1. ดิเอโก้ ฟอร์ลัน (2002-2004)
ตำแหน่ง กองหน้า
ทีมชาติ อุรุกวัย
อายุ (ขณะย้ายออกไป) 25 ปี
ศูนย์หน้าชาว อุรุกวัย เริ่มต้นชีวิตค้าแข้งที่ อาร์เจนตินา กับทีม อินดิเพนเดนเต้ จนกระทั่งแมวมองของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไปเห็นฟอร์มของเพชรฆาตผมยาวรายนี้และดึงตัวมาร่วมทัพในปี 2001 ด้วยค่าตัว 7 ล้านปอนด์
ตลอด 3 ปีกับ แมนฯ ยูไนเต็ด ฟอร์ลัน มักจะถูกมองว่าเป็นตัวตลกของทีมอยู่เสมอจากจังหวะจบสกอร์ที่มักจะพลาดแบบไม่น่าให้อภัย โดยลูกที่ติดตาแฟนๆมากที่สุดคงจะเป็นเกมที่พบกับ ยูเวนตุส ทีเขาหลุดไปโล่งๆ เหลือแต่ประตูว่างๆ แต่กลับยิงออกไปซะอย่างนั้น
จนกระทั่งหน้าร้อนปี 2004 เขาถูกโละออกจากทีม ไปอยู่ บียาร์เรอัล ด้วยค่าตัวเพียง 2 ล้านปอนด์ แล้วสิ่งที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น เขายิงประตูได้อย่างถล่มทลาย 3 ปีกับทีม เรือดำน้ำ เขากดไปทั่งสิ้น 59 ประตู ต่อมาย้ายไป แอตเลติโก มาดริด ในปี 2007 ก็ยังคงยิงอย่างต่อเนื่อง 4 ฤดูกาลกับ ตราหมี ซัดไป 96 ประตู คว้าแชมป์รายการต่างๆร่วมกับทีมมากมาย ทำให้แฟน ปีศาจแดง หลายคนอ้าปากค้างกับฟอร์มการเล่นที่สวนทางกันอย่างสิ้นเชิงกับช่วงที่ค้าแข้งอยู่ใน โรงละครแห่งความฝัน ของเขาผู้นี้
2. เคราร์ด ปิเก้ (2004-2008)
ตำแหน่ง กองหลัง
ทีมชาติ สเปน
อายุ (ขณะย้ายออกไป) 21 ปี
ปิเก้ เป็นเด็กปั้นจาก ลามาเซีย ที่แท้ทรูแต่ถูกดึงตัวมารวมทีม แมนฯ ยูไนเต็ด ตั้งแต่อายุ 17 ปี ช่วงเวลา 4 ปีในถิ่น โอลด์ แทรฟฟอร์ด เขาแทบไม่ได้ลงสัมผัสสนามกับทีมชุดใหญ่เลย โดยได้ลงเล่นเพียง 12 เกมรวมทุกรายการ และเกินกว่าครึ่งลงมาในฐานะตัวสำรอง จนกระทั่งในฤดูกาล 2007/08 เขาถูกปล่อยยืมให้กับ เรอัล ซาราโกซา ก่อนจะเป็น บาร์เซโลนา ซื้อกลับไปในปีต่อมาด้วยค่าตัวเพียง 4 ล้านปอนด์
ในปีนั้นเองเป็นปีแรกที่ เป๊ป กวาร์ดิโอลา กุนซือจอมอหังการขึ้นมาคุมทีมชุดใหญ่เป็นครั้งแรก และ ปิเก้ ก็เป็นส่วนสำคัญในการสร้างความยิ่งใหญ่ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ปัจจุบัน บาร์ซา กลายเป็นทีมที่ถูกขนานนามว่ามาจากต่างดาวไปแล้ว และเขายังคงเป็นเสาหลักให้กับทีม พร้อมกับประสบความสำเร็จอย่างสูงสุดทั้งกับทีมชาติและสโมสร คว้าแชมป์แทบจะทุกรายการที่มีบนโลก จนแฟน ปีศาจแดง บางคนอดคิดไม่ได้ว่า ทำไมเราเลือกที่จะขายเขาออกไปแทนที่จะเป็น เวส บราวน์ หรือ จอห์น โอเชีย
3. จูเซ็ปเป้ รอสซี (2004-2007)
