ในฐานะโค้ชคีย์บอร์ดคนหนึ่ง ที่ก็อยากให้ทีมไทย ชนะเวียดนาม ในวันที่ 5ก.ย นี้ และ ก็รู้ตัวว่าไม่อยากเห็นความพ่ายแพ้ทีมชาติตนเอง หรือ ต้องรู้สึกอึดอัดถ้าแพ้รวมถึงต้องเก็บความรู้สึกนั้นไว้ต่อไป
ผมอยากระบายว่าถึงต่อให้แพ้ขึ้นมาจริงๆ สำหรับคนที่มองว่าคนแบบพวกผม ยอมรับความพ่ายแพ้ไม่ได้
ผมก็ไม่รู้นะ อาจจะจริงก็ได้ แต่แปลกตรงที่ คนที่ถูกมองว่ารอความสำเร็จไม่ได้ รับความพ่ายแพ้ไม่ได้ มองผลการแข่งขันสำคัญมากไปกว่าวิธีการ
อยากลองบอกว่า ก็แปลกนะ แพ้กี่แมตช์ ผมก็ยังตามดูทุกแมตช์ ทุกรุ่น ถ้าไม่ติดงาน ภารกิจ เจ ลีค ก็ตามไปดูฟอร์ม ขุดไฮไลท์ อ่านคอมเม้น ตามข่าว ฟังคลิปสัมภาษณ์ รายการบอล สัมภาษณ์โค้ช ดูซิ ที่เราเป็นโค้ชคีย์บอร์ด ในโลกความจริง มันมีตรงกับโค้ชที่เขาไปเรียนมามั่งไหม ผมก็ไม่รู้ว่า คนแบบนี้เรียกรอความสำเร็จไม่ได้ไหม วันที่ทีมชาติยิงฟรีคิก จาก ธวัชชัย 2-1
ชนะเกาหลีแบบพลิ้กล้อค ตอนนั้นยังดูบอลไม่เป็นกว่านี่
ก็ดีใจตื่นเต้นมากๆ ไม่ต่างกับวันที่ อดิศักดิ์ ไกรศร เตะลูกโทษไม่เข้าตกรอบ suzuki cup ล่าสุด
คิงส์คัพที่เจอเวียดนาม ล่าสุด ก็ ตื่นเต้นเช่นเดิม
อาการนี้เรียกว่า รอไม่ได้ไหม
แต่ผมว่าสิ่งที่ มันทำให้หงุดหงิดกัน มันอาจจะไม่ได้เป็นการพ่ายแพ้ก็ได้นะ
เพราะเราก็แพ้กันเยอะแยะ จนชินแล้วนะ ไม่ใช่เพิ่งมาแพ้ ไอ้ที่เรามองเวียดนาม ไม่เท่าเรา จริงๆตั้งแต่สมัยก่อน กับ สิงคโปร์ เราก็โดนนะ ไม่ใช่จะนำอาเซียนไรมากมาย กับ เวียดนาม ก็เช่นกัน ตั้งแต่ เล คอง วินทร์ แล้ว แต่บางทีที่ทำให้ ไม่ค่อยเชื่อในทางนี้อาจจะเพราะ
สิ่งที่ขัดกัน ย้อนแย้งกันเองบางอย่างที่ทำให้เอะใจ แล้ว แคลงใจมากกว่า
คือ แนวทางดูชัดเจน ทำงานเป็นขั้นตอน มีระบบน่าเชื่อถือ ส่งเสริมทุกๆด้าน ที่สำคัญ เป็นสิ่งที่ต้องใช้ เวลา อันนี้ ผมเห็นด้วยมากๆ แต่ อย่างที่บอก เรื่องเล็กคนเรายังมองข้าม จะให้เชื่อมั่นเรื่องใหญ่ได้อย่างไร ว่ามันไม่ใช่ ผักชีโรยหน้า ผมยังคงรู้สึกว่า การที่โค้ชยังคงโทษหญ้า ลืมไปดูสนาม ทั้งที่เคยมีโค้ชก่อนหน้า อ้างเหตุผลนี้มาแล้ว มันบ่งบอกเป็นนัยยะ ว่า แล้วเรื่องพวกนี้ควรมองข้ามจริงเหรอ แล้วต่อให้จ้าวคนละเอียดมีระบบ มา แค่คนเดียว มันจะช่วยได้จริงๆเหรอ ถึงตรงนี้หลายท่านอาจจะบอกว่า ก็ต้องให้เวลาสิ แต่เดี๋ยวนะ
การโทษสนามหญ้ามันยังพึ่งเกิดเร็วๆนี้ ภายใต้น(เยบายการเดินทางพัฒนาที่มั่นคง ดูหนักแน่น แต่ปล่อยให้เกิดการลืมดูสนามหญ้า มัน ใช่แล้วหรือ?
