เรื่องสั้น เรื่องที่ 2 และเป็นกระทู้สุดท้ายสำหรับรอบนี้ครับ ^^
เป็นเรื่องของหญิงสาวนักศึกษาในมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในโลกแห่งหนึ่ง เธอเป็นคนเงียบไม่พูดจากับใคร พอเข้ามหา'ลัยนั้น ผู้ชายบางคนก็สนใจเธอ แต่เธอไม่สนใจใคร จนมีชายคนหนึ่งที่สนใจเธอมากกว่าเพื่อน พยายามตีสนิท ก็พอเข้าหาเธอได้บ้าง
จนมีเหตุการณ์ไม่คาดฝันเกิดขึ้นซึ่งไอ้หนุ่มที่ปิ๊งเธอนั้นได้รู้ความจริงว่า ที่แท้ เธอเป็นใคร
มาติดตามอ่านกันครับ ^^

มุมหนึ่งในห้องสมุดของมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด
นักศึกษาสาวผู้หนึ่ง ผิวขาว หน้าตาเหมือนฝรั่งชาวยุโรปทั่วไป ผมสีเทายาวถึงกลางหลัง และเห็นได้ชัดว่าเธอสวมหน้ากาก เพราะยามเมื่อใบหน้าของเธอกระทบกับแสงไฟ ทุกคนมองเห็นใบหน้านั้นมันวาวสะท้อนแสง กำลังก้มหน้าก้มตาอ่านหนังสือเล่มหนึ่งอยู่คนเดียวเงียบๆ และเธอกำลังถูกจับตามองโดยนักศึกษาทั้งที่เป็นรุ่นเดียวกันและรุ่นพี่
เธอเพิ่งย้ายเข้ามาเรียนในมหาวิทยาลัยซึ่งมีชื่อเสียงแห่งนี้ได้ไม่นาน และเธอไม่ชอบสุงสิงกับใคร และไม่ค่อยพูดด้วย
เธอบอกเหตุผลที่เธอจำเป็นต้องสวมหน้ากากต่อทุกคนในเช้าวันแรกที่เข้าห้องเรียน วิชาเทพปกรณัมกรีกและโรมัน ว่า เธอได้รับอุบัติเหตุ ทำให้เสียโฉม
"ดิฉันมีใบหน้าอัปลักษณ์ มันดูน่ากลัว หรือไม่ก็น่ารังเกียจอย่างยิ่งต่อผู้ที่พบเห็น ดังนั้น ดิฉันจึงได้ขออนุญาตท่านอธิการบดีว่า ขอสวมหน้ากากไว้อย่างนี้ตลอดเวลา" เธอบอกกับทุกคนในห้องเรียนในขณะที่ยืนแนะนำตัวอยู่หน้าชั้น
"ท่านอธิการบดี ได้ขอให้เธอถอดหน้ากาก เพื่อดูหน้าของเธอไหม ?" ศาสตราจารย์แฮริสัน อาจารย์ประจำวิชานั้นถามด้วยความอยากรู้
"ค่ะ ท่านขอดู แต่ดิฉันบอกท่านว่า ขอเปิดให้ดูเพียงแค่ส่วนคางและแก้มข้างหนึ่งเท่านั้น ไม่ต้องการให้ท่านเห็นทั้งหมด เพราะเกรงว่าท่านจะตกใจ หรืออาจจะรังเกียจ เพระใบหน้าของดิฉันไม่น่าดูเลยจริงๆ ท่านบอกว่าโอเค ดิฉันจึงเปิดส่วนคางและแก้มข้างซ้ายให้ท่านดู พอท่านได้เห็นเข้าเท่านั้น ท่านก็บอกดิฉันทันทีว่า เข้าใจละ เธอสวมหน้ากากต่อไปได้"
ศาสตราจารย์แฮริสันพยักหน้า แล้วจึงเริ่มดำเนินการสอนในวันนั้น
เมดูซซี่ เกรแฮม คือชื่อของเธอ
เนื่องจากเธอเป็นคนเงียบไม่ชอบพูด จะพูดก็ต่อเมื่อถูกใครถามถึงอะไรสักอย่างเท่านั้น เธอจึงไร้เพื่อนไปโดยปริยาย พวกนักศึกษาหญิงก็ไม่กล้าสมาคมด้วย