ตำแหน่ง กองหน้า
ทีมชาติ อิตาลี
อายุ (ขณะย้ายออกไป) 20 ปี
ดาวรุ่งของ แมนฯ ยูไนเต็ด รายนี้ ถูกดึงตัวเข้ามาตั้งแต่อายุ 16 ปี จากทีมเยาวชนของ ปาร์มา ใน อิตาลี โดยตลอด 4 ปี ที่ค้าแข้งใน โรงละครแห่งความฝัน เขาได้ลงสนามกับทีมชุดใหญ่เพียง 14 เกม เป็นบอลถ้วยซะส่วนใหญ่ ทำไปทั้งสิ้น 4 ประตู ซึ่งถึงว่าไม่ได้แย่ แต่อุปสรรคที่แท้จริงอยู่ที่ศูนย์หน้าที่มีอยู่ในทีมขณะนั้นล้วนแต่เป็นซูเปอร์สตาร์ทั้งนั้น ทำให้ยากที่เขาจะสอดแทรกขึ้นมาเป็นตัวจริงได้ ช่วงหน้าร้อนปี 2007 เขาถูกปล่อยตัวให้กับ บียาร์เรอัล ด้วยค่าตัว 9 ล้านปอนด์ ปิดฉากกองหน้าร่างจิ๋วในถิ่น โอลด์ แทรฟฟอร์ด ไปอย่างไม่เป็นที่จดจำเท่าใดนัก
แต่แล้วเมื่อได้โอกาสลงสนามให้กับทีม เรือดำน้ำ เขาระเบิดฟอร์มสุดยอด ยิงประตูได้เป็นกอบเป็นกำ พาทีมได้รองแชมป์ ลาลีกา ในปี 2008 และก้าวขึ้นมาเป็นดาวซัลโวสูงสุดตลอดกาลของทีม โดยยิงไปทั้งสิ้น 82 ประตู ในระยะเวลา 5 ฤดูกาล น่าเสียดายที่ รอสซี ควรจะได้ก้าวขึ้นมาเป็นกองหน้าระดับโลก แต่ก็กลับถูกอาการบาดเจ็บเล่นงานอย่างหนัก เขาเคยได้รับบาดเจ็บอย่างรุนแรงสมัยอยู่กับ บียาร์เรอัล ต้องพักยาว 2 ฤดูกาลมาแล้ว จนกระทั่งถูกปล่อยตัวให้กับ ฟิออเรนตินา เมื่อเขากลับมาลงสนามได้อีกครั้งในปี 2013/14 ก็จัดการถล่มประตูให้กับทีม ม่วงมหากาฬ ได้ถึง 16 ประตู จากการลงสนามเพียง 21 เกม แต่กลับโชคร้ายได้รับบาดเจ็บหนักอีกครั้ง จนต้องพักยาวรอบที่สอง เรียกได้ว่าเขาเป็นกองหน้าฝีเท้าดีแต่กระดูกยุงมากที่สุดคนหนึ่งในวงการเลยก็ว่าได้
4. วิลฟรีด ซาฮา (2013-2015)
ตำแหน่ง ปีก
ทีมชาติ ไอวอรี โคสต์
อายุ (ขณะย้ายออกไป) 22 ปี
ปี 2012 เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ถูกใจฟอร์มปีกดาวรุ่งของ คริสตัล พาเลช สมัยยังเล่นอยู่ในลีกรองเข้าอย่างจัง และเซ็นสัญญาล่วงหน้าตั้งแต่ตลาดซื้อขายนักเตะยังไม่เปิดเลยด้วยซ้ำ
แต่แล้วสิ่งที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น เฟอร์กี้ ประกาศวางมือ และเป็น เดวิด มอยส์ เข้ามาแทนที่ ทำให้การย้ายเข้ามาของปีกชาว ไอวอรี โคสต์ ไม่ค่อยจะเป็นที่ต้องการของกุนซือคนใหม่ป้ายแดงเท่าใดนัก ซาฮา ลงสนามไปเพียง 2 เกม ก่อนจะถูกปล่อยให้ คาร์ดิฟฟ์ ยืมตัว ในครึ่งปีหลัง เช่นเดียวกับฤดูกาลต่อมา เขาถูกปล่อยยืมอีกครั้งให้กับ คริสตัล พาเลช ที่ได้เลื่อนชั้นขึ้นมาเล่นในลีกสูงสุด และซื้อขาดไปในช่วงหน้าหนาวปี 2015 ด้วยค่าตัวเพียง 3 ล้านปอนด์
