"เราจะทำใจถือหุ้นระยะยาวได้อย่างไร" ... อ่านเล่นในวันหยุด

การลงทุนที่น่าตื่นเต้น กับการลงทุนที่สงบเย็น ... "เราจะทำใจถือหุ้นระยะยาวได้อย่างไร"
.
การลงทุนที่น่าตื่นเต้น เราอาจพบเห็นได้จากการเก็งกำไรหุ้น รายวัน รายเดือน รายปี แต่สำหรับการลงทุนระยะยาวนั้นแตกต่างจากการลงทุนที่น่าตื่นเต้นแทบราวหน้ามือกับหลังมือเลยทีเดียวครับ
.
สำหรับการลงทุนที่สงบเย็นนั้น ... นักลงทุนจะรู้สึกสบายอกสบายใจกว่าการลงทุนระยะสั้นที่น่าตื่นเต้นมาก ๆ การลงทุนที่สงบเย็น เราจะให้เวลาในการลงทุน "เวลา" เป็นเพื่อนของเรา เราจะไม่เร่งการเติบโต เราปลูกต้นไม้ใหญ่ ไม่ได้ปลูกถั่วงอก ต้นไม้ใหญ่ย่อมต้องใช้เวลาในการเติบโต
.
แนวคิดการลงทุนที่ทำให้นักลงทุนรู้สึกสงบเย็นมีอะไรบ้าง สำหรับคนที่สนใจแนวทางนี้ ไปติดตามกันครับ
.
แนวคิดแรก ... "ซื้อธุรกิจไม่ได้ซื้อหุ้น"
.
การที่เราจะใช้เงินซื้อสินทรัพย์อะไรบางอย่าง เราต้องคิดเสมอว่า เรากำลังซื้อธุรกิจ ๆ หนึ่ง เราไม่ได้ซื้อหุ้น แต่การซื้อหุ้นก็คือการซื้อธุรกิจ หมายความว่า เราต้องการเป็นส่วนหนึ่งของความเป็นเจ้าของกิจการนั้น ๆ
.
การที่เราคิดว่า เราจะซื้อธุรกิจ เราจะไม่คาดหวังผลกำไรในระยะเวลาสั้น ๆ เปรียบเหมือนกับเราจะลงทุนเปิดร้านขายของอะไรซักอย่าง หรือทำธุรกิจอะไรบางอย่าง เราคงต้องศึกษาให้รอบคอบจริง ๆ จึงลงทุน เพราะหากเราไม่ศึกษาให้รอบคอบ เงินทุนของเราอาจเสียหาย หรือจมทุนก็เป็นไปได้
.
ความคิดที่ว่า เราจะซื้อธุรกิจ เราจะติดตามหาการเติบโตของกิจการได้ชัดเจนขึ้น เราต้องมองไปข้างหน้าว่ากิจการจะมีรายได้เพิ่ม และรายได้จะนำมาซึ่งกำไรที่เพิ่มขึ้น และปันผลจะเพิ่มตามหรือไม่ ถ้าคำตอบคือใช่ และราคาหุ้นยังไม่แพง เราก็ต้องลงทุน
.
แนวคิดที่สอง ... “ซื้อหุ้นเหมือนซื้อที่ดิน”
.
แนวคิดนี้ว่าที่จริงเคยมีนักลงทุนระดับตำนานกล่าวเอาไว้ นั่นก็คือ คุณปีเตอร์ ลินซ์ ผู้จัดการกองทุนที่ทำผลตอบแทนได้สูงจนใคร ๆ ลบสถิติได้ยาก
.
การลงทุนหุ้นเหมือนซื้อที่ดิน จะทำให้เราวางใจลงได้ ก่อนเราจะซื้อที่ดินซักผืน เราคงต้องดูแล้วดูอีก ดูทำเลที่ตั้ง ดูอนาคตที่น่าจะเป็น ดูการพัฒนาของที่ดินบริเวณรอบ ๆ เราจึงจะตัดสินใจซื้อ เพราะเรารู้ว่า เมื่อซื้อแล้วที่ดินนั้นจะต้องอยู่ในความครอบครองของเราอีกนาน กว่าจะขายออก
.
การซื้อหุ้นให้เหมือนซื้อที่ดินก็เช่นกัน เราต้องคิดเสมอว่า หุ้นที่เราซื้อเข้ามานั้น จะต้องอยู่กับเราอีกนาน ดังนั้นเราจึงไม่ได้ซื้อเล่น ๆ หรือซื้อเพื่อเก็งกำไรจะไปขายในระยะเวลาอันสั้น การซื้อแบบนี้เหมือนซื้อสินทรัพย์แล้วปิดหีบไปเลย จะทำให้เราถือหุ้นดี ๆ ได้นานขึ้นนั่นเองครับ
.
แนวคิดที่สาม ... “ซื้อหุ้นที่เติบโตเท่านั้น”
.
แนวคิดนี้ออกจะมองไปข้างหน้าไกลเสียหน่อย เราต้องคิดเสมอว่า หุ้นที่เราซื้อต้องเป็นหุ้นเติบโตเท่านั้น หุ้นเหล่านั้นได้แก่ เมกะเทรนด์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต เช่น สังคมผู้สูงอายุ ระบบรางขนส่งมวลชน โรงไฟฟ้า สื่อสารยุคใหม่ และเทรนด์ที่คนเป็นหนี้กันมากขึ้น
.
การซื้อหุ้นที่เป็นเทรนด์ขาขึ้นเหล่านี้ จะช่วยปกป้องการมองระยะสั้น ๆ และทำให้เรามองภาพที่ยาวขึ้น ไกลขึ้น ไม่รีบขายหุ้นก่อนเวลาอันควร การซื้อแบบนี้ระยะสั้นอาจจะไม่เห็นผลอะไร แต่ในระยะยาวจะส่งผลดีต่อเราอย่างน่าตกใจ
.
ข้อสรุป และข้อคิดก็คือ ... การซื้อหุ้นลงทุนให้สงบร่มเย็นนั้น จะส่งผลที่แตกต่างจากการซื้อที่เร่าร้อน การซื้อที่ดี ควรซื้อหุ้นที่เราคิดว่าจะถือไปนาน ๆ ยาว ๆ และราคาหุ้นต้องสมเหตุสมผลด้วยนะครับ #นายแว่นลงทุน

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้https://www.facebook.com/NaiwaenTammada/