เก็บความประทับใจใส่ Hashtag : Kashmir Great Lakes Trek , Kashmir If You Can_ตอนจบ


#KashmirGreatLakeTrek 
#KashmirIFyouCan
#LetsTrek  #Letshimalaya

เก็บความประทับใจใส่ Hashtag : Kashmir Great Lakes Trek , Kashmir If You Can_ตอนแรก


ถ้าสนใจเฉพาะข้อมูลเกี่ยวกับการเดินทางอยู่ที่พาร์ทแรกตามลิงค์นะคะ

หลังจากการเดินทางผ่านมาแล้วสามวัน   จะมาเล่าต่อถึงทริปเทรคกิ้งแคชเมียร์  Day 4 - Day 8 นะคะ


Day 4 - 16 July_ Vishansar Lake --> Gadar Pass --> Gadsar
Distance: 16 KM /Time: 10 hrs. /Altitude: 4,210 M

แปดโมงเช้าวันจันทร์  เริ่มการเดินเทรคกิ้งเป็นวันที่สาม (แต่เป็น Day 4 ของทริป) ก่อนออกเดินทางก็เดินขึ้นเนินไปเก็บภาพแคมป์ที่เป็นที่ราบโล่งกว้างริมธาร  ทุกกลุ่มทัวร์ที่ไม่ใช่เฉพาะกลุ่มของ Let's Himalaya ต่างมาจับจองตั้งแคมป์ในจุดเดียวกัน ทำให้บรรยากาศของแคมป์ในวันนี้ดูคึกคักไปด้วยผู้คน



ที่เห็นหลังคาสีฟ้านี้คือบ้านของคนท้องถิ่น ที่อยู่อาศัยตามภูเขาและทำอาชีพเลี้ยงแกะ 
ซึ่งไม่รู้ว่ามีชื่อเรียกเฉพาะหรือเปล่า แต่เรียกเอาเองว่า "ชาวเขาแคชเมียร์" 


บนเนินที่ขึ้นมาเดินเล่นถ่ายรูปอีกฝั่งเหนือลำธาร  บรรยากาศตอนเช้าที่มีแสงแดดสาดส่อง ภูเขา
ทุ่งโล่งกว้างที่มีม้ายืนเล็มยอดหญ้า สะบัดหางไปมาเบาๆ เป็นบรรยากาศที่ให้ความรู้สึกสงบสุขมาก 
เช่นเดียวกับความสงบสุขของคุณลุงไซมอน 



ดตอนแรกเข้าใจว่าภาพที่เห็นคือสภาพแวดล้อมเป็นหินตะปุ่มตะป่ำปกติค่ะ
จนกระทั่งเห็นคนเลี้ยงแกะ  เห็นความเคลื่อนไหว  จึงพึ่งถึงบางอ้อ  เอ๊ะ!  นั่นฝูงแกะนี่นา  ไม่อยากจะเชื่อว่าตัวเองจะตาถั่วขนาดนั้น  

วันนี้มีเดินข้ามทุ่งโขดหินที่มีน้ำลำธารไหลผ่าน แต่ยังไม่ถึงระดับท่วมหินจนข้ามไม่ได้  ถึงอย่างนั้นการเดินบนหินก็ต้องมีความระมัดระวัง เพราะมันอาจพลิก อาจลื่น  จึงมี "เฮียส้ม" คุณหัวหน้าไกด์ที่สวมใส่แต่สีส้มทุกวัน  (ชุดก็สีส้ม เป้บนหลังก็สีส้ม) กับไกด์อีกคนคอยดูทางช่วยลูกทริปอยู่ 



จำชื่อเขาไม่ได้ เราก็เรียกตามลักษณะทางกายภาพ เฮียส้มนี่ไม่ใช่คนที่เราจะเห็นเขาในระหว่างทางได้บ่อยๆ นะคะ  อย่างดีก็เห็นแค่ตอนเช้ากับตอนเย็นที่แคมป์เท่านั้น  เพราะว่าเขามีตำแหน่งเป็นหัวหน้าไกด์  จึงเป็นคนระดับ "ท่านผู้นำ" ที่จะเดินอยู่กับกลุ่มคนเดินเร็ว หรือ พวกโซนหน้า และแน่นอนว่าไม่ใช่คนสโลว์ๆ อย่างเราจะวัดฝีเท้าตามไปทัน


