'7 พรรคฝ่ายค้าน' ยื่นญัตติเสนอตั้ง กมธ.ศึกษาการแก้ไข รธน.'60
https://www.matichon.co.th/politics/news_1637520

เมื่อเวลา 17.15 น.วันที่ 22 สิงหาคม ที่รัฐสภา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตัวแทน 7 พรรคร่วมฝ่ายค้าน อาทิ น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ เลขาธิการพรรคเพื่อไทย (พท.) นายสุทิน คลังแสง ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ (อนค.) และนายสุภดิช อากาศฤกษ์ หัวหน้าพรรคเศรษฐกิจใหม่ (ศม.) ยื่นหนังสือถึงนายศุภชัย โพธิ์สุ รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 2 เพื่อเสนอญัตติให้ตั้งคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญศึกษากระบวนการ และวิธีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ

น.อ.อนุดิษฐ์ กล่าวว่า การเสนอญัตติให้ตั้ง กมธ.วิสามัญศึกษากระบวนการ และวิธีการแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งนี้ เนื่องจากรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2560 มีความผิดพลาด และบกพร่องหลายประการ 7 พรรคร่วมฝ่ายค้านจึงเห็นพ้องกันว่าต้องมีการแก้ไขในหลายมาตรา แต่เนื้อหาในหมวด 1 และหมวด 2 ทาง 7 พรรคร่วมจะไม่แตะต้อง เพราะมีถ้อยคำ และเนื้อหาที่ครบถ้วนสมบูรณ์ดีอยู่แล้ว

ผู้สื่อข่าวถามอีกว่า ได้พูดคุยกับพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ในการแก้ไขรัฐธรรมนูญบ้างหรือไม่ น.อ.อนุดิษฐ์ กล่าวว่า ได้ประสานกับพรรคฝ่ายรัฐบาลแล้ว ส่วนพรรค ปชป.คิดว่าน่าจะเห็นด้วยในการตั้ง กมธ.ดังกล่าวด้วย

นายปิยบุตร กล่าวว่า ตนยื่นญัตติโดยมีสมาชิกรับรอง 219 คน ซึ่งที่มาของการเสนอญัตติดังกล่าว เพราะกระแสจากทุกภาคส่วนของสังคม เรียกร้องให้แก้ไขรัฐธรรมนูญ จึงจำเป็นต้องเอาเสียงสะท้อนเหล่านั้นมาทำงานในสภา โดยเริ่มจากการตั้ง กมธ.ศึกษาฯ ก่อน หวังว่าจะได้รับเสียงสนับสนุนจากพรรคฝ่ายรัฐบาลด้วย เพื่อแสวงหาฉันทามติร่วมกันในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ

นายสุทิน กล่าวว่า ส่วนจะเลื่อนญัตตินี้ขึ้นมาพิจารณาก่อนญัตติอื่นๆ หรือไม่ หากเป็นไปตามกระบวนการ ต้องนำญัตตินี้ไปต่อท้าย แต่หากพรรคฝ่ายรัฐบาลยื่นประกบกัน มองว่าจะสามารถเสนอให้เลื่อนญัตติดังกล่าวขึ้นมาได้ เบื้องต้นทราบว่าพรรครัฐบาลหลายพรรคสนใจที่จะยื่นญัตติประกบในภายหลัง ทั้งนี้ ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ตนอยากจะให้ออกมาเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ แต่เบื้องต้นอยากให้ กมธ.ศึกษาภายใน 45 วันก่อน ซึ่งคิดว่าเป็นระยะเวลาที่เพียงพอ

ผู้สื่อข่าวถามว่า ส.ส.ฝ่ายค้านที่ลงชื่อรับรองญัตติเพียง 219 คน แสดงว่าขาดไปหลายคนใช่หรือไม่ นายสุทิน กล่าวว่า ไม่มีเจตนาขาด แต่อาจเป็นเพราะหลายคนขาดประชุม หรือมาไม่ทันบ้าง รวมถึง ขณะที่เดินเอาเอกสารไปให้เซ็นชื่อ อาจเดินไม่ทั่วถึง ทำให้ขาดไปบ้าง เพราะความจริงเราต้องการแค่ 20 เสียง ก็สามารถเสนอญัตติได้

ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า นายครูมานิตย์ สังข์พุ่ม และนายตี๋ใหญ่ พูนศรีธนากูล ส.ส.สุรินทร์ พรรคเพื่อไทย ได้ร่วมลงชื่อในญัตติดังกล่าวหรือไม่ นายสุทิน กล่าวว่า ลงกันครบ

