[CR] Summer Sonic Osaka 2019 ฉบับรีบรีวิว


เนื่องจากก่อนไปทริปนี้ผมหาข้อมูลของ Summer

Sonic Osaka ไม่ค่อยได้

เมื่อได้กลับมาจึงอยากมาเขียนรีวิวเผื่อเพื่อนๆ จะเก็บไว้เป็นข้อมูลครับ

หัวข้อที่ 1. การจองบัตรเข้างาน Summer Sonic
ครั้งที่ผมเลือกจองกับ Ticketmelon เพราะเมื่อเทียบกับการจองตรงกับเวปไซท์ มีค่าธรรมเนียม10% (ประมาณ 400 บาท / วัน / คน) แต่จองกับ Ticketmelon มีค่าธรรมเนียมประมาณ 100 บาท / วัน / คน

หัวข้อที่ 2. การจองที่พัก
ผมว่าจองใกล้กับสถานีใหญ่ๆ เช่น Namba, Osaka หรือ Tennoji ก็มีรถบัสจากงานมาส่งถึง
แต่ถ้ากลับด้วยรถไฟ พักสถานีไหนก็มีค่าเท่ากัน เลือกได้ตามสะดวกเลยครับไม่จำเป็นต้องพักแถวๆสถานที่จัดงาน เพราะมันก็ลำบากในการเดินทางจากสถานที่จัดงาน ไปสถานีรถไฟที่ใกล้ที่สุดอยู่ดี

หัวข้อที่ 3. การแต่งตัวไปงาน
ภายในงานแดดแรงมากควรแต่งตัวให้เข้ากับสภาพภูมิอากาศซึ่งเป็นช่วงหน้าร้อน โดยแดดจะแรงตั้งแต่ประมาณ 8 โมงเช้า จนถึงประมาณเกือบ 5 โมงเย็น ถ้าวงที่เราอยากดูไม่ได้เล่นในเวทีอินดอร์ Sonic Stage ผมแนะนำให้แต่งตัวให้มิดชิด เสื้อแขนยาว, กางเกงขายาว, หมวก, ผ้าขนหนู หรือ ผ้าเช็ดตัว รวมถึงครีมกันแดด และเตรียมน้ำดื่มให้เพียงพอ

หัวข้อที่ 4. การเดินทางไปสถานที่จัดงาน
งาน Summer Sonic Osaka นั้นจัดขึ้นที่ Maishima Sonic Park วิธีเดินทางไปก็แสนง่าย โดยนั่งรถไฟ JR Yumesaki Line มาลงสุดสายที่สถานี Sakurajima (เลยสถานี Universal City มา 2 สถานี)
เมื่อออกจากสถานีมา ให้เลี้ยวซ้ายและข้ามถนนมา เดินไปประมาณ 20 เมตร จะมีป้ายรถเมล์สาย Maishima ให้เราต่อแถวเพื่อขึ้นรถเมล์ไปลงหน้างานได้เลย ค่ารถคนละ 210 เยน (เห็นคนแถวยาวไม่ต้องตกใจเพราะรถบัสคันนึงขนคนไปได้เกือบหมดแถว)


** เดินเลยป้ายรถเมล์ไปนิดนึง มีเซเว่น และ ลอว์สันเผื่อใครจะเตรียมสเบียงไว้ก่อนเข้างาน

หัวข้อที่ 5. การแลกริสแบนด์เพื่อเข้างาน
อย่างที่ให้ข้อมูลไว้ด้านบนว่า ผมจองบัตรเข้างานมากับ Ticketmelon ก่อนวันงานได้มีอีเมล์แจ้งมาว่าให้ไปแลกริสแบนด์ที่บูธ Will – Call Tickets ซึ่งอยู่บริเวณหน้า Sonic Stage (เป็นสนามบาสของทีม Osaka Evessa) โดยต้องนำเอาพาสปอร์ตของผู้ที่จองไปด้วย
ข้อดีของการมารับริสแบนด์ที่บูธนี้คือ เราไม่ต้องไปต่อคิวร่วมกับมวลมหาประชาชนชาวญี่ปุ่น ซึ่งวันที่ผมไปถึงงานประมาณ 8 โมงกว่า มีคนเข้าคิวเพื่อแรกริสแบนด์ยาวเหยียดมาถึงหน้างานแล้ว


เราสามารถเอาเวลาไปต่อแถวเพื่อซื้อเสื้อหรือของที่ระลึกเกี่ยวกับวงดนตรี หรือ งาน Summer Sonic ดีกว่า (ของที่ระลึกเปิดขาย 11.00 น.)

หัวข้อที่ 6. Official Goods
Official Goods หรือของที่ระลึกในงาน เนื่องจากในวันแรก ช่วงเช้ายังไม่มีวงไหนที่ผมอยากดู เลยลองไปต่อแถวเพื่อซื้อเสื้อวงดนตรี และของที่ระลึก เลยยอมไปต่อคิวตั้งแต่ยังไม่เริ่มเปิดขาย ทำให้พบว่า ถ้าคุณต้องการอยากได้ของที่ระลึกเกี่ยวกับวงที่คุณชอบจริงๆ คุณควรมาต่อคิวซื้อตั้งแต่วันแรก เพราะไม่เช่นนั้น บางลาย หรือ บางไซส์ อาจจะหมดไปแล้ว เมื่อเราเข้าไปในบริเวณที่ขายของแล้ว ยังต้องต่อคิวเพื่อซื้อของแต่ละวงที่เราต้องการอีก โดยวันแรกแถวที่ยาวที่สุดคือ Baby Metal,  ของที่ระลึกของงาน, RHCP, BMTH

