กระเป๋าที่ว่านี้คนญี่ปุ่นจะรู้จักกันในชื่อว่า รันโดเซรุ (Randoseru : ランドセル) ซึ่งมาจากภาษาดัชท์ (Ransel) ถูกนำเข้ามาในสมัยเอโดะ เมื่อรัฐบาลโชกุนได้นำระบบทหารแบบตะวันตกเข้ามาใช้ จึงรับกระเป๋าแบบแบ็คแพคที่ไว้ใส่สัมภาระมาด้วย เริ่มแรกนั้นคำว่า Ransel คนญี่ปุ่นสมัยนั้นออกเสียงว่า รันเซรุ (ランセル) หรือรันนุเซรุ (ラヌセル) จนท้ายที่สุดได้เพี้ยนมาเป็นรันโดเซรุแบบในปัจจุบัน หลังจากนั้นรันโดเซรุก็พัฒนาขึ้นมาเรื่อยๆจนเมื่อถึงสมัยเมจิก็ได้มีการให้นักเรียนประถมในโรงเรียนของรัฐได้ใช้
ปี 2004 ได้มีการเปลี่ยนวัสดุที่ใช้ทำกระเป๋าโดยใช้หนังเทียมเพื่อให้มีน้ำหนักเบาและแข็งแรง ส่วนใครอยากได้รันโดเซรุที่ทำจากหนังจริงๆก็มีขายทั้งหนังวัวและหนังม้า แต่ราคาอาจจะแพงกว่าแบบปกติ จนปี 2011 เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ของรันโดเซรุ เนื่องจากประชาชนต้องการให้กระเป๋านั้นใส่กระดาษไซส์ A4 ได้โดยไม่ต้องพับหรือม้วน ซึ่งทางโรงงานผู้ผลิตก็ต้องทำออกมาเพื่อรองรับความต้องการนั้น
สมัยก่อนนั้นเด็กญี่ปุ่นจะนิยมใช้สีของกระเป๋ารันโดเซรุตามเพศของตนเองคือเด็กผู้ชายจะนิยมใช้สีดำและเด็กผู้หญิงนิยมใช้สีแดง แต่ปัจจุบันแนวคิดเหล่านี้ก็ค่อยๆหายไปเนื่องจากกระเป๋ารันโดเซรุนั้นนอกจากสีดำและแดงก็ยังมีให้เลือกหลากสีตามที่ผู้ใช้ชอบ เช่น สีชมพู, สีฟ้า, สีเหลือง, สีน้ำตาลและสีเขียว เป็นต้น


ปัจจุบันกระเป๋านักเรียนญี่ปุ่น เป็นที่นิยมทั่วโลก ใครๆ ก็สามารถสั่งซื้อได้ตามประเทศต่างๆ รวมไปถึงการสั่งซื้อทางเว็บไซต์ ทางออนไลน์
ราคาก็ตามค่าเงินของแต่ละประเทศ ( 3 ภาพนี้คือภาพที่เราถ่ายไว้ตอนไปญี่ปู่นมาค่ะ)



รันโดะเซะรุ เเต่ละใบนั้นจะอยู่ที่ 35,000 เยน ถึง 162,000 เยน หรือคิดเป็นเงินไทยก็ราวๆ 10,500 บาทถึง 48,000 บาท เเต่เมื่อเทียบกับคุณภาพเเล้วก็นับว่าคุ้มค่าอยู่ไม่น้อย
ถึงแม้ว่ากระเป๋านักเรียนญี่ปุ่น จะมีราคาสูง แต่ก็ยังทำให้ครอบครัวคนญี่ปุ่นนิยมใช้งานกระเป๋าใบนี้สูงมาก เพราะคุณภาพคุ้มค่ากับราคาที่เสียไป ที่สำคัญกระเป๋าสามารถสร้างความทรงจำอย่างดี ให้กับเด็กๆ

