ฮอกไกโดเป็นอีกหนึ่งเมืองยอดฮิตของการไปเที่ยวญี่ปุ่น โดยเฉพาะคนที่อยากไปตะลุยหิมะ ถ้ามาช่วงหน้าหนาวรับรองว่าที่นี่หิมะตกแน่นอนไม่ต้องลุ้น เราเลือกไปฮอกไกโดเพราะโจทย์ง่ายๆของผู้ร่วมทริป คือ อยากไปที่ที่มีหิมะ โอเค!!! ฮอกไกโดคือคำตอบ เจอหิมะแน่นอน
ช่วงเวลาที่เราเดินทาง คือ 27 ธค. - 1 มค. ค่ะ และอันนี้คือ แพลนเที่ยวของเราทั้ง 7 วัน 6 คืนค่ะ เราเดินทางด้วยรถไฟ ไม่ได้เช่ารถขับนะคะ และบางที่ที่เป็นสถานที่ไฮไลท์อย่างเช่น บิเอะ หรือ Blue Pond อันนี้เราตัดออกจากแพลนไปนะคะ เพราะว่าเสิร์ชดูแล้วมันค่อนข้างจะขาวโพลนไปด้วยหิมะ ดูแล้วเราไม่ค่อยอิน และเดินทางลำบากนิดนึง เราก็เลยไม่ไปดีกว่า และเราเที่ยวแบบเอ้อระเหยมาก ไม่ค่อยรีบเท่าไหร่ วันๆอาจจะเที่ยวได้ไม่กี่ที่น้า แหะๆ
แพลน 7 วัน 6 คืน
Day 1 : DMK – New Chitose Airport – Hakodate
Day 2 : Hakodate – Noboribetsu – Sapporo
Day 3 : Asahikawa
Day 4 : Otaru
Day 5 : Sapporo (ตามแพลนต้องไปเที่ยว Tomamu แต่ไข้ขึ้นเลยอดไป T^T)
Day 6 : Sapporo
Day 7 : New Chitose Airport – DMK
ค่าใช้จ่าย
เราไป 2 คนหมดไปคนละเกือบห้าหมื่น ไม่ต้องตกใจไป โดนค่าตั๋วแพงมาก ค่าตั๋วไปกลับช่วงปีใหม่ ประมาณ 25,000 T^T และอีกอย่างเรากินเยอะ กินแหลก ลองทุกอย่างที่อยากกิน ค่ากินเลยกระฉูด ฮี่ฮี่ และโรงแรมเราก็ไม่ได้นอนแบบโฮสเทล เพราะผู้ร่วมทริปไม่สะดวกห้องน้ำรวม
ที่พัก
เราใช้วิธีนอนที่ซัปโปโรยาวๆเลย แล้วนั่งรถไปออกไปเที่ยวเมืองรอบๆเป็นเดย์ทริปเอาค่ะ เพราะว่าขี้เกียจลากกระเป๋าย้ายโรงแรมบ่อย มีคืนแรกคืนเดียวที่เรานอนที่ฮาโกดาเตะค่ะ
เดินทาง
ส่วนมากเดินทางไปเมืองต่างๆโดยรถไฟ นอกจากซัปโปโรส่วนมากจะเป็นนั่งรถบัสในเมืองไปที่เที่ยวต่างๆ แต่เดินทางไม่ยากค่ะ สะดวกมากๆ และเราไม่ได้ซื้อ JR Hokkaido Pass แบบ 5 วันด้วย เพราะขาไปฮาโกดาเตะเรานั่งเครื่องภายในประเทศไป และขอโชว์โง่หน่อย คือตอนแพลนเราก็คำนวณค่ารถไฟที่ไปยังเมืองต่างๆบวกๆๆๆ มันถูกกว่าซื้อพาสตั้งเยอะ เพราะว่าเราตัดขาไปฮาโกดาเตะออกไป 1 ขา
แต่...ความโง่คือ ตอนเสิร์ชค่าตั๋วใน Hyperdia เราไม่ได้ดูช่องข้างมันมีค่า Express ซึ่งมันต้องบวกเข้าไปในค่าตั๋วด้วย เราก็ไม่รู้ดูแต่ช่องด้านหน้า แล้วรถไฟที่เรานั่งไปเมืองต่างๆ ทุกอันมีค่า Express หมดจย้า ร้องไห้

แต่ก็ยังโชคดีนิดนึงพอดีวันที่ต้องไปโทมามุ เพื่อนร่วมทริปเราไข้ขึ้นสูงมาก เลยไม่ได้ไป ก็เลยประหยัดค่ารถไฟไป ฮ่าฮ่า ก็เลยจ่ายค่าเดินทางพอๆกับที่ต้องซื้อพาส ถือว่าไม่ขาดทุนอะไร
อากาศ
ช่วงที่ไปอากาศติดลบเกือบทุกวัน หนักสุดก็ที่ โนโบริเบตสึ น่าจะ -10 ส่วนที่ ซัปโปโรส่วนมากอยู่ที่ 0-2 องศา ที่ฮาโกดาเตะกับโอตารุประมาณ -7 ไม่ต้องถามถึงหิมะ ตกทุกวี่ทุกวัน ตกจนร้องขอชีวิต บางวันเรียกว่าเดินฝ่าพายุหิมะเลยทีเดียว
