต็มรูปไม่ค่อยเห็นวิวเลยมีมาลงแค่รูปเดียว แต่คอนเฟิร์มว่าตามตรอกซอกซอยร้านค้าน่ารักจริงๆค่ะ ^^"

พวกเราเราเดินอยู่แป๊บเดียว ก็ไปเอาของแล้วขึ้นรถประจำทางเพื่อไป airport ค่ะ ที่นอร์เวย์รถบัสที่เข้าแอร์พอร์ตรถจะมีป้ายเขียนแบบนี้ค่ะ

วันนี้ไฟล์ทดีเลย์ค่ะสายการบิน SAS ซึ่งการดีเลย์ประมาณ 2-3 ชั่วโมงทำให้แผนการเดินทางของพวกเลื่อนไปเป็นทอดๆเลยค่ะ สนามบินก็แออัด พวกเราต้องนั่งพื้นกัน สภาพเยินสุดก็เพิ่งลงจาก Hiking กันมา งือออ
สรุปเวลาปกติเครื่องออก 18:45 ถึง Bergen 19:20 แต่ถึงจริงๆประมาณสี่ทุ่มค่ะ พวกเราเลยเรียก taxi เป็นรถตู้คิดเป็นเงินไทยน่าจะราวๆ 1800 บาท ใช้เวลาประมาณ 25 นาทีค่ะ
ที่ Bergenนี้เราพักที่โรงแรม P-Hotels Bergen เพราะเห็นแก่อาหารเช้า เดี๋ยวไปดูว่าอาหารเช้าของที่นี่ อลังการแค่ไหนค่ะ
รายละเอียด P-Hotel
https://www.booking.com/hotel/no/p-hotels-bergen.th.html
ต่อในความเห็นนะคะ
เที่ยว Norway จาก Pulpit Rock ถึง Lofoten 11วัน 6เมือง ธรรมชาติก็อลังการ ในเมืองก็คลาสสิค ❤ สายเที่ยวไม่ผิดหวังแน่นอน ❤
ถ้าพูดถึงสถานที่เด็ดๆที่มี Landscape ธรรมชาติสวยงามแปลกตาแล้ว “Lofoten” ก็คงเป็นสถานที่ที่ติดอยู่อันดับต้นๆเลยจริงมั้ยคะ ทีนี้พอแพลนไป Lofoten ก็อยากจะไปเมืองอื่นใน Norway ด้วยจะได้คุ้มๆค่าตั๋วหน่อย ด้วยนอร์เวย์เป็นประเทศที่น่าท่องเที่ยวมากๆ เพราะมีลักษณะภูมิประเทศเป็นเกาะแก่ง มีภูเขาสูง มีทุ่งหญ้า มีฟยอร์ดสวยงาม สถานที่ท่องเที่ยวเยอะมากๆ ไปครั้งเดียวไม่พอค่ะ ครั้งนี้เรียกว่าแค่มาเชอร์เวย์เลยค่ะ เมืองในแพลนมี Stavanger, Bergen, Ålesund, Trondheim, Lofoten และ Oslo ค่ะ
เราขอข้ามขั้นตอนการขอวีซ่ากับเที่ยวบินระหว่างประเทศไปเลยนะคะ เพราะมีรีวิวดีๆละเอียดๆเยอะมากอยู่แล้ว เราขอเล่าเรื่องประกอบภาพและข้อมูลบางอย่างที่เราเคยหาไม่เจอ และที่สำคัญค่าใช้จ่ายมีอะไรบ้างมาค่ะเริ่ม!
