สู่จุดเหนือสุดแดนอาทิตย์อุทัย...วัคคาไน (หิมะแรกโปรยปราย)
การเดินทาง : 18-29 พฤศจิกายน 2018
พิกัด : ฮอกไกโด, ญี่ปุ่น
เมือง : วัคคาไน อะซาฮิคาวะ คุชิโระ ฮาโกดาเตะ โอตารุ โนโบริเบ็ทสึ ซับโปโร
สวัสดีครับ "เพราะโลกนั้นกว้าง" กลับมาอีกครั้งหลังจากห่างหายไปนานพอสมควร ประกอบกับช่วงนี้ใกล้จะเข้าสู่ปลายปีแล้ว หลายคนก็คงวางแผนจะไปเที่ยวที่ต่างประเทศกัน และในกิจกรรมที่คนไทยชื่นชอบก็คือไปสัมผัสหิมะใช่ไหมครับ รีวิวนี้ผมจะพาไปตะลุยเกาะฮอกไกโดกัน เป็นการไปฮอกไกโดครั้งแรก และที่สำคัญไปสัมผัสหิมะครั้งแรกด้วย (หลังจากทิ้งตั๋วโปรฮาร์บินราคา 4268 บาทตอนสิ้นปีทิ้งไป)
การเดินทางไปฮอกไกโดครั้งนี้ถือได้ว่าจะไปครบทุกทิศของเกาะฮอกไกโด ตั้งแต่เหนือสุดยันตะวันออกและใต้กลับมาที่ซับโปโร โดยวันแรกที่มาถึงฮอกไกโดจุดหมายแรกที่ผมจะไปคือ จุดเหนือสุดของญี่ปุ่นและฮอกไกโด นั่นคือ "วัคคาไน" นั่นเอง
การเดินทาง
สายการบิน : การบินไทย
• การไปฮอกไกโด สามารถไปโดยเครื่องบิน (เออนั่นสิ จะไปทางเรือหรือเดินไปคงไม่ดี) โดยบินตรงจากกรุงเทพฯ สู่สนามบินนิวชิโตเสะ โดย 2 สายการบินคือ การบินไทย และแอร์เอเชีย โดยรอบนี้ผมบินกับการบินไทยครับ เพราะคิดค่าโหลดกระเป๋าช่วงหน้าหนาว ของฝาก ของกินอีก อันนี้ตอบโจทย์พอดี
ช่วงเวลาการเดินทาง
• ผมเลือกไปช่วงรอยต่อใบไม้ร่วงเข้าฤดูหนาว โดยเดินทางตั้งแต่ 18-29 พฤศจิกายน 2018 แต่ต้องกาดอกจันไว้เลยนะครับ ในปี 2017 ฮอกไกโดหิมะตกก่อนปี 2018 ถึงสองสัปดาห์ แต่ปีนี้ (2018) ฮอกไกโดมีปรากฏการณ์หิมะตกช้าสุดในรอบ 132 ปี เรามาลุ้นกันจะเจอหิมะตกกันไหม ???
