(ลงให้ลองอ่านเป็นน้ำจิ้มเท่านั้นค่ะ เนื่องจากเรื่องนี้จะจัดทำเป็น e-book)
“หมายความว่า ที่คุณอาทั้งสองมาหาผมในวันนี้ เพื่อจะขอผ่อนผันหนี้ออกไปก่อนอย่างนั้นเหรอ?” เสียงดุๆเปล่งวาจาออกมาจากริมฝีปากหยักได้รูป
ธาม อัคราวรากรณ์ ถามผู้ชายกับผู้หญิงวัยกลางคนที่นั่งมองเขาด้วยท่าทางพินอบพิเทา
“คือ...คืออย่างนี้นะคะคุณธาม พอดีพวกเรายังหาเงินมาให้คุณธามไม่ได้จริงๆ ตอนนี้ทรัพย์สมบัติที่มีมันก็แทบไม่เหลือ พวกเราเองก็พยายามแล้ว แต่ตอนนี้มันไม่มีจริงๆ” โฉมฉาย หญิงวัยกลางคนบอกด้วยน้ำเสียงสั่นๆ เพราะเกรงและกลัวธาม ส่วนธนเดชผู้เป็นสามีเอาแต่นั่งเงียบปล่อยให้ภรรยาอย่างโฉมฉายออกหน้า
หนุ่มใหญ่หน้าตาหล่อเหลาคมเข้มนั่งอยู่หลังโต๊ะทำงาน ร่างสูงใหญ่กำยำสวมชุดสูทธุรกิจสีเทาเข้มดูสง่างาม ดวงตาคมกริบราวราชสีห์จ้องมองธนเดชกับโฉมฉายนิ่งจนทั้งสองสามีภรรยาสั่นอย่างไม่รู้ตัว
“ถ้าคุณอาสองคนยังหาเงินมาคืนผมไม่ได้ ก็ไม่เป็นไรครับ” ธามเอ่ยด้วยสีหน้าราบเรียบไม่บ่งบอกความรู้สึก
“จริงเหรอหลานชาย!” ธนเดชรีบพูดด้วยความดีใจ คิดว่าอีกฝ่ายจะยอมให้เลื่อนการชำระออกไปก่อน
“ครับ” ธามตอบพร้อมกระตุกยิ้มก่อนจะเอ่ยประโยคที่ทำให้ทั้งธนเดชกับโฉมฉายหน้าซีด “ถ้าคุณอาสองคนยังหาเงินสิบล้านมาไม่ได้ ยังมีบ้านที่เอามาจำนองไว้กับผม ก็ตามนั้นครับ ผมต้องยึดบ้านคุณอาทั้งสองไว้แล้วล่ะ”
“ไม่ได้นะ! โธ่คุณธามคะ ถ้าคุณธามยึดบ้านอา แล้วครอบครัวอาจะไปอยู่กันที่ไหนคะ” โฉมฉายรีบเอ่ยเสียงรน ทั้งนางทั้งผัวนั่งแทบไม่ติด กลัวถูกยึดบ้าน
“นั่นไม่ใช่ปัญหาของผมนี่ครับ” ธามเอ่ยพร้อมรอยยิ้มเหี้ยม
โฉมฉายเห็นท่าไม่ดี ก็รีบต่อรองตามสิ่งที่คิดเตรียมไว้ตั้งแต่เมื่อคืน นางรีบเปิดกระเป๋าก่อนจะหยิบรูปๆหนึ่งออกมาโดยไม่ทันดูดีๆเพราะความรีบร้อน พอหยิบรูปขึ้นมาได้ก็ยื่นให้ธาม
ธามยังไม่รับของที่นางยื่นส่งให้ แต่มองเป็นเชิงถาม
“นี่เป็นรูปลูกสาวของอา ถ้าคุณธามจะเมตตาสงสารอาสองคนด้วยการยืดระยะเวลาการชำระหนี้ออกไปก่อนซักสามปี อาจะยกลูกสาวให้คุณธาม” โฉมฉายเอ่ยอย่างจนตรอก
“ใช่ๆ” ธนเดชรีบเออออห่อหมกไปกับเมีย
