คอลัมน์ “สกอร์บอร์ด” โดย “แมวดำ”
การมาของ อากิระ นิชิโนะ ในฐานะหัวหน้าผู้ฝึกสอนฟุตบอลทีมชาติไทย ทำเอาแฟนบอลหลายคนเคลิบเคลิ้ม เนื่องจากถือเป็นกุนซือที่มีดีกรี และก็ขึ้นชื่อเรื่องระเบียบวินัย พูดง่ายๆ ว่า เลเวลค่อนข้างสูง สำหรับวงการฟุตบอลบ้านเรา แต่ไม่ทันไร พอประกาศตัว 33 ผู้เล่น (ก่อนตัดเหลือ 23 คน หลังอุ่นเครื่องแบบปิด) กุนซือชาวญี่ปุ่นก็โดนถล่มแหลกทันที
โดยประเด็นที่โดนอัดมีอยู่หลายประเด็น เริ่มแรกคือการเลือกกองหน้า มาแค่ 2 คน แถมดันเป็นคนที่ยิงประตูได้น้อยในลีกแค่จุ๋มจิ๋มคนละดอก 2 ดอกเท่านั้น ขณะที่คนที่ยิงได้เยอะๆ 7-8 ประตูก็ดันตกสำรวจไปซะงั้น
จากนั้นยังมีผู้เล่นหลายคนที่ดูแล้วไม่ค่อยต่างจากเดิมมากนัก ซึ่งเรื่องนี้ก็มีคนวิจารณ์ถึงทีมงานสตาฟฟ์โค้ชของ นิชิโนะ ว่าก็ได้คนเดิมๆ มาทำงาน การเลือกตัวก็เลยได้ตัวไม่ต่างจากเดิม แถมผู้เล่นบางคนยังถูกเพ่งเล็งเรื่องพฤติกรรมทั้งในและนอกสนาม แต่ก็ยังมีชื่อมาร่วมทีมาชาติอีก
ส่วนตัวผมเองว่ามันก็นานาจิตตัง เหมือนตัวเรา ทำอะไรสักอย่าง หรือบางทีไม่ได้ทำอะไรเลย นั่งทำงานเงียบๆ คนเดียวอยู่เฉยๆ ก็ยังมีทั้งคนชอบ และคนไม่ชอบเลย นับประสาอะไรกับการเลือกตัวผู้เล่น "ช้างศึก" รอบนี้ก็เช่นกัน ไอ้เรื่องจะหวังว่า นิชิโนะ ไปดูฟอร์มแต่ละสนามแล้วจะเอาให้โฉมหน้าทีมชาติเราแตกต่างไปจากเดิมมันคงยากแหละ เพราะเขามีเวลาน้อย ขนาดว่าทีมงานของทีมชาติชุดใหญ่ ผมยังสงสัยเลยว่าเขาได้ตัวกันครบรึยัง? แล้วก็ไม่ต้องไปถามเลยว่า ชุด ยู 23 ที่ตั้งความหวังจะคว้าตั๋วไปโอลิมปิก 2020 ที่ประเทศบ้านเกิดเฮดโค้ชนั้นได้ทีมงานสักคนรึยัง (ฮา)
เรื่องที่ว่ากองหน้าเรียกมาน้อยจัง ก็น่าจะเข้าใจได้ว่าตลอดการทำทีมที่ผ่านมา นิชิโนะ จะใช้แท็คติก 4-2-3-1 โดยเน้นเพรสซิ่งคู่ต่อสู้ตั้งแต่แดนบน ซึ่งระบบนี้ถูกนำมาใช้กับทีมชาติญี่ปุ่น ในศึกฟุตบอลโลก 2018 จนสามารถผ่านเข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้ายได้
ที่สำคัญ 6 ประตูที่ทำได้ ครึ่งหนึ่งมาจากผู้เล่นในตำแหน่งกองกลาง ซึ่งจะว่าไปก็น่าจะเข้าทางกับทีมชาติไทย ชุดปัจจุบัน ที่หากองหน้าระดับดาวซัลโวในลีกบ้านเราไม่ได้แล้ว จนต้องมีโครงการพัฒนาศูนย์หน้าที่มี ปิยะพงษ์ ผิวอ่อน หัวหอกในตำนานร่างแผนมาเสนอสมาคมฟุตบอลฯ งานนี้เห็นได้ชัดว่ากุนซือชาวญี่ปุ่นมีการเรียกผู้เล่นจอมเท็คนิคมาร่วมทีมมากเป็นพิเศษ