แม้ราคากระเป๋าจะสูงไปสำหรับบ้านเรา แต่ความคุ้มค่า คงทนและความปลอดภัยก็ถือว่าโอเคเลย
กระเป๋านักเรียนญี่ปุ่น randoseru หรือเป้สะพายหลังของนักเรียนระดับชั้นอนุบาลและประถมศึกษา
กระเป๋าที่ว่านี้คนญี่ปุ่นจะรู้จักกันในชื่อว่า รันโดเซรุ (Randoseru : ランドセル) ซึ่งมาจากภาษาดัชท์ (Ransel) ถูกนำเข้ามาในสมัยเอโดะ เมื่อรัฐบาลโชกุนได้นำระบบทหารแบบตะวันตกเข้ามาใช้ จึงรับกระเป๋าแบบแบ็คแพคที่ไว้ใส่สัมภาระมาด้วย เริ่มแรกนั้นคำว่า Ransel คนญี่ปุ่นสมัยนั้นออกเสียงว่า รันเซรุ (ランセル) หรือรันนุเซรุ (ラヌセル) จนท้ายที่สุดได้เพี้ยนมาเป็นรันโดเซรุแบบในปัจจุบัน หลังจากนั้นรันโดเซรุก็พัฒนาขึ้นมาเรื่อยๆจนเมื่อถึงสมัยเมจิก็ได้มีการให้นักเรียนประถมในโรงเรียนของรัฐได้ใช้
ปี 2004 ได้มีการเปลี่ยนวัสดุที่ใช้ทำกระเป๋าโดยใช้หนังเทียมเพื่อให้มีน้ำหนักเบาและแข็งแรง ส่วนใครอยากได้รันโดเซรุที่ทำจากหนังจริงๆก็มีขายทั้งหนังวัวและหนังม้า แต่ราคาอาจจะแพงกว่าแบบปกติ จนปี 2011 เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ของรันโดเซรุ เนื่องจากประชาชนต้องการให้กระเป๋านั้นใส่กระดาษไซส์ A4 ได้โดยไม่ต้องพับหรือม้วน ซึ่งทางโรงงานผู้ผลิตก็ต้องทำออกมาเพื่อรองรับความต้องการนั้น
สมัยก่อนนั้นเด็กญี่ปุ่นจะนิยมใช้สีของกระเป๋ารันโดเซรุตามเพศของตนเองคือเด็กผู้ชายจะนิยมใช้สีดำและเด็กผู้หญิงนิยมใช้สีแดง แต่ปัจจุบันแนวคิดเหล่านี้ก็ค่อยๆหายไปเนื่องจากกระเป๋ารันโดเซรุนั้นนอกจากสีดำและแดงก็ยังมีให้เลือกหลากสีตามที่ผู้ใช้ชอบ เช่น สีชมพู, สีฟ้า, สีเหลือง, สีน้ำตาลและสีเขียว เป็นต้น
ปัจจุบันกระเป๋านักเรียนญี่ปุ่น เป็นที่นิยมทั่วโลก ใครๆ ก็สามารถสั่งซื้อได้ตามประเทศต่างๆ รวมไปถึงการสั่งซื้อทางเว็บไซต์ ทางออนไลน์
ราคาก็ตามค่าเงินของแต่ละประเทศ ( 3 ภาพนี้คือภาพที่เราถ่ายไว้ตอนไปญี่ปู่นมาค่ะ)
รันโดะเซะรุ เเต่ละใบนั้นจะอยู่ที่ 35,000 เยน ถึง 162,000 เยน หรือคิดเป็นเงินไทยก็ราวๆ 10,500 บาทถึง 48,000 บาท เเต่เมื่อเทียบกับคุณภาพเเล้วก็นับว่าคุ้มค่าอยู่ไม่น้อย
ถึงแม้ว่ากระเป๋านักเรียนญี่ปุ่น จะมีราคาสูง แต่ก็ยังทำให้ครอบครัวคนญี่ปุ่นนิยมใช้งานกระเป๋าใบนี้สูงมาก เพราะคุณภาพคุ้มค่ากับราคาที่เสียไป ที่สำคัญกระเป๋าสามารถสร้างความทรงจำอย่างดี ให้กับเด็กๆ
แม้ราคากระเป๋าจะสูงไปสำหรับบ้านเรา แต่ความคุ้มค่า คงทนและความปลอดภัยก็ถือว่าโอเคเลย