พวกนักศึกษาชายก็เช่นเดียวกัน แต่ก็มีบางส่วนที่อยากลองคบหาด้วย เพราะมีบางคนเข้าใจว่า ภายใต้หน้ากากนั้น อาจเป็นใบหน้าที่สวยสะคราญ
ทว่า...ไม่มีใครประสบความสำเร็จ ทุกคนล้วนหน้าแตกกลับออกมาทั้งนั้น
อย่างไรก็ตาม มีนักศึกษาชายคนหนึ่งคือ เอ็ดเวิร์ด เรดฟอร์ด สนใจเธออย่างมาก พยายามเข้าไปตีสนิทกับเธอทีละน้อย แต่เมดูซซี่ก็ยังถามคำตอบคำอยู่ดี
และมีวันหนึ่งที่เธอบอกกับเขาว่า "เธออย่าสนใจฉันเลย เอ็ดเวิร์ด ทางที่ดี อยู่ห่างๆ จากฉันจะดีกว่า"
แต่นักศึกษาหนุ่มก็ไม่ละความพยายาม เพราะเขาชอบวิชาเทพปกรณัมมากถึงขั้นที่เรียกว่าคลั่งไคล้ และพอมาเรียนร่วมห้องเดียวกัน เขาพบว่า เมดูซซี่มีความจำเป็นเลิศสำหรับวิชานี้ เขาจึงขอกับเธอว่า ถ้าเขามีปัญหาตรงไหนในวิชานี้ เขาขอมาถามเธอ ขอให้เธอช่วยชี้แนะ
เอ็ดเวิร์ดดีใจจนเนื้อเต้น เมื่อเธอตอบตกลง
เพื่อนๆ นักศึกษา จับตาดูเมดูซซี่ และซุบซิบถึงเธอในห้องสมุดใหญ่โอ่อ่าตระการตานั้น จนถึงเย็นก็เริ่มทยอยกันกลับ
เมดูซซี่ ออกจากห้องสมุดเป็นคนสุดท้าย
และเธอจะเป็นคนสุดท้ายเสมอ...
.........
เวลาเกือบสองทุ่ม บนทางสายเปลี่ยวสายหนึ่งซึ่งนำไปสู่หอพักหญิง นอกมหาวิทยาลัย และไกลจากมหาวิทยาลัยมาก เมดูซซี่ กำลังเดินไปคนเดียว
สองข้างทางมีพุ่มไม้หนาทึบ ต้นไม้ใหญ่อีกหลายต้น
บรรยากาศรอบตัวเงียบงัน ไม่มีผู้คนสัญจรไปมาเลย ทุกย่างก้าวของเธอ
เป็นถนนสายเปลี่ยวที่ไม่ปลอดภัยเลยสำหรับใครก็ตามที่จะมาเดินอยู่คนเดียวในเวลาเช่นนี้
แต่เมดูซซี่ ไม่กลัว เธอเดินไปเรื่อย เชิดหน้า ไม่สนใจอะไรทั้งสิ้นนอกจากหนทางข้างหน้า
และโดยไม่คาดคิด หลังจากเธอเดินไปข้างหน้าต่อไปได้ราวสิบนาที ผู้ชายกลุ่มหนึ่ง ห้าหกคน โผล่ออกมาจากสองข้างทาง ขวางเธอไว้
เป็นนักศึกษาชายรุ่นพี่ของเธอนั่นเอง เธอจำหน้าและชื่อของพวกเขาได้หมด
"จะรีบไปไหนเล่า เมดูซซี่" หนึ่งในรุ่นพี่เหล่านั้นกล่าว ท่าทางเขาดูเหมือนเมาเหล้ามา และใช้สายตามองเธอตั้งแต่หัวจรดเท้าแบบแทะโลม
"ฉันกำลังกลับหอพัก หลีกทางให้ฉันด้วย" เมดูซซี่พูดเสียงแข็งกระด้าง คนฟังรู้ได้ทันทีว่าเธอหัวร้อนแล้ว
"โอ้....ไม่ต้องรีบร้อนน่า ที่รัก" นักศึกษาหนุ่มอีกคนพูดขึ้นมาบ้างและจ้องมองเธอโดยอาการอย่างเดียวกันกับคนแรก "บริเวณนี้ บรรยากาศดี เรามาสนุกกันดีกว่า แล้วเธอจะตัวเบา หลับสบายทั้งคืนเลย" แล้วทุกคนก็เดินเข้ามารายล้อมเธอ
"พวกเธอกำลังคิดผิด และผิดอย่างมหันต์! หลีกทางให้ฉันเดี๋ยวนี้นะ" เธอเริ่มขึ้นเสียง
