เป็นหนี้ 1.5 ล้าน แก้ยังไงดีคะ ขอคำแนะนำหน่อยค่ะ

เราอายุ 20 ปลายๆ ทำงานรัฐวิสาหกิจ เงินเดือนประมาณ 20,000 บาท

1.หนี้สหกรณ์ 1.4 ล้าน
(หักจากบัญชีเงินเดือน เดือนละ 18,000 เหลืออยู่ประมาณ 2,000 ต่อเดือน)

2.หนี้บัตรเครดิต 1 แสนบาท
(ส่งขั้นต่ำเดือนละประมาณ 1 หมื่นบาท)

เราหารายได้เสริมจากการสอนพิเศษ ได้เดือนละประมาณ 14,000 บาท

ถ้าดูรายรับกับยอดหนี้แล้วเหมือนจะพอ แต่เรามีค่าใช้จ่ายอื่นอีก ที่พัก เดินทาง อาหาร ซึ่งไม่เพียงพอ

ตอนนี้ใกล้จะส่งบัตรเครดิตไม่ไหวแล้ว

เราควรทำยังไงดี
มีใครพอจะช่วยคิดหาทางแก้ไขปัญหาให้เราตอนนี้ได้บ้างมั้ยคะ

ขอโทษที่รบกวนค่ะแต่เราไม่รู้จะแก้ปัญหายังไงจริงๆ ถ้าแก้ปัญหาได้เราจะไม่สร้างหนี้อีกแล้ว รบกวนคนที่พอรู้แนวทางช่วยแนะนำเราหน่อยนะคะ เราจะพยายามแก้ไขให้มันดีขึ้นแต่ตอนนี้เราคิดไม่ออกจริงๆ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 42
log in มาตอบโดยเฉพาะ
เหตุผลเพราะ เห็นว่าคุณเป็นคนดี  การเป็นหนี้เพราะช่วยเหลือพ่อแม่ บุพการีเป็นเรื่องดี
(แต่ถ้าเป็นกรณีอื่น เช่น สร้างหนี้ไร้ยั้งคิด  อันนี้จะอ่านแค่ผ่านๆ)

เอาทีละเรื่อง
1> หนี้ที่น่ากลัวคือ  หนี้บัตร  สักพักจะเอาไม่อยู่  ต้องหาทางปิดทุกวิถีทาง
      อย่าปล่อยให้ดอกเบี้ยรัน  สักพัก จะล่มจมทุกอย่าง
         (และหากปิดบัตรได้แล้ว  ก็ให้ระมัดระวังอย่างที่สุด ใช้สติเวลาใช้บัตร อย่าเอาความอยาก
             เป็นที่ตั้ง)
2> หนี้สหกรณ์ไม่น่ากลัว  ผ่านไปมันจะลดลงเอง  
3> อย่ากู้หรือเปิดบัตร โน่นนี่นั่น นอกระบบ นั่นโป๊ะนี่  หายนะจะมาเร็วยิ่งกว่าเร็ว
           และอาจมีอันตรายมาเกี่ยวข้อง ในหลายรูปแบบ
4> ช่วงนี้หรือต่อจากนี้ รวมถึงถ้าผ่านวิกฤตไปได้  อย่าได้ก่อหนี้ และลดความอยากได้
           อย่าก่อหนี้ที่ไร้เหตุผล  หรือเกินตัวอีก  ชีวิตจะสบาย
           (ทุกคนต้องอดเปรี้ยวจึงจะได้กินหวาน  ทุกอย่างต้องมีการอดทนรอ  แล้วจะดีเอง)
5> วิธีการคราวนี้

5.1 หาแหล่งเงินกู้รัฐ อาจด้วยเหตุผลใดๆ ไม่ว่าจะเป็นออมสิน  กรุงไทย  หรือโครงการสวัสดิการอื่นใด
          หรือแม้แต่ ธนาคารทั่วๆไป  เพราะดอกเบี้ยถูก ส่งยาว  ชีวิตจะเหมือนกับพบทางสว่างทันที
5.2 หาแหล่งจากสหกรณ์  ไปคุยกับเขาตรงๆ ว่า มีปัญหาเช่นนี้ ขอเพิ่มยอดกู้จาก 1.4 ล้าน
         (จริงๆคือการกู้ใหม่  ถึงจะเป็นหนี้เพิ่มขึ้น แต่เนื่องจากเป็นหนี้ดอกเบี้ยถูก ระยะยาว
             ชีวิตจะเหมือนเกิดใหม่  ถึงแม้ว่าจะต้องมีหนี้เกินแสน (เกินบัตรเครดิตไปบ้าง) ก็เป็น
             เรื้องที่ควรกระทำ  เพราะดีต่อใจ(ดอกถูก ส่งยาว ทำไมถึงต้องเป็นหนี้เกิน
             การกู้ใหม่ คือปิดยอด 1.4 ล้าน แล้วเป็นหนี้ครั้งใหม่ มักจะเกิน 1.4 ล้าน เช่น 1.6 ล้าน
             เพราะต้องถูกหักใช้หนี้เก่าของสหกรณ์เอง  และบางทีต้องเพิ่มยอดหุ้น  และไหนจะต้อง
             มาจ่าย บัตรอีกแสนนึง  แต่ควรกระทำ

