น่าจะกำหนดให้วันตายของ มาเรียม เป็น "วันงดใช้พลาสติกแห่งชาติ"

จริงๆ มันก็น่าตกใจนะครับ คิดดู
ซื้อของ 1 ชิ้น ใส่ถุง กลับมาบ้าน เอาถุงออก ทิ้ง
บางทีไปเดินตลาด ตลาดนัด ซื้อของ 10 ชิ้น จาก 10 ร้าน ได้ 10 ถุง
ไม่รวม แก้วพลาสติก หลอดกินน้ำ หรือกินน้ำเปล่า ก็ 1 ขวด
นี่ 1 วันของคน 1 คน เป็นสิบๆ ถุง
แล้วถ้าคนสัก 1 ล้านคน ทำแบบนี้ ใน 1 วัน ก็จะเกิดถุง 10 ล้านใบ 
แล้วก็ทิ้งถังขยะ (คิดว่ารักโลกแล้ว ทิ้งถังขยะ ไม่ทิ้งเรี่ยราด)
แล้วรถขยะก็เอาไป เทรวมๆ เอาไปเทไหนก็ไม่รู้
เผาก็ไม่ได้ ทำอะไรก็ไม่ได้ แล้วมันจะไปไหน ถุงๆ หลอดๆ ขวดๆ มันจะไปไหนล่ะ
สุดท้ายมันก็ล้นแผ่นดินไปหมด ถุงพลาสติกท่วมประเทศ ท่วมโลก และมันก็ค่อยๆ เคลื่อนย้ายจากแผ่นดิน ลงทะเล ออกมหาสมุทร ไปเรื่อยๆ 
ในทะเลมันก็เลยมีแต่ขยะ เพราะถ้ามันหลุดลงทะเลไปแล้วการจะไปตามเก็บมันยากมาก มันไปไหนต่อไหนแล้ว 
สุดท้าย ปลาก็กิน สัตว์ต่างๆ ก็กิน โมเลกุลของพลาสติกมันก็ไปอยู่ในตัวปลา เอาปลามาทำเป็นอาหารมนุษย์ 
กลายเป็นว่า มันก็ย้อนกลับมาอยู่ในตัวเรานี่ล่ะ
ไม่นับว่าสัตว์ต่างๆ กินเข้าไปอุดคออุดลำไส้ตายอีกนะ ถึงไม่ตาย พันธุกรรมก็ผิดเพี้ยน

บางทีเรื่องแบบนี้มันอาจจะเปลี่ยนระบบนิเวศของโลก กลายเป็นชนวนการสูญพันธุ์ครั้งใหญ่ได้เลย
ถ้าไม่กำหนดสักวันเป็นวันงดใช้ถุงๆ หลอดๆ ขวดๆ แบบนี้ รณรงค์แปบๆ ก็เดินเข้าเซเว่น กินน้ำ เอาถุงออกมาอีก เสร็จแล้วก็ลืมๆ ไป ถุงท่วมโลกเหมือนเดิม ถึงจะรู้ว่ารณรงค์ไปสักแค่ไหนก็ไม่เกิดประโยชน์ แต่ก็ยังดีกว่าไม่ทำอะไรเลยจนคนก็ลืมๆ ไป

ปล. เราเรียกคนยุคก่อนๆ ว่า ยุคหิน ยุคเหล็ก สงสัยอนาคตคนรุ่นหลังคงเรียกยุคเราว่ายุคพลาสติกแน่ๆ เลย
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่