---

ดับฝันLGBTแพ้โหวตตั้งกมธ.ย้อนหรือ7ล้านเสียงไม่ใช่คน
https://www.dailynews.co.th/politics/727334

สภาดับฝัน "กมธ.หลากหลายทางเพศ" โหวตแพ้ 365 ต่อ 101 ด้าน "ส.ส.อนค." แถลงทั้งน้ำตา พยายามทำดีที่สุดแล้ว ย้อนถามLGBT 7 ล้านเสียง “ไม่ใช่คนหรือ” ยันเดินหน้าสู้ต่อ

เมื่อวันที่ 22 ส.ค. ที่อาคารรัฐสภา เกียกกาย ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่เป็นประธานการประชุม วาระการพิจารณา ร่างข้อบังคับการประชุมสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ... ต่อจากการประชุมเมื่อวันที่ 14 ส.ค. ในข้อ 90 คณะกรรมาธิการ (กมธ.) กำหนดให้มีกมธ.สามัญประจำสภาฯ จำนวน 35 คณะ โดยที่ประชุมมีมติ ไม่เห็นชอบกับการแปรญัตติแก้ไขเพิ่มเติมข้อ 90 วรรคหนึ่ง ให้มีกมธ.ฯ ทั้งหมด 36 คณะ โดยให้เพิ่มกมธ.ผู้มีความหลากหลายทางเพศของ ของน.ส.ณธีภัสร์ กุลเศรษฐสิทธิ์ และนายธัญญ์วาริน สุชะพิสิษฐ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่ ด้วยคะแนน 365 ต่อ 101 และงดออกเสียง 13 ส่งผลให้กมธ.ฯจะมีจำนวน 35 คณะตามเดิม

จากนั้นเวลา 13.50 น. ทาง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่ ทั้งนายธัญญ์วาริน และ นายธัญวัจน์ กมลวงศ์วัฒน์ แถลงข่าวทันที่ โดยนายธัญญ์วาริน กล่าวทั้งน้ำตาว่า ทางกลุ่มได้พยายามที่สุดแล้วที่จะสร้างที่ยืนให้ทุกคนเห็นคุณค่าของคนหลากหลายทางเพศ ที่ผ่านมาเราพยายามไปคุยกับ ส.ส.พรรคอื่นที่เคยหาเสียงไว้ ซึ่งหวังว่าจะได้เสียงมากกว่านี้ แต่ไม่อยากให้ผิดหวังในตัวพวกเรา ขอขอบคุณจากใจ เพราะหน้าที่หลักของตนและเพื่อนสมาชิกเเอลจีบีที คือการสร้างความเข้าใจกับสังคมต่อคนหลากหลายทางเพศในฐานะมนุษย์คนหนึ่ง ที่ถูกโกงความเป็นมนุษย์ตลอดจนฆ่าตัดตอนความฝัน และเป้าหมายหลักคือการจัดตั้งกมธ.ดังกล่าว แม้ผลออกมาจะไม่สำเร็จ แค่นี้ตนก็ดีใจมาก ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่สัมฤทธิ์ผล เป็นการสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของการเมืองไทย และรัฐสภาไทย ทั้งนี้ มีส.ส.พรรคอนาคตใหม่ที่เห็นด้วยจำนวน 70 เสียง และต้องขอบคุณเพื่อนส.ส.พรรคอื่นที่ลงคะแนนให้ด้วย

“เรื่องของคนหลากหลายทางเพศถือเป็นปัญหาปากท้องของประชาชน ขอย้อนถามว่า 7 ล้านคนเหล่านี้ ไม่ใช่คนหรือ ไม่มีสิทธิในการดำเนินชีวิตหรืออย่างไร เชื่อมั่นว่าหากรัฐปลดปล่อยเสรีภาพให้กลุ่มคนเหล่านี้ ในการดำเนินชีวิตและประกอบอาชีพ เศรษฐกิจก็จะดีขึ้นแน่นอน” นายธัญญ์วาริน กล่าว

ด้านนายธัญวัจน์ กล่าวว่า ภารกิจยังไม่หมด ไม่ใช่วันที่สิ้นหวัง แต่ถือเป็นจุดเริ่มต้น โดยหลังจากนี้จะต้องเดินต่อ เราจะเร่งตั้งอนุกรรมาธิการ เพื่อทำงานเกี่ยวกับความหลากหลายทางเพศ และยกร่างกฎหมายสมรส โดยแก้ประมวลกฎหมายเพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1448 ให้การสมรสเท่าเทียมกันทุกเพศไม่ใช่เฉพาะชายหญิง