ผมเป็นคนที่ดูหนังมาพอประมาณ แต่ดูหลากหลายแนว ไม่เกี่ยวไม่ว่าจะหนังรัก หนังผี หนังแอคชั่น หนังดูยากๆแนวปรัชญา หนังรางวัล
แต่รู้สึกว่าช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาเนี่ย ไม่ว่าผมจะดูหนังเรื่องอะไร ความสนุกมันลดน้อยถอยลงไปมาก
ผมลองครุ่นคิดดูแล้ว สาเหตุก็น่าจะมาจาก
1.ชอบเดาเนื้อเรื่องของหนัง ส่วนใหญ่จะเดาถูก แล้วพอมันตรงตามที่เราเดา เราก็ไม่ว้าว บางทีเดาได้ตั้งแต่ดูเทรลเลอร์
เช่น ที่ผ่านมาผมไปดูเรื่อง ชนชั้นปรสิต ผมก็เดาได้ตั้งแต่ในเทรลเลอร์ เดาเว่อร์วังกว่าเนื้อเรื่องจริงไปหน่อย พอเจอของจริงเลยรู้สึกไม่ว้าว ไม่มีอะไรใหม่
หรือตอนที่ดู End game ก็เดาได้ตั้งแต่จบ Infinity War แล้วว่ามันต้องมามุกนี้
2.มุกมันซ้ำๆเจอมาหมดแล้ว
เช่น ตอนดูหนังผีหลายๆเรื่อง ผมแทบรู้เลยว่าผีมันจะออกจังหวะตุ้งแช่ตอนไหนบ้าง เลยไม่รู้สึกตกใจกับ Jump Scare เลย
หรือถ้าเป็นพวกหนังรัก ฉากที่พระเอกนางเอกมันจะต้องมีความเข้าใจผิดกันก็รู้ได้เลย ว่ามันต้องเกิดเหตุการณ์ประมาณแบบไหน
3.บางทีหา easter egg จนไม่สนุก
อันนี้เป็นเวลาดูหนังที่สร้างจากคอมมิค หรือแนวฮีโร่ทั้งหลาย หรือพวกหนังแฟนไชน์ที่มีเยอะๆ ตามมันจะวอกแวก หาจุดเล็กจุดน้อย หรือจุดเชื่อมโยงในจักรวาลหนังอื่นๆ บางทีมันเสียสมาธิ
4.บางทีคิดเยอะไป ดูแล้วเจออะไรที่แปลกๆก็ เริ่มคิดเล็กคิดน้อย
อันนี้ออกแนวนิสัยเสีย เช่น ผมจะพยายามหาความสมเหตุสมผลกับเนื้อเรื่อง
อย่างตอนดู Godzilla 2019 เนี่ย ผมรู้สึกจัดใจว่าพวกทหารมันจะพกปืนกันไปทำไม มันจะได้ยิงอะไร สู้ไปตัวเปล่าๆ วิ่งปร๋อๆ ไม่ดีกว่าหรือ ?
หรือขัดใจเวลาที่หนังมันพยายามอธิบายความไม่สมเหตุสมผลให้มันดูน่าเชื่อถือแต่ฟังไม่ขึ้น (เช่น End Game)
หรือตอนดูเรื่อง Alien Covernant ที่รู้สึกขัดใจกับทีมของตัวเอกที่เป็นถึงนักบินอวกาศ ทำภารกิจที่มีมีชีวิตคนหลักแสนเป็นเดิมพัน แต่ทำไมมันถึงได้โง่เง่าเต่าตุ่นขนาดนั้น
5.(อันนี้เป็นเฉพาะหนังโหด จิตตก)
ช่วงที่ผ่านมาผมถวิลหา หนังโหดหรือหดหู่ขั้นสุดมา ไม่ว่าจะเป็นพวกโหดแบบไม่มีเหตุผล (ต่อตะขาบ,ซีรี่ Guinea Pig) หรือพวกโหดแบบปรัชญาเสียดสี (Salo, Saw, ลำนำดอกโศก) แต่พอดูไปเรื่อยๆ จิตใจเริ่มด้านชา ฉากฆ่า ฉากข่มขืน ดูแล้วมันดันเฉยๆซะงั้น
6.เวลาดูหนังที่ต้องตีความ ผมเข้าใจประเด็นที่จะสื่อ แต่ทำไมไม่รู้สึกอินในความลึกซึ้งเลย
