เรื่องมีอยู่ว่าผมกับแฟนผมเป็นเพื่อนกันสมัยม.ปลาย ผมแอบชอบเธอมานาน คือก็ไม่ถึงกับชอบแต่ก็แอบคิดเกินเพื่อนไปบ้าง ตอนนั้นผมมีความคิดว่าอยากเรียนให้จบก่อน อยากมีการงานทำหาเลี้ยงครอบครัวได้ เพราะพ่อแม่ผมท่านแต่งงานกันเร็ว ปม้ปัญหาขรุขระบ้างทั้งครอบครัวทั้งสองฝ่าย แต่ก็มีฐานะพอตัว ทว่าก็ยังมีปัจจัยต่างๆ ที่ยังไม่พร้อม แต่พวกท่านก็เลี้ยงส่งผมได้ไม่มีปัญหา แต่ผมก็รู้ว่าพวกท่านลำบากมามากกว่าจะส่งเสียผมเรียนจบได้
นอกเรื่องไปเยอะ สรุปประเด็นคือ ผมรู้สึกว่าก่อนจะมีแฟนผมต้องมีความรับผิดชอบ สามารถหาเลี้ยงตัวเองได้ก่อน ผมเป็นคนค่อนข้างหัวโบราณนิดๆ เหล้าไม่กิน บุหรี่ไม่สูบ จะชอบดูหนัง หรือเล่นเกมมากกว่า
ทำให้เรียนจบก็แยกย้ายกันไป ไม่ได้คิดจะพัฒนาความสัมพัน แต่เรียนกันคนละมหาลัยแต่อยู่ระแวกเดียวกันเลยเจอกันบ้างไปๆมาๆ ทำให้ผมนึกถึงความหลัง ผมเลยไม่อาจห้ามความรู้สึกชอบที่มีไปได้ ประจวบเหมาะตอนนั้นผมเรียนปี 4 พอดีเป็นปีสุดท้าย ก็รู้สึกว่า ถ้าไม่บอกความรู้สึกที่มีตอนนี้ไปอาจจะไม่มีโอกาสได้บอกอีก
ผมเลยบอกขอคบเธอเป็นแฟน ซึ่งเธอก็ตอบตกลง ผมดีใจมาก เพราะเธอเป็นแฟนคนแรกของผม แม้ผมจะรู้ว่าผมเป็นแฟนคนที่ 4 ของเธอก็ตาม ผมหาโอกาศทุกครั้งที่มีที่จะพัฒนาความสัมพันธ์ให้ยั่งยืน ช่วงแรกๆ ผมกับเธอเจอกันอาทิตย์ละครั้ง โดยผมที่อยู่บ้านก็มักจะไปนอนที่หอเธอเวลาเราเจอกัน
ความรักของเราไม่ได้มีอะไรเกินเลยกันแม้จะนอนด้วยกัน ก็มีเพียงแค่อ้อมกอดเท่านั้นไม่ได้มีสัมพันเกินเลย เพราะเธอยังไม่พร้อม ซึ่งผมก็ยังไม่พร้อมเช่นกัน ทำอย่างมากก็แค่จูบกัน
...4 เดือนผ่านไป
พวกเราคบกันไปแบบนี้จนกระทั่งเธอกับผมเรียนจบ โดยที่ทางบ้านของเธอไม่รู้ว่าเราคบกัน เธอมักถามผมว่าเมื่อไรจะเปิดตัว แต่ผมมักจะปฎิเสธและบอกให้เธอช่วยรอก่อน เพราะผมรู้ว่าพ่อของเธอค่อนข้างหัวโบราณ หรืออีกใจหนึ่งผมเองก็รู้สึกกลัวว่าจะโดนพ่อของเธอ ด่าว่า ว่ามีปัญญาเลี้ยงดูลูกสาวเขาไหม
ผมจึงอยากให้ตัวเองมีงานทำเสียก่อนจึงค่อยเปิดตัวกับที่บ้านเธอ แต่สำหรับที่บ้านผม ผมบอกอยู่แล้วว่าเธอคือแฟนของผมและทุกคนที่บ้านก็รับรู้เป็นปกติโดยเธอก็รู้เรื่องนี้
หลังเรียนจบเราก็ได้เจอกันน้อยลง จากอาทิตย์ละครั้ง เหลือเดือนละครั้ง
ผมหางานทำทันทีหลังเรียนจบ เป็นบริษัทแห่งหนึ่งที่ค่อนข้างมีชื่อเสียง มีความมั่นคง ดูเหมือนสิ่งที่ผมตามหาเพื่อที่จะมีชีวิตคู่