             สำคัญที่ว่า อย่าคิดเล่นแร่แปรธาตุ ความอยากบังตา  โหได้เยอะ พอดีเลยกู้มาใช้ด้วยเลย
             เอา 2.5 ล้าน  คราวนี้หายนะกว่าเก่า  ต้องรู้ตัว ผิดแล้วอย่าพลาดอีก)
5.3  ไปปรึกษา ธนาคารทั่วไปหรือแหล่งเงินกู้ของรัฐอื่นๆ คล้าย 5.1 แต่คราวนี้ไม่ใช่การควานหา
             โครงการพิเศษที่เขาเปิดอยู่  แต่ไปคุยกับเขาตรงๆเลยถึงปัญหา  ว่าพอจะมีวิธีการ
             ปล่อยกู้แบบใดหรือไม่  เป็นหนี้อย่าอาย  เพราะอายตอนนี้ พอดอกเบี้ยบัตรมันรันถึง
             ขีดสุด ทุกอย่างจะหายนะ และมันจะมาเร็วแบบทันใจเลยละ

             การกู้ธนาคารหรือแหล่งใหม่ กรณี กู้มาโป๊ะ สหกรณ์ 1.4 ล้านและบัตรเครดิต
             ก็เป็นเรื่องน่าทำ เพราะปกติ ดอกเบี้ยแบบนี้ไม่แพงไปนัก และมีระยะเวลาผ่อนหลายปี
             แต่ก็เช่นเดิม ดูดอกเบี้ย  คิดอ่านให้รอบคอบ  

สุดท้าย
1> อย่าได้คิดอ่าน ฉวยโอกาสกับตัวเอง ถ้าได้โอกาสแก้ไข  ก็จงรอบคอบและเป็นหนี้อย่างระวัง
           เจอมาบ่อย  บางคนพอไปติดต่อโหเห็นเป็นโอกาส คราวนี้เพิ่มยอดหนี้เข้าไปซะ
           แล้วอีกไม่นาน ลูปเก่าก็จะมา หายนะล้วนๆ  
2> ลดกิเลส ความอยาก สังคม การอับอายหน้าตา การเปรรียบเทียบ อิจฉา  อยู่มันไปแบบอดๆอยากๆนี่แหละ
           ได้ดี พ้นทุกข์ พ้นเคราะกันมานักต่อนักแล้ว
3> เมื่อถึงทางตัน  มันจะไม่มีทางหลุดมาได้อย่างปุ๊บปั๊บ  มันต้องอาศัยเวลา
           ต้องอาศัยความอดทน  ต้องทนให้ได้   แล้วมันจะเป็นวันของเรา
4> อย่าสนใจชีวิตคนรอบข้าง เปรียบเทียบ อิจฉา  โน่นนี่นั่น  เอาตัวเองให้รอด
5> วินัยเป็นเรื่องสำคัญ  ตอนนี้ตัดทุกเรื่องไปก่อน  เอาเรื่องนี้ให้ผ่านไปก่อน
6> ระวังกิเลสสุดๆ  

7> สุดท้ายขอชื่นชมในความกตัญญู  เป็นหนี้แค่นี้ก็ช่างมัน  พ่อแม่เคยให้เราทั้งชีวิต
          ให้ท่านบ้างจะเป็นไร (แต่ไม่ใช่ให้อย่างไร้เหตุผล  การให้อย่างไร้เหตุผล
          ก็เป็นการกตัญญูที่ไร้สติ   )    

          หากมีแฟนหรือใครก็ตามที่ไม่เข้าใจในภาวะที่เราเป็นอยู่ ซึ่งหนักมาก  
          คนคนนั้นคือคนไร้ค่า สำหรับเรา (หมายถึงกรณีที่เราทำเรื่องดี มีสติ และเหมาะสม)
          
ขอย้ำชื่นชมคุณนะ  (ในทางกลับกัน ถ้าที่เขียนมาเป็นหนี้เพราะไร้สติ กิเลส  หรือในทางที่เหมาะสม
          สิ่งที่ได้รับตอนนี้คงสาสมแล้ว)

