รักที่ไม่มีวันลงเอย

สวัสดีค่ะ เราอายุ25ปีนะคะ เรียบจบมีงานทำปกติทั่วไปเลยค่ะ เรื่องที่เราจะเล่าต่อไปนี้ค่อนข้างจะดูละครๆนิดๆนะคะ แต่ทั้งหมดคือเรื่องจริงค่ะ ยาวหน่อยนะคะขอบคุณที่อ่านเรื่องราวของเรา ถือว่ามาแชร์ประสบการณ์เรื่องความรักกันนะคะ

ย้อนไปเมื่อประมาณ10-11ปีที่แล้ว(เรื่องเวลาเราไม่ค่อยแม่นค่ะ)เราเรียนมัธยมอยู่ที่โรงเรียนแห่งหนึ่งในกรุงเทพค่ะ ตอนนั้นเราอยู่ม.2เราแอบชอบรุ่นพี่คนนึงอยู่ม.3 ก็ปกติเลยค่ะ เราแอบชอบเค้า พยายามไปอยู่ทุกที่ที่จะเจอพี่เค้าในโรงเรียน เช่น สนามบอล โรงอาหารนั่งโต๊ะไกล้ๆ เดินไปตึกที่พี่เค้าเรียนแล้วเดินผ่านหน้าห้องโฉบๆ ตอนคาบกิจกรรมเราก็เลือกชมรมวาดรูปเพราะห้องชมรมวาดรูปอยู่ติดกับห้องเรียนพี่เค้า แต่ด้วยความโชคร้าย เราเองก็ลืมนึกไปว่าพี่เค้าก็ต้องเลือกชมรมเหมือนกันหนิ สรุปพี่เค้าเลือกชมรมกีฬาซึ่งสนามกีฬาอยู่คนละฟากกับตึกที่เราเรียนวาดรูปเลย555555ตอนนั้นก็แอบเซ็งนิดๆเพราะเลือกไปแล้วเปลี่ยนไม่ได้ต้องทนเรียนวาดรูปมา1ปีเต็มๆทั้งๆที่ไม่ได้ถนัดวาดรูปเลยด้วยซ้ำ แต่นั่นก็ช่างมันค่ะ ยังไงก็ยังไปแอบเจอพี่เค้าได้ตลอดๆอยู่แล้วไม่เกินความสามารถ   เราก็แอบๆชอบพี่เค้ามาหลายเดือนโดยที่ไม่บอกใครเลยแม่กระทั่งเพื่อนสนิทเราเอง  

หลังเลิกเรียนพี่เค้าชอบเตะบอลกับเพื่อนจนถึงประมาณ5โมงเย็นเลย เราก็นั่งเนียนๆดูพวกพี่เค้าเตะบอลไปแบบนั้นเรื่อยๆพร้อมไอติมยักษ์คู่1แท่ง(ไอติมที่ตอนนั้นฮิตมากๆใน1ซองจะสามารถหักแบ่งได้2อันใคีนึกภาพไม่ออกลองเสริ์ทดูได้เลยค่ะ) แบบนั้นทุกวันเป็นเดือนๆจนรุ่นพี่คนนึงมาถามเราว่ารอใครในสนามรึเปล่า เป็นน้องใครในสนามรึเปล่า เห็นนั่งอยู่ทุกวัน เราก็อึกๆอักๆแต่ตอบพี่เค้าไปว่า อ่อพอดีบ้านอยู่ไกล้มากเลยยังขี้เกียจกลับบ้าน เลยนั่งดูบอลเพลินๆหลังจากนั้นพี่เค้าก็ไม่ได้มาถามอะไรอีก

จนกระทั่งความแตกเรื่องที่เราชอบพี่เค้าเพราะเพื่อนจับได้ว่าเราเลิกเรียนแล้วไม่กลับบ้าน555555จนเราต้องยอมสารภาพกับเพื่อนสนิทเรา ลืมบอกไปตอนนั้นเราแอบชอบพี่เค้าแบบเงียบๆมาเกือบ1ปีเลยจนเราขึ้นม.3และพี่เค้าขึ้นม.4 เพื่อนสนิทเราก็รับรู้มาเรื่อยๆจนกระทั่งเพื่อนถามเราว่าจะแอบชอบเค้าแบบนี้ไปเรื่อยๆหรอ จะไม่บอกพี่เค้าจริงหรอ เราเองก็คิดแค่ว่า แค่แอบชอบพี่เค้าไปเรื่อยๆแบบนี้มันก็โอเคหนิ เลยไม่ได้คิดจะบอกอะไรจนกระทั่งเพื่อนเราไม่รู้มันนึกสนุกอะไรเราก็เดินอยู่ในโรงอาหารปกติอยู่ๆเพื่อนมันดันเดินดิ่งเข้าไปหาพี่เค้าแล้วไปบอกพี่เค้าว่าเราชอบพร้อมกับชี้มาที่เรา ตอนนั้นเราทำตัวไม่ถูกมากๆ เราเลยหันหลังกลับแล้วเดินออกมาจากตรงนั้นให้เร็วที่สุด แล้วเพื่อนเราก็วิ่งตามมาด้วยอาการมีความสุขเพราะได้แกล้งเรา 5555ตอนแรกเราโกรธเพื่อนนิดๆนะแต่ก็พักเดียวเพราะเพื่อนก็หวังดีกับเรา แต่สรุปว่าไม่กี่วันต่อมาพี่เค้าเดินมาหาเราแล้วบอกกับเราว่า "พี่มีแฟนแล้วนะคือพี่พึ่งคบกันก่อนวันที่เพื่อนเราเดินมาบอกพี่อ่ะ" เราแบบอึกๆอักๆคือตอนนั้นกำลังช้อคที่พี่เค้าเดินเข้ามาหา แล้วช็อคที่2คือพี่เค้าเดินมาเพื่อบอกว่าเค้ามีแฟนแล้วนะ (แฟนพี่เค้าคือเพื่อนที่เรียนห้องเดียวกับพี่เค้า) เราก็ตอบกลับไปว่าไม่เป็นไรพี่ คือไม่ได้ชอบขนาดนั้นค่ะ คือก็ชอบแบบทั่วๆไปไม่ได้อะไรขนาดนั้น(ทั้งที่ในใจมันขนาดนั้นเลยแหละ) หลังจากนั้นเราจบม.3และย้ายที่เรียนไปเรียนต่อที่อื่น ซึ่งแน่นอนว่าไม่ได้เจอพี่เค้าอีกแน่ๆและสมัยนั้นไม่ได้มีไลน์มีเฟสบุ๊คไว้ติดต่อหากันง่ายๆแบบนี้(หรือเฟสบุ๊คอาจจะมีแล้วแต่ยังไม่เป็นที่นิยมมากอันนี้ไม่แน่ใจค่ะ)

หลังจากนั้นเราก็มาเริ่มต้นเรียนที่ใหม่เพื่อนใหม่สังคมใหม่ๆ ก็ทำให้เราลืมๆเรื่องพี่เค้าไปได้บ้าง จนกระทั่งเรามีแฟนค่ะ และแฟนคนนี้คือแฟนคนที่เราคบอยู่จนถึงปัจจุบันนี้ค่ะ เราก็คบกับแฟนมาเรื่อยๆจนกระทั่งเรียนจบและทำงานค่ะ

