เนื้อเรื่องย่อ

มันคำนวณหา ‘ฤกษ์’ แล้วเสาะแสวงหา ‘ผู้ถูกเลือก’
‘สี่คน สี่ธาตุ บูชาปสานเทพเทวา’
มันเฝ้าติดตามตัว ‘ผู้ถูกเลือก’ และนำมาเข้าพิธีทีละคน
หากที่เพ่งพิศจับตามอง...สาวน้อย ‘รันหณ์’
เธอเกิดมาเพื่อเป็น ‘ผู้ถูกเลือก’ ที่แสนพิสุทธิ์โดยแท้
หญิงสาวธาตุไฟ ‘อัคนีบริสุทธิ์’ ที่จะเป็นเครื่องบัดพลี
“ผู้เสริมชะตาเสวยสุขาวดีเล็งเห็น
กระทำบัดพลีมิเว้น ธรณิน คงคา วายุ เตโช”
มันใช้สายตาจับจ้องแทบทุกซอกทุกมุม
นิ้วมือเหี่ยวย่นลูบลงที่ผิวหน้าระเรื่อใสของสาวน้อย

โอ้...เตโชต้องบัดพลีด้วยอัคนีบริสุทธิ์
ผิวพรรณผ่องผุดของสาวพรหมจรรย์เป็นอย่างนี้เองน่ะหรือ
นิ้วนั้นไล้เรื่อยลงมาตามลำคอจนแตะเสื้อบางรับรู้ถึงเนินเนื้อ
มันปิดตาแน่นดั่งพยายามหักห้ามใจ
ความรู้สึกพลุ่งพล่าน จนแทบหยุดตัวเองไม่ได้
นี่คือ ‘ผู้ถูกเลือก’ คนสุดท้าย มันจะกระทำการใดให้เสียฤกษ์ไม่ได้
มันต้องรอฤกษ์ และฤกษ์นั้น...มันจะเสวยสุขาวดี อัคนีบริสุทธิ์
บูชาต่อหน้าเทวรูปเทพสังวาส สวดมนตราระเริงเร่ง
ก่อนนำพาร่างน้อยไปสู่วินาทีแห่ง ฤกษ์สังหาร! 

