[CR] Gaa - กา อาหารอินเดียมุมมองใหม่ รีวิว by ตามล่า Fine Dining

สวัสดียามบ่ายค่าา วันนี้ว่างเลยขอลงกระทู้รีวิวรัวๆหน่อย อย่าว่ากันน้าาาา ยิ้ม วันนี้อาหารอาจจะแหวกแนวไปหน่อยสำหรับเรา แต่ถือว่าเปิดประสบการณ์ใหม่สำหรับเราเลยทีเดียว ใครหลายๆคนอาจจะชอบนะคะนี่เป็นความคิดเห็นส่วนตัวไม่ว่ากันค่าาาา

ฝากติดตามเพจ FB: ตามล่า Fine Dining
รวบรวมร้านอาหารระดับมิชลินสตาร์หลายร้อยแห่งทั่วโลก รวมถึงร้านอาหาร “ทุกร้าน” ในมิชลินไกด์ฉบับกรุงเทพฯ ไปล่าของกินด้วยกันค่ะ

🍽 Gaa - กา

✨ 1 Michelin Star - 1 ดาวมิชลิน

ร้านอาหารอินเดียแนว Innovative นำเสนออาหารอินเดียในมุมมองใหม่ ปรับปรุงกลิ่นและรสชาติอาหารให้ร่วมสมัยมากขึ้น ทานได้ง่าย แม้คนไม่ชอบอาหารอินเดียแบบเราก็ยังสามารถทานอาหารของร้านนี้ได้จนหมด

Gaa นำโดยเชฟ Garima Arora อดีต Sous chef ของร้าน Gaggan ร้านอาหารระดับ 2 ดาวมิชลิน ผู้ครองรางวัลร้านอาหารอันดับ 1 ของเอเชีย 4 ปีซ้อนที่เราเคยไปทานมาแล้วเมื่อต้นปี ซึ่งก็ตั้งอยู่ในซอยเดียวกันฝั่งตรงข้ามกันนี่เอง นอกจากนี้ยังเคยทำงานให้ร้านอาหารระดับโลกอย่าง Restaurant Gordon Ramsay และ Noma อีกด้วย โดยการเปิดตัวของ Michelin Guide 2019 ได้เลื่อนระดับร้าน Gaa จากหมวดหมู่ Michelin Plate ให้เป็นร้านระดับ 1 Michelin Star ทำให้ Garima กลายเป็นเชฟหญิงชาวอินเดียคนแรกของโลกที่คว้ารางวัลอันทรงเกียรติแห่งวงการอาหารมาครอง และก็เป็นกระแสทั้งในประเทศอินเดียและในโลกตะวันตกอยู่พอสมควรเลยทีเดียว

📝 วันนี้เราได้สั่ง 14 Courses Tasting Menu ซึ่งเป็น Set Tasting Menu ที่ดีที่สุดของทางร้านคนละ 1 Set และเพิ่ม Sturgeon Cavair ในจานปู

Gaa 14 Courses Tasting Menu (2900++/p)

- Chilled Soup of Guava, Roselle, Fermented Mulberries

- Savory Betal Leaf

- Duck Doughnut

- Bitter Greens & Jaggery Flat Bread

- Chicken Liver, Fruits

- Corn

- Unripe Jackfruit, Roti, Pickles

- Crayfish, Khakra

- Blue Swimmer Crab, Long Peppercorn, Macadamia Milk (Sturgeon Cavair Add 700++ Baht)