ธามเหยียดยิ้มมุมปาก เพราะความโลภ ใช้เงินสุรุ่ยสุร่ายและรักษาหน้าตาทางสังคม ทำให้ชายหญิงสองคนนี้ถึงกับยอมขายลูกกิน
เขาหยิบรูปใบนั้นมาก่อนจะดู
แต่แล้ว ทันทีที่เห็นผู้หญิงในรูป ดวงตาคู่คมก็ฉายแววเป็นประกายสว่างวาบด้วยความพึงใจ ใบหน้าหล่อเหลานิ่งขรึมแดงเล็กน้อย
เด็กสาวหน้าตาจิ้มลิ้มน่ารักผมยาว ผิวขาวอมชมพูระเรื่อในชุดนักศึกษายิ้มสดใสให้กล้อง ใบหน้ารูปไข่ที่มีเครื่องหน้าตรึงใจดูมีเสน่ห์ดวงตากลมโตสุกใส จมูกโด่งได้รูปสวย ริมฝีปากอวบอิ่มสีแดงระเรื่อ พวงแก้มเนียนใส รูปร่างของเธอดูอวบอึ๋มมีน้ำมีนวล
ยิ่งพิจารณาพิศผู้หญิงในรูปใบนี้ ลมหายใจของธามก็ยิ่งติดขัด หากแต่ใบหน้าหล่อเหลายังคงนิ่งเฉย ถ้าไม่สังเกตดีๆก็เดาอารมณ์ไม่ถูก
โฉมฉายกับธนเดชลุ้นการตัดสินใจของธามจนหัวใจแทบจะวาย เมื่อไหร่จะให้คำตอบเสียทีก็ไม่รู้
“ตกลง” ธามบอกเสียงเรียบ
ในขณะที่โฉมฉายกับสามีถึงกับโล่งอกสุดๆ
“ขอบคุณมากนะคะ อาขอบคุณจริงๆ”
ธามทำเนียนลักไก่ไม่ยอมคืนรูปถ่าย เขาหย่อนรูปลงในกระเป๋าชุดสูท ก่อนจะบอกกับธนเดชและโฉมฉาย
“อีกสามวัน คุณอาสองคนพาลูกสาวมาหาผมที่นี่ก็แล้วกัน”
ม่านมุก ผู้แต่ง ปุยปุ้ย --------->>>> บทนำ
“หมายความว่า ที่คุณอาทั้งสองมาหาผมในวันนี้ เพื่อจะขอผ่อนผันหนี้ออกไปก่อนอย่างนั้นเหรอ?” เสียงดุๆเปล่งวาจาออกมาจากริมฝีปากหยักได้รูป
ธาม อัคราวรากรณ์ ถามผู้ชายกับผู้หญิงวัยกลางคนที่นั่งมองเขาด้วยท่าทางพินอบพิเทา
“คือ...คืออย่างนี้นะคะคุณธาม พอดีพวกเรายังหาเงินมาให้คุณธามไม่ได้จริงๆ ตอนนี้ทรัพย์สมบัติที่มีมันก็แทบไม่เหลือ พวกเราเองก็พยายามแล้ว แต่ตอนนี้มันไม่มีจริงๆ” โฉมฉาย หญิงวัยกลางคนบอกด้วยน้ำเสียงสั่นๆ เพราะเกรงและกลัวธาม ส่วนธนเดชผู้เป็นสามีเอาแต่นั่งเงียบปล่อยให้ภรรยาอย่างโฉมฉายออกหน้า
หนุ่มใหญ่หน้าตาหล่อเหลาคมเข้มนั่งอยู่หลังโต๊ะทำงาน ร่างสูงใหญ่กำยำสวมชุดสูทธุรกิจสีเทาเข้มดูสง่างาม ดวงตาคมกริบราวราชสีห์จ้องมองธนเดชกับโฉมฉายนิ่งจนทั้งสองสามีภรรยาสั่นอย่างไม่รู้ตัว
“ถ้าคุณอาสองคนยังหาเงินมาคืนผมไม่ได้ ก็ไม่เป็นไรครับ” ธามเอ่ยด้วยสีหน้าราบเรียบไม่บ่งบอกความรู้สึก
“จริงเหรอหลานชาย!” ธนเดชรีบพูดด้วยความดีใจ คิดว่าอีกฝ่ายจะยอมให้เลื่อนการชำระออกไปก่อน