เช่นสดๆร้อนๆ เรื่อง "ชนชั้นปรสิต" ที่คนเขายกนิ้วให้กันเยอะๆ ตอนดูผมก็ว่าเข้าใจทุกประเด็นนะ ทั้งเชิงสัญลักษณ์(ก้อนหิน กลิ่น รหัสมอร์ส การจัดโทนสี การเสียดสีชนชั้น อินเดียแดง) และพฤติกรรมที่ตัวละครทำก็เข้าใจ รับได้หมด ไม่มีอะไรติดขัด (แม้บางคนจะบอกหนังเรื่องนี้มันใช้ความบังเอิญเยอะไป แต่ผมก็ไม่ติดใจอะไรตรงนั้นนะ) แต่ผมก็รู้สึกว่า อืม เข้าใจเฉยๆ ไม่ได้ตื่นเต้นหรือรู้สึกว้าว หรือล้ำอะไร อารมณ์เหมือนตอนดูเรื่อง The Killing of a Sacred Deer เข้าใจ แต่ผมก็ไม่ได้ว้าวนะ
คือมันไม่เหมือนสมัยก่อนที่ผมได้ดูหนังแนวที่พยายามจะเสียดสีสังคมคล้ายๆกันอย่างเรื่อง American Beauty หรือ Little miss sunshine ครั้งแรกที่รู้สึกว่ามันสุดยอด มันฟิน มันโดนใจ มันให้แง่คิดกับเรา
ตอนนี้หนังที่ผมดูแล้วยังรู้สึกปลื้มอยู่ คงมีแต่พวกแนวๆ Slice of Life ละที่ดูเอาเรื่อยๆ ดูเอาความสวยงามของชีวิตอะไรพวกนั้น เช่นเรื่อง Her love Boil Bathwater, หรือ 3 Idiots ที่เพิ่งมีโอกาสได้ดูไป
หรือไม่ก็พวกหนังดราม่าหนักๆ (แต่ดำเนินเรื่องไม่หวือหวา) ตระกูลหนังญี่ปุ่นเช่น Lily Chouchhou หรือ Nobody Knows ที่ผมดูแล้วอารมณ์ค้างไปหลายวัน
แล้วก็พวกอิงประวัติศาสตร์นี่แหละที่ผมรู้สึกว่ายังดูสนุกอยู่
คุณเป็นมั๊ยครับ ยิ่งดูหนังมาเยอะ ความสนุกมันค่อยๆลดลง
แต่รู้สึกว่าช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาเนี่ย ไม่ว่าผมจะดูหนังเรื่องอะไร ความสนุกมันลดน้อยถอยลงไปมาก
ผมลองครุ่นคิดดูแล้ว สาเหตุก็น่าจะมาจาก
1.ชอบเดาเนื้อเรื่องของหนัง ส่วนใหญ่จะเดาถูก แล้วพอมันตรงตามที่เราเดา เราก็ไม่ว้าว บางทีเดาได้ตั้งแต่ดูเทรลเลอร์
เช่น ที่ผ่านมาผมไปดูเรื่อง ชนชั้นปรสิต ผมก็เดาได้ตั้งแต่ในเทรลเลอร์ เดาเว่อร์วังกว่าเนื้อเรื่องจริงไปหน่อย พอเจอของจริงเลยรู้สึกไม่ว้าว ไม่มีอะไรใหม่
หรือตอนที่ดู End game ก็เดาได้ตั้งแต่จบ Infinity War แล้วว่ามันต้องมามุกนี้
2.มุกมันซ้ำๆเจอมาหมดแล้ว
เช่น ตอนดูหนังผีหลายๆเรื่อง ผมแทบรู้เลยว่าผีมันจะออกจังหวะตุ้งแช่ตอนไหนบ้าง เลยไม่รู้สึกตกใจกับ Jump Scare เลย
หรือถ้าเป็นพวกหนังรัก ฉากที่พระเอกนางเอกมันจะต้องมีความเข้าใจผิดกันก็รู้ได้เลย ว่ามันต้องเกิดเหตุการณ์ประมาณแบบไหน
3.บางทีหา easter egg จนไม่สนุก
อันนี้เป็นเวลาดูหนังที่สร้างจากคอมมิค หรือแนวฮีโร่ทั้งหลาย หรือพวกหนังแฟนไชน์ที่มีเยอะๆ ตามมันจะวอกแวก หาจุดเล็กจุดน้อย หรือจุดเชื่อมโยงในจักรวาลหนังอื่นๆ บางทีมันเสียสมาธิ
4.บางทีคิดเยอะไป ดูแล้วเจออะไรที่แปลกๆก็ เริ่มคิดเล็กคิดน้อย
อันนี้ออกแนวนิสัยเสีย เช่น ผมจะพยายามหาความสมเหตุสมผลกับเนื้อเรื่อง
อย่างตอนดู Godzilla 2019 เนี่ย ผมรู้สึกจัดใจว่าพวกทหารมันจะพกปืนกันไปทำไม มันจะได้ยิงอะไร สู้ไปตัวเปล่าๆ วิ่งปร๋อๆ ไม่ดีกว่าหรือ ?
