แชร์ประสบการณ์เรียน Summer ที่ Ljubljana, Slovenia + เที่ยวที่ออสเตรีย เยอรมันนี และ เนเธอร์แลนด์

สวัสดีครับ ชาวพันทิปทุกท่าน 

เมื่อช่วงเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ผมได้มีโอกาสไปเรียนที่ University of Ljubljana ที่เมือง Ljubljana (อ่านว่า ลูบลิยานา) เมืองหลวงของประเทศ Slovenia และได้มีโอกาสไปเปิดหูเปิดตาท่องเที่ยวที่ออสเตรีย เยอรมัน และ เนเธอร์แลนด์ครับ อีกราวๆ 1 อาทิตย์ครับ

การเดินทางครั้งนี้ ผมได้เรียนรู้อะไรหลายอย่างเลยครับ มันทำให้ผมมีวิสัยทัศน์ที่กว้างขึ้นอีกหน่อย ดังนั้นผมจึงอยากมาแชร์ประสบการณ์ที่มีทั้งเรื่องดีและเรื่องร้ายที่ผมได้เจอตลอดเกือบ 1 เดือน ครับ โดยหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะเป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อยให้แก่ผู้ที่มีแพลนจะเดินทางไปยุโรปไม่ว่าจะไปศึกษาต่อหรือเที่ยวก็ตามครับ

หากผมเขียนส่วนไหนได้ไม่เหมาะสม ต้องขออภัยด้วยครับ

มาเริ่มกันเลยดีกว่าครับเม่าดี๊ด๊า

วันเดินทาง 06/07/2019
ผมเลือกใช้สายการบิน Qatar ครับ เส้นทางการเดินทางของผมเป็นตามนี้นะครับ คือ จากกรุงเทพ ไป โดฮา ไป มิวนิค และจากนั้นถึงไป ลูบลิยาน่า ครับ
มาถึงวันแรก ก็มีปัญหาตั้งแต่ตอน check-in โหลดสัมภาระขึ้นเครื่องเลยครับ เม่าตกใจ

ปัญหามีอยู่ว่าวีซ่าเชงเก้นที่ผมขอมามันไม่ถูกครับ

ผมก็งงครับ เอ้าาา จะไม่ถูกได้ยังไง ผมอยู่ที่สโลวีเนียนานสุด ผมไปขอวีซ่ามาจากสถานทูตออสเตรียที่ปกติแล้วเป็นผู้รับผิดชอบออกวีซ่าเชงเก้นให้ทั้งออสเตรีย สโลวีเนีย และ มอลต้า ผมก็คิดว่าวีซ่าผมน่าจะถูกแล้ว

ประเด็นอยู่ที่ว่า ในวีซ่าเชงเก้นของเราเนี่ยครับ มันจะมี remark อยู่ ซึ่งปกติแล้วตรงจุดๆนี้จะต้องเขียนไว้ว่าออกแทนให้ประเทศไหน
ในกรณีผม ควรจะต้องมีเขียนไว้ว่า สถานทูตออสเตรีย ออกแทนให้ สโลวีเนียครับ แต่มันดันไม่มี ทั้งๆที่ผมบอกเจ้าหน้าที่ vfs ไปแล้วนะครับ ว่ามาทำวีซ่าเชงเก้นของประเทศสโลวีเนีย อยากให้ทุกท่านเช็ค passport ดีๆ ตอนรับมาด้วยนะครับ

ผมใช้เวลารอเจ้าหน้าที่ภาคพื้นดินประสานงานราวๆเกือบ 1 ชั่วโมงครับ 5555
เจ้าหน้าที่เค้าก็ขอดูพวกหลักฐานต่างๆ หากท่านใดจะเดินทางไปต่างประเทศ อย่าลืมเตรียมเอกสารไปสำรองด้วยนะครับ

07/07/2019
ขออนุญาตข้ามมาตอนเดินทางถึง Ljubljana Airport เลยนะครับบ
ผมมาถึงที่นี่ราวๆ 11 โมงครับ หลังจากนั้นผมใช้บริการ Go-Opti จากสนามบินมาที่หอของผมครับผม ราคา 10 eur ต่อคนครับ แพงไปนิดแต่สะดวกสุดๆครับ