ซึ่งเมื่องานวันที่ 3 ผมลองมาเดินดูของเล่นๆ ก็พบว่าของทุกอย่างหมดเกลี้ยงแทบ 100% โดยจะเหลือพวกวงอินดี้ ยังพอมีให้เห็นอยู่

หัวข้อที่ 7. การเดินทางกลับ
ข้อนี้ผมไม่ได้ทำการบ้านเลย โดยคิดแค่ว่าเรามาได้ก็คงกลับเองได้
แต่ๆๆๆๆ เมื่อเราดูคอนเสิร์ตวงเฮดไลน์จบ (วันแรกของผมคือ RHCP) มวลมหาประชาชนชาวญี่ปุ่นก็กลับบ้านพร้อมกันกับเรา
เมื่อคนหลายหมื่นคนเดินทางกลับบ้านพร้อมๆกัน การเดินทางเลยเริ่มมีปัญหา
ซึ่งเมื่อบวกกับการที่ผมไม่ได้ทำการบ้านมา 
เลยไม่ได้จองตั๋วรถชัตเติ้ลบัสไว้, แถวรอรถเมล์ และรถแท๊กซี่ก็ยาวเหยียด
เวลาก็เริ่มดึกขึ้น รถไฟก็จะหยุดวิ่งแล้ว ผมเลยตัดสินใจเดินจากงาน มาสถานี Sakurajima ซึ่งเป็นสถานีที่เรามาเมื่อเช้า โดยระยะทางจากงาน มาที่สถานีห่างกันประมาณ 4 กิโลเมตร ซึ่งถ้าเป็นปกติ 4 กิโลเมตรสำหรับผมเดินสบายมาก (ปกติผมวิ่งครั้งละ 10 กิโลเมตร) แต่วันนี้ผมเที่ยวมาก่อนหน้านี้ประมาณ 3 วัน, ตะลุยงานคอนเสิร์ตกลางแจ้งมาตั้งแต่เช้า เมื่อต้องมาเดินขึ้นสะพานข้ามทะเลกลับไปเกาะหลัก เลยทำให้เป็น 4 กิโลเมตรที่ยาวนานมาก ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง โดยมีเพื่อนร่วมทางเดินมาด้วยกันเป็นร้อยคน

แต่งานวันที่ 2 ผมเรียนรู้จากความผิดพลาด โดยการไปหาซื้อตั๋วชัตเติ้ลบัสที่บูธ Will – Call Tickets ที่ซึ่งเราไปแลกริสแบนด์เข้างาน ที่บูธนี้ก็มีขายตั๋วชัตเติ้ลบัสไปส่งที่สถานีรถไฟใหญ่ๆ เช่น เช่น Namba, Osaka โดยผมพักแถวสถานี Tennoji มีรถรอบสุดท้าย 21.30 น. ค่ารถคนละ 1,700 เยน แต่วันนี้ผมอยากดูวงสุดท้ายเล่นือ Two Door Cinema Club ซึ่งกว่าจะเลิกก็ปาไป 3 ทุ่มกว่า ไม่สามารถเดินจากเวทีมาท่ารถบัสได้ทัน เจ้าหน้าที่เลยแนะนำให้ไปจองกับบูธ JTB ซึ่งอยุ่ข้างๆ คือหลังจากนี้รถชัตเติ้ลบัสทุกคัน จะไปส่งที่สถานที่เดียวกัน คือ สถานี Cosmosquare รถไฟใต้ดินสาย Osaka Metro Chuo Line ซึ่งรถรอบสุดท้ายคือ 23.00 น. ค่าโดยสารคนละ 600 เยน อย่าชะล่าใจนะครับ เพราะเมื่อวงสุดท้ายเลิกคุณจะต้องพบกับมวลมหาประชาชนชาวญี่ปุ่นซึ่งระยะทางจากงาน กับที่ขึ้นรถก็ต้องเดินประมาณ 30 นาที เข้าคิวรอขึ้นรถบัสอีกเกิน 30 นาที เพราะฉะนั้นเผื่อเวลาไว้ด้วยนะครับ ตอนที่ผมเข้าคิว จะมีท่ารถหมายเลข 1 ถึง 3 เราขึ้นคันไหนก้ได้ เพราะทุกคันไปส่งที่สถานี Cosmosquare ทุกคันครับ

สถานที่ขึ้นรถบริเวณงาน

สถานี Cosmosquare รถไฟใต้ดินสาย Osaka Metro Chuo Line

ก็หวังว่าข้อมูลที่ผมนำมาบอกเล่าจะมีประโยชน์กับผู้ที่อยากจะไปสัมผัสกับ Summer Sonic Osaka ในปีถัดๆไปนะครับ ถ้ามีข้อมุลตรงไหนไม่ถูกต้องเพื่อนๆช่วยกันแก้ไขได้เลยครับ

ปล. ได้ยินจากพี่คนไทยที่ไปทำงานใน Summer Sonic Osaka มาว่า ปีหน้าอาจจะรีแบรนด์ ยังไงก็หวังว่าจะรักษามาตรฐานอันดีเยี่ยมแบบนี้ไว้นะครับ
ชื่อสินค้า:   Summer Sonic Osaka
คะแนน:     

CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่