นายสายสีหน้าเจื่อนเมื่อเห็นสายตาภรรยา จึงรีบคะยั้นคะยอให้นางเล่าต่อ
“น้องก็บอกไปว่า คลองแห่งนี้ไม่ใช่ของใครแต่เป็นของส่วนรวม พวกเขาก็อยู่อย่างนั้นตามธรรมชาติ เราหาได้เลี้ยงดูแต่อย่างใด เขาอยู่ของเขาเอง หากพอใจพวกเขาก็มา แต่ไม่เคยเกเรหรือทำร้ายใครให้เห็นแม้แต่ครั้งเดียว จะมีอยู่บ้างก็เล่นน้ำเสียงดังไปหน่อย หรือชอบโผล่ออกมาแกล้งพวกเรือหางยาวที่ขับแบบคึกคะนองทำเอาน้ำกระแทกตลิ่งแถวบ้านเราทรุดไปหมด”
ภรรยาพูดตรงใจเผงทุกถ้อยคำ ทำให้นายสายต้องหวนประหวัดกลับไปคิดว่าก่อนหน้าที่จะมีเรือหางยาว บ้านย่านนี้ก็สุขสงบดี ปราศจากเสียงแผดก้องของเครื่องยนต์ รวมถึงเชื้อน้ำมันที่เผาไหม้ปลิวไปในอากาศสร้างมลภาวะ
เมื่อก่อนน้ำในคลองก็สะอาดจริง ชนิดล้างชามก๋วยเตี๋ยวได้เลย แต่ในตอนนี้ทุกอย่างกำลังจะเปลี่ยนแปลง
นายสายเริ่มรู้สึกว่าใช้ความคิดมากไป ประจวบกับทำงานมาตั้งแต่เช้า ท้องใส้เริ่มฟ้องร้องจึงขอข้าวสวยร้อนๆราดกับข้าวไปนั่งกิน เพราะว่าต้องการเรี่ยวแรงไว้สำหรับคืนนี้ กะว่ากินอิ่มจะเอนตัวลงนอนเอาแรงสักหน่อย
เรศกินข้าวไปป้อนลูกแมวไป น่าแปลกที่มันกินเผ็ดได้เพราะที่บ้านค่อนข้างทำอาหารรสจัด นายสายตอนแรกก็รู้สึกทะ

ๆที่ลูกชายตนเองกินข้าวจานเดียวกับแมว แต่พอนานๆไปสักพักก็ชิน คิดเสียว่าบุญทำกรรมแต่ง ลูกชายรักสัตว์ของมันอย่างนี้ก็ต้องปล่อยไป
พอกินเสร็จเอาจานไปล้างเก็บนายสายก็เรื่มเคลิ้มๆจะหลับ ล้มตัวลงบนแคร่ไใต้ต้นกระทิน พอหลับตาได้สักพักเสียงตูมตามทางริมคลองก็ดังขึ้นจนนายสายสะดุ้ง จระเข้ตัวใหญ่ผุดโผงมาจากท่าน้ำ เรศลูกชายของตนและแมวน้อยที่คลอเคลียอยู่บนตักมือยังถือชามข้าวอยู่หันไปมอง แต่ไม่ปรากฎความหวาดกลัวหรือตกตะลึงใดๆในตัวลูกชายหรือแมวที่เลี้ยงเลย
แม้กระทั่งนางแพรภรรยาตนเมื่อเห็นตัวกุมภีล์ตัวมหึมาโผล่คลานต้วมเตี้ยมหางส่ายเดินเข้ามาในบริเวณบ้านก็เพียงเหลือบมองแวบเดียวแค่นั้น แล้วหันไปทำอย่างอื่นต่อเหมือนเห็นเป็นเรื่องปกติ
ไม่ใช่ครั้งแรกที่นายสายรับรู้เรื่องเช่นนี่ แต่ชนิดเข้ามาจะๆเห็นกันในระยะที่ไม่ห่างกันเท่าไหร่แบบนี้ นายสายยังไงก็ยังทำใจไม่ได้ นอนตัวเกร็งแอบมองแต่ไม่กล้าขยับตัวลุกขึ้น