- Mushroom, Egg Naem, Yeast Aquafaba

- Pork Rib

- Banana Bread

- Organic Burnt Coconut Sugar Ice Cream, Pork Floss

- Chocolate Betal Leaf

รสชาติ : 6/10
ราคา : 6/10
ความคุ้มค่า : 6/10
บรรยากาศ : 7/10
บริการ : 7/10

❤️ ความประทับใจโดยรวม : 6/10

อาหารที่นี่ถือว่าเป็นการปฏิวัติและนำเสนออาหารอินเดียออกมาในรูปแบบที่น่าสนใจ ในด้านรสชาติถือว่าดีพอที่จะได้รับ 1 ดาวมิชลิน จุดสังเกตเดียวของอาหารมื้อนี้คือคุณภาพวัตถุดิบเทียบกับราคา ซึ่งใน 14 คอร์ส ส่วนมากล้วนแต่เป็นใบไม้และผลไม้ต่างๆ ในราคา 2900++ นั้น คุ้มค่าหรือไม่ และอาหารหลายคอร์ส นำเสนอโดยใช้ใบไม้คล้ายกัน อาจทำให้ความว้าวดูลดลงไป ตัวร้านมีขนาดไม่ใหญ่มาก บรรยากาศดี เหมาะกับการไปลองชิมดูสักครั้ง👍🏻

Chilled Soup of Guava, Roselle, Fermented Mulberries

ซุปฝรั่งสองสี ฝรั่งเขียวและชมพูให้รสออกหวาน จุดสีเหลืองคือเบอรี่รสเปรี้ยว ทานกับใบกระเจี๊ยบสองสี ฝั่งสีขาวทาด้วยน้ำมัน และฝั่งสีม่วงปรุงด้วยลูกหม่อนหมักออกรสเปรี้ยว จานนี้เรียกความสดชื่นได้ดี

Savory Betal Leaf

ใบชะพลูนำไปย่างกับน้ำสต็อกเป็ดจนกรอบ ปรุงกับเครื่องเทศแบบไทยคือข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด จานนี้เป็นอาหารทานเล่นที่ดี ให้รสเปรี้ยวหวานมันเค็มในรูปแบบอาหารไทย มีกลิ่นหอมของเป็ดเล็กน้อย อร่อยใช้ได้เลย

Duck Doughnut

คอร์สต่อมาคือ โดนัทเป็ด ปรุงกับแกงวินดาลูของประเทศอินเดีย เสิร์ฟมาแบบร้อนๆ ข้างในหอมกลิ่นเป็ด มีกลิ่นแกงเพียงอ่อนๆ พอให้ทราบต้นตอและที่มาของเมนูนี้ รสชาติไม่แรงจนเกินไป ถือว่าเป็นจานที่หน้าตาดูไม่หวือหวา แต่รสชาติอร่อยมากเลยทีเดียว 

Bitter Greens & Jaggery Flat Bread

ขนมปัง Flat bread และ Brown butter หรือขนมปังแผ่นอบเนย ทอปด้วยผักสามอย่างคือ ใบคะน้า ผักกาดสร้อย และผักปวยเล้ง นำไปย่างบนเตาถ่าน ทานจากด้านหน้า จานนี้มีลูกเล่นตรงเนื้อสัมผัสของผักกรอบที่ตัดกันกับเนื้อสัมผัสของขนมปังแผ่นได้อย่างลงตัว มีกลิ่นหอมของเนย 

Chicken Liver, Fruits

มูสทำจากตับไก่ปรุงด้วยเครื่องเทศ และทำให้เซ็ตตัวด้วยไนโตรเจนเหลว ตัวตับทำออกมาได้ดีมาก ไม่มีกลิ่นสาบเลย ด้านล่างเป็นขนมปังและผลไม้ชนิดต่างๆรวม 7 ชนิด
ตอนทานให้ทานผลไม้ทีละอย่าง จะพบว่ารสชาติแต่ละคำไม่เหมือนกันเลยเพราะได้รสชาติและเนื้อสัมผัสของผลไม้ที่แตกต่างกันออกไป ผสมกับมูสตับไก่ให้ความมัน และมีรสชาติเผ็ดเล็กน้อยจากเครื่องปรุงนั่นเอง จานนี้ถึงจะดูแปลก แต่เอาจริงๆ รสชาติอร่อยลงตัว และเข้ากันได้ดีกว่าที่คิดเยอะมาก เป็นคอร์สเสิร์ฟเย็นที่ดีมากจานนึง และเป็นอีกหนึ่งคอร์ส Signature ของร้านเลยทีเดียว

