ในที่สุด พวกเราก็ได้ Taylor Swift แบบ the old ที่ถูกฝังลงดินไปเมื่อปี 2017 ด้วย reputation แต่ตอนนี้เทย์แบบฉบับที่ทำให้ทุกคนหลงรักได้ฟื้นคืนชีพขึ้นมาแล้ว ด้วยการทำเพลงในแบบฉบับแท้ ๆ ของศิลปินสาวด้วยเพลง “Lover” title track จากอัลบั้มชุดที่ 7 ของเธอ
.
“Lover” คือซิงเกิ้ลทางการที่สามจากอัลบั้มที่มีชื่อเดียวกัน โดยเพลงนี้มีเนื้อหาสุดโรแมนติกเกี่ยวกับความรักของเทย์ที่มีให้กับชายหนุ่มของเธอ (ซึ่งก็น่าจะหมายถึง Joe Alwyn นักแสดงหนุ่มสุดหล่อจากเกาะอังกฤษ) โดยเพลงนี้มีการเผยเล็ก ๆ ถึงความเป็นไปได้ว่าเทย์ได้หมั้นหมายกับนักแสดงหนุ่มไปแล้ว เพราะด้วยเนื้อเพลงที่มีการสอดแทรกประเด็นเกี่ยวกับการแต่งงานเยอะมาก
.
แทร็คนี้ได้ Jack Antonoff ท่านพ่อของหูมาช่วยโปรดิวซ์ให้เหมือนเดิม ซึ่งตามความเทพของพี่แจ็คเลย พี่เค้าได้ดึงความสามารถของเทย์ออกมาได้อย่างสุดมาก ด้วยการทำดนตรีที่มีความละเมียดละไมหวาน ๆ สไตล์ indie pop ที่ทำให้นึกถึง “Love on the Brain” ของ Rihanna เบา ๆ
.
แต่สิ่งที่พีคที่สุดในเพลงนี้กลับเป็นการเขียนเนื้อที่เรียกได้ว่าท็อปฟอร์มมากเมื่อเทียบกับ “ME!” (กลอกตา) ด้วยการที่เทย์ใช้เทคนิคทางด้านภาษาในการถ่ายทอดเรื่องราวออกมาได้อย่างชัดเจน รวมไปถึงการใช้ภาษาได้อย่างมีชั้นเชิง และการเขียนเพลงในสไตล์ easter eggs ที่คนอ่านต้องหาจุดเชื่อมโยงกับเพลงอื่น ๆ ของเทย์ ซึ่งเป็นการเพิ่มประสบการณ์ในการฟัง “Lover” ให้พีคมากขึ้นไปอีก ซึ่งท่อนบริดจ์ (bridge หรือบางคนเรียก middle eight; ท่อนเพลงที่อยู่หลังฮุคที่สอง) ของเพลงนี้คือหนึ่งท่อนเพลงที่ดีที่สุดในบรรดาเพลงของเทย์ที่เขียนออกมาเลย แถมเทย์ยังให้สัมภาษณ์ด้วยอีกว่าท่อนนี้เป็นท่อนโปรดที่เธอเคยแต่งออกมาเลย
.
แต่ถามว่าท่อนบริดจ์นี้ดียังไง หูจะมาเขียนให้อ่านกัน ไปอ่านกันเลย แล้วถ้าอ่านจบกันแล้วมาคุยกันได้ว่าคิดเห็นยังไงบ้าง ชอบไม่ชอบอะไรกันบ้างป่าว
.
Credit:
https://genius.com/17826890
https://www.theknot.com/content/wedding-traditions-the-meaning-of-something-old
แกะความหมายท่อนบริดจ์ “Lover” จาก Taylor Swift
.
“Lover” คือซิงเกิ้ลทางการที่สามจากอัลบั้มที่มีชื่อเดียวกัน โดยเพลงนี้มีเนื้อหาสุดโรแมนติกเกี่ยวกับความรักของเทย์ที่มีให้กับชายหนุ่มของเธอ (ซึ่งก็น่าจะหมายถึง Joe Alwyn นักแสดงหนุ่มสุดหล่อจากเกาะอังกฤษ) โดยเพลงนี้มีการเผยเล็ก ๆ ถึงความเป็นไปได้ว่าเทย์ได้หมั้นหมายกับนักแสดงหนุ่มไปแล้ว เพราะด้วยเนื้อเพลงที่มีการสอดแทรกประเด็นเกี่ยวกับการแต่งงานเยอะมาก
.
แทร็คนี้ได้ Jack Antonoff ท่านพ่อของหูมาช่วยโปรดิวซ์ให้เหมือนเดิม ซึ่งตามความเทพของพี่แจ็คเลย พี่เค้าได้ดึงความสามารถของเทย์ออกมาได้อย่างสุดมาก ด้วยการทำดนตรีที่มีความละเมียดละไมหวาน ๆ สไตล์ indie pop ที่ทำให้นึกถึง “Love on the Brain” ของ Rihanna เบา ๆ
.
แต่สิ่งที่พีคที่สุดในเพลงนี้กลับเป็นการเขียนเนื้อที่เรียกได้ว่าท็อปฟอร์มมากเมื่อเทียบกับ “ME!” (กลอกตา) ด้วยการที่เทย์ใช้เทคนิคทางด้านภาษาในการถ่ายทอดเรื่องราวออกมาได้อย่างชัดเจน รวมไปถึงการใช้ภาษาได้อย่างมีชั้นเชิง และการเขียนเพลงในสไตล์ easter eggs ที่คนอ่านต้องหาจุดเชื่อมโยงกับเพลงอื่น ๆ ของเทย์ ซึ่งเป็นการเพิ่มประสบการณ์ในการฟัง “Lover” ให้พีคมากขึ้นไปอีก ซึ่งท่อนบริดจ์ (bridge หรือบางคนเรียก middle eight; ท่อนเพลงที่อยู่หลังฮุคที่สอง) ของเพลงนี้คือหนึ่งท่อนเพลงที่ดีที่สุดในบรรดาเพลงของเทย์ที่เขียนออกมาเลย แถมเทย์ยังให้สัมภาษณ์ด้วยอีกว่าท่อนนี้เป็นท่อนโปรดที่เธอเคยแต่งออกมาเลย
.
แต่ถามว่าท่อนบริดจ์นี้ดียังไง หูจะมาเขียนให้อ่านกัน ไปอ่านกันเลย แล้วถ้าอ่านจบกันแล้วมาคุยกันได้ว่าคิดเห็นยังไงบ้าง ชอบไม่ชอบอะไรกันบ้างป่าว
.
Credit:
https://genius.com/17826890
https://www.theknot.com/content/wedding-traditions-the-meaning-of-something-old