กับ เดอะพาเลช เข้ากลับมาเป็นคีย์แมนอีกครั้ง ทั้งยิง ทั้งจ่าย ทั้งทำเกม ทำให้เขาสามารถพัฒนาฝีเท้าจนเป็นที่ต้องการของหลายทีมยักษ์ใหญ่ ตลอดเวลา 6 ปี ที่ ซาฮา เป็นเดอะแบกในถิ่น เซลเฮิร์ทส์ พาร์ค เขาทำไปทั้งสิ้น 35 ประตู ได้รับค่าเหนื่อยมหาศาล และต่อไปในอนาคตหากมีทีมใดสามารถคว้าตัวเขาไปร่วมทีมได้คงต้องจ่ายค่าตัวในระดับ 100 ล้านปอนด์อย่างแน่นอน
5. เมมฟิส เดปาย (2015-2017)
ตำแหน่ง ปีก
ทีมชาติ ฮอลแลนด์
อายุ (ขณะย้ายออกไป) 22 ปี
นิว โรนัลโด้ คือฉายาที่แฟนๆ ปีศาจแดง เรียกเขาในวันที่ทีมเซ็นสัญญากับดาวรุ่งวัย 20 ปี จาก พีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่น ซึ่งก่อนหน้านั้นถล่มไปถึง 22 ประตูในลีกบ้านเกิด
การย้ายมาของ เดปาย สร้างความฮือฮาและแน่นอนความคาดหวังจากหลายๆฝ่าย ว่าเขาจะกลายมาเป็นสุดยอดผู้เล่นหมายเลข 7 ให้กับทีมได้เหมือนที่ CR7 เคยทำเอาไว้ แต่ฤดูกาลแรกในสีเสื้อ แมนฯ ยูไนเต็ด ปีกชาว ฮอลแลนด์ ลงสนามในลีกไปทั้งสิ้น 29 เกม ทำได้เพียง 2 ประตู ทำให้หลายๆคนเริ่มตั้งคำถามเกี่ยวกับฝีเท้าของปีกรายนี้ จนกระทั่งฤดูกาล 2016/17 โฆเซ มูรินโญ เข้ามาคุมทีมแทน หลุยส์ ฟานกัล อนาคตของอดีตสตาร์จาก พีเอสวี ในถิ่น โอลด์ แทรฟฟอร์ด ก็ดับลงทันที เขาถูกส่งลงสนามเพียง 4 เกมเท่านั้น ก่อนจะถูกขายให้ โอลิมปิค ลียง ในช่วงตลาดซื้อขายนักเตะหน้าหนาว ปิดตำนาน นิว โรนัลโด้ อีกคนหนึ่งไปท่ามกลางความผิดหวังของแฟนบอล เร้ดเดวิลส์ มากมาย
แต่แล้ว สตาร์ชาว ดัตช์ ก็พิสูจน์ให้เห็นแล้วถึงข้อกังขาในฝีเท้าของเขาอย่างชัดเจนแจ่มแจ้ง ฤดูกาล 2017/18 เขาซัดไปถึง 19 ประตูในลีก และอีก 10 ประตูในปีต่อมา ทำให้ปัจจุบันเริ่มมีเสียงจากแฟนบอลบางกลุ่มแล้วว่าให้ใช้ออฟชั่นซื้อเขากลับมายัง โรงละครแห่งความฝัน เพื่อพิสูจน์ตัวเองอีกครั้ง คงต้องมาดูกันว่า โอเล กุนนาร์ โซลชา จะสนใจดึงตัวปีกรายนี้กลับมาอีกครั้งหรือไม่ หรือแฟนๆจะทำได้แค่หวังลมๆแล้งๆ ต้องติดตามกันต่อไป
6. พอล ป็อกบา (2009-2012 / 2016-ปัจจุบัน)
ตำแหน่ง กองกลาง
ทีมชาติ ฝรั่งเศษ
อายุ (ขณะย้ายออกไป) 20 ปี
ดาวรุ่งจากสโมสร เลอ อาฟร์ ในฝรั่งเศษ ถูก แมนฯ ยูไนเต็ด ดึงตัวมาตั้งแต่ปี 2009 แต่ไม่สามารถสอดแทรกขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่ได้ และกำลังจะหมดสัญญากับทีมในปี 2012 สุดท้ายเป็น ยูเวนตุส ยอดทีมจาก อิตาลี ปาดหน้าแย่งลายเซ็น พรากตัวกองกลางอนาคตไกลรายนี้ไปจากอ้อมอกของ ปีศาจแดง แบบฟรีๆ