ส่วนคนที่จะอยู่กับเรา ...จนวันสุดท้าย  คือ  คนนี้  ผู้ถูกเรียกลับหลังว่า My young boy "หนุ่มน้อยของฉัน" 
สาเหตุที่เรียกอย่างนั้น เพราะรู้ว่าเขาอายุยังน้อย บางคนบอกว่า 17 ปี  หรือมากกว่านั้นก็ไม่เกิน 20 ปี 

ผ่านจากช่วงทุ่งโขดหินต้องเดินขึ้นเนินลาดสูงขึ้นไป  การเดินขึ้นเนินช่วงเช้าที่เพิ่งออกเดินใหม่ๆ รู้สึกเหมือนร่างกายยังปรับไม่ลงตัว  มันเหนื่อยจริงๆ  แต่พอพ้นจากเนินขึ้นมาอารมณ์ก็เปลี่ยนทันที  ที่เหนื่อยก็หายเหนื่อย เพราะ  ว้าว !!! ทะเลสาบ งดงามสมกับที่กล่าวกันว่า Vishannsar Lake เป็นทะเลสาบที่สวยที่สุดในบรรดา 7 ทะเลสาบของ Kashmir Great Lakes  ขอหยุดเดิน ขอพักนะ ขอดื่มด่ำกับความสวยงาม ถ่ายรูปชมทะเลสาบสักครู่





เจอคนขี่ม้าผ่านมาเขาก็ให้ม้าพักนิ่งๆ สักครู่ เราก็ไปขอไปถ่ายกับม้าใกล้ๆ 
เขาก็ใจดีลงจากม้าให้เข้าไปถ่ายด้วยตามสบาย เสร็จเรียบร้อยจึงออกเดินทางต่อ

ถ่ายภาพทะเลสาบอยู่อย่างย้ำๆ ซ้ำๆ  ไม่รู้เบื่อหน่าย  ปลื้มปริ่มมากจริงๆ 



มันฟินนนนนนน


แม้ว่าเส้นทางวันนี้จะเป็นเนินลาดต่ำๆ ดังที่เห็นในภาพ แต่การที่ลาดขึ้นสูงเรื่อยๆ ก็ทำเอาเดินเหนื่อยมิใช่น้อย  เดินขึ้นเนิน ลงเนิน ขึ้นเนินอีก เดินยาวไป พอพ้นอีกเนินได้ก็พบกับหนึ่งทะเลสาบ ทะเลสาบน่ะสวยนะ แต่ความโฟกัสไม่ได้อยู่ที่ทะเลสาบอยู่ที่ฝั่งขวามือเหนือทะเสสาบ


“โอมาก๊อดดด ยอดเขามันสูงมาก!!!”

มนุษย์ข้อมูลน้อยอย่างเราได้ฟังจากคนอื่นมาอีกทีว่าว่าวันนี้เป็น main day ที่จะต้องเดินขึ้นเขาที่สูงที่สุดในทริปนี้ ประมาณ 4200 เมตร ณ ตรงหน้า ที่มองเห็นเส้นทางซิกแซกที่มีกลุ่มคนเดินล่วงหน้าไป เห็นสีสันจากเสื้อผ้าของพวกเขาตัวเท่ามดอยู่ไกลๆ ที่เพิ่งเริ่มเดินขึ้นตรงเชิงเขาทางด้านขวามือ  แม้จะยืนถ่ายรูปอยู่ตรงนี้ แต่การจะไปถึงตีนเขาเพื่อเริ่มเดินขึ้น ไม่ใช่ใกล้ๆ นะคะ   เห็นเส้นทางแล้วคิดในใจว่า จะไหวไหมนี่  นอกจากจะเป็นวันที่สูงที่สุดแล้ว ยังจะเป็นวันที่เดินยาวไกลที่สุดด้วยคือประมาณ 16 KM . ตามข้อมูล Google แต่ที่ไกด์บอกเราตัวเลขระยะทางของวัน คือ 18 KM.