แต่ทุกอย่างกลับตาลปัตร งานที่ผมทำมีความเครียดสูงมาก ทำงาน 6 วันต่ออาทิตย์ ที่ทำงานก็ค่อนข้างไกลทำให้ต้องตื่นเช้า กลับค่ำ เผาผลาญพลังชีวิต ทำให้รู้สึกเหนื่อย แต่ก็พยายามกัดฟันทน ทว่าในใจผมก็รู้สึกว่างานนี้อาจจะยังไม่เหมาะกับผมและสายอาชีพที่ผมเรียนมา
ผมเกิดความไม่มั่นใจในตัวเองขึ้นมา รู้สึกอ่อนแอ ไม่มั่นคง ตอนนั้นเองที่ผมทะเลาะกับแฟนรุนแรงด้วยเหตุผลโง่ๆ อย่างการรำคาญที่เธอชอบพูดจาประชดประชันกันพูดถึงแฟนคนเก่ามาเปรียบกับผม จนเลิกลากันไป
แต่ไม่นานผมก็ตามไปขอโทษคืนดีกัน ด้วยความรู้สึกผิด และผมก็ได้บอกขอโทษและบอกถึงความเครียดในที่ทำงาน และเหตุผลที่ยังไม่ไปเปิดตัวเพราะผมยังรู้สึกกว่ามันยังไม่มั่นคงพอและคิดจะลาออกจากงาน
แฟนผมรับฟังและคืนดีกัน หลังจากนั้นผมก็หางานใหม่ได้ งานที่ผมทำแล้วสบายใจแม้จะเป็นบริษัทใหม่ แต่มันก็เป็นงานที่ทำให้ผมมีเวลาว่างมากพอจะสนใจเธอคุยกับเธอบ่อยขึ้น ผมมีรถเก็งเก่าๆ ขับ มีคอนโดอยู่ มีงานที่ทำแล้วรู้สึกสบายใจ ผมรู้สึกว่าผมพร้อมแล้วที่จะเปิดตัวกับครอบครัวฝั่งเธอ แต่เธอบอกว่ารู้สึกกับผมไม่เหมือนเดิม และเธอยังไม่พร้อมจะให้ครอบครัวเธอรู้จักกับผม ผมเสียใจ แต่ผมก็เข้าใจเธอ
จากวันนั้น ผ่านมาแล้ว 1 ปี แต่ก็ยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ถ้านับจากที่เริ่มคบกันก็ครบ 2 ปี แล้ว แต่ความสัมพันธ์ก็ยังไม่มีวี่แววว่าจะพัฒนาไปไหน
ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา พวกเราไม่ได้มีอะไรเกินเลยต่อกัน ทำแค่เพียงไปดูหนังด้วยกัน อาทิตย์เว้นอาทิตย์ เธอยังไม่ได้ทำงาน ทำให้มีเวลาว่างแต่เพราะที่บ้านทำให้ไม่เคยได้ไปไหนด้วยกันมากนัก เจอกันแต่ละครั้งเธอก็จะบอกที่บ้านว่าไปเจอเพื่อน
ผมรู้สึกน้อยใจ น้อยใจแล้วก็สำนึกเสียใจที่วันนั้นพลั้งเผลอทำให้เธอเสียใจทำให้เธอยังไม่ยอมรับผม
แต่ผมก็อยากให้ความสัมพันเราพัฒนามากขึ้น ผมอยากใช้เวลาสุดสัปดาห์ผ่านเธอไปเที่ยวไกลๆ หรือไปเดตดูท้องฟ้าจำลอง ปิกนิตเที่ยวทะเลหมู่เกาะ แต่ก็ทำได้เพียงไปโรงหนังแถวบ้านเธอและดูหนังด้วยกันอาทิตย์เว้นอาทิตย์ต่อไป
------------------------------------------------------
เรื่องของเรื่องที่ร่ายยืดยาวมาก็คือ อยากจะถามว่าผมควรทำไงดีครับ ควรรอเธอต่อไป หรือบุกไปบ้านเธอเลยดี ไม่รู้จะฝืนบังคับจิตใจกันเกินเลยไปไหม