และต่อไปนี้เรื่องที่เราจะเล่าคือจุดที่เรารู้สึกว่ายากมากๆของชีวิต

เราได้เข้ามาทำงานในบริษัทแห่งหนึ่ง ทุกๆอย่างดูปกติดีจนกระทั่ง เรามาเจอพี่ที่เราแอบชอบแถวๆที่ทำงานของเรา ตอนนั้นเราขอสารภาพเลยว่าความรู้สึกเก่าๆกลับมา ความรู้สึกชอบ ความรู้สึกอยากเจอความรู้สึกทุกๆอย่างที่มีตอนมอต้นมันกลับมา เราภาวนาว่าขอให้เป็นอย่างที่คิดคือขออย่าให้พี่เค้าทำงานที่เดียวกับเราเลย จนกระทั่งเรามาเจอกันแบบจังๆเลยที่ร้านข้าวข้างๆออฟฟิต พี่เค้าทักเรา และมานั่งกินข้าวกับเรา ณ ตอนนั้นในสายตาเราพี่เค้ายังเหมือนเดิมทุกอย่าง ในความคิดเราเรายังเห็นพี่เค้าใส่ชุดนักเรียนมอปลายอยู่ตลอดเวลาเพราะมันอาจจะเป็นภาพจำสุดท้ายที่เราเห็นก่อนจะไม่ได้เจอกันหลายปี (พี่เค้าทำงานออฟฟิตข้างๆเราค่ะไม่ได้ทำที่เดียวกันแบบที่คิด)

เวลาผ่านไปประมาณเดือนกว่าๆเรากับพี่เค้าเจอกันบ่อยขึ้นมีการแลกไลน์กัน นัดกินข้าวกัน ตอนนั้นเราเองเริ่มรู้สึกว่ากำลังทำผิดต่อแฟนเรา แต่ขอสารภาพเลยว่า เราไม่หักห้ามใจอะไรเลย เราปล่อยใจไปกับการเจอพี่เค้าเกือบทุกวันกินข้าวเที่ยงด้วยกันทุกวันจนกลายเป็นว่าเราเองชอบพี่เค้ามากขึ้นกว่าเดิมอีก ลืมบอกไปว่าตอนนั้นพี่เค้าโสดค่ะ  จนกระทั่งพี่เค้าบอกกับเราว่า พี่ชอบเรานะ ลองคบกันดูมั้ย(ตอนนั้นเราไม่ได้บอกพี่เค้าว่าเราเองมีแฟนอยู่แล้ว)และตอนนั้นเราเหมือนเถียงกับตัวเองว่าจะเอาไงดี นี่คนที่เราเคยชอบมากๆเลยนะเว้ย กับแฟนเราที่ตอนนั้นคบกันมาได้ประมาณ6-7ปีและเค้าก็เป็นคนดีมากๆซะด้วย เราเลยบอกกับพี่เค้าไปว่าคุยๆไปแบบนี้ก่อนได้มั้ย พี่เค้าก็โอเคไม่ได้รีบร้อนอะไร จนกระทั่งพี่เค้าขอแอดเฟสบุ้คเรา แน่นอนค่ะเฟสบุ้คเรามีรูปแฟนเราแน่ๆและพี่เค้าเห็นค่ะ พี่เค้าก็ถามเราว่ามีแฟนแล้วทำไมไม่บอก พี่ชอบเราไปแล้วนะ พี่จะทำยังไง ตอนนั้นเราหวั่นไหวกับคำพูดพี่เค้ามาก แต่ลึกๆแล้วเราจะเลิกกับแฟนเราเพราะแบบนี้ไม่ได้จริงๆมันใจร้ายเกินไป

และต่อมาเราก็ไม่รู้ว่าอะไรยังทำให้ทั้งเราทั้งพี่เค้ายังคุยกันต่อไปเรื่อยๆยาวมาถึง2ปี! ในขณะที่เราก็ยังคบกับแฟนเราอยู่อย่างปกติดีทุกอย่าง จนกระทั่งแฟนเราคุยกับเราเรื่องแต่งงาน ตอนนั้นเราก็คิดได้เลยทันทีว่าความสัมพันธ์ของเรากับพี่เค้าควรจะจบ และเราบอกพี่เค้าไปทุกอย่างเรื่องที่เราจะแต่งงาน ตอนนั้นเท่าที่เราเห็นพี่เค้าก็พังพอสมควรเลย เมาเกือบทุกวันจนเราอดห่วงไม่ได้ แต่ทำไงได้หล่ะ เรากำลังจะแต่งงานแล้ว และแน่นอนเราจะหยุดทุกอย่างเพื่อความถูกต้อง