"ถ้าพวกเราไม่หลีกล่ะ จะมีอะไรไหม" หนุ่มอีกคนหนึ่งยิ้มกริ่ม พอก้าวเข้ามาประชิดตัวเธอ คนอื่นๆ ก็ตามเข้ามาจับแขนขาและลำตัวของเธอ
น่าแปลกใจ ที่เมดูซซ่าไม่ดิ้นรนเลยสักนิด เพียงจ้องมองแต่ละคนด้วยสายตาเย็นชา แล้วพูดอีกหนึ่งประโยค
"ฉันขอเตือนพวกเธอเป็นครั้งสุดท้าย พวกเธอคิดผิด และทำผิดอย่างมหันต์! แต่ยังไม่สายเกินไป จงปล่อยฉันไปซะ แล้วกลับบ้านของพวกเธอไป"
"โอ้...เธอเป็นปีศาจหรือไง ถึงได้ขู่พวกเราแบบนี้" ผู้ชายคนแรกพูดแล้วยื่นมือมาจับใบหน้าของเธอซึ่งสวมหน้ากากอยู่ "ไหนขอดูใบหน้าที่แท้จริงของเธอหน่อยซิ ว่าจะสวยขนาดไหน เธอถึงต้องปกปิดมันไว้ด้วยหน้ากากตลอดเวลาแบบนี้"
เมดูซซี่ยืนนิ่งเหมือนเดิม ตาจ้องตาหนุ่มรุ่นพี่นั้นอย่างไม่สะทกสะท้าน
ชายหนุ่มคนนั้นคลำหาขอบหน้ากากจนเจอ แล้วกระชากหน้ากากนั้นออกมาด้วยกำลัง!
ทันทีที่หน้ากากพ้นไปจากใบหน้าของหญิงสาว หนุ่มๆ ทั้งหลายซึ่งกำลังเตรียมตัวจะ "ลงแขก" กับเธอ ก็เปิดตากว้าง จ้องมองเธอด้วยความตกใจกลัว และทุกคนยืนนิ่งเหมือนถูกสาป หน้าซีดกันหมด
เส้นผมยาวสลวยของเมดูซซี่ พลันแปรเปลี่ยนเป็นงูจำนวนนับไม่ถ้วนเต็มศีรษะ ทุกตัวชูคออ้าปากแลบลิ้นเป็นแฉกๆ ขู่ฟ่อๆ กันระงม!
นั่นก็น่าสยองพออยู่แล้ว แต่ที่เป็นที่สุดแห่งฝันร้ายสำหรับทุกคนที่ยืนนิ่งจ้องมองอยู่ตอนนี้ ก็คือ
ใบหน้าที่แท้จริงของเมดูซซี่ ซึ่งน่าเกลียดน่ากลัวเกินกว่าจะบรรยายได้
และปรากฏการณ์ที่เหลือเชื่อที่ตามมาอย่างฉับพลันก็คือ ชายหนุ่มทุกคน แปรสภาพแข็งกระด้างกลายเป็นหินด้วยใบหน้าท่าทางตกใจหวาดกลัวสุดขีด!
ห่างออกไป เบื้องหลังของเมดูซซี่ เอ็ดเวิร์ด แอบมองดูเหตุการณ์อยู่หลังต้นโอ๊คต้นใหญ่อย่างตื่นตะลึง แต่พอเมดูซซี่ทำท่าจะหันหน้ามา เขาก็รีบหลบแอบข้างหลังต้นโอ๊คนั้นทัน ก่อนที่เธอจะหันมาเต็มตัว
แต่ก็ยังได้ยินเสียงแหบๆ น่าขนลุกของเธอ พูดมาว่า
"บอกแล้วว่าอย่าสนใจฉันเลย อยู่ห่างๆ ฉันไว้จะดีกว่า"
เมดูซซี่ก้มลงเก็บหน้ากากซึ่งตกอยู่ที่พื้นดินมาสวม และทันทีที่เธอสวมมัน งูทั้งหลายบนศีรษะก็หายไป กลายเป็นเส้นผมธรรมดาๆ เหมือนเดิม
เอ็ดเวิร์ดแง้มหน้าออกมาแอบดู และได้เห็นเหตุการณ์ตอนนี้เช่นกัน
เมดูซซี่ กลับหลังหัน ก้าวเดินไปข้างหน้าสองสามก้าว แล้วหยุดชะงัก พูดออกมาอีกหนึ่งประโยค
"หวังว่า เธอคงไม่ใช่
เพอร์ซีอุส กลับมาเกิดใหม่หรอกนะ เอ็ดเวิร์ด! แต่ถ้าใช่ ก็อย่ามายุ่งกับฉัน!"