เอาเป็นว่าคิดซะว่าอ่านนิยายน้ำเน่าละกันครับ ผมอยากรู้ว่าควรวางตัวยังไงดี แฟนคนแรกคบมา 2 ปี ก็ยังทำตัวไม่ค่อยถูก ไม่ค่อยมีคนให้ปรึกษาด้วย
คบแฟนมา 2 ปี แฟนยังไม่พร้อมให้เปิดตัว ควรทำตัวยังไงดี อยากให้ความสัมพันพัฒนาขึ้น
นอกเรื่องไปเยอะ สรุปประเด็นคือ ผมรู้สึกว่าก่อนจะมีแฟนผมต้องมีความรับผิดชอบ สามารถหาเลี้ยงตัวเองได้ก่อน ผมเป็นคนค่อนข้างหัวโบราณนิดๆ เหล้าไม่กิน บุหรี่ไม่สูบ จะชอบดูหนัง หรือเล่นเกมมากกว่า
ทำให้เรียนจบก็แยกย้ายกันไป ไม่ได้คิดจะพัฒนาความสัมพัน แต่เรียนกันคนละมหาลัยแต่อยู่ระแวกเดียวกันเลยเจอกันบ้างไปๆมาๆ ทำให้ผมนึกถึงความหลัง ผมเลยไม่อาจห้ามความรู้สึกชอบที่มีไปได้ ประจวบเหมาะตอนนั้นผมเรียนปี 4 พอดีเป็นปีสุดท้าย ก็รู้สึกว่า ถ้าไม่บอกความรู้สึกที่มีตอนนี้ไปอาจจะไม่มีโอกาสได้บอกอีก
ผมเลยบอกขอคบเธอเป็นแฟน ซึ่งเธอก็ตอบตกลง ผมดีใจมาก เพราะเธอเป็นแฟนคนแรกของผม แม้ผมจะรู้ว่าผมเป็นแฟนคนที่ 4 ของเธอก็ตาม ผมหาโอกาศทุกครั้งที่มีที่จะพัฒนาความสัมพันธ์ให้ยั่งยืน ช่วงแรกๆ ผมกับเธอเจอกันอาทิตย์ละครั้ง โดยผมที่อยู่บ้านก็มักจะไปนอนที่หอเธอเวลาเราเจอกัน
ความรักของเราไม่ได้มีอะไรเกินเลยกันแม้จะนอนด้วยกัน ก็มีเพียงแค่อ้อมกอดเท่านั้นไม่ได้มีสัมพันเกินเลย เพราะเธอยังไม่พร้อม ซึ่งผมก็ยังไม่พร้อมเช่นกัน ทำอย่างมากก็แค่จูบกัน
...4 เดือนผ่านไป
พวกเราคบกันไปแบบนี้จนกระทั่งเธอกับผมเรียนจบ โดยที่ทางบ้านของเธอไม่รู้ว่าเราคบกัน เธอมักถามผมว่าเมื่อไรจะเปิดตัว แต่ผมมักจะปฎิเสธและบอกให้เธอช่วยรอก่อน เพราะผมรู้ว่าพ่อของเธอค่อนข้างหัวโบราณ หรืออีกใจหนึ่งผมเองก็รู้สึกกลัวว่าจะโดนพ่อของเธอ ด่าว่า ว่ามีปัญญาเลี้ยงดูลูกสาวเขาไหม
ผมจึงอยากให้ตัวเองมีงานทำเสียก่อนจึงค่อยเปิดตัวกับที่บ้านเธอ แต่สำหรับที่บ้านผม ผมบอกอยู่แล้วว่าเธอคือแฟนของผมและทุกคนที่บ้านก็รับรู้เป็นปกติโดยเธอก็รู้เรื่องนี้
หลังเรียนจบเราก็ได้เจอกันน้อยลง จากอาทิตย์ละครั้ง เหลือเดือนละครั้ง
ผมหางานทำทันทีหลังเรียนจบ เป็นบริษัทแห่งหนึ่งที่ค่อนข้างมีชื่อเสียง มีความมั่นคง ดูเหมือนสิ่งที่ผมตามหาเพื่อที่จะมีชีวิตคู่
แต่ทุกอย่างกลับตาลปัตร งานที่ผมทำมีความเครียดสูงมาก ทำงาน 6 วันต่ออาทิตย์ ที่ทำงานก็ค่อนข้างไกลทำให้ต้องตื่นเช้า กลับค่ำ เผาผลาญพลังชีวิต ทำให้รู้สึกเหนื่อย แต่ก็พยายามกัดฟันทน ทว่าในใจผมก็รู้สึกว่างานนี้อาจจะยังไม่เหมาะกับผมและสายอาชีพที่ผมเรียนมา