ใช้เวลาการเดินทางจากไทยไปซับโปโรประมาณ 6 ชั่วโมง 45 นาที เครื่องบินก็แล่นเข้าสู่เกาะฮอกไกโด เกาะเหนือสุดของญี่ปุ่น สภาพบรรยากาศวันที่ 19 พย. 2018 บรรยากาศอึมครึม ดูหม่นหมอง ไร้แววหิมะตก
เครื่องบินของการบินไทยมาถึงสนามบินชินชิโตเสะเวลา 08.20 น. และบรรยากาศดูหม่นหมองซึ่งอาจเป็นเพราะเป็นช่วงรอยต่อฤดูจากใบไม้ร่วงไปฤดูหนาว เครื่องการบินไทยมาถึงลำแรก ทำให้คิวตม. ว่าง เพราะพพวกเรามาถึงกลุ่มแรก แต่สักพักไม่ถึง 10-15 นาที สายการบินแอร์เอเชียก็ตามมา เมื่อผ่านตม.และศุลกากรแล้ว พ้นประตูก็จะเจอโดราเอมอนต้อนรับ และตอนนี้เราจะไปเมืองเหนือสุดแดนญี่ปุ่นกัน
ข้อมูลการเดินทางในฮอกไกโดและวัคคาไน
การเดินทางในฮอกไกโด สามารถเดินทางได้ 3 แบบ คือ
1. เครื่องบินภายในประเทศ
2. เช่ารถขับ (มีใบขับขี่สากล)
3. รถไฟ (รถไฟฟ้าใต้ดิน, รถไฟ JR)
ในรีวิวนี้ผมก็จะอธิบายการเดินทางโดยรถไฟ การเดินทางโดยรถไฟระหว่างเมือง สิ่งที่ต้องคิดไว้คือ ต้องเดินทางระหว่างเมืองกี่วัน ใกล้ไกลไหม ค่าใช้จ่ายเปรียบเทียบระหว่างจ่ายรายเที่ยวและแบบใช้พาสเดินทาง
• การเดินทางในฮอกไกโด สามารถใช้ HOKKAIDO RAIL PASS ได้ ซึ่งแบ่งได้เป็น
1. Hokkaido Rail Pass 3 วัน
2. Hokkaido Rail Pass 5 วัน
3. Hokkaido Rail Pass 7 วัน
4. Hokkaido Rail Pass Flexible 4 วัน
การจะใช้ Pass แบบใดก็ต้องคำนวณว่าเราไปฮอกไกโดกี่วัน พาสเหล่านี้จะคุ้มเมื่อต้องไปนอกเมืองไกล ๆ แต่ถ้าใกล้ ๆ ลองคำนวณค่าพาสกับแบบรายเที่ยวจาก Hypedia อย่างผมไป 11 วัน เมืองที่ไปไกล ๆ ทั้งนั้น เช่น วัคคาไน อะซาฮิคาวะ คุชิโระ ฮาโกดาเตะ โนโบริเบ็ทสึ แค่ไปกลับเมืองเดียวก็หลายพันเยนแล้วครับ
ในการเดินทางครั้งนี้ผมใช้พาส 7 วัน ราคาพาส 7 วันราคา 24000 เยน แต่เมื่อคำนวณแบบรายเที่ยว ราคา 37970 เยน ประหยัดเงินตั้ง 13970 เยน (เกือบ ๆ 4000 บาท)
ขั้นตอนการแลก Hokkaido Pass
เมื่อถึงสนามบินชินชิโตเสะ เราก็จะนำ vocher ที่ได้รับจากไทยไปแลกเป็น JR PASS ตัวจริง โดยเมืองแรกที่ผมจะไป คือ วัคคาไน พนักงานที่เคาเตอร์ตกใจว่า ไปวัคคาไนเหรอ และพอรู้ว่าเป็นคนไทย พนักงานหญิงก็พยายามพูดไทยกับผม ปลื้มปริ่ม
การเดินทางไปเมืองวัคคาไน
1. เครื่องบิน จากซับโปโรไปวัคคาไน มีเพียงสายเดียวที่บริการคือ ANA
2. รถไฟ
~ รถไฟไปวัคคาไน ที่แนะนำจะมีสองแบบ คือ
2.1 สาย SOYA วิ่งตรงจากซับโปโรไปวัคคาไน มีเพียงรอบเดียวคือ รอบเวลา 07.30 น. โดยไม่ต้องเปลี่ยนสถานีที่อะซาฮิคาวะ
2.2 ขบวนที่ต้องไปเปลี่ยนขบวนที่อะซาฮิคาวะ เพื่อไปวัคคาไน
2.3 ขบวนที่เปลี่ยนหลายสถานี (ไม่แนะนำเด็ดขาด)
เนื่องจากผมวางแพลนจะไปที่ไกลสุดก่อนเป็นอันดับแรก และค่อยมาซับโปโรตอนหลัง เลยให้วัคคาไนเป็นเมืองแรก และเครื่องบินมาถึงสนามบินก็เวลา 08.30 น. แสดงว่าไม่ทันสาย SOYA ทำให้ต้องรอรอบต่อไปคือเวลา 12.00 น. ซึ่งจะเป็นขบวนที่ต้องเปลี่ยนที่อะซาฮิคาวะ ซึ่งใช้เวลาประมาณ 5-6 ชั่วโมง
คำแนะนำ
• ถ้าทันรอบ 07.30 น. ที่เป็นสาย SOYA จะถึงวัคคาไนเวลา 12.40 น.
