เที่ยวสิงคโปร์ แบบโนวอรี่(No worry) 4 วัน 3 คืน เดิน ชม กิน เที่ยว 2019😅

สวัสดีค่ะ กลับมาอีกครั้ง กับการแชร์ประสบการณ์การท่องเที่ยวในต่างประเทศของตัวเอง ในครั้งนี้จะเป็นประสบการณ์ในสิงคโปร์ เพื่อนบ้านเรานั่นเองนะคะ ซึ่งครั้งนี้มีเวลาแค่ 3 คืน 4 วันเอง(แอบอยากอยู่นานกว่านั่น😅) ไม่ได้วางแผนอะไรมากมาย ตั้งใจไปแบบทำอะไรได้ก็ทำ ไม่คาดหวัง เที่ยวได้เท่าที่ไหว ไม่จำเป็นต้องไปให้ครบทุกที่ตามหลายๆรีวิว เพราะคิดว่าจะทำให้เกิดความกังวล(worry) แล้วจะทำให้รู้สึกว่าไม่สนุก เหนื่อย และอาจเกิดความผิดหวังถ้าทำไม่ได้
-ทริปนี้ ได้ตั๋วเครื่องบินไปกลับของ jetstar ในราคาไปกลับ 3927 บาท เดินทาง 29 มิถุนายน - 2 กรกฎาคม 2562
-แลกเงินที่สนามบินสุวรรณภูมิ ตรงทางไปรถไฟแอร์พอตลิงก์ เรท ณ วันที่แลก 22.80 บาท ต่อ 1 ดอลล่า สิงคโปร์
-ซิมการ์ด ใช้การสั่งซื้อออนไลน์และรับที่สนามบิน หรือสามารถซื้อได้ที่สนามบินเลยมีหลายบู้ทให้บริการ โดยทริปนี้ใช้ซิม M1 ค่ะ เน็ตเร็วใช้ได้ 
-บัตรโดยสารรถไฟฟ้า สามารถซื้อที่สนามบินได้เลยค่ะ โดยเราสามารถเติมเงินเข้าไว้ในบัตรได้ ถ้ากลับเงินเหลือสามารถขอคืนได้เต็มจำนวนค่ะ
-ที่พัก เราจองผ่านเว็บ booking สำหรับสามคืน ที่พักจะอยู่แถว Hongkong street ซึ่งสะดวกต่อการเดินทางและใกล้แหล่งข็อปปิ้งและร้านอาหารมากๆ
-ปลั้กไฟ จะไม่เหมือนบ้านเรานะคะ ต้องเตรียมพร้อม ตัวอย่างตามรูปค่ะDay 1: เริ่มออกเดินทางจากสุวรรณภูมิ 9.25 นาที (ขั้นตอนในสนามบินคงไม่ต้องอธิบายเนอะ แค่ขอร้องให้เผื่อเวลาสำหรับ ตม ด้วยเน้อ) ถึงสิงคโปร์ เวลา 12:50 ตามเวลาท้องถิ่น ปล. เวลาเค้าจะเร็วกว่าเราประมาณ 1 ชม ค่ะ ซึ่งเดินมางจริงๆ ใช้เวลาเดินทาง 2 ชม 25 นาทีค่ะ  ถึงสนามบิน ไม่ต้องกลัวหลงนะคะ เดินตามป้าย Arrival ไปเรื่อยๆจนกระทั่งถึงด่านตรวจคนเข้าเมืองไม่แน่ใจว่าแจกใบกรอกสำหรับเข้าเมืองบนเครื่องหรือเปล่า บังเอิญว่าหลับตลอดการเดินทาง ฮ่าาาาา. แต่ถ้าไม่ได้รับ ตอนลงบันไดเลื่อนตรงด่านตรวจจะอยู่ขวามือ มีตัวอย่างภาษาไทยให้ดูด้วยค่ะ 
พอผ่าน ตม แล้วก็เดินออกมาตามทาง exit ไปเรื่อยๆค่ะ พออออกมาแล้ว จะว้าวกับสนามบินมากค่ะ พืชพรรณ เขียวขจี ร่มรื่นไปหมดค่ะ อยากให้มาเห็นจริงๆ 
แล้วเราก็เดินหาบู้ทสำหรับรับซิมและบัตรโดยสารค่ะ
 