ซึ่งคนที่ไม่ใช่กองหน้า แต่ต้องทำแทนกันได้ที่ นิชิโนะ เรียกมา ประกอบด้วย ชนาธิป สรงกระสินธ์ ที่ยิงให้ คอนซาโดเล่ ซัปโปโร ในเจลีก ปีนี้ไป 4 ประตู, เอกนิษฐ์ ปัญญา ที่ยิงให้ สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด 8 ประตู รวมถึง สุภโชค สารชาติ, บดินทร์ ผาลา, พิชา อุทรา ที่ต่างโชว์ฟอร์มได้ดีกับต้นสังกัด
เสียดายอยู่นิดนึงที่ นิชิโนะ มีเวลาเตรียมทีมน้อยไปมาก ก่อนการแข่งขันฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก นัดแรกกับ เวียดนาม ในวันที่ 5 กันยายนนี้ กลัวใจจริงๆ ครับ ผู้เล่นกับโค้ชยังไม่ทันจะได้เรียนรู้อะไรกันเลย ต้องมาเจอกับทีม "ดาวทอง" ที่รวมตัวกันมาหลายปี เล่นเข้าขารู้ใจกันทั้งทีม รวมทั้งยังมีโค้ชใจโคตรถึงอย่าง ปาร์ค ฮัง ซอ ที่เก่งในเรื่องการกระตุ้นทีมอีก หากว่าประเดิมกันไม่สวยหรือแพ้ยับคาบ้านขึ้นมา ยอดโค้ชชาวญี่ปุ่นจะรับมือกับความกดดันที่ถาโถมอย่างไร ดีไม่ดีตัดใจลาออกรับผิดชอบผลงานไปอีกจะเศร้าเอา ก็ได้แต่หวังว่า นิชิโนะ จะเริ่มต้นได้ดี เพราะมันไม่มีช่วงเวลาฮันนีมูนจริงๆ
https://mgronline.com/sport/detail/9620000080552
ไม่มีฮันนีมูนสำหรับ "นิชิโนะ" / แมวดำ เผยแพร่: 23 ส.ค. 2562 12:37 โดย: ผู้จัดการออนไลน์
การมาของ อากิระ นิชิโนะ ในฐานะหัวหน้าผู้ฝึกสอนฟุตบอลทีมชาติไทย ทำเอาแฟนบอลหลายคนเคลิบเคลิ้ม เนื่องจากถือเป็นกุนซือที่มีดีกรี และก็ขึ้นชื่อเรื่องระเบียบวินัย พูดง่ายๆ ว่า เลเวลค่อนข้างสูง สำหรับวงการฟุตบอลบ้านเรา แต่ไม่ทันไร พอประกาศตัว 33 ผู้เล่น (ก่อนตัดเหลือ 23 คน หลังอุ่นเครื่องแบบปิด) กุนซือชาวญี่ปุ่นก็โดนถล่มแหลกทันที
โดยประเด็นที่โดนอัดมีอยู่หลายประเด็น เริ่มแรกคือการเลือกกองหน้า มาแค่ 2 คน แถมดันเป็นคนที่ยิงประตูได้น้อยในลีกแค่จุ๋มจิ๋มคนละดอก 2 ดอกเท่านั้น ขณะที่คนที่ยิงได้เยอะๆ 7-8 ประตูก็ดันตกสำรวจไปซะงั้น
จากนั้นยังมีผู้เล่นหลายคนที่ดูแล้วไม่ค่อยต่างจากเดิมมากนัก ซึ่งเรื่องนี้ก็มีคนวิจารณ์ถึงทีมงานสตาฟฟ์โค้ชของ นิชิโนะ ว่าก็ได้คนเดิมๆ มาทำงาน การเลือกตัวก็เลยได้ตัวไม่ต่างจากเดิม แถมผู้เล่นบางคนยังถูกเพ่งเล็งเรื่องพฤติกรรมทั้งในและนอกสนาม แต่ก็ยังมีชื่อมาร่วมทีมาชาติอีก