• ถ้าไม่ทันรอบ 07.30 น. อีกรอบที่แนะนำคือ รอบที่ 2 ที่จะออกซับโปโรเวลา 12.00 น. และเปลี่ยนขบวนที่อะซาฮิคาวะ ถึงวัคคาไนเวลา 17.21 น.
การนั่งรถไฟไปวัคคาไนใช้เวลาค่อนข้างนานเกือบวัน ดังนั้นเราก็ต้องซื้ออาหาร ของกินเล่นแถวสถานีรถไฟซับโปโรกันก่อน โดยที่สถานีนี้มีเมนูที่เค้านแนะนำกันนั่นคือ
“แซนด์วิชไข่ แห่งสถานีซับโปโร” ที่มีจำหน่ายที่สถานีซับโปโรเท่านั้น มีจำหน่ายที่ร้าน KIOSK เท่านั้น
แซนด์วิชไข่นี้ราคา 680 เยน โดยมีจุดเด่นคือ ไข่มาจากฟาร์มไก่ชื่อดังเมือง Ebetsu และขนมปังโฮมเมดจากร้าน Okameya ที่โด่งดังในซับโปโร กล่องหนึ่งจะประกอบด้วยแซนด์วิชไข่ 6 ชิ้น ขนมปังกรอบและสาหร่ายแผ่น
ส่วนความอร่อย 8.5/10 เหมาะเอาไปเป็นของว่างกินบนรถไฟ
ในที่สุดก็ได้เวลาออกเดินทางไปยังจุดเหนือสุดของแผ่นดินญี่ปุ่นแล้ว บรรยากาศค่อนข้างหนาวครับเพราะฝนตก และมีลมยืนสั่นบนชานชาลา บรรยากาศสองข้างทางเปลี่ยนไปตามเมือง สลับทุ่งหญ้าเขียวขจี ทุ่งหญ้าเหลืองน้ำตาล ฝนตก และบางบริเวณมีหิมะตก เนื่องจากยังเป็นช่วงรอยต่อฤดูกาลจากใบไม้ร่วงเข้าสู่ฤดูหนาวนั่นเอง
บรรยากาศสองข้างทางจากเปลี่ยนไป ผู้คนจากที่ขึ้นจากซับโปโรก็หนาแน่น และเริ่มน้อยลงจนถึงอะซาฮิคาวะ เมื่อเปลี่ยนขบวนรถไฟไปวัคคาไน คนก็เริ่มน้อยลงตามระยะทางและเวลาที่มากขึ้น จนแสงสุดท้ายของวันก็หมดไป รถไฟก็มาถึงสถานีวัคคาไนเวลา 17.21 น.