 ความสนุกของนวนิยายเล่มนี้ก็คือการใช้เรื่องโหราศาสตร์มาผูกเรื่องนี้ขึ้นมาครับ มันแปลกใหม่เอามากๆที่จะมีคนใช้ฤกษ์ตามโหราศาสตร์มาก่อเหตุคดีสะเทือนขวัญ ซึ่งคดีฆาตกรรมที่ว่านั้นก็เพื่อเป็นการสังเวยชีวิตผู้บริสุทธิ์ต่อพิธีกรรมที่ชั่วช้าที่ว่ากันว่าจะส่งผลให้ผู้เข้าร่วมประกอบพิธีนั้นมีอำนาจเหนือกว่าใครทั้งปวงปกครองบ้านเมืองได้อย่างสมบูรณ์ ซึ่งมาจาก"ตำราแก้เคล็ดดวงเมือง" ถ้าใครเคยได้ยินเรื่องการฝังเสาหลักเมือง โดยใช้บุคคลที่มีชื่อว่า อิน จัน มั่น คง โดยจะต้องเอาคนซึ่งมีชื่อเหล่านั้นที่มีชีวิตทั้งเป็นลงฝังในหลุม เพื่อให้เป็นผู้เฝ้ามหาปราสาทบ้านเมือง ป้องกันอริราชศัตรู มิให้มีโรคภัยเกิดแก่เจ้าฟ้ามหากษัตริย์ผู้ครองนครบ้านเมือง ตำราแก้เคล็ดดวงเมืองที่ว่าจะมีลักษณะใกล้เคียงกันครับ กล่าวคือมีการสังเวยชีวิต4ชีวิต แต่ตำราแก้เคล็ดนี้จะใช้ผู้หญิงล้วนๆที่อยู่ในธาตุ ดิน น้ำ ลม ไฟ และ มีวันเดือนปีเกิดเดียวกันมาประกอบพิธี ซึ่งจะเริ่มสังเวยได้ก็จะต้องเกิดเหตุการณ์อาเพศต่อบ้านเมืองเสียก่อนจึงจะสามารถเริ่มคำนวณหา "ฤกษ์" ในการสังเวยชีวิตหญิงสาวเหล่านี้ได้ (จุดนี้แหละครับที่เป็นจุดพลิกผันของเรื่อง) โดยการวางเสาหลักเมืองมีผลให้ดวงเมืองเข้มแข็งมากขึ้น แต่ถ้าใช้ตำราแก้เคล็ดดวงเมืองผลที่ตามมาก็จะทำให้ดวงเมืองเสื่อมความเข้มแข็งลงแล้วไปเพิ่มความเข้มแก่ผู้ปกครองแทนทำให้ผู้ปกครองมีอำนาจเหนือกว่าผู้ใด ถ้าเกิดผู้ปกครองนั้นดีก็ดีไปแต่ถ้าเลวก็จบกัน ซึ่งถ้าเป็นไปได้อย่าทำเลยจะดีกว่าครับเพราะต้องฆ่าคนบริสุทธิ์ถึง4คนแล้วยังต้องอาศัยเหตุการณ์ร้ายแรงที่เกิดขึ้นกับบ้านเมืองก่อนค่อยจะเริ่มพิธีได้แถมเมื่อประกอบพิธีเสร็จก็จะเกิดเหตุการณ์ร้ายแรงชนิดที่คร่าชีวิตคนนับหมื่นไปอีก มันไม่คุ้มและไม่ถูกต้องเอาซะเลยนะครับ                                 

ยิ่งอ่านยิ่งสนุกกับการศาสตร์การทายทักทำนายดวงครับ ได้รู้จักว่าโหราศาสตร์นี้มีความเป็นวิทยาศาสตร์มากกว่าที่คิดครับสอดคล้องกับหลักคณิตศาสตร์อีก ยิ่งอ่านยิ่งรู้สึกว่าศาสตร์นี้ซับซ้อนมากครับคนที่เป็นพวกหมอดูได้ เนี่ยน่าจะเก่งจริงๆนะครับ ซึ่งต่อให้ไม่ได้ทำอาชีพหมอดูก็สามารถใช้ศาสตร์นี้ในการทำอาชีพอื่นหรือการใช้ชีวิตประจำได้ด้วย เพราะมันช่วยทำให้เรารู้จักลักษณะนิสัย,รู้ถึงวิธีรับมือและการเข้าหาบุคคลทั่วไปๆเพียงแต่ต้องรู้จักรายละเอียดข้อมูลส่วนบุคคล มันจะเหมาะเกี่ยวกับการคุยการทำธุรกิจต่างๆหรืออาจรวมไปถึงการจีบสาวได้ด้วย 555 แอบชอบตรงนึงที่สมัยพระเอกยังวัยรุ่นดันทะลึ่งคำนวณหาฤกษ์เวลาที่ผู้หญิงเขาพร้อมจะ.... นั้นแหละครับ เอาซะผมอยากเรียนรู้ศาสตร์เหล่านี้จริงๆว่าจะทำได้จริงรึป่าว 5555