เครื่องแต่งกาย
เน้นเรื่องการเตรียมพวกเสื้อผ้าและรองเท้าแล้วกันนะคะ เราใส่ 3 ชั้น ฮีทเทค + เสื้อไหมพรม + เสื้อกันหนาว แค่นี้ก็โอเคแล้วนะคะ -10 อยู่ได้สบายๆ แต่ที่สำคัญมากๆคือ ผ้าพันคอ กับ ถุงมือ หาหน้ากากใส่ปิดจมูกด้วยก็ดีค่ะ ไม่งั้นเย็นจมูกมาก น้ำมูกไหลย้อยอีกต่างหาก
รองเท้า แนะนำว่าใส่บูทก็ดี เพราะถ้าเป็นผ้าใบถ้าเดินตรงที่หิมะสูงๆ หิมะมันจะเข้าไปในรองเท้า พอละลายเท่านั้นแหละ นิ้วชาไปเลยจ้า เราก็ซื้อบูทถูกๆแล้วซื้อสเปรย์กันน้ำมาฉีดอีกรอบช่วยได้เยอะเลย ลุยหิมะได้ไม่เปียก ถ้าใครพื้นรองเท้าลื่น แนะนำให้ซื้อแผ่นที่ใส่ใต้พื้นรองเท้า ที่โน่นมีขายค่ะหาซื้อไม่ยาก จะทำให้เดินง่ายไม่ลื่น
ที่ช่วยได้อีกอย่างคือ แผ่นให้ความร้อนที่ใส่ในรองเท้า อันนี้ช่วยได้เยอะเลย ไปหาซื้อที่ร้านสะดวกซื้อที่โน่นได้ค่ะ มีแบบเอามาแปะๆตามเสื้อผ้าตามตัวด้วย เลือกใช้กันได้ตามสะดวก
เที่ยว Sapporo ช่วงปีใหม่
ถ้ามาช่วงปีใหม่แบบสิ้นปีคาบเกี่ยวต้นปี ข้อเสียคือ ร้านอาหารบางร้านจะปิดกันยาวเป็นอาทิตย์ บางร้านก็ปิดแค่วันสิ้นปีกับวันปีใหม่ ร้านที่อยู่ในลิสต์เราก็มีปิดเหมือนกัน อดกินเลย T^T
และวันสิ้นปีร้านจะปิดเร็วมาก แม้แต่ร้านในห้าง เย็นสุดที่เจอประมาณ 5 โมงเย็นก็ปิดแล้ว ฉะนั้นฝากท้องที่ร้านสะดวกซื้อสถานเดียว ฮ่าฮ่า เราก็งงๆ ทำไมวันที่ 31 ธค. เมืองมันเงียบมาก ย่าน Susukino เป็นเมืองร้างไปเลย ร้านอาหาร คาราโอเกะ แหล่งบันเทิงทั้งหลาย ปิดกันเงียบกริ๊บ
ปล. เพิ่งเห็นว่าหัวข้อกระทู้สะกดผิด เขิลเลย ^ ^"
-------------------------------------------------------------------
ชอบรีวิวกิน เที่ยว ติดตามเรากันได้นะคะ
FB : whateatit
IG : whateatit.bkk
Blog :
https://www.whateatit.com
[CR] >>> รีวิว 7 วัน 6 คืน ตลุยหิมะ ฮอกไกโดหน้าหนาว <<<
แพลน 7 วัน 6 คืน
Day 1 : DMK – New Chitose Airport – Hakodate
Day 2 : Hakodate – Noboribetsu – Sapporo
Day 3 : Asahikawa
Day 4 : Otaru
Day 5 : Sapporo (ตามแพลนต้องไปเที่ยว Tomamu แต่ไข้ขึ้นเลยอดไป T^T)
Day 6 : Sapporo
Day 7 : New Chitose Airport – DMK
เราไป 2 คนหมดไปคนละเกือบห้าหมื่น ไม่ต้องตกใจไป โดนค่าตั๋วแพงมาก ค่าตั๋วไปกลับช่วงปีใหม่ ประมาณ 25,000 T^T และอีกอย่างเรากินเยอะ กินแหลก ลองทุกอย่างที่อยากกิน ค่ากินเลยกระฉูด ฮี่ฮี่ และโรงแรมเราก็ไม่ได้นอนแบบโฮสเทล เพราะผู้ร่วมทริปไม่สะดวกห้องน้ำรวม
ที่พัก
เราใช้วิธีนอนที่ซัปโปโรยาวๆเลย แล้วนั่งรถไปออกไปเที่ยวเมืองรอบๆเป็นเดย์ทริปเอาค่ะ เพราะว่าขี้เกียจลากกระเป๋าย้ายโรงแรมบ่อย มีคืนแรกคืนเดียวที่เรานอนที่ฮาโกดาเตะค่ะ
เดินทาง