ส่วนตัวผมเองว่ามันก็นานาจิตตัง เหมือนตัวเรา ทำอะไรสักอย่าง หรือบางทีไม่ได้ทำอะไรเลย นั่งทำงานเงียบๆ คนเดียวอยู่เฉยๆ ก็ยังมีทั้งคนชอบ และคนไม่ชอบเลย นับประสาอะไรกับการเลือกตัวผู้เล่น "ช้างศึก" รอบนี้ก็เช่นกัน ไอ้เรื่องจะหวังว่า นิชิโนะ ไปดูฟอร์มแต่ละสนามแล้วจะเอาให้โฉมหน้าทีมชาติเราแตกต่างไปจากเดิมมันคงยากแหละ เพราะเขามีเวลาน้อย ขนาดว่าทีมงานของทีมชาติชุดใหญ่ ผมยังสงสัยเลยว่าเขาได้ตัวกันครบรึยัง? แล้วก็ไม่ต้องไปถามเลยว่า ชุด ยู 23 ที่ตั้งความหวังจะคว้าตั๋วไปโอลิมปิก 2020 ที่ประเทศบ้านเกิดเฮดโค้ชนั้นได้ทีมงานสักคนรึยัง (ฮา)
เรื่องที่ว่ากองหน้าเรียกมาน้อยจัง ก็น่าจะเข้าใจได้ว่าตลอดการทำทีมที่ผ่านมา นิชิโนะ จะใช้แท็คติก 4-2-3-1 โดยเน้นเพรสซิ่งคู่ต่อสู้ตั้งแต่แดนบน ซึ่งระบบนี้ถูกนำมาใช้กับทีมชาติญี่ปุ่น ในศึกฟุตบอลโลก 2018 จนสามารถผ่านเข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้ายได้
ที่สำคัญ 6 ประตูที่ทำได้ ครึ่งหนึ่งมาจากผู้เล่นในตำแหน่งกองกลาง ซึ่งจะว่าไปก็น่าจะเข้าทางกับทีมชาติไทย ชุดปัจจุบัน ที่หากองหน้าระดับดาวซัลโวในลีกบ้านเราไม่ได้แล้ว จนต้องมีโครงการพัฒนาศูนย์หน้าที่มี ปิยะพงษ์ ผิวอ่อน หัวหอกในตำนานร่างแผนมาเสนอสมาคมฟุตบอลฯ งานนี้เห็นได้ชัดว่ากุนซือชาวญี่ปุ่นมีการเรียกผู้เล่นจอมเท็คนิคมาร่วมทีมมากเป็นพิเศษ
ซึ่งคนที่ไม่ใช่กองหน้า แต่ต้องทำแทนกันได้ที่ นิชิโนะ เรียกมา ประกอบด้วย ชนาธิป สรงกระสินธ์ ที่ยิงให้ คอนซาโดเล่ ซัปโปโร ในเจลีก ปีนี้ไป 4 ประตู, เอกนิษฐ์ ปัญญา ที่ยิงให้ สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด 8 ประตู รวมถึง สุภโชค สารชาติ, บดินทร์ ผาลา, พิชา อุทรา ที่ต่างโชว์ฟอร์มได้ดีกับต้นสังกัด
เสียดายอยู่นิดนึงที่ นิชิโนะ มีเวลาเตรียมทีมน้อยไปมาก ก่อนการแข่งขันฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก นัดแรกกับ เวียดนาม ในวันที่ 5 กันยายนนี้ กลัวใจจริงๆ ครับ ผู้เล่นกับโค้ชยังไม่ทันจะได้เรียนรู้อะไรกันเลย ต้องมาเจอกับทีม "ดาวทอง" ที่รวมตัวกันมาหลายปี เล่นเข้าขารู้ใจกันทั้งทีม รวมทั้งยังมีโค้ชใจโคตรถึงอย่าง ปาร์ค ฮัง ซอ ที่เก่งในเรื่องการกระตุ้นทีมอีก หากว่าประเดิมกันไม่สวยหรือแพ้ยับคาบ้านขึ้นมา ยอดโค้ชชาวญี่ปุ่นจะรับมือกับความกดดันที่ถาโถมอย่างไร ดีไม่ดีตัดใจลาออกรับผิดชอบผลงานไปอีกจะเศร้าเอา ก็ได้แต่หวังว่า นิชิโนะ จะเริ่มต้นได้ดี เพราะมันไม่มีช่วงเวลาฮันนีมูนจริงๆ
https://mgronline.com/sport/detail/9620000080552