เรื่องมีอยู่ว่า เรากับแฟนอยู่กันมา5ปี มีลูก1คน กำลังจะได้ขวบ ทำงานเปิดร้านเล็กๆเก็บเงินมา4ปี ลำบากมาก แรกๆเคยล้มเหลวติดหนี้เกือบล้าน แล้วสร้างตัวใหม่ เก็บเงินได้ก้อนเล็กๆ(ยังไม่พอสำหรับผ่อนบ้าน) อยากจะเก็บเงินซื้อบ้านเป็นของตัวเอง บ้านแฟนมีพี่น้อง5คน เขาคนสุดท้อง และตอนนี้ก็โทรมาบอกว่าจะปลูกบ้านใหม่ (อันเดิมพึงสร้างไป2-3ปี มาขอ ออกคนละ3แสน มันคงไม่จบแค่นี้ เดี๋ยวค่าตบแต่งอะไรมันก็ต้องมีอีก (ไม่รู้หรอกพี่น้องคนอื่นออกกันเต็มไหม) ก่อนหน้านั้นก็ออกไป5หมื่นบอกลงทุนหุ้นทำสวนส้ม เราเองกว่าจะเก็บเงินมาได้แต่ละบาท ต้องดิ้นรนต้องคิดอะไรเยอะมาก ฝ่าฟันอุปสรรค์มาต่างๆนานา และเราก็รู้ว่าเรื่องนี้ถ้าเราไม่เป็นคนถามก่อน แฟนเขาจะเล่าให้เราฟังไหม เพราะรู้สึกหลายครั้งพี่น้องให้เขาซื้อของ ไม่เคยเก็บตังค์ คือเราอยากบอกว่าฝากซื้อก็คือฝาก ต้องให้เงิน เราไม่ใช่คนรวยที่ต้องมาซื้อโน่นซื้อนี่ให้ทุกคนบ่อยๆ คือมันเป็นอะไรที่อึดอัดใจมาก ต่างคนก็ต่างมีครอบครัวแล้ว ช่วยอะมันช่วยได้ แต่ไม่ใช่อย่างนี้ แถมพี่ๆเขาทุกคนมีบ้านของตัวเองแล้ว เหลือแต่เรายังไม่ปัญญาซื้อบ้าน พูดเรื่องเงินทีไร เทลาะกันทักที เราบอกเขาว่าบ้านก็มีอยู่แล้ว ทำไมต้องสร้างใหม่ ในเมื่อลูกๆแต่ละคนก็ไม่ใช่คนรวย ต่างลำบากกันทั้งนั้น ทำไมต่องมาสร้างบ้านอีก เขาก็หาว่าเราไม่อยากให้เงิน มันเป็นอะไรที่เคลียดมาก บอกจริงๆ อยากเลิกกันนะ หากเจอแบบนี้บ่อยๆ และมาขอเงินบาิยๆ เอ็นดูแต่คนในรรอบครัวเขา แต่ไม่นึกถึงเราที่กำลังสร้างครอบครัวอยู่ เราว่าเราเห็นแก่ตัวไปไหม? แบบนี้เมื่อไหร่เราจะมีเงินเก็บ เก็บได้หน่อยก็มาบอกสร้างนี้ซื้อโน่นอีก ความกตัญญูคือมันต้องมี แต่ก็ต้องดูสฐานะตัวเองด้วยไม่ใช่หรือ
เราเห็นแก่ตัวไหม