Corn

มาถึงอีกหนึ่งจานที่ดูไม่ซับซ้อน แต่อร่อยมากคือข้าวโพดย่างบนเตาถ่าน หมักด้วยน้ำมันยีสต์ ถูด้วยมะนาว เกลือดำหิมาลายัน และพริกป่น

Corn

วิธีทานให้ชักออกจากฝัก แล้วจิ้มในซอส Corn emulsion ทำจากข้าวโพดหวาน โดยรวมแล้วซอสให้รสหวานมัน หอมกลิ่นข้าวโพดสุดๆ ตัดรสกับข้าวโพดย่างถ่านที่ให้รสหวาน เปรี้ยว เค็ม เผ็ดอย่างละน้อย แต่บาลานซ์กันลงตัว คอร์สนี้อร่อยมากจริงๆ

Unripe Jackfruit, Roti, Pickles

คอร์สนี้เสิร์ฟมาเต็มโต๊ะเลย คอนเซปของคอร์สคือ แป้งโรตี ทานกับเครื่องเคียงต่างๆ ไล่จากขวาคือ หอมใหญ่ มะม่วงดอง แครอทดอง แตงกวาดอง มะม่วงแห้ง ตรงกลางคือผักชี ส่วนด้านขวาคือขนุนดิบที่นำไปย่างถ่านแล้วทอปด้วยมะละกอปรุงแบบเนื้อ 

Unripe Jackfruit, Roti, Pickles

เสิร์ฟคู่กับแป้งโรตี

Unripe Jackfruit, Roti, Pickles

วิธีทานให้นำแผ่นแป้งวางขนุนดิบลงไปพร้อมเครื่องเคียง แล้วทานคล้ายเมี่ยง โดยจะมีเนื้อสัมผัสของแป้งโรตีหลักตัดกันกับผักรสเปรี้ยวหวานหลายชนิด ตัวขนุนดิบปรุงออกมาได้ดีมาก กินเปล่าๆยังอร่อยเลย

Crayfish, Khakra

คาคร่าคือขนมปังกรอบ Flat Bread ของอินเดีย กับครีมซอส ทานกับกุ้งเครฟิชจากโครงการณ์หลวงย่าง ทอปด้วยส้มโอและใบผักชี
จานนี้มีความหวานหอมเนื้อเด้งของกุ้งเครฟิชตัดเนื้อสัมผัสกันกับขนมปัง อร่อยใช้ได้เลย

Blue Swimmer Crab, Long Peppercorn, Macadamia Milk (Sturgeon Cavair Add 700++ Baht)

เนื้อปูม้านึ่งจนหวานหอม ราดด้วยนมถั่วแมคคาเดเมีย ดอกหอมดอง ดีปลี ทอปด้วยพริกเขียว เสิร์ฟแบบเย็น ในคอร์สนี้เราได้เพิ่มไข่ปลาคาเวียทอปไว้ข้างบนด้วย

Blue Swimmer Crab, Long Peppercorn, Macadamia Milk (Sturgeon Cavair Add 700++ Baht)

เวลาทานให้คนให้เข้ากันแล้วทาน จะได้รสชาติเผ็ดร้อนของอินเดีย ตัดกับรสหวานของเนื้อปู และความเย็น ความมัน ของรมแมคคาดีเมีย ไข่ปลาคาเวียเพิ่มเนื้อสัมผัสและรสเค็มเล็กน้อย อร่อยใช้ได้เลย

Mushroom, Egg Naem, Yeast Aquafaba

และแล้วก็มาถึงจานที่เรายกให้เป็นจานที่อร่อยที่สุดของวันนี้ เห็ด Lion Mane Mushroom เป็นเห็ดทรงกลม มีขนออกมาคล้ายแผงคอสิงโต ส่วนตัวเราดูแล้วตัวคิดว่าหน้าตาเหมือนเม่นมากกว่าสิงโต ย่างจนสุก มีรสหวานหอม อร่อยมากๆ ราดด้วยซอสเห็ด เสิร์ฟคู่กับซอสสองอย่าง อย่างแรกสีเหลืองคือแหนมไข่หรือซอสไข่แดงนำไปหมัก อย่างที่สองสีขาวคืออควอฟาบายีสต์ หรือครีมฟูสีขาวที่ทำจากยีสต์