จระเข้ร่างยักษ์ตัวนั้นทำท่าจะคลานมาทางม้านั่งที่ลูกชายนายสายนั่งกินข้าวกับแมวตัวน้อย แต่แล้วก็เหมือนมันได้กลิ่นอะไรบางอย่าง ชูหัวอันใหญ่โตขึ้นในอากาศเหมือนดม สำเหนียกสิ่งหนึ่ง แล้วทันใดนั้นมันเบนทิศทางเดินสี่ขาหางลากพื้นไปทางเรือนครัวที่นางแพรยังคงง่วนทำอะไรอยู่
นายสายลุกทะลึ่งขึ้นจากแคร่เกือบจะตะโกนเรียกเมียตัวเองให้ระวังแล้ว ในตอนนั้นทั้งลูกชายและเมียตัวเองต่างก็หันมามองทางนายสายเพราะได้ยินเสียงกระแทกแคร่ แต่ไม่มีใครสนใจสัตว์หนังหนาตัวยาวที่กำลังขยับตัวไปใกล้ราวกับว่าไม่สัมผัสถึงอันตรายที่กำลังคืบคลานไปหาเลย
แต่ปรากฏว่า เจ้าตัวปากแหลมใหญ่โตนั้น เดินเข้าไปในเพิงครัวแล้วยื่นปากไปที่หม้อแกงอันหนึ่งอันเดียวกันกับที่ยายจีนเพื่อนบ้านเพิ่งนำมาให้ก่อนหน้านี้
ภรรยาตนเองนางแพรแทนที่จะตกตะลึงกลัวกลับก้มหน้าไปไกล้สัตว์อันน่าเกลียดน่ากลัวนั้น แถมพูดอะไรบางอย่างราวกับสื่อสารกันรู้เรื่อง ข้อความเท่าที่นายสายได้ยินในตอนนั้นคือ
“อะไรนะ เจ้าด่าง แกงหม้อนี้มียาสั่งเหรอะ”
เจ้าแม่จระเข้ตอนใหม่(ขอโทษที่ให้รอ)
“น้องก็บอกไปว่า คลองแห่งนี้ไม่ใช่ของใครแต่เป็นของส่วนรวม พวกเขาก็อยู่อย่างนั้นตามธรรมชาติ เราหาได้เลี้ยงดูแต่อย่างใด เขาอยู่ของเขาเอง หากพอใจพวกเขาก็มา แต่ไม่เคยเกเรหรือทำร้ายใครให้เห็นแม้แต่ครั้งเดียว จะมีอยู่บ้างก็เล่นน้ำเสียงดังไปหน่อย หรือชอบโผล่ออกมาแกล้งพวกเรือหางยาวที่ขับแบบคึกคะนองทำเอาน้ำกระแทกตลิ่งแถวบ้านเราทรุดไปหมด”
ภรรยาพูดตรงใจเผงทุกถ้อยคำ ทำให้นายสายต้องหวนประหวัดกลับไปคิดว่าก่อนหน้าที่จะมีเรือหางยาว บ้านย่านนี้ก็สุขสงบดี ปราศจากเสียงแผดก้องของเครื่องยนต์ รวมถึงเชื้อน้ำมันที่เผาไหม้ปลิวไปในอากาศสร้างมลภาวะ
เมื่อก่อนน้ำในคลองก็สะอาดจริง ชนิดล้างชามก๋วยเตี๋ยวได้เลย แต่ในตอนนี้ทุกอย่างกำลังจะเปลี่ยนแปลง
นายสายเริ่มรู้สึกว่าใช้ความคิดมากไป ประจวบกับทำงานมาตั้งแต่เช้า ท้องใส้เริ่มฟ้องร้องจึงขอข้าวสวยร้อนๆราดกับข้าวไปนั่งกิน เพราะว่าต้องการเรี่ยวแรงไว้สำหรับคืนนี้ กะว่ากินอิ่มจะเอนตัวลงนอนเอาแรงสักหน่อย