ภายในรถก็มี 2 แถว ไม่นับแถวคนขับนะครับ แต่ละแถวนั่งได้ 3 คน

นั่งรถประมาณครึ่งชั่วโมง ก็มาถึงหอครับ หอของผมชื่อว่า Hostel DIC ห้องผมมี 3 คนครับ ผม เพื่อนผม แล้วก้ คนอียิปต์อีกคนนึงครับ
Hostel ที่นี่จะมีอาหารเช้าแบบบุฟเฟต์ให้ทุกเช้าเลยครับ

จากนั้นช่วงบ่าย ผมก็ออกไปเดินสำรวจเมือง Ljubljana ครับ ได้มีโอกาสไป Ljubljana Castle ด้วยครับ ตั้งอยู่บนเนิน สวยมากๆครับ ค่าเข้าคนละ 13 eur ครับ แต่ถ้าต้องการไกด์จะชาร์จเพิ่มครับ ด้านในมีพิพิธภัณฑ์และที่ถ่ายรูปเยอะมากครับ แต่ผมเองเป็นคนที่ถ่ายรูปไม่เป็นครับ เลยไม่ค่อยได้ถ่ายมาเท่าไร เน้นเดินชมวิวมากกว่า

โชคดีที่หอผมค่อนข้างอยู่ในตัวเมือง Ljubljana ทำให้เดินไปไหนมาไหนได้สะดวกครับ
 ภาพด้านบนนี้เป็นสถานีรถไฟ รถบัส แล้วก็ flixbus นะครับ เวลาจะออกต่างจังหวัดหรือต่างประเทศก็มาขึ้นรถได้ที่นี่เลยครับ สะดวกสุดๆ 
เป็นอันจบวันนี้ไปครับ
จริงๆแล้ว สถานที่สวยมากๆเลยนะครับ แต่ผมถ่ายรูปไม่ค่อยเป็น เลยออกมาเป็นอย่างนี้ครับอมยิ้ม08

08/07/2019
วันนี้เป็นวันปฐมนิเทศของ Summer School ครับ จะมีการปฐมนิเทศตอนช่วงเช้าในหอประชุมของคณะครับ
พวก staff ก็พานักเรียนขึ้นรถเมล์สาย 11 ครับ เราแค่โชว์บัตรนักเรียนให้คนขับดู (บนบัตรจะมีสัญลักษณ์ LPP อยู่ครับ เป็นบริษัทที่ดูแลรถเมล์ที่วิ่งในเมืองครับ) ไม่ต้องจ่ายค่ารถเมล์ ก็ขึ้นได้เลยครับ สะดวกมากๆเลย

พอมาถึงมหาวิทยาลัยปุ้ป เค้าก้มีขนม ผลไม้ เครื่องดื่ม เตรียมไว้ให้หน้าหอประชุมครับ จากนั้นเค้าก็เรียกให้ไปรับถุงย่ามของ Summer School ครับ ในนั้นจะมีกระติกน้ำ ผ้าห่ม พัด และ หมอนโค้งๆที่เอาไว้ใช้หนุนคอตอนนั่งรถหรือขึ้นเครื่องบินครับ ไม่รู้เรียกว่าอะไรเหมือนกัน แหะๆ
บรรยากาศใน ม. ครับ ร่มรื่นคล้ายๆเกษตรเลย
ตึกคณะครับ