ที่ตูริน เข้าแสดงศักยภาพขั้นสุดยอดออกมาให้เห็นกันแบบเต็มๆ สร้างความเสียดายให้กับแฟนบอล เร้ดเดวิลส์ มากขึ้นไปอีก โดยตลอด 4 ปีกับทีม ม้าลาย ทั้งยิง ทั่งจ่าย ทั้งการสร้างสรรค์เกม คว้าแชมป์กับทีมมากมาย รวมถึงพาทีมเข้าชิง ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ในปี 2015 แต่พ่ายแพ้ให้กับ บาร์เซโลนา ไป จนกระทั่งปี 2016 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทนไม่ได้ ถึงกับยอมทุบกระปุกควักเงินถึง 89 ล้านปอนด์ กระชากตัวอดีตดาวรุ่งของพวกเขากลับมายัง พรีเมียร์ลีก อีกครั้ง
จนถึงปัจจุบันนี้ ป็อกบา ยังคงเป็นความหวังอันดับ 1 ของแฟนบอลปีศาจแดง แต่เขามักจะถูกตั้งคำถามเรื่องความมุ่งมั่นทุ่มเทที่ดูจะไม่ค่อยเต็มที่ให้กับสโมสรอยู่บ่อยๆ จนถึงขนาดที่ว่ามีแฟนบอลบางกลุ่มต้องการให้รีบขายเขาออกจากทีมเพื่อรักษาทีมสปิริตเอาไว้เลยด้วยซ้ำ ต้องดูกันต่อไปว่าอนาคตของกองกลางค่าตัวแพงรายนี้จะเป็นอย่างไร เพราะเจ้าตัวเองก็เคยออกมาประกาศแล้วว่าต้องการหาความท้าทายใหม่ๆ เพราะฉนั้นจะอยู่หรือไป อีกไม่นานเราคงได้เห็นกัน
credit : www.90min.com/th
แยกกับพี่ได้ดีทุกคน ! ย้อนรอย 6 นักเตะ ปีศาจแดง ที่ถูกโละไปแจ้งเกิดกับทีมอื่น
1. ดิเอโก้ ฟอร์ลัน (2002-2004)
ตำแหน่ง กองหน้า
ทีมชาติ อุรุกวัย
อายุ (ขณะย้ายออกไป) 25 ปี
ศูนย์หน้าชาว อุรุกวัย เริ่มต้นชีวิตค้าแข้งที่ อาร์เจนตินา กับทีม อินดิเพนเดนเต้ จนกระทั่งแมวมองของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไปเห็นฟอร์มของเพชรฆาตผมยาวรายนี้และดึงตัวมาร่วมทัพในปี 2001 ด้วยค่าตัว 7 ล้านปอนด์
ตลอด 3 ปีกับ แมนฯ ยูไนเต็ด ฟอร์ลัน มักจะถูกมองว่าเป็นตัวตลกของทีมอยู่เสมอจากจังหวะจบสกอร์ที่มักจะพลาดแบบไม่น่าให้อภัย โดยลูกที่ติดตาแฟนๆมากที่สุดคงจะเป็นเกมที่พบกับ ยูเวนตุส ทีเขาหลุดไปโล่งๆ เหลือแต่ประตูว่างๆ แต่กลับยิงออกไปซะอย่างนั้น
จนกระทั่งหน้าร้อนปี 2004 เขาถูกโละออกจากทีม ไปอยู่ บียาร์เรอัล ด้วยค่าตัวเพียง 2 ล้านปอนด์ แล้วสิ่งที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น เขายิงประตูได้อย่างถล่มทลาย 3 ปีกับทีม เรือดำน้ำ เขากดไปทั่งสิ้น 59 ประตู ต่อมาย้ายไป แอตเลติโก มาดริด ในปี 2007 ก็ยังคงยิงอย่างต่อเนื่อง 4 ฤดูกาลกับ ตราหมี ซัดไป 96 ประตู คว้าแชมป์รายการต่างๆร่วมกับทีมมากมาย ทำให้แฟน ปีศาจแดง หลายคนอ้าปากค้างกับฟอร์มการเล่นที่สวนทางกันอย่างสิ้นเชิงกับช่วงที่ค้าแข้งอยู่ใน โรงละครแห่งความฝัน ของเขาผู้นี้