"สู่สถานีเหนือสุดแดนญี่ปุ่น จุดสิ้นสุดทางรถไฟสายเหนือ สถานีวัคคาไน"
บรรยากาศสถานีวัคคาไนเวลา 17.30 น. มืดและเงียบเนื่องจากเข้าสู่ฤดูหนาว เมื่อออกจากรถไฟก็จะเจอป้ายไม้
รูปด้านขวา เขียนว่า
“Northernmost Tip of Japan
Wakkanai Station”
แปลว่า “ปลายเหนือสุดของญี่ปุ่น สถานีวัคคาไน”
รูปด้านซ้าย เขียนว่า
“จากสถานีซับโปโรมาสถานีวัคคาไน เป็นระยะทาง 396.2 กิโลเมตร”
ภาพด้านนอกสถานีปลายทางทิศเหนือสุด/สถานีเหนือสุด สถานีวัคคาไน
บรรยากาศบริเวณหน้าสถานีวัคคาไน เงียบสงบ และไร้ผู้คน ได้เวลาหาโรงแรมที่พักกันแล้ว โรงแรมที่พักในวัคคาไนคือ Dormy inn Wakkanai ที่เลือกที่นี่เพราะใกล้สถานีวัคคาไนและกำแพงกั้นลม รวมถึงมีออนเซ็นและราเมนมื้อดึก (รีวิวตอนท้ายนะครับ)
ยามเช้าก่อนแสงวันใหม่จะโผล่พ้นเขา ณ เมืองเหนือสุดแผ่นดินญี่ปุ่น วัคคาไน
ยามเช้าจากวิวหน้าต่างห้องพักของผมที่โรงแรม Dormy Inn Wakkanai แสงอาทิตย์โผล่พ้นจากภูเขาเห็นสถานีวัคคาไนเบื้องต้น และกังหันลมบนภูเขาอย่างเด่นชัด
มุมถ่ายรูปบริเวณหน้าต่าง เห็นวิวเมืองวัคคาไน
ยามเช้าจากโรงแรมดอร์มี่ อินน์ ไปยังกำแพงกั้นลม (Wakkanai Port North Breakwater Dome) ใช้เวลาประมาณ 5-6 นาที ซึ่งระหว่างเดินไปนั้นก็จะเห็นภาษารัสเซียเป็นระยะ เนื่องจากพื้นที่วัคคาไนใกล้รัสเซีย
กำแพงกั้นลม (Wakkanai Port North Breakwater Dome)
แนวกำแพงกันคลื่นลม อันเป็นสัญลักษณ์เมืองแห่งสายลม วัคคาไน มีลักษณะเป็นโดมกำแพงสำหรับกันคลื่นลมทรงโค้ง เลียบตามแนวชายฝั่งสร้างในปี 1936 เพื่อป้องกันคลื่นและลมพัดเข้ามาบริเวณท่าเรือ ภายในโดมกำแพงนี้ประดับด้วยเสาแบบโรมัน ถึงกลายเป็นแลนมาร์คจุดถ่ายรูปของเมืองแห่งนี้
ยามเช้า ณ แนวกำแพงกั้นลม วัคคาไน
การถ่ายรูปที่กำแพงกั้นลมแนะนำให้ไปช่วงเช้าตอนพระอาทิตย์กำลังขึ้นหรือตกนะครับ เพราะแสงแดดจะลอดผ่านเสาแต่ละเสาดูสวยงามยิ่งขึ้น
ทางม้าลายนั้นหลายคนคิดว่าถ่ายเวลาใดก็ได้ สำหรับผมแสงตอนพระอาทิตย์ขึ้นจะทำให้ภาพถ่ายตรงทางม้าลายสวยงามกว่าปกติ และสักพักแสงแดดที่ส่องตอนเช้าก็หายไป เมฆก้อนดำมหึมาก็ลอยมาปกคลุม และก็มีอะไรตกใส่หัว และแล้วหิมะแรกในวัคคาไนก็โปรยปรายลงมาครับ หิมะแรกที่ปี 2018 เค้าบอกว่าฮอกไกโดหิมะตกช้าที่สุดในรอบ 132 ปี หลังจากนั้นหิมะก็ตกกระหนึ่งซัมเมอร์เซลล์เลยทีเดียว
[CR] สู่จุดเหนือสุดแดนอาทิตย์อุทัย...วัคคาไน (หิมะแรกโปรยปราย)
พิกัด : ฮอกไกโด, ญี่ปุ่น
เมือง : วัคคาไน อะซาฮิคาวะ คุชิโระ ฮาโกดาเตะ โอตารุ โนโบริเบ็ทสึ ซับโปโร
• ผมเลือกไปช่วงรอยต่อใบไม้ร่วงเข้าฤดูหนาว โดยเดินทางตั้งแต่ 18-29 พฤศจิกายน 2018 แต่ต้องกาดอกจันไว้เลยนะครับ ในปี 2017 ฮอกไกโดหิมะตกก่อนปี 2018 ถึงสองสัปดาห์ แต่ปีนี้ (2018) ฮอกไกโดมีปรากฏการณ์หิมะตกช้าสุดในรอบ 132 ปี เรามาลุ้นกันจะเจอหิมะตกกันไหม ???