ผมเกิดความไม่มั่นใจในตัวเองขึ้นมา รู้สึกอ่อนแอ ไม่มั่นคง ตอนนั้นเองที่ผมทะเลาะกับแฟนรุนแรงด้วยเหตุผลโง่ๆ อย่างการรำคาญที่เธอชอบพูดจาประชดประชันกันพูดถึงแฟนคนเก่ามาเปรียบกับผม จนเลิกลากันไป
แต่ไม่นานผมก็ตามไปขอโทษคืนดีกัน ด้วยความรู้สึกผิด และผมก็ได้บอกขอโทษและบอกถึงความเครียดในที่ทำงาน และเหตุผลที่ยังไม่ไปเปิดตัวเพราะผมยังรู้สึกกว่ามันยังไม่มั่นคงพอและคิดจะลาออกจากงาน
แฟนผมรับฟังและคืนดีกัน หลังจากนั้นผมก็หางานใหม่ได้ งานที่ผมทำแล้วสบายใจแม้จะเป็นบริษัทใหม่ แต่มันก็เป็นงานที่ทำให้ผมมีเวลาว่างมากพอจะสนใจเธอคุยกับเธอบ่อยขึ้น ผมมีรถเก็งเก่าๆ ขับ มีคอนโดอยู่ มีงานที่ทำแล้วรู้สึกสบายใจ ผมรู้สึกว่าผมพร้อมแล้วที่จะเปิดตัวกับครอบครัวฝั่งเธอ แต่เธอบอกว่ารู้สึกกับผมไม่เหมือนเดิม และเธอยังไม่พร้อมจะให้ครอบครัวเธอรู้จักกับผม ผมเสียใจ แต่ผมก็เข้าใจเธอ
จากวันนั้น ผ่านมาแล้ว 1 ปี แต่ก็ยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ถ้านับจากที่เริ่มคบกันก็ครบ 2 ปี แล้ว แต่ความสัมพันธ์ก็ยังไม่มีวี่แววว่าจะพัฒนาไปไหน
ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา พวกเราไม่ได้มีอะไรเกินเลยต่อกัน ทำแค่เพียงไปดูหนังด้วยกัน อาทิตย์เว้นอาทิตย์ เธอยังไม่ได้ทำงาน ทำให้มีเวลาว่างแต่เพราะที่บ้านทำให้ไม่เคยได้ไปไหนด้วยกันมากนัก เจอกันแต่ละครั้งเธอก็จะบอกที่บ้านว่าไปเจอเพื่อน
ผมรู้สึกน้อยใจ น้อยใจแล้วก็สำนึกเสียใจที่วันนั้นพลั้งเผลอทำให้เธอเสียใจทำให้เธอยังไม่ยอมรับผม
แต่ผมก็อยากให้ความสัมพันเราพัฒนามากขึ้น ผมอยากใช้เวลาสุดสัปดาห์ผ่านเธอไปเที่ยวไกลๆ หรือไปเดตดูท้องฟ้าจำลอง ปิกนิตเที่ยวทะเลหมู่เกาะ แต่ก็ทำได้เพียงไปโรงหนังแถวบ้านเธอและดูหนังด้วยกันอาทิตย์เว้นอาทิตย์ต่อไป
------------------------------------------------------
เรื่องของเรื่องที่ร่ายยืดยาวมาก็คือ อยากจะถามว่าผมควรทำไงดีครับ ควรรอเธอต่อไป หรือบุกไปบ้านเธอเลยดี ไม่รู้จะฝืนบังคับจิตใจกันเกินเลยไปไหม
เอาเป็นว่าคิดซะว่าอ่านนิยายน้ำเน่าละกันครับ ผมอยากรู้ว่าควรวางตัวยังไงดี แฟนคนแรกคบมา 2 ปี ก็ยังทำตัวไม่ค่อยถูก ไม่ค่อยมีคนให้ปรึกษาด้วย