2. เคราร์ด ปิเก้ (2004-2008)
ตำแหน่ง กองหลัง
ทีมชาติ สเปน
อายุ (ขณะย้ายออกไป) 21 ปี
ปิเก้ เป็นเด็กปั้นจาก ลามาเซีย ที่แท้ทรูแต่ถูกดึงตัวมารวมทีม แมนฯ ยูไนเต็ด ตั้งแต่อายุ 17 ปี ช่วงเวลา 4 ปีในถิ่น โอลด์ แทรฟฟอร์ด เขาแทบไม่ได้ลงสัมผัสสนามกับทีมชุดใหญ่เลย โดยได้ลงเล่นเพียง 12 เกมรวมทุกรายการ และเกินกว่าครึ่งลงมาในฐานะตัวสำรอง จนกระทั่งในฤดูกาล 2007/08 เขาถูกปล่อยยืมให้กับ เรอัล ซาราโกซา ก่อนจะเป็น บาร์เซโลนา ซื้อกลับไปในปีต่อมาด้วยค่าตัวเพียง 4 ล้านปอนด์
ในปีนั้นเองเป็นปีแรกที่ เป๊ป กวาร์ดิโอลา กุนซือจอมอหังการขึ้นมาคุมทีมชุดใหญ่เป็นครั้งแรก และ ปิเก้ ก็เป็นส่วนสำคัญในการสร้างความยิ่งใหญ่ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ปัจจุบัน บาร์ซา กลายเป็นทีมที่ถูกขนานนามว่ามาจากต่างดาวไปแล้ว และเขายังคงเป็นเสาหลักให้กับทีม พร้อมกับประสบความสำเร็จอย่างสูงสุดทั้งกับทีมชาติและสโมสร คว้าแชมป์แทบจะทุกรายการที่มีบนโลก จนแฟน ปีศาจแดง บางคนอดคิดไม่ได้ว่า ทำไมเราเลือกที่จะขายเขาออกไปแทนที่จะเป็น เวส บราวน์ หรือ จอห์น โอเชีย
3. จูเซ็ปเป้ รอสซี (2004-2007)
ตำแหน่ง กองหน้า
ทีมชาติ อิตาลี
อายุ (ขณะย้ายออกไป) 20 ปี
ดาวรุ่งของ แมนฯ ยูไนเต็ด รายนี้ ถูกดึงตัวเข้ามาตั้งแต่อายุ 16 ปี จากทีมเยาวชนของ ปาร์มา ใน อิตาลี โดยตลอด 4 ปี ที่ค้าแข้งใน โรงละครแห่งความฝัน เขาได้ลงสนามกับทีมชุดใหญ่เพียง 14 เกม เป็นบอลถ้วยซะส่วนใหญ่ ทำไปทั้งสิ้น 4 ประตู ซึ่งถึงว่าไม่ได้แย่ แต่อุปสรรคที่แท้จริงอยู่ที่ศูนย์หน้าที่มีอยู่ในทีมขณะนั้นล้วนแต่เป็นซูเปอร์สตาร์ทั้งนั้น ทำให้ยากที่เขาจะสอดแทรกขึ้นมาเป็นตัวจริงได้ ช่วงหน้าร้อนปี 2007 เขาถูกปล่อยตัวให้กับ บียาร์เรอัล ด้วยค่าตัว 9 ล้านปอนด์ ปิดฉากกองหน้าร่างจิ๋วในถิ่น โอลด์ แทรฟฟอร์ด ไปอย่างไม่เป็นที่จดจำเท่าใดนัก
แต่แล้วเมื่อได้โอกาสลงสนามให้กับทีม เรือดำน้ำ เขาระเบิดฟอร์มสุดยอด ยิงประตูได้เป็นกอบเป็นกำ พาทีมได้รองแชมป์ ลาลีกา ในปี 2008 และก้าวขึ้นมาเป็นดาวซัลโวสูงสุดตลอดกาลของทีม โดยยิงไปทั้งสิ้น 82 ประตู ในระยะเวลา 5 ฤดูกาล น่าเสียดายที่ รอสซี ควรจะได้ก้าวขึ้นมาเป็นกองหน้าระดับโลก แต่ก็กลับถูกอาการบาดเจ็บเล่นงานอย่างหนัก เขาเคยได้รับบาดเจ็บอย่างรุนแรงสมัยอยู่กับ บียาร์เรอัล ต้องพักยาว 2 