จานนี้เป็นจานที่ประทับใจที่สุดในมื้อนี้ เพราะเห็ดหน้าตาประหลาดนี้ย่างออกมาแล้วรสชาติดีมาก หอม หวาน ซอสทุกอย่างทั้งที่ราดมาบนเห็ด และซอสที่วางข้างเห็ดรสชาติดีจริงๆ อร่อยสุด

Pork Rib

ซี่โครงหมูราดด้วยซอสมะขาม แล้วนำไปย่างจนสุกกำลังดี เนื้อสัมผัสของซี่โครงสุกกำลังดี ให้รสเปรี้ยวหวานของซอสมะขาม ทอปด้วยทับทิม หัวหอม และผักชี เวลาทานเเต่ละส่วนจะให้รสชาติที่แตกต่างกัน
จานนี้ถือว่าทำออกมาดีและมีความคิดสร้างสรรค์ ส่วนของทับทิมกับซอสมะขามคือส่วนที่เราชอบที่สุดในสามอย่าง เพราะมีเนื้อสัมผัสเคี้ยวกรุบของทับทิมเพิ่มมา ทำให้เราได้ทานซี่โครงหมูในแบบที่ไม่เคยเจอมาก่อน

Banana Bread

สำหรับของหวานคอร์สแรกเสิร์ฟน้ำกล้วยพร้อมขนมปัง โดยให้เริ่มดื่มน้ำกล้วยก่อนเพื่อปรับลิ้น แล้วตามด้วยขนมปังกล้วย ตัวขนมปังทำเลียนแบบขนมปังจากฝรั่งเศสแต่ใส่ถั่วลงไปแทน รสชาตินุ่ม ไม่กรอบมาก หวานแบบกล้วยๆ ตัดเนื้อสัมผัสกับถั่วต่างๆ

Organic Burnt Coconut Sugar Ice Cream, Pork Floss

ต่อมาคือไอศกรีมน้ำตาลมะพร้าวเผา โรยด้วยหมูหยอง ตัวโคนทำจากข้าวหอมมะลิแดง ตัวไอศกรีมน้ำตาลมะพร้าวเผา มีรสชาติหวานนำ มีกลิ่นหอมของน้ำตาลมะพร้าว มีรสขมเล็กๆของน้ำตาลเผาเป็น Aftertaste โรยด้วยหมูหยองรสหวานเค็มเพื้อเพิ่มรสชาติ โคนไอศกรีมกรอบ แต่ไม่แข็งจนเกินไป จัดเป็นของหวานที่อร่อยที่สุดในสามอย่างนี้เลย

Chocolate Betal Leaf

อย่างสุดท้ายเป็นของหวาน Signature ของทานร้านโดยเป็นใบชะพลู ด้านขวาเคลือบด้วยช็อกโกแลต จุดเงินสีขาวคือ Cardamom หรือกระวาน ด้านซ้ายโรยด้วย Fennel Powder หรือผงเฟนเนล โรยด้วย Roast Chutney หรือชัทนีย์เผาซึ่งเป็นเครื่องเทศของอินเดีย เวลาทานให้พับให้เล็กที่สุดแล้วทานคำเดียว จะได้รสหวานปนขมของช็อกโกแลต ได้เนื้อสัมผัสกรอบเล็กน้อยของใบชะพลู มีรสของเฟนเนลเข้ากันได้ดี ถือว่าอร่อยใช้ได้ ปิดท้ายมื้อนี้ได้อย่างสวยงาม

ชื่อสินค้า:   Gaa - กา อาหารอินเดียมุมมองใหม่
คะแนน:     

CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่