1. เครื่องบินภายในประเทศ
2. เช่ารถขับ (มีใบขับขี่สากล)
3. รถไฟ (รถไฟฟ้าใต้ดิน, รถไฟ JR)
• การเดินทางในฮอกไกโด สามารถใช้ HOKKAIDO RAIL PASS ได้ ซึ่งแบ่งได้เป็น
1. Hokkaido Rail Pass 3 วัน
2. Hokkaido Rail Pass 5 วัน
3. Hokkaido Rail Pass 7 วัน
4. Hokkaido Rail Pass Flexible 4 วัน
การจะใช้ Pass แบบใดก็ต้องคำนวณว่าเราไปฮอกไกโดกี่วัน พาสเหล่านี้จะคุ้มเมื่อต้องไปนอกเมืองไกล ๆ แต่ถ้าใกล้ ๆ ลองคำนวณค่าพาสกับแบบรายเที่ยวจาก Hypedia อย่างผมไป 11 วัน เมืองที่ไปไกล ๆ ทั้งนั้น เช่น วัคคาไน อะซาฮิคาวะ คุชิโระ ฮาโกดาเตะ โนโบริเบ็ทสึ แค่ไปกลับเมืองเดียวก็หลายพันเยนแล้วครับ
2. รถไฟ
~ รถไฟไปวัคคาไน ที่แนะนำจะมีสองแบบ คือ
2.1 สาย SOYA วิ่งตรงจากซับโปโรไปวัคคาไน มีเพียงรอบเดียวคือ รอบเวลา 07.30 น. โดยไม่ต้องเปลี่ยนสถานีที่อะซาฮิคาวะ
2.2 ขบวนที่ต้องไปเปลี่ยนขบวนที่อะซาฮิคาวะ เพื่อไปวัคคาไน
2.3 ขบวนที่เปลี่ยนหลายสถานี (ไม่แนะนำเด็ดขาด)
เนื่องจากผมวางแพลนจะไปที่ไกลสุดก่อนเป็นอันดับแรก และค่อยมาซับโปโรตอนหลัง เลยให้วัคคาไนเป็นเมืองแรก และเครื่องบินมาถึงสนามบินก็เวลา 08.30 น. แสดงว่าไม่ทันสาย SOYA ทำให้ต้องรอรอบต่อไปคือเวลา 12.00 น. ซึ่งจะเป็นขบวนที่ต้องเปลี่ยนที่อะซาฮิคาวะ ซึ่งใช้เวลาประมาณ 5-6 ชั่วโมง
• ถ้าทันรอบ 07.30 น. ที่เป็นสาย SOYA จะถึงวัคคาไนเวลา 12.40 น.
• ถ้าไม่ทันรอบ 07.30 น. อีกรอบที่แนะนำคือ รอบที่ 2 ที่จะออกซับโปโรเวลา 12.00 น. และเปลี่ยนขบวนที่อะซาฮิคาวะ ถึงวัคคาไนเวลา 17.21 น.
ส่วนความอร่อย 8.5/10 เหมาะเอาไปเป็นของว่างกินบนรถไฟ
Wakkanai Station”
แปลว่า “ปลายเหนือสุดของญี่ปุ่น สถานีวัคคาไน”
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น