ฤดูกาลมาแล้ว จนกระทั่งถูกปล่อยตัวให้กับ ฟิออเรนตินา เมื่อเขากลับมาลงสนามได้อีกครั้งในปี 2013/14 ก็จัดการถล่มประตูให้กับทีม ม่วงมหากาฬ ได้ถึง 16 ประตู จากการลงสนามเพียง 21 เกม แต่กลับโชคร้ายได้รับบาดเจ็บหนักอีกครั้ง จนต้องพักยาวรอบที่สอง เรียกได้ว่าเขาเป็นกองหน้าฝีเท้าดีแต่กระดูกยุงมากที่สุดคนหนึ่งในวงการเลยก็ว่าได้
4. วิลฟรีด ซาฮา (2013-2015)
ตำแหน่ง ปีก
ทีมชาติ ไอวอรี โคสต์
อายุ (ขณะย้ายออกไป) 22 ปี
ปี 2012 เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ถูกใจฟอร์มปีกดาวรุ่งของ คริสตัล พาเลช สมัยยังเล่นอยู่ในลีกรองเข้าอย่างจัง และเซ็นสัญญาล่วงหน้าตั้งแต่ตลาดซื้อขายนักเตะยังไม่เปิดเลยด้วยซ้ำ
แต่แล้วสิ่งที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น เฟอร์กี้ ประกาศวางมือ และเป็น เดวิด มอยส์ เข้ามาแทนที่ ทำให้การย้ายเข้ามาของปีกชาว ไอวอรี โคสต์ ไม่ค่อยจะเป็นที่ต้องการของกุนซือคนใหม่ป้ายแดงเท่าใดนัก ซาฮา ลงสนามไปเพียง 2 เกม ก่อนจะถูกปล่อยให้ คาร์ดิฟฟ์ ยืมตัว ในครึ่งปีหลัง เช่นเดียวกับฤดูกาลต่อมา เขาถูกปล่อยยืมอีกครั้งให้กับ คริสตัล พาเลช ที่ได้เลื่อนชั้นขึ้นมาเล่นในลีกสูงสุด และซื้อขาดไปในช่วงหน้าหนาวปี 2015 ด้วยค่าตัวเพียง 3 ล้านปอนด์
กับ เดอะพาเลช เข้ากลับมาเป็นคีย์แมนอีกครั้ง ทั้งยิง ทั้งจ่าย ทั้งทำเกม ทำให้เขาสามารถพัฒนาฝีเท้าจนเป็นที่ต้องการของหลายทีมยักษ์ใหญ่ ตลอดเวลา 6 ปี ที่ ซาฮา เป็นเดอะแบกในถิ่น เซลเฮิร์ทส์ พาร์ค เขาทำไปทั้งสิ้น 35 ประตู ได้รับค่าเหนื่อยมหาศาล และต่อไปในอนาคตหากมีทีมใดสามารถคว้าตัวเขาไปร่วมทีมได้คงต้องจ่ายค่าตัวในระดับ 100 ล้านปอนด์อย่างแน่นอน
5. เมมฟิส เดปาย (2015-2017)
ตำแหน่ง ปีก
ทีมชาติ ฮอลแลนด์
อายุ (ขณะย้ายออกไป) 22 ปี
นิว โรนัลโด้ คือฉายาที่แฟนๆ ปีศาจแดง เรียกเขาในวันที่ทีมเซ็นสัญญากับดาวรุ่งวัย 20 ปี จาก พีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่น ซึ่งก่อนหน้านั้นถล่มไปถึง 22 ประตูในลีกบ้านเกิด
การย้ายมาของ เดปาย สร้างความฮือฮาและแน่นอนความคาดหวังจากหลายๆฝ่าย ว่าเขาจะกลายมาเป็นสุดยอดผู้เล่นหมายเลข 7 ให้กับทีมได้เหมือนที่ CR7 เคยทำเอาไว้ แต่ฤดูกาลแรกในสีเสื้อ แมนฯ ยูไนเต็ด ปีกชาว ฮอลแลนด์ ลงสนามในลีกไปทั้งสิ้น 29 เกม ทำได้เพียง 2 ประตู ทำให้หลายๆคนเริ่มตั้งคำถามเกี่ยวกับฝีเท้าของปีกรายนี้ จนกระทั่งฤดูกาล 2016/17 โฆเซ มูรินโญ เข้ามาคุมทีมแทน หลุยส์ ฟานกัล อนาคตของอดีตสตาร์จาก พีเอสวี ในถิ่น โอลด์ แทรฟฟอร์ด ก็ดับลงทันที เขาถูกส่งลงสนามเพียง 4 เกมเท่านั้น ก่อนจะถูกขายให้ โอลิมปิค ลียง ในช่วงตลาดซื้อขายนักเตะหน้าหนาว ปิดตำนาน นิว โรนัลโด้ อีกคนหนึ่งไปท่ามกลางความผิดหวังของแฟนบอล เร้ดเดวิลส์ มากมาย