จุดเด่น

การผูกเรื่องของคุณวรรณวรรธน์นี่แจ๋วมากครับ การบรรยายถึงเรื่องราวต่างๆเกี่ยวกับเรื่องราวโหราศาสตร์ก็ถึงให้เรารู้สึกเพลิดเพลินได้ไม่ยากครับ อาจจะเข้าใจบ้างไม่เข้าใจบ้างแต่ก็พอรู้เรื่อง การเล่าเรื่องของตำราแก้เคล็ดดวงเมือง ของในแต่ละช่วงในแต่ละตอนก็ทำให้ผมขนลุกและสนใจกับตำรานี้เอามากๆครับ เอาง่ายๆเลยคือเมื่อไหร่ที่จะมีการพูดถึงตำราแก้เคล็ดดวงเมืองผมจะสนุกและตื่นเต้นแทบทุกครั้งเหมือนเราได้เบาะแสคดีในเรื่องนี้ด้วย ซึ่งการใช้เรื่องตำนานการฝังเสาหลักมาจินตนาการต่อยอดเป็นตำราแก้เคล็ดเมืองดูสมเหตุสมผลมากครับ ตัวละครต่างๆก็ล้วนมีคาแรกเตอร์ที่น่าสนใจบททาทในแต่ละตัวก็พอดิบพอดี ถ้าถามว่าเยอะสุดก็คงไม่พ้น มหากะทิงหมอดูรูปหล่อ,สุขุม,สุภาพบุรุษพระเอกของเรื่อง และ นางเอกอย่างรันหณ์สาวน้อยร่างบางคนสวย ซึ่งทั้งสองเป็นหัวใจหลักของเรื่องครับ เพราะพระเอกก็คือผู้ที่รู้เรื่องตำราเล่มนั้นดีที่สุดคนนึงและนางเอกก็คือหนึ่งในเหยื่อผู้ถูกเลือกในการสังเวย..!!  โดยมีเหล่าตัวสมทบสุดสำคัญอย่าง สารวัตรศรีล พี่ชายจอมบ้าดีเดือดของนางเอกผู้ติดตามคดีสะเทือนขวัญนี้อย่างไม่ลดละ และ อุทธิ หมอดูตัวร้ายจอมทะเยอะทะยานผู้ประกอบพิธีชั่วนี้เพื่อจะได้เหนือกว่าหมอดูทั้งหลาย สร้างความลุ้นระทึกให้กับเรื่องราวได้เป็นอย่างดี

ปมตัวละครของอุทธิก็ดีครับ สมเหตุสมผล มีที่มาที่ไปดี และด้วยอาชีพที่เขาทำก็ยิ่งสะดวกต่อการตามหาผู้ที่เหมาะแก่การสังเวย จุดนี้ผมชอบที่คนเขียนแกฉลาดดีที่เลือกอาชีพให้ตัวร้ายสะดวกในการ "ทำงาน"

การสร้างเหตุการณ์หายนะต่างๆในเรื่องก็ทำให้ดูวุ่นวายดีครับ สเกลใหญ่เอามากๆอย่าง รถไฟใต้ดินชนกัน งี้เป็นต้น อ่านไปอ่านมารู้สึกว่าเรื่องมันใหญ่ใช่เล่นรู้สึกว่าถ้าพวกมันทำสำเร็จจริงบ้านเมืองเราวุ่นวายอย่างหนักแน่ครับ มีประเด็นถึงเรื่องการเมืองด้วยเพราะจุดมุ่งหมายของพวกมันคือได้ปกครองบ้านเมืองอย่างสมบูรณ์ องค์กรของวายร้ายนี่เจ๋งใช่ได้เลยนะมีเส้นสายและก็คนระดับบิ๊กๆเข้าร่วมอยู่ด้วยทั้งนักการเมือง,นักธุรกิจ,หมอ,นายตำรวจผู้ใหญ่เยอะแยะไปหมดพาลให้ผมนึกถึงพวกองค์กรลัทธิแบบ อิลลูมินาติ (Illuminati) เลย จุดนี้อย่างชอบเลยเพราะดูลึกลับดี