“ครับ” ธามตอบพร้อมกระตุกยิ้มก่อนจะเอ่ยประโยคที่ทำให้ทั้งธนเดชกับโฉมฉายหน้าซีด “ถ้าคุณอาสองคนยังหาเงินสิบล้านมาไม่ได้ ยังมีบ้านที่เอามาจำนองไว้กับผม ก็ตามนั้นครับ ผมต้องยึดบ้านคุณอาทั้งสองไว้แล้วล่ะ”
“ไม่ได้นะ! โธ่คุณธามคะ ถ้าคุณธามยึดบ้านอา แล้วครอบครัวอาจะไปอยู่กันที่ไหนคะ” โฉมฉายรีบเอ่ยเสียงรน ทั้งนางทั้งผัวนั่งแทบไม่ติด กลัวถูกยึดบ้าน
“นั่นไม่ใช่ปัญหาของผมนี่ครับ” ธามเอ่ยพร้อมรอยยิ้มเหี้ยม
โฉมฉายเห็นท่าไม่ดี ก็รีบต่อรองตามสิ่งที่คิดเตรียมไว้ตั้งแต่เมื่อคืน นางรีบเปิดกระเป๋าก่อนจะหยิบรูปๆหนึ่งออกมาโดยไม่ทันดูดีๆเพราะความรีบร้อน พอหยิบรูปขึ้นมาได้ก็ยื่นให้ธาม
ธามยังไม่รับของที่นางยื่นส่งให้ แต่มองเป็นเชิงถาม
“นี่เป็นรูปลูกสาวของอา ถ้าคุณธามจะเมตตาสงสารอาสองคนด้วยการยืดระยะเวลาการชำระหนี้ออกไปก่อนซักสามปี อาจะยกลูกสาวให้คุณธาม” โฉมฉายเอ่ยอย่างจนตรอก
“ใช่ๆ” ธนเดชรีบเออออห่อหมกไปกับเมีย
ธามเหยียดยิ้มมุมปาก เพราะความโลภ ใช้เงินสุรุ่ยสุร่ายและรักษาหน้าตาทางสังคม ทำให้ชายหญิงสองคนนี้ถึงกับยอมขายลูกกิน
เขาหยิบรูปใบนั้นมาก่อนจะดู
แต่แล้ว ทันทีที่เห็นผู้หญิงในรูป ดวงตาคู่คมก็ฉายแววเป็นประกายสว่างวาบด้วยความพึงใจ ใบหน้าหล่อเหลานิ่งขรึมแดงเล็กน้อย
เด็กสาวหน้าตาจิ้มลิ้มน่ารักผมยาว ผิวขาวอมชมพูระเรื่อในชุดนักศึกษายิ้มสดใสให้กล้อง ใบหน้ารูปไข่ที่มีเครื่องหน้าตรึงใจดูมีเสน่ห์ดวงตากลมโตสุกใส จมูกโด่งได้รูปสวย ริมฝีปากอวบอิ่มสีแดงระเรื่อ พวงแก้มเนียนใส รูปร่างของเธอดูอวบอึ๋มมีน้ำมีนวล
ยิ่งพิจารณาพิศผู้หญิงในรูปใบนี้ ลมหายใจของธามก็ยิ่งติดขัด หากแต่ใบหน้าหล่อเหลายังคงนิ่งเฉย ถ้าไม่สังเกตดีๆก็เดาอารมณ์ไม่ถูก
โฉมฉายกับธนเดชลุ้นการตัดสินใจของธามจนหัวใจแทบจะวาย เมื่อไหร่จะให้คำตอบเสียทีก็ไม่รู้
“ตกลง” ธามบอกเสียงเรียบ
ในขณะที่โฉมฉายกับสามีถึงกับโล่งอกสุดๆ
“ขอบคุณมากนะคะ อาขอบคุณจริงๆ”
ธามทำเนียนลักไก่ไม่ยอมคืนรูปถ่าย เขาหย่อนรูปลงในกระเป๋าชุดสูท ก่อนจะบอกกับธนเดชและโฉมฉาย
“อีกสามวัน คุณอาสองคนพาลูกสาวมาหาผมที่นี่ก็แล้วกัน”