พอเข้าหอประชุมปุ้ปป ผู้อำนวยการ อาจารย์ เจ้าหน้าที่ ก็ออกมาพูดต้อนรับครับ ที่น่า Surprise คือ นายกเทศมนตรีเมือง Ljubljana ก็มาร่วมพิธีเปิด Summer School ด้วยครับ น่าประทับใจมากๆเลย จากนั้นเค้าก็ให้แนะนำตัวเป็นรายประเทศครับ หมายความว่าพอเค้าขานชื่อประเทศไหน ก็ให้นักเรียนที่มาจากประเทศนั้นๆยืนขึ้นโบกไม้โบกมือครับ มีนักเรียนราวๆ 400กว่าคน จาก 30 กว่าประเทศเข้าร่วมครับ ผมเลยตื่นเต้นมากๆ
พอเค้าขานชื่อ Thailand ปุ้ป ผมก็ยืนขึ้นแล้วก็โบกมือครับ แต่โชคร้ายที่ผมนั่งอยู่ริมๆ ทำให้พิธีกรมองไม่เห็น เค้าเลยข้าม Thailand ไปแบบงงๆครับ ผมผิดหวังนิดหน่อยครับ5555 เค้า treat คนจากประเทศที่ดังๆ อย่าง จีน อเมริกา หรือ ชาติจากยุโรปดีกว่านี้น่ะครับ เศร้า
หลังจากนั้นทาง staff ก้ชี้แจงเรื่องอาหารกลางวันครับ เราสามารถรับประทานอาหารกลางวันได้ที่โรงอาหารครับ โดยเค้าจะมีเมนูเขียนมาให้วันละ 6-8 เมนู จากนั้นเราก็บอกเค้าว่าจะเอาอะไร โดยสามารถหยิบซุป ของหวาน หรือสลัดเพิ่มได้ครับ แต่จำกัดให้คนละ 2 จานครับ โรงอาหารเปิดตั้งแต่ 11โมง ถึง 5โมงเย็นครับ คนเยอะสุดๆครับ
อาหารมื้อแรกที่ ม. ค้าบผม น่ากินสุดๆ

ตอนบ่ายผมก็ไปเดินเล่นสำรวจเมือง อีกแล้วครับ ผมเป็นคนชอบเดินบวกกับอากาศค่อนข้างเย็นสบาย เลยสนุกดีครับ
เป็นอันจบ วันนี้ไป 
 
09/07/2019
เอาล่ะะ วันนีเป็นวันเรียนวันแรกครับ รู้สึกตื่นเต้น+ขี้เกียจหน่อยๆอมยิ้ม40

ผมลงเรียน 2 คอร์สครับ คือ Macroeconomics กับ Global Marketing
โดย Macroeconomics เรียนตั้งแต่ 9.30-12.00 และ Global Marketing เรียนตั้งแต่ 13.30-16.00 ครับ
Professor วิชา Macroeconomics มาจากเกาหลีครับ ท่าทางดุสุดๆ ส่วน Professor วิชา Global Marketing มาจาก Germany ครับ
วิธีการสอนของทั้ง 2 วิชา ค่อนข้างแตกต่างครับ Macro จะสอนแบบอธิบายไปเรื่อยๆครับ และจะมีคำถามแทรกอยู่เนืองๆ ถ้าใครตอบได้ จะมีคะแนนเพิ่มให้ครับ ส่วนวิชา Global Marketing จะเน้นการ Participate ในห้องครับ
ขอสารภาพว่าผมชอบวิชา Macro มากกว่าครับ เนื่องจากในคาบ Global Marketing ผม Participate กับเขาไม่ค่อยจะทันอมยิ้ม08คือผมสอบ IELTS พาร์ท speaking ได้ 7 น่ะครับ คิดว่าน่าจะพอ participte ได้ แต่จริงๆแล้วก็ยากเหมือนกันครับ อาจเป็นเพราะว่าคำศัพท์บางคำเป็นคำเฉพาะทางครับ
อ้ออ แล้วก็ ในคาบ Global Marrketing เค้าจะมีงานกลุ่มอยู่เนืองๆครับ โดย Professor จะจับกลุ่มให้ กลุ่มละ 4-5 คนครับ กลุ่มผมมี 5 คนครับ มีผู้หญิง 2 คน มาจาก US กับ Slovakia ครับ ผชอีก 3 คน มาจาก Morocco, Colombia แล้วก้ Thailand ครับบ 
เป็นกลุ่มเดียวที่มี 5 คน มาจาก 5 ทวีป เจ๋งสุดๆครับ555555 แล้วผมก็ชอบกลุ่มนี้มากๆเลยครับ แต่ละคน nice สุดๆ

หลังจากได้เรียนกับ Professor ทั้ง 2 ท่านแล้วก็สนุกดีครับ กิจกรรมในแต่ละวันแม้ว่าจะซ้ำๆแต่ก็สนุกมากๆครับ
ต่อจากนี้ผมจะขออนุญาตเขียนแค่วันที่น่าสนใจนะครับ