ถ้าด้วยโนยบายมันเข้มแข็งจากระบบที่มีมาก่อน นิชิโนะ คือการเข้ามาเสริม มาช่วยขยับ ตกแต่งจัดวาง ปรับฐาน ผมพอเข้าใจได้
แต่โดยพื้นฐานงานเล็กระบบการทำงานให้เป็นขั้นตอนถ้ามันมีมาอยู่แล้ว การลืมดูหญ้าที่สนามหญ้ามันไม่น่าเกิดขึ้นได้ จริงๆนะครับ หลายท่านอาจจะมอง ทำไมมาเพ่งเล็งจุดนี้ แต่ผมว่ามันบ่งบอกถุงความสัพเพร่า ที่โรยผักชี ด้วยวาทะกรรม และ โครงการใหญ่ๆรึเปล่า เหมือนโร้ดแมพของ.....ยุทธการขยับเหงือก
ขอยืนยันว่ารอได้ครับ รอไม่ได้ให้ทำไงก็ต้องรอ
รับได้ที่แพ้ จะเท่าไรก็เชียร์ก็ต้องรับ แต่ ขอนิดนึงกับระบบการทำงาน ทีดูเหมือนละเอียดชัดเจน แต่ กลับยังปล่อยให้สิ่งเหล่านี้ ยังคงเกิดขึ้นยิ่งกับ โค้ชที่ส่าผลการเรียนจบสูง มันไม่น่าเป็นยังงี้
ขอโทษที่ยาว แต่ผมว่าลึกๆ มันเป็นความ เชื่อ ไว้ใจ
แคลงใจมากกว่า ที่ บาวคนอาจจะรู้สึก แต่ หาเหตุผลไม่ได้ ไล่โค้ชตอนแพ้ มันก็แค่แพะตัวหนึ่ง
ลองดูเอาละกันครับ โครงสร้างองค์กร สำคัญกว่าคน
ยิ่งคนที่อยู่มาก่อน ถูกคัดเลือกว่าดีที่สุด คุณภาพ เรื่องหญ้าไม่น่าเกิดครับ ภาวนาให้ นิชิโนะ ไม่ใช่แพะตัวต่อไป เพราะไม่รู้อีกกี่ปี จะได้โค้ชดีแบบนี้
ละถ้าชนะล่ะ หรือ ชนะเยอะ เอ้าก็ดีใจสิครับรออะไร ใครด่าว่าคิดเยอะ ดิ้นอะไรนักหนา ก็ยินดีครับ
ขอให้มันชนะ หรือ มีการเปลี่ยนแปลงดีขึ้นจริงๆ โดยไม่มาพยายามยัดเยียดขายฝันก็พอ ถึงเป็น โค้ชคีย์บอร์ดกัน ก็ไม่ใช่กระบือครับ เพราะ พวกนี้แหละที่ติดตามเป็นแฟนคลับ ไม่รู้ใครมั่งนะ แต่ผมไปดูหลายสนามทั่วๆเลยล่ะ เสื้อเค้าสโมสรผมก็ซื้อ
ไทยแท้ แพ้เป็น เย็นมานาน ไม่ได้พาล แต่ไหว้วาน ช่วยอย่าโรยผักชี ก็พอ....