หลังจากที่เราบอกพี่เค้าว่าเราจะแต่งงาน3เดือนถัดมาก็ถึงงานแต่งเรา ทุกอย่างเป็นไปได้ดี พี่เค้ามาแสดงความยินดีผ่านข้อความในเฟสบุ้คและก็เหมือนว่าทุกอย่างจะจบลงด้วยดี แต่ก็ไม่ค่ะ พี่เค้ายังทำกับเราทุกอย่างเหมือนเดิม ไลน์มา นัดเจอ(แต่เราปฏิเสธ) ชวนกินข้าวตอนเที่ยง(เราก็ปฏิเสธอีก) พี่เค้าก็ยังคงเละเทะเช่นเดิมค่ะกินเหล้า เมาเกือบทุกวัน จนเราต้องย้ายที่ทำงานและต่อมาแฟนเรารู้เรื่องทุกอย่าง เพราะด้วยความระแคะระคายด้วยและต่อมาเรายอมสารภาพเองหมดทุกอย่าง แต่แฟนเราเข้าใจและพร้อมจะเริ่มต้นใหม่และลืมทุกอย่างที่ผ่านมา แล้วอยู่ๆวันนึงพี่เค้าไลน์มาด้วยข้อความว่า "ในโรงอาหารวันนั้นที่เพื่อนเราเดินมาบอกพี่น่าจะมาบอกพี่ให้เร็วกว่านั้นนะไม่งั้นเราอาจได้คบกันไปแล้ว" ตอนเราเห็นข้อความผ่านการแจ้งเตือนหน้าจอมือถือเราไม่อยากเปิดเข้าไปอ่านเลยจริงๆถึงแม้จะอ่านผ่านหน้าการแจ้งเตือนแล้วก็เถอะ เรากลัวใจตัวเองมากกลัวว่าจะหวั่นไหว กลัวว่าจะทำอะไรผิดๆลงไป เราตัดสินใจไม่เปิดอ่านและลบข้อความ บล็อคไลน์และลบการติดต่อทุกช่องทางออกเพื่อจบเรื่องราวทั้งหมด และมันได้ผลค่ะ เราไม่เจอพี่เค้าแล้ว เราถามข่าวคราวจากพี่ที่ทำงานที่พอจะเคยเห็นพี่เค้าบ้าง พี่ที่ทำงานก็บอกว่าเค้าโอเคดี เราเองก็สบายใจที่จบเรื่องนี้ได้

และเมื่อไม่นานมานี้เราได้ข่าวว่าพี่เค้าก็กำลังจะแต่งงานค่ะ ในใจเราตอนนี้รู้สึกยินดีกับพี่เค้ามากจริงๆค่ะความรู้สึกมันต่างจากตอนนั้นที่พี่เค้าบอกว่าพี่มีแฟนแล้วนะ ตอนนั้นด้วยความที่ยังเด็กเลยรู้สึกเจ็บแต่ตอนนี้กลับกัน เรารู้สึกยินดีที่พี่เค้าได้เจอคนที่จะใช้ชีวิตคู่ด้วยแล้ว  

และสำหรับเหตุการณ์ที่เรียกว่ามหากาพย์เรื่องนี้สอนอะไรเรามากมายเลยจริงๆ คนที่เรารักที่เราชอบบางทีเราไม่จำเป็นต้องครอบครองมันก็ได้ แค่อยู่เป็นความทรงจำดีๆให้กันและกัน อยู่เป็นเส้นขนานกันที่จะไม่มีวันทำร้ายกันก็พอ

เราเป็นคนเล่าเรื่องไม่เก่ง เพราะฉนั้นบางตอนเราอาจเล่าไปแบบตัดๆบ้างสั้นๆบ้างเพราะเรื่องมันค่อนข้างยาวจริงๆค่ะ กินระยะเวลาชีวิตเราเป็นสิบปี

สุดท้ายนี้เราจะเก็บเรื่องราวเหล่านี้ไว้เป็นความทรงจำและบทเรียนดีๆค่ะ ขอบคุณที่อ่านเรื่องราวของเรานะคะ  ☺️
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่