ที่พักเราอยู่ไม่ไกลจาก Clarke Quay Central ด้านหลังก็จะเป็นย่านที่เรียกว่าClarke Quay คือรอบๆก็จะเป็นร้านอาหาร ครึกครื้นมากค่ะ หลังจากเชคอิน
เสร็จก็เดินสำรวจจากClarke Quayปเรื่อยๆ จนถึง Merlion คือเดินไปทะลุกันได้เลยค่ะ เดินตามคลองน้ำไปเรื่อยๆ ระหว่างทางไปค่ะ บรรยากาศจะประมาณนี้ ในวันเดียวกันนั้นน่าจะเป็นวันสำคัญอะไรสักอย่าง แต่เราไม่รู้ค่ะ มีบินโชว์เครื่องบินรบ ยิงปืนใหญ่ ตื่นตาตื่นใจไปอีกค่ะ  
จากนั้นเราก็เดินไปมารอบๆบริเวณเพื่อนรอเวลาค่ำจะได้ดูพลุไฟกันค่ะ
  จากนั้นต่อด้วยชมการแสดงแสงสีเสียงน้ำพุ
ของจริงสวยมากค่ะ ถ่ายด้วยมือถือเลยดูไม่ค่อยคมชัด ชมเสร็จก็เดินย้อนกลับมาทางเดิมเพื่อกลับที่พักค่ะ 

Day 2:  บรรยากาศข้างนอกที่แดดแรงมากๆ😅(เมื่อวานฝนตกฟ้าครึ้ม) วันนี้จุดมุ่งหมายคือที่ the garden by the bay ซึ่งถ้าจำทางไปMerlionได้ ก็คือเดินมาตาม Esplanade Bridge ข้ามสะพาน.Helix Bridge(สะพานม้วนๆ )
ผ่านตึกนี้ไปก็จะเจอค่ะ ค่าเข้าชมในสวน ฟรี! มีหลายโซนเลยค่ะ  แต่ก็จะมีป้ายบอกทุกๆจุด มีความสุขกับสวนนี้มากๆคือ นกเยอะมาก เป็นสถานที่ส่องนกที่ดีเลยค่ะ(ชอบถ่ายรูปนก) กิจกรรมนี้ ค่าใช้จ่าย 8$ ต่อคน กะว่าจะเข้าไปชมในโดมต่อ แต่พอเดินถึงแล้ว รอคิวต่อแถวซื้อบัตรไม่ไหวคิวยาวมาก ในสวนมีร้านอาหาร ร้านขายน้ำ ไม่ต้องกลัวหิวนะคะ จากนั้นเดินกลับมาที่พัก ชาตแบต อาบน้ำ แล้วออกไปสำรวจย่านไชน่าทาวน์ ซึ่งอยู่ห่างออกไปจากที่พักประมาน 5-600 เมตร ดีงามไปอีก เป็นใจกลางที่ครึกครื้นมากค่ะ ห้างก็อาหารเยอะ ที่สำคัญไปแอบติดใจชาไข่มุกในห้างที่ไขน่าทาวน์มาค่ะ อาหารเย็นก็จบลงที่ไชน่าทาวน์ค่ะ อิ่มเปล้ ก็เดินกลับมาที่พัก เปลี่ยนชุด สำหรับHang out คืนนี้กันค่ะ ไปเที่ยวแถว Clarke Quay
คือวันนั้นเป็นวันอาทิย์ พอไปถึงแล้วแบบว่าร้านเหล้า บาร์ ร้านอาหารต่างๆ ส่วนใหญคือแทบไม่มีคนเลย หรือบางร้านคือปิดไปเลย พอถามคนแถวนั้น ได้ความว่า คนจะเที่ยวกันคือ ศุกร์, เสาร์  แล้ววันอาทิตย์เนี่ย ไม่มีคนเที่ยว เพราะทุกคนต้องทำงานวันจันทร์ แล้วเป็นวันจันทร์ที่เริ่มต้นวันแรกของเดือนด้วย ชะนีแห้วไปอีกสิค่ะ  แต่ก็สั่งเบียร์มา 2 แก้วเล็ก เพื่อปลอบใจตัวเอง แนบรูปเพื่อน😂จากนั้นปัดตูดกลับห้องพักผ่อนกันค่ะ ปล. ที่สังเกตุจะไม่เห็นขอทานหรือพวกhomelessเลยค่ะ และสะอาดสะอ้านมากในทางเดินหรือสวนสาธารณะ