ปล.จริงๆ เชียร์ ฮอลแลนด์ มาทั้งชีวิตด้วย ถ้ารับความผิดหวังไม่ได้ คงไม่เชียร์ทีมนี้ ละเพราะหลังดูบอลไทยจน เลิกดูพรีเมียร์ ดู เอริเดวซี่ ลาลิก้าไปเลย ทั้งที่ มันสนุกกว่าเยอะมากกกก กลายเป็นบ้าทีมชาติตัวเอง ดูเจลีค เพราะนักเตะไทย ไปแล้ว จะให้รออีกถึงไหนน่อ
สิ่งที่โค้ชคีย์บอร์ดคนนึง อยากระบาย และ ภาวนา ในวันที่ 5 ก.ย. นี้
ผมอยากระบายว่าถึงต่อให้แพ้ขึ้นมาจริงๆ สำหรับคนที่มองว่าคนแบบพวกผม ยอมรับความพ่ายแพ้ไม่ได้
ผมก็ไม่รู้นะ อาจจะจริงก็ได้ แต่แปลกตรงที่ คนที่ถูกมองว่ารอความสำเร็จไม่ได้ รับความพ่ายแพ้ไม่ได้ มองผลการแข่งขันสำคัญมากไปกว่าวิธีการ
อยากลองบอกว่า ก็แปลกนะ แพ้กี่แมตช์ ผมก็ยังตามดูทุกแมตช์ ทุกรุ่น ถ้าไม่ติดงาน ภารกิจ เจ ลีค ก็ตามไปดูฟอร์ม ขุดไฮไลท์ อ่านคอมเม้น ตามข่าว ฟังคลิปสัมภาษณ์ รายการบอล สัมภาษณ์โค้ช ดูซิ ที่เราเป็นโค้ชคีย์บอร์ด ในโลกความจริง มันมีตรงกับโค้ชที่เขาไปเรียนมามั่งไหม ผมก็ไม่รู้ว่า คนแบบนี้เรียกรอความสำเร็จไม่ได้ไหม วันที่ทีมชาติยิงฟรีคิก จาก ธวัชชัย 2-1
ชนะเกาหลีแบบพลิ้กล้อค ตอนนั้นยังดูบอลไม่เป็นกว่านี่
ก็ดีใจตื่นเต้นมากๆ ไม่ต่างกับวันที่ อดิศักดิ์ ไกรศร เตะลูกโทษไม่เข้าตกรอบ suzuki cup ล่าสุด
คิงส์คัพที่เจอเวียดนาม ล่าสุด ก็ ตื่นเต้นเช่นเดิม
อาการนี้เรียกว่า รอไม่ได้ไหม
แต่ผมว่าสิ่งที่ มันทำให้หงุดหงิดกัน มันอาจจะไม่ได้เป็นการพ่ายแพ้ก็ได้นะ
เพราะเราก็แพ้กันเยอะแยะ จนชินแล้วนะ ไม่ใช่เพิ่งมาแพ้ ไอ้ที่เรามองเวียดนาม ไม่เท่าเรา จริงๆตั้งแต่สมัยก่อน กับ สิงคโปร์ เราก็โดนนะ ไม่ใช่จะนำอาเซียนไรมากมาย กับ เวียดนาม ก็เช่นกัน ตั้งแต่ เล คอง วินทร์ แล้ว แต่บางทีที่ทำให้ ไม่ค่อยเชื่อในทางนี้อาจจะเพราะ
สิ่งที่ขัดกัน ย้อนแย้งกันเองบางอย่างที่ทำให้เอะใจ แล้ว แคลงใจมากกว่า
คือ แนวทางดูชัดเจน ทำงานเป็นขั้นตอน มีระบบน่าเชื่อถือ ส่งเสริมทุกๆด้าน ที่สำคัญ เป็นสิ่งที่ต้องใช้ เวลา อันนี้ ผมเห็นด้วยมากๆ แต่ อย่างที่บอก เรื่องเล็กคนเรายังมองข้าม จะให้เชื่อมั่นเรื่องใหญ่ได้อย่างไร ว่ามันไม่ใช่ ผักชีโรยหน้า ผมยังคงรู้สึกว่า การที่โค้ชยังคงโทษหญ้า ลืมไปดูสนาม ทั้งที่เคยมีโค้ชก่อนหน้า อ้างเหตุผลนี้มาแล้ว มันบ่งบอกเป็นนัยยะ ว่า แล้วเรื่องพวกนี้ควรมองข้ามจริงเหรอ แล้วต่อให้จ้าวคนละเอียดมีระบบ มา แค่คนเดียว มันจะช่วยได้จริงๆเหรอ ถึงตรงนี้หลายท่านอาจจะบอกว่า ก็ต้องให้เวลาสิ แต่เดี๋ยวนะ
การโทษสนามหญ้ามันยังพึ่งเกิดเร็วๆนี้ ภายใต้น(เยบายการเดินทางพัฒนาที่มั่นคง ดูหนักแน่น แต่ปล่อยให้เกิดการลืมดูสนามหญ้า มัน ใช่แล้วหรือ?
