วันนี้ผมมีเรื่องราวจะมาเล่าให้ฟังขำๆคลายเครียดครับ พอดี facebook ได้เตือนความทรงจำเมื่อปีที่แล้ว ในระหว่างที่ผมเดินทางท่องเที่ยวในอุทยานแห่งหนึ่ง
ผมขอคัดลอก บทความมาจากสมุดบันทึกการเดินทางของผมนะครับ
ว่าแล้วต้องโดน
วันนี้คือคืนสุดท้ายที่เราจะหาที่พัก หลังจากที่คืนแรกผมนอน เชียงคาน คืนสอง นอนที่ห้วยอีสั้น
และคืนที่สาม เราเลือกที่จะนอนที่ อุทยาน.......ที่หนึ่งใน จังหวัดอุ........
วันนี้ฝนตกรินๆทั้งวันทั้งคืนเปียกปอนกันเลยที่เดียว
พอเราขี่รถมาจอดที่ประตูทางเข้าอุทยาน เจ้าหน้าที่ยิ้มแย้มแจ่มใส ดูอบอุ่นมาก
A:พี่ครับที่นี้สามารถกางเต้นได้เปล่าครับ ค่าบริการยังใงครับ
B:ช่วงนี้เข้าฟรีค่ะ สามารถกางเต้นได้ค่ะ (พร้อมรอยยิ้ม)
A:แล้วเป็นบ้านพักหล่ะครับ
B:บ้านพักก็มีค่ะ เดียวพาไปดูนะค่ะ
A:บ้านพักราคาเท่าไหร่ค่ะ
B:แล้วแต่จะให้ใคร(พร้อมรอยยิ้ม)
คิดในใจทำไม่มันดีจังเลยที่เนี้ย
บ้านพักอยู่ลึกข้างในติดป่าเลย เจ้าหน้าที่บอกว่า ปกติแล้วจะไม่เปิดให้ใครพัก นอกจากว่ามาเป็นครอบครัว ถึงจะเปิดให้ แวปเเรกที่เห็นห้องพัก โอ้โห้ใหญ่โตกว้างมาก มีห้องโถงใหญ่หนึ่งห้อง.และห้องส่วนตัวอีกสามห้อง ถูกปิดตายไปสองห้อง ในห้องโถงใหญ่ก็จะมีเตียงเรียงๆกันคล้ายๆโรงนอนของทหาร เจ้าหน้าที่พาดูห้องเปิดน้ำเปิดไฟให้แล้วก็ไป หายเงียบไปเลย
เขาเปิดห้องส่วนตัวให้1ห้อง มีสามเตียงนอน ค่อนข้างเบียดกัน เพราะเรามากัน7คน ผมก็แฟนก็เลยออกมานอนที่ห้องโถงใหญ่ ต่างคนก็ต่างนอนพักผ่อนเล่นมือถือ อยู่ดีๆไฟมันก็ติดๆดับๆ เดี้ยวมาเดี้ยวก็ไม่มา เราคิดว่าคงจะเป็นเพราะว่าฝนตกด้วย
ผมจึงขอพักผ่อนสายตาซักแปป เพื่อที่จะตื่นตอนบ่ายไปชมน้ำตก ตอนที่เดินสำรวจห้องและห้องน้ำ รู้สึกได้เลยถึงความแปลกๆของที่นี้
ทั้งอุทยาน มีแค่เรามาพักแค่7คน ไม่มีคนอื่นเลย
ตัดเรื่องมาที่ตอนกลางคืนเลยแล้วกัน เรากินข้าวกันเสร็จก็เริ่มแยกย้ายกันนอน ห้องโถงใหญ่ผมเลือกที่จะไม่ปิดไฟหมด เปิดแสงสว่างใว้ดวงถึงสองดวง เพราะรู้แน่ๆว่าคืนนี้ต้องเจอดีแน่ๆ ก่อนนอนผมจึงไปเข้าห้องน้ำ ห้องน้ำก็จะเป็นห้องน้ำรวมเรียงยาวเลย ตอนที่นั่งในห้องน้ำ ก็ได้ยินเสียงมาจากห้องน้ำข้าง เป็นเสียงน้ำหยดแปะๆ เราก็คิดว่าคงเป็นน้ำรั่วหลังคารึเปล่า ก็นั่งฟังเพลินๆ ฟังไปเรื่อยชักไม่ใช่หล่ะ มันเป็นเสียงคล้ายๆค่อยๆเปิดฟักบัวให้น้ำไหลลงพื้น รึว่าวาวฟักบัวมีปัญหา ผมจึงเดินไปดู มันก็ปิดสนิดนี่หว่า แต่ก็ไม่ได้เล่าให้ใครฟัง นอนดีกว่า ผมจะเป็นคนชอบนอนคลุมโปลง
แวปแรกที่งีบหลับ มาเลยของเขาดีจริงๆคล้ายๆกึ่งหลับกึ่งตืน เดินวนเตียงเลย รีบเปิดผ้ามาดูก็ไม่มีไรนี้ว่า นอนต่ออีก ที่นี้หลับครับ แต่คล้ายๆกึ่งความจริงความฝันรู้สึกเหมือนคนเดินไปมาในห้องตลอด กุบๆกับๆเสียงเท้า แล้วก็พยายามกดทับตัว ผมจึงร้องส่งเสียงเรียก แน่นอนครับผีอำ ดิ้นไม่หลุดเลยนึกถึงพ่อแม่ ถึงออกมาได้ พอหลับตาอีกก็มาอีก ไม่ได้นอนดีครับคืนนั้น
ตื่นเช้ามา ต่างคนก็ต่างยังไม่เล่ารายละเอียดอะไรให้กันฟังมากใว้ไปเล่าที่บ้าน สอบถามเจ้าหน้า บอกว่า บ้านหลังนั้นมีคนเจอบ่อย(แล้วไมไม่ยอกเราอะ)
เป็นเจ้าหน้าที่ผู้หญิงกับผู้ชายที่เคยดูแลห้องนั้น เจาเสียชีวิต
สิ่งที่แฟนผมเจอ คือเห็นเงายืนในห้อง
สิ่งที่น้องชายเจอคือ ผู้หญิงยืนอยู่ที่หัวเตียงของผมกับแฟนและจ้องมองมาที่ผม
อุทยานหลอน
ผมขอคัดลอก บทความมาจากสมุดบันทึกการเดินทางของผมนะครับ
ว่าแล้วต้องโดน
วันนี้คือคืนสุดท้ายที่เราจะหาที่พัก หลังจากที่คืนแรกผมนอน เชียงคาน คืนสอง นอนที่ห้วยอีสั้น
และคืนที่สาม เราเลือกที่จะนอนที่ อุทยาน.......ที่หนึ่งใน จังหวัดอุ........
วันนี้ฝนตกรินๆทั้งวันทั้งคืนเปียกปอนกันเลยที่เดียว
พอเราขี่รถมาจอดที่ประตูทางเข้าอุทยาน เจ้าหน้าที่ยิ้มแย้มแจ่มใส ดูอบอุ่นมาก
A:พี่ครับที่นี้สามารถกางเต้นได้เปล่าครับ ค่าบริการยังใงครับ
B:ช่วงนี้เข้าฟรีค่ะ สามารถกางเต้นได้ค่ะ (พร้อมรอยยิ้ม)
A:แล้วเป็นบ้านพักหล่ะครับ
B:บ้านพักก็มีค่ะ เดียวพาไปดูนะค่ะ
A:บ้านพักราคาเท่าไหร่ค่ะ
B:แล้วแต่จะให้ใคร(พร้อมรอยยิ้ม)
คิดในใจทำไม่มันดีจังเลยที่เนี้ย
บ้านพักอยู่ลึกข้างในติดป่าเลย เจ้าหน้าที่บอกว่า ปกติแล้วจะไม่เปิดให้ใครพัก นอกจากว่ามาเป็นครอบครัว ถึงจะเปิดให้ แวปเเรกที่เห็นห้องพัก โอ้โห้ใหญ่โตกว้างมาก มีห้องโถงใหญ่หนึ่งห้อง.และห้องส่วนตัวอีกสามห้อง ถูกปิดตายไปสองห้อง ในห้องโถงใหญ่ก็จะมีเตียงเรียงๆกันคล้ายๆโรงนอนของทหาร เจ้าหน้าที่พาดูห้องเปิดน้ำเปิดไฟให้แล้วก็ไป หายเงียบไปเลย