แต่แล้ว สตาร์ชาว ดัตช์ ก็พิสูจน์ให้เห็นแล้วถึงข้อกังขาในฝีเท้าของเขาอย่างชัดเจนแจ่มแจ้ง ฤดูกาล 2017/18 เขาซัดไปถึง 19 ประตูในลีก และอีก 10 ประตูในปีต่อมา ทำให้ปัจจุบันเริ่มมีเสียงจากแฟนบอลบางกลุ่มแล้วว่าให้ใช้ออฟชั่นซื้อเขากลับมายัง โรงละครแห่งความฝัน เพื่อพิสูจน์ตัวเองอีกครั้ง คงต้องมาดูกันว่า โอเล กุนนาร์ โซลชา จะสนใจดึงตัวปีกรายนี้กลับมาอีกครั้งหรือไม่ หรือแฟนๆจะทำได้แค่หวังลมๆแล้งๆ ต้องติดตามกันต่อไป
6. พอล ป็อกบา (2009-2012 / 2016-ปัจจุบัน)
ตำแหน่ง กองกลาง
ทีมชาติ ฝรั่งเศษ
อายุ (ขณะย้ายออกไป) 20 ปี
ดาวรุ่งจากสโมสร เลอ อาฟร์ ในฝรั่งเศษ ถูก แมนฯ ยูไนเต็ด ดึงตัวมาตั้งแต่ปี 2009 แต่ไม่สามารถสอดแทรกขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่ได้ และกำลังจะหมดสัญญากับทีมในปี 2012 สุดท้ายเป็น ยูเวนตุส ยอดทีมจาก อิตาลี ปาดหน้าแย่งลายเซ็น พรากตัวกองกลางอนาคตไกลรายนี้ไปจากอ้อมอกของ ปีศาจแดง แบบฟรีๆ
ที่ตูริน เข้าแสดงศักยภาพขั้นสุดยอดออกมาให้เห็นกันแบบเต็มๆ สร้างความเสียดายให้กับแฟนบอล เร้ดเดวิลส์ มากขึ้นไปอีก โดยตลอด 4 ปีกับทีม ม้าลาย ทั้งยิง ทั่งจ่าย ทั้งการสร้างสรรค์เกม คว้าแชมป์กับทีมมากมาย รวมถึงพาทีมเข้าชิง ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ในปี 2015 แต่พ่ายแพ้ให้กับ บาร์เซโลนา ไป จนกระทั่งปี 2016 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทนไม่ได้ ถึงกับยอมทุบกระปุกควักเงินถึง 89 ล้านปอนด์ กระชากตัวอดีตดาวรุ่งของพวกเขากลับมายัง พรีเมียร์ลีก อีกครั้ง
จนถึงปัจจุบันนี้ ป็อกบา ยังคงเป็นความหวังอันดับ 1 ของแฟนบอลปีศาจแดง แต่เขามักจะถูกตั้งคำถามเรื่องความมุ่งมั่นทุ่มเทที่ดูจะไม่ค่อยเต็มที่ให้กับสโมสรอยู่บ่อยๆ จนถึงขนาดที่ว่ามีแฟนบอลบางกลุ่มต้องการให้รีบขายเขาออกจากทีมเพื่อรักษาทีมสปิริตเอาไว้เลยด้วยซ้ำ ต้องดูกันต่อไปว่าอนาคตของกองกลางค่าตัวแพงรายนี้จะเป็นอย่างไร เพราะเจ้าตัวเองก็เคยออกมาประกาศแล้วว่าต้องการหาความท้าทายใหม่ๆ เพราะฉนั้นจะอยู่หรือไป อีกไม่นานเราคงได้เห็นกัน
credit : www.90min.com/th