จุดขัดใจ

พาร์ทของพระนางเรื่องนี้ดูรักกันง่ายไปครับ แม้ว่าเรื่องจะกำหนดไว้แล้วว่าทั้งสองคนเป็นเนื้อคู่กันแต่ไม่จำเป็นต้องให้ทั้งคู่รู้สึกชอบพอกันเร็วขนาดนั้น ตลอดทั้งเรื่องของคู่นี้บทมันจะออกแนวสวีทกันแบบคู่รักหนุ่มสาวตลอดเวลา สู้ให้มีสถานการณ์ในเรื่องพาให้ทั้งคู่เรียนรู้และรักกันยังจะโรแมนติกกว่า (คู่รองอย่างศรีลและชิงดวงแม้ว่าจะรักกันเร็วเหมือนกันแต่ก็ดูมีอะไรที่น่าติดตามอยู่บ้าง อาจจะบทน้อยไปหน่อยก็เถอะ) และด้วยความที่นักเขียนแกเทน้ำหนักให้กับเรื่องราวความสัมพันธ์ของคู่นี้มากไปหน่อยในบางช่วงทำให้เราอาจเลี่ยนได้ง่าย นางเอกก็เพ้อเหลือเกินว่าพระเอกเรามีดวงตาดึงดูดแบบนั้นแบบนี้ พระเอกก็มีเสห่น์มากดีแบบนั้นแบบนี้รักกันมากจริงๆ หมั่นไส้ 5555 และด้วยความที่นักเขียนแกเป็นผู้หญิงก็อาจจะเขียนเข้าข้างฝั่งนางเอกอยู่บ้าง ซึ่งจากที่ว่าข้างต้นความสนุกในการสืบสวนคดีมันเลยยังไม่เร้าใจเท่าที่ควรเพราะพระเอกเราเอาแต่จีบนางเอกอยู่ เรื่องการสืบสวนเลยเทไปฝั่งที่สารวัตรศรีลเสียมากกว่าในช่วงแรกๆ เรื่องนี้เลยมีสัดส่วนระหว่างความรัก40%การสืบสวน60% (อาจจะเพราะเพิ่งเคยอ่านหนังสือในมุมมองของคุณผู้หญิงเขียน แมนๆอย่างผมอาจpy'ไม่ชิน อิอิ)

เสียดายที่ว่าน่าจะเล่นและขยี้ปมสืบสวนให้มากกว่านี้เพราะเอาเข้าจริงๆคุณวรรณวรรธน์เขียนพาร์ทสืบสวนได้ยอดอยู่แต่เทไปเทน้ำหนักให้ความรักพระเอกมากไป ซึ่งในช่วงก่อนจะถึงไคลแม็กซ์ดันเกิดมีฉากดราม่าของคู่พระนางซะงั้นแม้ว่าฉากนั้นอาจจะนำไปสู่จุดพลิกผันของเรื่องอีกจุดนึงก็เถอะ แต่เปลี่ยนเป็นการสืบสวนค่อยๆแกะปมแบบนี้ลากยาวไปถึงไคลแม็กซ์แม่มคงจะมันส์ไม่ใช่น้อยนะครับ ชนิดวางหนังสือไม่ลง 5555

จัดเป็นนิยายที่เหมือนจะหนักไปทางสืบสวนสอบสวนแต่ก็มีครบทุกรสชาติและก็มีแอบเหน็บแนมคนกรุงเทพฯอย่างแสบๆคันๆบ้าง หวังเป็นอย่างยิ่งว่าละครที่รอคิวออนในวันจันทร์นี้จะออกมาดีนะครับ แต่ส่วนตัวมั่นใจว่าดีแน่นอนเพราะทีมผู้สร้างและนักแสดงก็จัดจ้านพอตัว

เรื่องราวเกี่ยวโหราศาสตร์และการทำนายนั้นบางทีไม่ได้บ่งบอกว่าเรื่องนั้นจะเกิดขึ้นตรงๆถ้าหากจะเกิดได้ก็น่าจะเพราะเราทำบางอย่างที่มีมูลก่อให้เกิดสิ่งนั้นมากกว่า เช่นเมื่อมีคนทำนายว่าเราจะเปียก ถ้าเราไม่ไปตากฝนเราก็ไม่เปียกจริงมั๊ยล่ะครับ อิอิ