เรศกินข้าวไปป้อนลูกแมวไป น่าแปลกที่มันกินเผ็ดได้เพราะที่บ้านค่อนข้างทำอาหารรสจัด นายสายตอนแรกก็รู้สึกทะ
พอกินเสร็จเอาจานไปล้างเก็บนายสายก็เรื่มเคลิ้มๆจะหลับ ล้มตัวลงบนแคร่ไใต้ต้นกระทิน พอหลับตาได้สักพักเสียงตูมตามทางริมคลองก็ดังขึ้นจนนายสายสะดุ้ง จระเข้ตัวใหญ่ผุดโผงมาจากท่าน้ำ เรศลูกชายของตนและแมวน้อยที่คลอเคลียอยู่บนตักมือยังถือชามข้าวอยู่หันไปมอง แต่ไม่ปรากฎความหวาดกลัวหรือตกตะลึงใดๆในตัวลูกชายหรือแมวที่เลี้ยงเลย
แม้กระทั่งนางแพรภรรยาตนเมื่อเห็นตัวกุมภีล์ตัวมหึมาโผล่คลานต้วมเตี้ยมหางส่ายเดินเข้ามาในบริเวณบ้านก็เพียงเหลือบมองแวบเดียวแค่นั้น แล้วหันไปทำอย่างอื่นต่อเหมือนเห็นเป็นเรื่องปกติ
ไม่ใช่ครั้งแรกที่นายสายรับรู้เรื่องเช่นนี่ แต่ชนิดเข้ามาจะๆเห็นกันในระยะที่ไม่ห่างกันเท่าไหร่แบบนี้ นายสายยังไงก็ยังทำใจไม่ได้ นอนตัวเกร็งแอบมองแต่ไม่กล้าขยับตัวลุกขึ้น
จระเข้ร่างยักษ์ตัวนั้นทำท่าจะคลานมาทางม้านั่งที่ลูกชายนายสายนั่งกินข้าวกับแมวตัวน้อย แต่แล้วก็เหมือนมันได้กลิ่นอะไรบางอย่าง ชูหัวอันใหญ่โตขึ้นในอากาศเหมือนดม สำเหนียกสิ่งหนึ่ง แล้วทันใดนั้นมันเบนทิศทางเดินสี่ขาหางลากพื้นไปทางเรือนครัวที่นางแพรยังคงง่วนทำอะไรอยู่
นายสายลุกทะลึ่งขึ้นจากแคร่เกือบจะตะโกนเรียกเมียตัวเองให้ระวังแล้ว ในตอนนั้นทั้งลูกชายและเมียตัวเองต่างก็หันมามองทางนายสายเพราะได้ยินเสียงกระแทกแคร่ แต่ไม่มีใครสนใจสัตว์หนังหนาตัวยาวที่กำลังขยับตัวไปใกล้ราวกับว่าไม่สัมผัสถึงอันตรายที่กำลังคืบคลานไปหาเลย
แต่ปรากฏว่า เจ้าตัวปากแหลมใหญ่โตนั้น เดินเข้าไปในเพิงครัวแล้วยื่นปากไปที่หม้อแกงอันหนึ่งอันเดียวกันกับที่ยายจีนเพื่อนบ้านเพิ่งนำมาให้ก่อนหน้านี้
ภรรยาตนเองนางแพรแทนที่จะตกตะลึงกลัวกลับก้มหน้าไปไกล้สัตว์อันน่าเกลียดน่ากลัวนั้น แถมพูดอะไรบางอย่างราวกับสื่อสารกันรู้เรื่อง ข้อความเท่าที่นายสายได้ยินในตอนนั้นคือ
“อะไรนะ เจ้าด่าง แกงหม้อนี้มียาสั่งเหรอะ”