- ทริปนี้เดินทางช่วงสงกรานต์ ออกจากไทย 5 เมษายน กลับถึงไทย 16 เมษายน แต่นับเวลาที่อยู่นอร์เวย์ก็แค่ 5-15 นะคะ
- สมาชิกที่ไปด้วยกันทั่งหมด 8 คน และมีเพิ่มอีก 1 คนที่ตามมาที่ Lofoten ค่ะ
- อากาศอุณภูมิแต่ละเมืองต่างกันค่ะ อยู่ที่ราวๆ ไม่เกิน 10 เจอหนาวสุดที่ Trondheim ช่วงเช้า -4 ค่ะ ช่วงขับรถเจอหิมะหนาข้างทางบนเขาสูง แต่บนถนนไม่มีค่ะ เค๊าจัดการดี ส่วน Lofoten หนาวไม่ติดลบและไม่มีหิมะตกแต่เจอฝนค่ะ ถ้าหนาวให้เดินค่ะเดินๆๆๆๆ จะอุ่นขึ้น อิอิ
- เมษายนกลางวัน 14 ชั่วโมง 06:00-20:00 โดยประมาณค่ะ
แพลนการเดินทางคร่าวๆดังนี้ค่ะ (แรกเริ่มจะค้างคืนที่ Loen แต่ยกเลิก)
เริ่มจาก วันที่ 5 เมษายน เดินทางถึง Oslo
พวกเราถึง Oslo ประมาณ 2 ทุ่ม แล้วพักที่โรงแรมใกล้ๆสนามบินเพื่อรอต่อเครื่องตอนเช้าไปเมือง Stavanger ค่ะ โรงแรมที่พักชื่อ Gardermoen Airport มีรีวิวมาว่าสามารถเดินไปได้ แต่พอเดินออกมานอกอาคารอากาศหนาวมาก เราเลยตัดสินใจนั่งรถ Shuttle Bus รถขับไปเรื่อยๆ 10 นาทีถึงที่พัก จึงพบว่าถ้าเดินไปต้องตายหยังเขียดแน่นอน คุณหลอกดาว!
การใช้บัสสาธารณะในนอร์เวย์ เมื่อขึ้นรถแล้วบอกคนขับว่าจะลงที่ไหน จะจ่ายให้กี่คน เค๊าจะบอกยอดเงินมาคุณก็เสียบบัตรเครดิตที่เครื่อง ดูตัวเลขที่หน้าปัด ถ้าถูกก็กดพินหรือกดปุ่ม OK จากนั้นเค๊าจะให้ตั๋วคุณ เป็นอันเสร็จพิธีค่ะ
ที่ Gardermoen Airport Hotel เราจองแบบเตียง 2 ชั้น นอนได้ห้องละ 4 คน ห้องแคบมากกางกระเป๋าแทบไม่ได้แต่ก็พออยู่ได้ค่ะ
เราจองที่พักเกือบทั้งหมดผ่าน Booking.com ค่ะ จะมี Preikestolen Mountain Lodge ที่ Stavanger ที่เดียวเท่านั้นที่ส่งเมล์จองกับที่พักโดยตรงค่ะ ค่าที่พักทั้งหมดอยู่ในตารางค่าใช้จ่ายหลักตอนจบรีวิวนะคะ
รายละเอียด Gardermoen Airport Hotel https://www.booking.com/hotel/no/gardermoen-airport.th.html
วันนี้อาบน้ำเสร็จก็หลับเป็นตายกันเลยค่ะ
วันที่ 6 เมษายน วันนี้ตื่นแต่เช้ามืดเพื่อขึ้นเครื่องต่อไป Stavanger
เช้าวันนี้พวกเรากินอาหารเช้าที่โรงแรมค่ะ อาหารเช้าเป็นบุฟเฟ่ต์ดีใช้ได้เลยค่ะ หลังจากนั้นก็ขึ้น Shuttle Bus กลับไปแอร์พอร์ต แนะนำให้ซื้อตั๋วรถบัสไว้ตอนเช็คอินกับพนักงานต้อนรับที่โรงแรม และสอบถามเวลารถเอาไว้เลยค่ะ ราคา Shuttle Bus ไปกลับรวมคนละ 140 Kr ค่ะ (ค่าเงินช่วง Apr 19 เกือบ 4 บาท ตอนนี้ 3 บาทเอง ไม่ไปตอนนี้จะรอตอน 5 บาทหรอคะ #ป้ายยาอิอิ)