แล้วเธอก็เดินต่อไป และหายไปกับความมืด
/// จบ ///
ถุงมือ ปกรณัม
💀👩🏿💀 THE LEISURE GLOVES ถุงมือยามว่าง# 11 เรื่องสั้น-2 "Meduzzy" (ถุงมือ ปกรณัม ) 💀👩🏿💀
เป็นเรื่องของหญิงสาวนักศึกษาในมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในโลกแห่งหนึ่ง เธอเป็นคนเงียบไม่พูดจากับใคร พอเข้ามหา'ลัยนั้น ผู้ชายบางคนก็สนใจเธอ แต่เธอไม่สนใจใคร จนมีชายคนหนึ่งที่สนใจเธอมากกว่าเพื่อน พยายามตีสนิท ก็พอเข้าหาเธอได้บ้าง จนมีเหตุการณ์ไม่คาดฝันเกิดขึ้นซึ่งไอ้หนุ่มที่ปิ๊งเธอนั้นได้รู้ความจริงว่า ที่แท้ เธอเป็นใคร
มาติดตามอ่านกันครับ ^^
นักศึกษาสาวผู้หนึ่ง ผิวขาว หน้าตาเหมือนฝรั่งชาวยุโรปทั่วไป ผมสีเทายาวถึงกลางหลัง และเห็นได้ชัดว่าเธอสวมหน้ากาก เพราะยามเมื่อใบหน้าของเธอกระทบกับแสงไฟ ทุกคนมองเห็นใบหน้านั้นมันวาวสะท้อนแสง กำลังก้มหน้าก้มตาอ่านหนังสือเล่มหนึ่งอยู่คนเดียวเงียบๆ และเธอกำลังถูกจับตามองโดยนักศึกษาทั้งที่เป็นรุ่นเดียวกันและรุ่นพี่
เธอเพิ่งย้ายเข้ามาเรียนในมหาวิทยาลัยซึ่งมีชื่อเสียงแห่งนี้ได้ไม่นาน และเธอไม่ชอบสุงสิงกับใคร และไม่ค่อยพูดด้วย
เธอบอกเหตุผลที่เธอจำเป็นต้องสวมหน้ากากต่อทุกคนในเช้าวันแรกที่เข้าห้องเรียน วิชาเทพปกรณัมกรีกและโรมัน ว่า เธอได้รับอุบัติเหตุ ทำให้เสียโฉม
"ดิฉันมีใบหน้าอัปลักษณ์ มันดูน่ากลัว หรือไม่ก็น่ารังเกียจอย่างยิ่งต่อผู้ที่พบเห็น ดังนั้น ดิฉันจึงได้ขออนุญาตท่านอธิการบดีว่า ขอสวมหน้ากากไว้อย่างนี้ตลอดเวลา" เธอบอกกับทุกคนในห้องเรียนในขณะที่ยืนแนะนำตัวอยู่หน้าชั้น
"ท่านอธิการบดี ได้ขอให้เธอถอดหน้ากาก เพื่อดูหน้าของเธอไหม ?" ศาสตราจารย์แฮริสัน อาจารย์ประจำวิชานั้นถามด้วยความอยากรู้
"ค่ะ ท่านขอดู แต่ดิฉันบอกท่านว่า ขอเปิดให้ดูเพียงแค่ส่วนคางและแก้มข้างหนึ่งเท่านั้น ไม่ต้องการให้ท่านเห็นทั้งหมด เพราะเกรงว่าท่านจะตกใจ หรืออาจจะรังเกียจ เพระใบหน้าของดิฉันไม่น่าดูเลยจริงๆ ท่านบอกว่าโอเค ดิฉันจึงเปิดส่วนคางและแก้มข้างซ้ายให้ท่านดู พอท่านได้เห็นเข้าเท่านั้น ท่านก็บอกดิฉันทันทีว่า เข้าใจละ เธอสวมหน้ากากต่อไปได้"
ศาสตราจารย์แฮริสันพยักหน้า แล้วจึงเริ่มดำเนินการสอนในวันนั้น
เมดูซซี่ เกรแฮม คือชื่อของเธอ
เนื่องจากเธอเป็นคนเงียบไม่ชอบพูด จะพูดก็ต่อเมื่อถูกใครถามถึงอะไรสักอย่างเท่านั้น เธอจึงไร้เพื่อนไปโดยปริยาย พวกนักศึกษาหญิงก็ไม่กล้าสมาคมด้วย