วันนี้พวกเราจะเดินผ่านสามทะเลสาบ ผ่าน Vishannsar Lake ผมาแล้วหนึ่ง อยู่ตรงหน้าอีกหนึ่งเป็นทะเลสาบที่สอง  ตอนนี้อารมณ์ถ่ายรูปกับทะเลสาบยังมีบ้างไหม ... ก็ยังพอมีนะ แต่เหนื่อย ยิ่งเห็นเส้นทางต่อไป ก็เข่าอ่อน ขอนั่งพักก่อน ดื่มด่ำกับความงามของทะเลสาบแป๊บนึงก่อน ขอทำใจแป๊บนึงก่อน


Shout out with spirit, I'm engineer!!

พอจะนั่งพักแป๊บๆ เสียงของโกปาลก็ดังข้ามเนินมาก่อนจะเห็นตัวเสียอีก  เขาเข้ามาหา มาทักทายด้วยความเป็นกันเอง และทำตัวคล้ายกับจะเป็น big brother หรือ "ลูกพี่" ของพวกเราเข้าไปทุกที ก็ไม่แน่ใจว่าพวกเราไปสนิทกันตอนไหนเหรอ (555)  และลูกพี่ก็ไม่เคยขาดการทำหน้าที่ของไกด์คือบอกให้พวกเราเลิกนั่งพักและออกเดินได้แล้ว  "ไป"   "เร็วๆ"

เวลาที่คนมันเหนื่อย ก็จะไม่ได้อยากพูดอะไรมาก ตอนเห็นคนอื่นเดินไปคุยไป ก็สงสัยว่าไม่เหนื่อยกันเหรอ แต่ทีนี้ลูกพี่ก็เป็นคนเฟรนด์ลี่มาก เขามักจะชวนลูกทริปพูดคุยอยู่เสมอ และคราวนี้ก็ถามไถ่ชวนคุยว่าทำงานอะไรกัน แต่ละคนก็ตอบงานของตัวเอง แต่มีเสียงหนึ่งที่ถูกถามเป็นคนสุดท้าย You? แล้วเธอล่ะ เสียงฝืดต่ำ ที่ตอบมาว่า "Engineer" ทำให้ทุกคนที่เดินอยู่หัวเราะออกมาทันที เพราะเป็นเสียงที่ฟังแล้วชัดเจนมากว่าแทบจะไร้เรี่ยวแรงพลังที่จะเปล่งมันออกมา

"I'm engineer" จึงเป็นคำล้อเลียนสนุกไปเลย ว่าต้องพูดให้เสียงดังฟังชัด ภาคภูมิใจในความเป็น engineer เวลาฝ่าฟันขึ้นไปถึงบนยอดเขาได้ ให้ทุบอกตัวเองปึ๊กๆ อย่างองอาจแล้ว Shout out loud with spirit, "I'm engineer!!!"  (555) ไม่ต้องถามชื่อให้จดจำกันแล้วทีนี้ เพราะพวกเราได้กลายเป็น  engineer team ไปแล้วเรียบร้อย เจอหน้าที่ไหนก็ถูกเรียก engineer ตลอด Hi, engineer. Engineer, are you okay? แม้แต่ภาพถ่ายที่ระลึกวันสุดท้ายที่เราถ่ายร่วมกันกับลูกพี่ ก็ต้องทำท่าทุบอก "We are engineer!”

ม้าเป็นสัตว์พาหนะที่ถึกทนสุดๆ มันยังยืนพักเหนื่อยเลย   แล้วคนล่ะ ?

บางช่วงทางเดินเป็นหินและพื้นร่วนอย่างที่เห็นในภาพ บางจังหวะมันไถล ม้าก็มีข้าวของหล่น คนต้องมาช่วยกันเอากลับขึ้นหลัง
ไกด์หมวกสีฟ้า  Ajaz รีบวิ่งเข้าไปช่วยทันที ที่เห็นม้าไถลและของหล่น 
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่