วันนี้เครื่องออกจะออกจาก Oslo 07:40 ถึง Stavanger 08:35 ค่ะ
ขั้นตอนเช็คอินที่นอร์เวย์ จะมีตู้อัตโนมัติของสายการบินต่างๆ เรากดเลขตั๋ว,เลือกที่นั่ง พอได้บอร์ดดิ้งพาสมาแล้ว ก็เอากระเป๋าไปชั่ง เครื่องก็จะปริ้น Tag มาให้ค่ะ ดังนั้น ถ้าน้ำหนักเกินก็ต้องเอาออกเพราะจะไม่มีเจ้าหน้าที่ให้เราต่อรองค่ะ
เมื่อถึงสนามบิน Stavanger พวกเราจะเอากระเป๋าไปฝากในล๊อกเกอร์ที่อยู่ในสนามบิน แล้วเอาเฉพาะของใช้จำเป็นเดินทางไป Preikestolen เพราะต้องเดินทางหลายต่อถ้าแบกกระเป๋าไปด้วยอาจจะไม่สะดวก ล๊อกเกอร์แบบนี้มีทุกสนามบินราคาใกล้เคียงกัน บางที่หยอดเหรียญ บางที่เสียบบัตรเครดิต
ล๊อกเกอร์ที่ Stavanger อยู่ในลานจอดรถตรงกันข้ามอาคารขาเข้า วิธีใช้ล๊อกเกอร์คือเอาของใส่ ล๊อคเก็บกุญแจไว้ กลับมาหยอดเหรียญเพื่อเอาของออกค่ะ เช็คราคาได้ที่ลิงค์นี้ https://avinor.no/en/airport/stavanger-airport/plan-your-trip/check-in-and-baggage/baggage-storage/
รูปถ่ายจากบนเรือฝั่ง Fiskepiren ค่ะ ป้ายรถเมล์ตามลูกศรไปทางซ้าย บนเรือก็จะมีร้านค้ามีที่นั่งอย่างดี ใช้เวลา 40 นาทีถึง ค่าเฟอร์รี่จ่ายไปคนละ 62Kr ต่อเที่ยวจะมีจนท.มาเก็บบนเรือค่ะ
เมื่อมาถึงพอถึงท่าเรือ Tau Kai เมือง Jørpeland พวกเราเดินไปรอรถบัสสาธารณะที่ป้ายหยุดรถด้านนอกท่าเรือ จึงพบว่ารถโดยสารไม่ได้มีเหมือนกันทุกฤดู (อ่านเวลาที่ป้าย) เดือนเมษายนถือว่ายังอยู่ในฤดูหนาว หลายชั่วโมงถึงจะมีคันนึง บรรลัย! มองซ้ายมองขวามีแต่ความเงียบ และแล้วรถแท๊กซี่คันสุดท้ายที่มีผู้โดยสารเต็มแล้วก็จอด แล้วบอกเราว่าจะเรียกเพื่อนมารับให้รออยู่ตรงนี้ รอดแล้วจ้า ดังนั้นถ้าจะไปควรหาข้อมูลเวลารถดีๆค่ะ เบื้องต้นเช็คได้ที่เว็บนี้ https://www.kolumbus.no/en
รออยู่สักพักใหญ่ๆ ก็มีรถตู้มารับค่ะ ค่ารถเป็นแบบมิเตอร์ ค่ารถรวมไปกลับให้เลยนะคะเหมาคันละ 1400 Kr เป็นรถตู้ แบบนี้ค่ะ
นั่งรถประมาณ 20 นาทีก็ถึงที่พักค่ะ คืนนี้เราเข้าพักที่ Preikestolen Mountain Lodge เป็นโรงแรมหนึ่งเดียวที่อยู่ตรงจุดที่จะเดินขึ้น Pulpit Rock เลยค่ะ