บทเรียนมีไว้สอน  ถ้าผ่านไปได้เอาไว้เป็นเรื่องเตือนใจ
เชื่อว่าคนคิดดี ทำดี มักมีทางออกเสมอ  คนกตัญญูตกน้ำไม่ไหลตกไฟไม่ไหม้
        พอเรื่องนี้ผ่านไป สิ่งที่เหลือไว้จะมีแต่เรื่องดีๆ
        เช่น  สติ  วินัย   การรู้จักใช้เงิน  คุณค่าในตัว  การเห็นนิสัยคนรอบข้าง
               เห็นตัวเอง  เห็นพ่อแม่ ครอบครัว  และที่สำคัญ  ชีวิตคุณจะดีขึ้นอย่างทวีคูณ
               เพราะนอกจากการเป็นคนกตัญญูแล้ว  การที่คุณผ่านวิกฤตได้ แสดงว่า
               เหตุการนี้ได้หล่อหลอม  วินัย  ความรับผิดชอบ  การรู้จักใช้จ่าย และคุณลักษณะ
               ที่ดีๆมันจะเหลืออยู่  (เพราะกว่าคุณจะผ่านได้ มันต้องอาศัยคุณลักษณะที่ดีก่อน
               พอคุณลักษณะดีๆมันเกิด  มันจะติดตัวคุณไปด้วย  // ถ้าคุณลักษณะดีๆไม่เกิด
               มันก็จะไม่มีทางแก้ไขปัญหาที่คุณมีได้)
                   เรื่องแบบนี้ไม่มีล้อเล่น  หนี้หรือเรื่องธุรกิจ  ไร้ซึ่งความปราณี มันมีแต่เรื่องเงิน
               ไร้น้ำใจ  ไร้เมตตา  และไม่มีทางหมดสิ้น จนกว่าเขาจะได้เงินจากคุณไปใช้หนีเขาจน
               หมดหนี้กัน
                       ธุรกิจ  จะไม่ฟ้องคุณ จนกว่าเขาจะรันหนี้จนถึงขีดสุดที่เขาจะเอาทุกอย่าง
              ของเขารวมผลประโยชน์สูงสุดจากเราได้  เมื่อวันที่เขาเห็นว่าไม่สามารถหาจากเราได้
              วันนั้นเขาจะไม่คุย จะฟ้อง และจะเอาทุกอย่าง   (คนรอบข้างเจอเยอะ
              ธนาคารไม่ฟ้องมา 9 ปี ปล่อยมาเรื่อยๆ เพราะรู้ว่าลูกหนี้มีทรัพย์สิน  พอเงินจากเงินต้น
              70000 กลายเป็น 600000 โอเคถึงเวลาที่ธนาคารจะฟ้องแล้ว (และจะหมดอายุความด้วย)
              เขาก็จะฟ้องเราตอนนั้น และไร้ปราณี ด้วย

       (จริงๆคนรอบข้างเจอแบบนี้เยอะ แต่ขอเล่าว่าทุกเคส มาจากคิดน้อย  รวมทั้งเคส 70000 นี่
             คิดง่ายเกินไป ช่างมัน ไม่เห็นเขาทวงเลย  แค่ 70000  พอมาถึงตอน 600000
             ไอ้ที่คิดง่ายๆ ช่างมัน  มันจะแสดงผลทั้งหมด  และ โห ถ้ารู้งี้  จะงั้นงี้  จริงๆ ก็สมควร
             โดนแล้ว  คนรอบข้างก็เคยบอก  แต่ไม่สนใจ  มันก็ทำโทษเป็นธรรมดา
      

ขอให้ผ่านไปด้วยดีครับ  สู้ๆ

อ้อลืมไปเรื่องนึง  
อย่าคิดว่ามีหนทาง หรือหวังน้ำบ่อหน้า เช่น  ยังไงก็มีสอนพิเศษ  เดี๋ญวโบนัสก็มา
พวกรายได้ที่มาแบบกำหนดไม่ได้  พวกนี้อย่าเอาเป็นมูลเหตุสร้างหนี้ หรือมูลเหตุว่า
มันต้องได้  เจ๊งกันมานักต่อนักแล้ว

เมื่อไหร่ที่เขาไม่เห่อเรา  เขาก็ไปเรียนพิเศษกับคนใหม่  เวลาไปเขาชวนกันไป เช่นเดียวกับ
ตอนเขามาหาเราเขาก็ชวนกันมา

เพราะฉนั้น อย่าได้หวังน้ำบ่อหน้า  ให้คิดแค่ว่ามันมีเท่านี้  สร้างหนี้เท่านี้ ใช้จ่ายเท่านี้
ถ้าคิดได้แบบนี้  ถ้าน้ำบ่อหน้ามันมา มันคือกำไร  ไม่ใช่ว่ามันจะมาแน่ๆ แต่พอมันไม่มามันคือหายนะ

การสร้างหนี้ของคุณเรื่องนึงคือ คิดว่า จะมีรายได้นั่นนี่เข้ามา ทำให้คุณสร้างเกินกำลัง
พอมันไม่หา คราวนี้มันก็อาละวาดให้เห็น  
มาบอกเตือนเพิ่มเติมครับ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่