เขาเปิดห้องส่วนตัวให้1ห้อง มีสามเตียงนอน ค่อนข้างเบียดกัน เพราะเรามากัน7คน ผมก็แฟนก็เลยออกมานอนที่ห้องโถงใหญ่ ต่างคนก็ต่างนอนพักผ่อนเล่นมือถือ อยู่ดีๆไฟมันก็ติดๆดับๆ เดี้ยวมาเดี้ยวก็ไม่มา เราคิดว่าคงจะเป็นเพราะว่าฝนตกด้วย
ผมจึงขอพักผ่อนสายตาซักแปป เพื่อที่จะตื่นตอนบ่ายไปชมน้ำตก ตอนที่เดินสำรวจห้องและห้องน้ำ รู้สึกได้เลยถึงความแปลกๆของที่นี้
ทั้งอุทยาน มีแค่เรามาพักแค่7คน ไม่มีคนอื่นเลย
ตัดเรื่องมาที่ตอนกลางคืนเลยแล้วกัน เรากินข้าวกันเสร็จก็เริ่มแยกย้ายกันนอน ห้องโถงใหญ่ผมเลือกที่จะไม่ปิดไฟหมด เปิดแสงสว่างใว้ดวงถึงสองดวง เพราะรู้แน่ๆว่าคืนนี้ต้องเจอดีแน่ๆ ก่อนนอนผมจึงไปเข้าห้องน้ำ ห้องน้ำก็จะเป็นห้องน้ำรวมเรียงยาวเลย ตอนที่นั่งในห้องน้ำ ก็ได้ยินเสียงมาจากห้องน้ำข้าง เป็นเสียงน้ำหยดแปะๆ เราก็คิดว่าคงเป็นน้ำรั่วหลังคารึเปล่า ก็นั่งฟังเพลินๆ ฟังไปเรื่อยชักไม่ใช่หล่ะ มันเป็นเสียงคล้ายๆค่อยๆเปิดฟักบัวให้น้ำไหลลงพื้น รึว่าวาวฟักบัวมีปัญหา ผมจึงเดินไปดู มันก็ปิดสนิดนี่หว่า แต่ก็ไม่ได้เล่าให้ใครฟัง นอนดีกว่า ผมจะเป็นคนชอบนอนคลุมโปลง
แวปแรกที่งีบหลับ มาเลยของเขาดีจริงๆคล้ายๆกึ่งหลับกึ่งตืน เดินวนเตียงเลย รีบเปิดผ้ามาดูก็ไม่มีไรนี้ว่า นอนต่ออีก ที่นี้หลับครับ แต่คล้ายๆกึ่งความจริงความฝันรู้สึกเหมือนคนเดินไปมาในห้องตลอด กุบๆกับๆเสียงเท้า แล้วก็พยายามกดทับตัว ผมจึงร้องส่งเสียงเรียก แน่นอนครับผีอำ ดิ้นไม่หลุดเลยนึกถึงพ่อแม่ ถึงออกมาได้ พอหลับตาอีกก็มาอีก ไม่ได้นอนดีครับคืนนั้น
ตื่นเช้ามา ต่างคนก็ต่างยังไม่เล่ารายละเอียดอะไรให้กันฟังมากใว้ไปเล่าที่บ้าน สอบถามเจ้าหน้า บอกว่า บ้านหลังนั้นมีคนเจอบ่อย(แล้วไมไม่ยอกเราอะ)
เป็นเจ้าหน้าที่ผู้หญิงกับผู้ชายที่เคยดูแลห้องนั้น เจาเสียชีวิต
สิ่งที่แฟนผมเจอ คือเห็นเงายืนในห้อง
สิ่งที่น้องชายเจอคือ ผู้หญิงยืนอยู่ที่หัวเตียงของผมกับแฟนและจ้องมองมาที่ผม