รูปตัวบ้าน ที่มีห้อง Vatnegården
เมื่อเก็บของเข้าที่พักแล้วพวกเราก็พักผ่อน และออกไปเดินเล่นรอบๆที่พักค่ะ
รูปเมนูอาหาร
วันที่ 7 เมษายน Stavanger - Bergen
ตอนเช้าพวกเราเริ่มออกเดิน Hiking ตอนประมาณตีสองตีสามได้ แนะนำให้รีบขึ้นแต่เช้าค่ะ เพราะถ้าขึ้นสายคนจะเยอะ และอาจจะไม่ทันแสงสวยๆช่วงพระอาทิตย์ขึ้น ระยะทางประมาณ 4 กิโล เตรียมน้ำและอาหารช่วยให้พลังงานขึ้นไปด้วยนะคะ บางช่วงทางขึ้นชันมากๆเลยค่ะ คนนอร์เวย์แข็งแรงกันมาก เด็กตัวเล็กๆ หรือแม้กระทั่งน้องหมา ยังวิ่งแซงพวกเราฉิวเลย บรรยากาศช่วงเมษายน หิมะละลายแล้วค่ะ พอขึ้นไปถึงวิวอลังการคุ้มค่ามากค่ะ
รูปบรรยากาศเดินขึ้นบางส่วน
หลังจากนั้นเดินกลับมากินอาหารเช้าที่ที่พักค่ะ ต้องลงมาให้ทัน 10 โมงนะคะ ขากลับหมดแรงและเหนื่อยสุดๆ
เราออกจากโรงแรมประมาณ 11 โมงค่ะ เก็บของเสร็จก็ให้ทางโรงแรมโทรเรียกแท๊กซี่มารับค่ะ เจอคุณลุงคนเดิม ใช้เวลาเหมือนเดิม 20 นาทีก็ถึงท่าเรือ Tau Kai ก็ข้ามไป Fiskepirenเหมือนเดิมค่ะ ที่ท่าเรือเดินเที่ยวของเมือง Stavanger ได้มีร้านค้า มีแหล่งชอปปิ้ง มีร้านอาหารค่ะ พวกเรามีเวลานิดหน่อยเลยฝากสัมภาระไว้ในล๊อกเกอร์ที่ท่าเรือแล้วเดินเที่ยวค่ะ
Stavanger เป็นเมืองเล็กๆบรรยากาศเงียบสงบริมทะเล บ้านเรือน ร้านค้าเป็นแบบเก่า สะอาดสวยงามน่ารัก บรรยากาศดีมากๆ เลยค่ะ รูปส่วนใหญ่ที่ถ่ายมามีเพื่อนๆเต็มรูปไม่ค่อยเห็นวิวเลยมีมาลงแค่รูปเดียว แต่คอนเฟิร์มว่าตามตรอกซอกซอยร้านค้าน่ารักจริงๆค่ะ ^^"
วันนี้ไฟล์ทดีเลย์ค่ะสายการบิน SAS ซึ่งการดีเลย์ประมาณ 2-3 ชั่วโมงทำให้แผนการเดินทางของพวกเลื่อนไปเป็นทอดๆเลยค่ะ สนามบินก็แออัด พวกเราต้องนั่งพื้นกัน สภาพเยินสุดก็เพิ่งลงจาก Hiking กันมา งือออ
สรุปเวลาปกติเครื่องออก 18:45 ถึง Bergen 19:20 แต่ถึงจริงๆประมาณสี่ทุ่มค่ะ พวกเราเลยเรียก taxi เป็นรถตู้คิดเป็นเงินไทยน่าจะราวๆ 1800 บาท ใช้เวลาประมาณ 25 นาทีค่ะ
ที่ Bergenนี้เราพักที่โรงแรม P-Hotels Bergen เพราะเห็นแก่อาหารเช้า เดี๋ยวไปดูว่าอาหารเช้าของที่นี่ อลังการแค่ไหนค่ะ
รายละเอียด P-Hotel https://www.booking.com/hotel/no/p-hotels-bergen.th.html
ต่อในความเห็นนะคะ