SAKURA IN JAPAN

ซากุระ & ภูเขาไฟฟูจิ

#ทริปพาพ่อแม่เที่ยว#

#  EP.1  #

การเดินทางในครั้งนี้ เกิดขึ้นจากการที่เรามีโอกาสได้ไปเที่ยวญี่ปุ่นแล้วรู้สึกหลงรัก เลยคิดไว้ว่าถ้ามีโอกาสซักครั้ง จะต้องพาพ่อแม่มาเที่ยวที่นี่ให้ได้

........และในที่สุดวันนั้นก็มาถึง😊

Day 1 : เราเดินทางด้วยสายการบิน AirAsia X ออกจากสนามบินดอนเมือง เวลา 11.05 น. ไปถึงสนามบินนาริตะ 19.25 น.

เรามาช่วงเทศกาลคนแน่นมากกกก ขนาดเผื่อเวลาไว้ว่ารถไฟเที่ยวสุดท้ายไม่เกิน 4 ทุ่มครึ่ง แต่เราเกือบขึ้นรถไฟขบวนสุดท้ายเพื่อไปโตเกียวไม่ทัน

เราเลือกเดินทางเข้าโตเกียวด้วยรถด่วนพิเศษ Keisei Skyliner ไป-กลับ + Tokyo Subway 48 ชั่วโมง Ticket : 5,100 เยน

ก่อนเข้าที่พัก แวะมาส่องเซเว่นซักหน่อย เซเว่นที่นี่ของกินเยอะมากกกก ขนมหวานคือดีงามมมม จะบอกว่าอร่อยเกือบทุกอย่าง แต่ที่ชอบมากคือพุดดิ้ง หยิบมาแค่อันเดียวเอง รู้งี้จะเหมามาเยอะๆเลย 🤣🤣🤣 กินเสร็จแล้วต้องรีบนอนค่ะ เพราะพรุ่งนี้เดินทางกันแต่เช้า 😴

ที่พักเราเป็นอพาร์ทเมนท์ แถวย่าน ginza พักได้ทั้งหมด 6 คน ห้องพักจะแบ่งเป็นสัดส่วนชัดเจน ห้องแรกจะมีที่นอนลูกฟูก 2

ส่วนอีกห้องจะมีเตียงนอน 4 เตียง ทั้งชั้นจะเป็นของเราหมดเลยค่ะ ห้องน้ำกับห้องอาบน้ำแยกต่างหาก

ไปค่ะ นอนกันเถอะ พรุ่งนี้ต้องลุยกันต่อ!!

ฟูจิซังงงจ๋าาาาา รอก่อนน้าาาาา พรุ่งนี้จะได้เจอกันแล้ว😊

Day 2 : Kawaguchiko

วันนี้เราจะเดินทางไป Lake Kawaguchiko กัน จริงๆแล้วเราตั้งใจว่าวันแรกจะเที่ยวใกล้ๆแถวโตเกียวก่อน เพราะไม่อยากให้พ่อแม่เดินทางเหนื่อย

แต่เราไปช่วงปลายเมษา ซึ่งถ้าดูจากพยากรณ์ซากุระปีที่ผ่านมา ช่วงนี้จะมีจัดงานเทศกาลชมซากุระ ที่บริเวณทะเลสาบคาวากุจิโกะ เราเลยเลือกที่จะเดินทางไปทะเลสาบ เพื่อที่จะดูซากุระก่อนค่ะ รวมถึงถ้าโชคดีก็จะได้เห็นฟูจิด้วยน้าา😊

เราตั้งใจว่าจะเที่ยวที่ kawaguchiko 2 วัน โดยการเช่ารถขับ และวันถัดไปจะไป nikko ทำให้เราตัดสินใจซื้อ JR Tokyo Wide Pass ซึ่งจะสามารถใช้เดินทางไปทั้งสองที่นี้ได้ฟรี ในเวลา 3 วัน

การเดินทางไป kawaguchiko เราเลือ กที่จะนั่งรถไฟด่วนพิเศษ FUJI Excursion เพื่อไปลง สถานี Otsuki ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง แล้วเปลี่ยนขบวนไปเป็นสาย Local อีก 1 ชั่วโมง รวมเป็น 2 ชั่วโมงพอดิบพอดี อย่างที่บอกข้างต้น ทั้งหมดนี่ใช้ JR Tokyo Wide Pass ได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเลย

ระหว่างทางเจอภูเขาไฟฟูจิแบบไกลๆ ปลื้มปริ่มมมมมม มันสุขใจอย่างบอกไม่ถูก😊

ในที่สุดดดด!! ก้มาถึงซักที สถานี kawaguchiko

เราไม่รอช้ารีบวิ่งไปรับรถเลยค่ะ เพราะนัดเค้าไว้ 12.00 ตอนนั้น 11.30 แล้วว เลยวิ่งไม่คิดชีวิต🤣

ได้รถมาแล้วววว พอได้รถไม่รอช้า เราก็ขับไปที่จุดจอดรถบัสป้ายหมายเลข 18-19 (เดินถึงกันได้) Konohana Art Museum มีทางเดินเลียบทะเลสาบ      มีต้นซากุระอยู่ริมทางเดิน

ถ้าใครมาเที่ยวช่วงเทศกาลซากุระ แล้วขับรถมาไม่ต้องกังวลนะคะ ด้านหน้าเค้ามีที่จอดให้สำหรับคนมางานเทศกาลซากุระโดยเฉพาะ