หรือขัดใจเวลาที่หนังมันพยายามอธิบายความไม่สมเหตุสมผลให้มันดูน่าเชื่อถือแต่ฟังไม่ขึ้น (เช่น End Game)
หรือตอนดูเรื่อง Alien Covernant ที่รู้สึกขัดใจกับทีมของตัวเอกที่เป็นถึงนักบินอวกาศ ทำภารกิจที่มีมีชีวิตคนหลักแสนเป็นเดิมพัน แต่ทำไมมันถึงได้โง่เง่าเต่าตุ่นขนาดนั้น
5.(อันนี้เป็นเฉพาะหนังโหด จิตตก)
ช่วงที่ผ่านมาผมถวิลหา หนังโหดหรือหดหู่ขั้นสุดมา ไม่ว่าจะเป็นพวกโหดแบบไม่มีเหตุผล (ต่อตะขาบ,ซีรี่ Guinea Pig) หรือพวกโหดแบบปรัชญาเสียดสี (Salo, Saw, ลำนำดอกโศก) แต่พอดูไปเรื่อยๆ จิตใจเริ่มด้านชา ฉากฆ่า ฉากข่มขืน ดูแล้วมันดันเฉยๆซะงั้น
6.เวลาดูหนังที่ต้องตีความ ผมเข้าใจประเด็นที่จะสื่อ แต่ทำไมไม่รู้สึกอินในความลึกซึ้งเลย
เช่นสดๆร้อนๆ เรื่อง "ชนชั้นปรสิต" ที่คนเขายกนิ้วให้กันเยอะๆ ตอนดูผมก็ว่าเข้าใจทุกประเด็นนะ ทั้งเชิงสัญลักษณ์(ก้อนหิน กลิ่น รหัสมอร์ส การจัดโทนสี การเสียดสีชนชั้น อินเดียแดง) และพฤติกรรมที่ตัวละครทำก็เข้าใจ รับได้หมด ไม่มีอะไรติดขัด (แม้บางคนจะบอกหนังเรื่องนี้มันใช้ความบังเอิญเยอะไป แต่ผมก็ไม่ติดใจอะไรตรงนั้นนะ) แต่ผมก็รู้สึกว่า อืม เข้าใจเฉยๆ ไม่ได้ตื่นเต้นหรือรู้สึกว้าว หรือล้ำอะไร อารมณ์เหมือนตอนดูเรื่อง The Killing of a Sacred Deer เข้าใจ แต่ผมก็ไม่ได้ว้าวนะ
คือมันไม่เหมือนสมัยก่อนที่ผมได้ดูหนังแนวที่พยายามจะเสียดสีสังคมคล้ายๆกันอย่างเรื่อง American Beauty หรือ Little miss sunshine ครั้งแรกที่รู้สึกว่ามันสุดยอด มันฟิน มันโดนใจ มันให้แง่คิดกับเรา
ตอนนี้หนังที่ผมดูแล้วยังรู้สึกปลื้มอยู่ คงมีแต่พวกแนวๆ Slice of Life ละที่ดูเอาเรื่อยๆ ดูเอาความสวยงามของชีวิตอะไรพวกนั้น เช่นเรื่อง Her love Boil Bathwater, หรือ 3 Idiots ที่เพิ่งมีโอกาสได้ดูไป
หรือไม่ก็พวกหนังดราม่าหนักๆ (แต่ดำเนินเรื่องไม่หวือหวา) ตระกูลหนังญี่ปุ่นเช่น Lily Chouchhou หรือ Nobody Knows ที่ผมดูแล้วอารมณ์ค้างไปหลายวัน
แล้วก็พวกอิงประวัติศาสตร์นี่แหละที่ผมรู้สึกว่ายังดูสนุกอยู่