10/07/2019
วันนี้เป็นวันที่เจ๋งสุดๆครับ เพราะว่าาาาาาาาา
มีงาน International Evening ครับผมมม
ว่าแต่มันคืองานอะไรล่ะหว่า......นานางงในงง

งาน International evening นะครับ ก็คืองานที่ นักเรียนจากแต่ละประเทศเอาพวกขนม เครื่องดื่ม และของฝากเล็กๆน้อยๆ จากประเทศตัวเอง มาจัดบนโต๊ะเป็นโต๊ะๆครับ จากนั้นเราก็เดินไปโต๊ะอื่นบ้าง ต้อนรับคนจากโต๊ะอื่นบ้าง งานนี้จัดหลังเลิกเรียนตอน 1 ทุ่มถึง 5 ทุ่มครับ มี dj มาด้วยนะครับ เจ๋งมากๆ

ผมได้แชร์โต๊ะกับนักเรียนจาก Spain ครับ พวกคน Spanish เนี่ย ครึกครื้นสุดๆๆครับ รู้สึกโชคดีที่ได้มาแชร์โต๊ะกัน โต๊ะข้างๆผม เป็นโต๊ะของนักเรียนจาก America ครับ โต๊ะนี้ได้เหมาทั้งโต๊ะเลย เพราะคนมาเยอะมากๆครับ
ขอสารภาพว่าผมไม่ได้เดินไปโต๊ะอื่นเบยครับเพราะงานค่อนข้างเยอะครับบ ดังนั้นอาหารหลักๆที่ผมได้ชิมก็คือเนื้อวัวจากสเปน อาหารอเมริกันที่เราคุ้นเคยกันอยู่แล้ว และก็ อาหารจากคาซัคสถานโต๊ะถัดไปครับ ซึ่งหลักๆก็คือชีส

อาหารที่มีบนโต๊ะของไทยก็จะมี กล้วยตาก ทุเรียนทอด เบ็นโตะ และ ถั่วรสต้มยำครับ อ้อแล้วก็มีพวกพวงกุญแจกับยาดมเป็นของฝากด้วยครับ

ตลอดงานก็มีคนเดินเข้ามาตลอดครับ ต้องยอมรับว่าส่วนหนึ่งเค้าแวะมาโต๊ะอเมริกา แล้วก้เห็นโต๊ะไทยอยู่ข้างๆเลยลองแวะเข้ามาดูแต้มบุญ
ผมเองก็ได้มีโอกาส make friend ก็ตอนนี้แหละครับ 5555 ผมได้คุยกับคนหลายประเทศมากๆๆครับ แต่ละคนก็มีมุมมองที่น่าสนใจครับ บางคนเคยมาประเทศไทยแล้วก็ชอบประเทศไทยสุดๆ คุยกันนานมาก ในขณะที่บางคนยังสับสนระหว่าง ไทยกับไต้หวัน 5555

ต้องยอมรับเลยว่าคนส่วนใหญ่กินเบ็นโตะกับถั่วไม่ได้เลยครับ เค้าบอกว่าเผ็ดมากกกกกก มีแค่นักเรียนจากไม่กี่ประเทศนี่แหละครับ ที่กินได้ เช่น คน Mexican ที่ดูๆแล้วน่าจะกินเผ็ดเก่งกว่าคนไทยซะอีก และเพื่อนๆจาก Spain ที่อยู่ข้างๆกันตลอดงาน ดังนั้นของที่ขายออกมากที่สุดก็คือกล้วยตาก และ ทุเรียนทอดครับบ
 บรรยากาศภายในงานครับ ครึกครื้นมากกๆๆ 

รูปนี้ผมเอามาจากเพจของ summer school ครับ เป็นรูปที่ถ่ายจากโต๊ะเพื่อนๆชาว UK น่ารักดีครับ🙂

หลังจากงานเลิกปุ้ป เราก็ไปที่ที่นึงกันต่อครับบ
เดี๋ยวผมจะมาเล่าต่อนะครับบ เรื่องหลังจากนี้น่าตื่นเต้นมากๆๆ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่