Day 3: วันนี้เพื่อนแพลนจะไป universal และ Nangyang Technological University วันนี้ตื่นสายๆ ไม่มีอะไรเร่งรีบ ก็เลือกกเดินไปทานอาหารเช้ากันที่ Song Fa Bak Kut Teh ตรงหัวมุม ตรงข้ามClarke Quay Central ขึ้นชื่อเป็นร้านดาวมิชลิน เลยลองมาชิมดู สรุปคือ อร่อยค่ะ ฟินมาก ราคาก็ไม่ได้สูงเว่อวัง จากนั้นเราก็เรียก Grab Taxi สำหรับไป Universal กันค่ะ  ถึงแล้วววว เข้าฟรี ชมฟรี! เพราะเราไม่นั่งกระเช้าและไม่เล่นเครื่องเล่นกัน😂
       จากนั้น เรียก Grab Taxi เพื่อจะไปยัง Nangyang Technological University ชมตึกเข่ง ตึกนี้แหละค่ะที่เพื่อนอยากเห็นมาก สำหรับเรา ก็ไม่ค่อยมีไรน่าสนใจมาก ใช้เวลาอยู่ที่นี่ 10 นาทีได้มั้ง แล้วก็เรียก Grab อีกรอบ เพื่อกลับเข้าไปในใจกลางเมือง ย่านไชน่าทาวน์นั่นเองBuddha Tooth Relic Temple.  
นี่จะเป็นบรรยากาศบริเวณรอบๆไชน่าทาวน์ ชอบกราฟฟิตี้ที่นี่มากค่ะรูปโซนไชน่าทาวน์เยอะมากค่ะ ส่วนตัวชอบมาก แต่แบ่งมาลงบางส่วน กลัวเยอะไป รำคาญ เปลืองเน็ต😂😬 ชมนี่นี่จนจวนค่ำมืด ก็เดินต่อกลับที่พัก เตรียมตัวออกไปกินข้าว ฟังเพลง ดื่มด่ำคืนสุดท้ายกันค่ะ เราเลือกไปนั่งฟังเพลง ทานข้าวแถว Clarke Quay เพราะใกล้ที่พัก 
ในความรู้สึกส่วนตัวนะคะ การออกมาเที่ยวกลางคืนที่นี่ ทำไมเรารู้สึกปลอดภัย และถนนหนทางก็ค่อนข้างส่องสว่างในทุกๆที่ ทำให้การเดินในตอนกลางคืนดูไม่เปลี่ยว (จะเปลี่ยวก็แค่ใจอ่านะ😆) 

Day 4: ตื่นเช้าเก็บของ เชคเอาท์ เดินไปสถานีรถไฟที่ Clarke Quay Cental ไฟท์บินของเราคือเวลา 10:45 ซึ่งเราออกจากที่พักประมาน 8 โมงเช้า หลังจากเช็คอิน ก็ใช้เวลารอไฟท์บินในการทานอาหารเช้าที่สนามบินค่ะ

จบทริป รวมค่าเครื่อง ค่าที่พัก ค่าเดินทาง ค่าเบียร์ ค่าเครื่องดื่ม ค่าอาหาร(แบบเต็มอิ่ม) ค่าเข้าชมสถานที่ รวมๆแล้ว หมดไปประมาน 12,000 บาท ถ้าหากลบค่าเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ออก น่าจะไม่เกินคนละ 10,000 บาทค่ะ ปล. เราเดินทาง 2 คนค่ะ😇
หากผู้อ่านมีข้อสงสัย มีเรื่องราวแลกเปลี่ยน หรืออยากสอบถามอะไรเพิ่มเติม สามารถถามกันเข้ามาได้นะคะ ไม่กัดและใจดีมากๆค่ะ😘
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่