มาถึงแล้ววววววว อากาศดีมากกก ฟินมากกกก

ถ้าใครมาช่วงเทศกาลจะมีร้านค้า อาหาร เครื่องดื่ม อยู่ตามริมทางเดินด้วยน้าาาา🥰

พวกเราเดินเล่นเพลินๆ จนถึงบ่ายสามกว่าๆ เราเลยตัดสินใจเข้าที่พัก ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากจุดที่เราอยู่เท่าไหร่

เราพักที่ kawaguchiko urban resort villa อยู่บริเวณ ป้ายหมายเลข 22 Kawaguchiko Natural Living Center ป้ายสุดท้ายของทะเลสาบคาวากูจิโกะ และที่สำคัญจุดนี้สามารถมองเห็นภูเขาไฟฟูจิได้ชัดที่สุด☺️

พ่อเราเอง หล่อใช่มั้ยล่ะ 😆

ถ้ามองไปบริเวณรอบๆ ที่พัก จะเจอสวนดอกไม้ ร้านอาหาร ร้านขายของที่ระลึกเต็มไปหมด

ข้างๆที่พัก มีร้านกาแฟ บรรยากาศน่านั่งมากกก

ตอนเย็นเราจองเซ็ทบาบิคิวของทางที่พักไว้ ก่อนหน้าที่จะเข้าที่พักเราแอบแวะซูเปอร์มาเก็ต เพราะกลัวว่าทางที่พักจะให้น้อยไม่พอสำหรับเรา 6 คน        แต่พอมาถึงที่พักปรากฎว่าทางที่พักให้เยอะมาก

ใครที่มาพักที่นี่ เราแนะนำให้จองมื้อเย็นเลยค่ะ คุ้มมากๆ ทานไปคุยไปท่ามกลางวิวที่สวยขนาดนี้ เราว่าโครตคุ้มมมมเลยจริงๆ และที่สำคัญฟูจิซังไม่ขี้อายแล้วนะ😊

Day 3 : Oshio hakkai & Yamanashi

วันนี้เรายังอยู่ในจังหวัดยามานาชิอยู่นะ มีอีกที่นึงที่เราอยากไป เป็นจุดชมซากุระที่อยู่ไม่ไกลจากทะเลสาบคาวากูจิโกะ นั่นคือ บริเวณหมู่บ้านน้ำใส (Oshino Hakkai) เป็นบริเวณที่เราจะเห็นทั้งซากุระและฟูจิซัง อยู่ตรงสะพาน Omiya ที่มีแม่น้ำ Shinnasho ไหลผ่าน เป็นจุดชมซากุระและฟูจิซังที่สวยอีกจุดหนึ่ง 🌸🌸🌸

ระหว่างเดินทางไป😊

วันนี้เป็นวันที่เราลุ้นมาก ว่าจะได้เจอซากุระกับฟูจิซังพร้อมๆ กันมั้ยนะ และในที่สุดดด!!!

แท่นนน แท่นนน แท่นนนน~

พอได้เห็นกับตาตัวเอง แล้ว สวยมากกกก ไม่ผิดหวังเลยจริงๆ🥰 สำหรับเพื่อนคนไหนที่อยากเห็นวิวแบบนี้ แนะนำให้มาช่วงปลายเมษานะคะ และต้องเป็นช่วงเช้าหรือสายๆเท่านั้นนะ เรามาถึงที่นี่ประมาณ 9 โมง

บรรยากาศกำลังดี สดชื่นมาก อากาศเย็นสบายค่ะ

พอเดินเลียบลำธารไปเรื่อยๆ จะเจอกับหมู่บ้านน้ำใส

เราเดินเล่นอยู่ที่หมู่บ้านน้ำใสจนถึง 11 โมง จากนั้นเราก็ขับรถไปที่ทะเลสาบยามานากาโกะ เพราะว่าเราจองเรือสะเทิ้นน้ำสะเทิ้นบกเอาไว้รอบบ่ายโมงค่ะ แต่กองทัพต้องเดินด้วยท้อง ระหว่างที่รอขึ้นเรือ เราไปหาของกินกันค่ะ

อาหารที่ขึ้นชื่ออีกอย่างนึงของเมืองนี้ นั่นก็คือ Hoto ใครมาต้องลองนะ👍

ได้เวลาขึ้นเรือกันแล้วววว ไปกันเล้ยยยยยย👏

ประมาณ 10 นาทีแรก เรือจะวิ่งบนถนนก่อน แล้วหลังจากนั้นเรือจะวิ่งลงทะเลสาบ และล่องในทะเลสาบจนครบ 30 นาที ใครที่กลัวฟังไม่รู้เรื่องไม่ต้องห่วงนะคะ เค้ามีหูฟังแปลเป็นภาษาไทยให้ ส่วนใครที่อยากขึ้นเรือสะเทิ้นน้ำสะเทิ้นบกนี้ต้องจองล่วงหน้าไม่เกิน 1 เดือน ค่าใช้จ่าย คนละ ¥2,200

ใครที่ชอบอะไรตื่นเต้นๆ ต้องมาลองค่ะ👍

ไปต่อกันที่ EP 2 เลยจร้าาาาาา

https://pantip.com/topic/39156122?fbclid=IwAR2_hpPfEbIGdzWtfs1RWJElTB4U_M5zuDfpwiTHT5782sLGGEosGCajIX8