ถ้าด้วยโนยบายมันเข้มแข็งจากระบบที่มีมาก่อน นิชิโนะ คือการเข้ามาเสริม มาช่วยขยับ ตกแต่งจัดวาง ปรับฐาน ผมพอเข้าใจได้
แต่โดยพื้นฐานงานเล็กระบบการทำงานให้เป็นขั้นตอนถ้ามันมีมาอยู่แล้ว การลืมดูหญ้าที่สนามหญ้ามันไม่น่าเกิดขึ้นได้ จริงๆนะครับ หลายท่านอาจจะมอง ทำไมมาเพ่งเล็งจุดนี้ แต่ผมว่ามันบ่งบอกถุงความสัพเพร่า ที่โรยผักชี ด้วยวาทะกรรม และ โครงการใหญ่ๆรึเปล่า เหมือนโร้ดแมพของ.....ยุทธการขยับเหงือก
ขอยืนยันว่ารอได้ครับ รอไม่ได้ให้ทำไงก็ต้องรอ
รับได้ที่แพ้ จะเท่าไรก็เชียร์ก็ต้องรับ แต่ ขอนิดนึงกับระบบการทำงาน ทีดูเหมือนละเอียดชัดเจน แต่ กลับยังปล่อยให้สิ่งเหล่านี้ ยังคงเกิดขึ้นยิ่งกับ โค้ชที่ส่าผลการเรียนจบสูง มันไม่น่าเป็นยังงี้
ขอโทษที่ยาว แต่ผมว่าลึกๆ มันเป็นความ เชื่อ ไว้ใจ
แคลงใจมากกว่า ที่ บาวคนอาจจะรู้สึก แต่ หาเหตุผลไม่ได้ ไล่โค้ชตอนแพ้ มันก็แค่แพะตัวหนึ่ง
ลองดูเอาละกันครับ โครงสร้างองค์กร สำคัญกว่าคน
ยิ่งคนที่อยู่มาก่อน ถูกคัดเลือกว่าดีที่สุด คุณภาพ เรื่องหญ้าไม่น่าเกิดครับ ภาวนาให้ นิชิโนะ ไม่ใช่แพะตัวต่อไป เพราะไม่รู้อีกกี่ปี จะได้โค้ชดีแบบนี้
ละถ้าชนะล่ะ หรือ ชนะเยอะ เอ้าก็ดีใจสิครับรออะไร ใครด่าว่าคิดเยอะ ดิ้นอะไรนักหนา ก็ยินดีครับ
ขอให้มันชนะ หรือ มีการเปลี่ยนแปลงดีขึ้นจริงๆ โดยไม่มาพยายามยัดเยียดขายฝันก็พอ ถึงเป็น โค้ชคีย์บอร์ดกัน ก็ไม่ใช่กระบือครับ เพราะ พวกนี้แหละที่ติดตามเป็นแฟนคลับ ไม่รู้ใครมั่งนะ แต่ผมไปดูหลายสนามทั่วๆเลยล่ะ เสื้อเค้าสโมสรผมก็ซื้อ
ไทยแท้ แพ้เป็น เย็นมานาน ไม่ได้พาล แต่ไหว้วาน ช่วยอย่าโรยผักชี ก็พอ....
ปล.จริงๆ เชียร์ ฮอลแลนด์ มาทั้งชีวิตด้วย ถ้ารับความผิดหวังไม่ได้ คงไม่เชียร์ทีมนี้ ละเพราะหลังดูบอลไทยจน เลิกดูพรีเมียร์ ดู เอริเดวซี่ ลาลิก้าไปเลย ทั้งที่ มันสนุกกว่าเยอะมากกกก กลายเป็นบ้าทีมชาติตัวเอง ดูเจลีค เพราะนักเตะไทย ไปแล้ว จะให้รออีกถึงไหนน่อ