ส่วนมากเดินทางไปเมืองต่างๆโดยรถไฟ นอกจากซัปโปโรส่วนมากจะเป็นนั่งรถบัสในเมืองไปที่เที่ยวต่างๆ แต่เดินทางไม่ยากค่ะ สะดวกมากๆ และเราไม่ได้ซื้อ JR Hokkaido Pass แบบ 5 วันด้วย เพราะขาไปฮาโกดาเตะเรานั่งเครื่องภายในประเทศไป และขอโชว์โง่หน่อย คือตอนแพลนเราก็คำนวณค่ารถไฟที่ไปยังเมืองต่างๆบวกๆๆๆ มันถูกกว่าซื้อพาสตั้งเยอะ เพราะว่าเราตัดขาไปฮาโกดาเตะออกไป 1 ขา
แต่...ความโง่คือ ตอนเสิร์ชค่าตั๋วใน Hyperdia เราไม่ได้ดูช่องข้างมันมีค่า Express ซึ่งมันต้องบวกเข้าไปในค่าตั๋วด้วย เราก็ไม่รู้ดูแต่ช่องด้านหน้า แล้วรถไฟที่เรานั่งไปเมืองต่างๆ ทุกอันมีค่า Express หมดจย้า ร้องไห้
อากาศ
ช่วงที่ไปอากาศติดลบเกือบทุกวัน หนักสุดก็ที่ โนโบริเบตสึ น่าจะ -10 ส่วนที่ ซัปโปโรส่วนมากอยู่ที่ 0-2 องศา ที่ฮาโกดาเตะกับโอตารุประมาณ -7 ไม่ต้องถามถึงหิมะ ตกทุกวี่ทุกวัน ตกจนร้องขอชีวิต บางวันเรียกว่าเดินฝ่าพายุหิมะเลยทีเดียว
เครื่องแต่งกาย
เน้นเรื่องการเตรียมพวกเสื้อผ้าและรองเท้าแล้วกันนะคะ เราใส่ 3 ชั้น ฮีทเทค + เสื้อไหมพรม + เสื้อกันหนาว แค่นี้ก็โอเคแล้วนะคะ -10 อยู่ได้สบายๆ แต่ที่สำคัญมากๆคือ ผ้าพันคอ กับ ถุงมือ หาหน้ากากใส่ปิดจมูกด้วยก็ดีค่ะ ไม่งั้นเย็นจมูกมาก น้ำมูกไหลย้อยอีกต่างหาก
รองเท้า แนะนำว่าใส่บูทก็ดี เพราะถ้าเป็นผ้าใบถ้าเดินตรงที่หิมะสูงๆ หิมะมันจะเข้าไปในรองเท้า พอละลายเท่านั้นแหละ นิ้วชาไปเลยจ้า เราก็ซื้อบูทถูกๆแล้วซื้อสเปรย์กันน้ำมาฉีดอีกรอบช่วยได้เยอะเลย ลุยหิมะได้ไม่เปียก ถ้าใครพื้นรองเท้าลื่น แนะนำให้ซื้อแผ่นที่ใส่ใต้พื้นรองเท้า ที่โน่นมีขายค่ะหาซื้อไม่ยาก จะทำให้เดินง่ายไม่ลื่น
ที่ช่วยได้อีกอย่างคือ แผ่นให้ความร้อนที่ใส่ในรองเท้า อันนี้ช่วยได้เยอะเลย ไปหาซื้อที่ร้านสะดวกซื้อที่โน่นได้ค่ะ มีแบบเอามาแปะๆตามเสื้อผ้าตามตัวด้วย เลือกใช้กันได้ตามสะดวก
เที่ยว Sapporo ช่วงปีใหม่
ถ้ามาช่วงปีใหม่แบบสิ้นปีคาบเกี่ยวต้นปี ข้อเสียคือ ร้านอาหารบางร้านจะปิดกันยาวเป็นอาทิตย์ บางร้านก็ปิดแค่วันสิ้นปีกับวันปีใหม่ ร้านที่อยู่ในลิสต์เราก็มีปิดเหมือนกัน อดกินเลย T^T
และวันสิ้นปีร้านจะปิดเร็วมาก แม้แต่ร้านในห้าง เย็นสุดที่เจอประมาณ 5 โมงเย็นก็ปิดแล้ว ฉะนั้นฝากท้องที่ร้านสะดวกซื้อสถานเดียว ฮ่าฮ่า เราก็งงๆ ทำไมวันที่ 31 ธค. เมืองมันเงียบมาก ย่าน Susukino เป็นเมืองร้างไปเลย ร้านอาหาร คาราโอเกะ แหล่งบันเทิงทั้งหลาย ปิดกันเงียบกริ๊บ
ปล. เพิ่งเห็นว่าหัวข้อกระทู้สะกดผิด เขิลเลย ^ ^"
-------------------------------------------------------------------
ชอบรีวิวกิน เที่ยว ติดตามเรากันได้นะคะ
FB : whateatit
IG : whateatit.bkk
Blog : https://www.whateatit.com
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้