พวกนักศึกษาชายก็เช่นเดียวกัน แต่ก็มีบางส่วนที่อยากลองคบหาด้วย เพราะมีบางคนเข้าใจว่า ภายใต้หน้ากากนั้น อาจเป็นใบหน้าที่สวยสะคราญ
ทว่า...ไม่มีใครประสบความสำเร็จ ทุกคนล้วนหน้าแตกกลับออกมาทั้งนั้น
อย่างไรก็ตาม มีนักศึกษาชายคนหนึ่งคือ เอ็ดเวิร์ด เรดฟอร์ด สนใจเธออย่างมาก พยายามเข้าไปตีสนิทกับเธอทีละน้อย แต่เมดูซซี่ก็ยังถามคำตอบคำอยู่ดี
และมีวันหนึ่งที่เธอบอกกับเขาว่า "เธออย่าสนใจฉันเลย เอ็ดเวิร์ด ทางที่ดี อยู่ห่างๆ จากฉันจะดีกว่า"
แต่นักศึกษาหนุ่มก็ไม่ละความพยายาม เพราะเขาชอบวิชาเทพปกรณัมมากถึงขั้นที่เรียกว่าคลั่งไคล้ และพอมาเรียนร่วมห้องเดียวกัน เขาพบว่า เมดูซซี่มีความจำเป็นเลิศสำหรับวิชานี้ เขาจึงขอกับเธอว่า ถ้าเขามีปัญหาตรงไหนในวิชานี้ เขาขอมาถามเธอ ขอให้เธอช่วยชี้แนะ
เอ็ดเวิร์ดดีใจจนเนื้อเต้น เมื่อเธอตอบตกลง
เพื่อนๆ นักศึกษา จับตาดูเมดูซซี่ และซุบซิบถึงเธอในห้องสมุดใหญ่โอ่อ่าตระการตานั้น จนถึงเย็นก็เริ่มทยอยกันกลับ
เมดูซซี่ ออกจากห้องสมุดเป็นคนสุดท้าย
และเธอจะเป็นคนสุดท้ายเสมอ...
.........
เวลาเกือบสองทุ่ม บนทางสายเปลี่ยวสายหนึ่งซึ่งนำไปสู่หอพักหญิง นอกมหาวิทยาลัย และไกลจากมหาวิทยาลัยมาก เมดูซซี่ กำลังเดินไปคนเดียว
สองข้างทางมีพุ่มไม้หนาทึบ ต้นไม้ใหญ่อีกหลายต้น
บรรยากาศรอบตัวเงียบงัน ไม่มีผู้คนสัญจรไปมาเลย ทุกย่างก้าวของเธอ
เป็นถนนสายเปลี่ยวที่ไม่ปลอดภัยเลยสำหรับใครก็ตามที่จะมาเดินอยู่คนเดียวในเวลาเช่นนี้
แต่เมดูซซี่ ไม่กลัว เธอเดินไปเรื่อย เชิดหน้า ไม่สนใจอะไรทั้งสิ้นนอกจากหนทางข้างหน้า
และโดยไม่คาดคิด หลังจากเธอเดินไปข้างหน้าต่อไปได้ราวสิบนาที ผู้ชายกลุ่มหนึ่ง ห้าหกคน โผล่ออกมาจากสองข้างทาง ขวางเธอไว้
เป็นนักศึกษาชายรุ่นพี่ของเธอนั่นเอง เธอจำหน้าและชื่อของพวกเขาได้หมด
"จะรีบไปไหนเล่า เมดูซซี่" หนึ่งในรุ่นพี่เหล่านั้นกล่าว ท่าทางเขาดูเหมือนเมาเหล้ามา และใช้สายตามองเธอตั้งแต่หัวจรดเท้าแบบแทะโลม
"ฉันกำลังกลับหอพัก หลีกทางให้ฉันด้วย" เมดูซซี่พูดเสียงแข็งกระด้าง คนฟังรู้ได้ทันทีว่าเธอหัวร้อนแล้ว
"โอ้....ไม่ต้องรีบร้อนน่า ที่รัก" นักศึกษาหนุ่มอีกคนพูดขึ้นมาบ้างและจ้องมองเธอโดยอาการอย่างเดียวกันกับคนแรก "บริเวณนี้ บรรยากาศดี เรามาสนุกกันดีกว่า แล้วเธอจะตัวเบา หลับสบายทั้งคืนเลย" แล้วทุกคนก็เดินเข้ามารายล้อมเธอ
"พวกเธอกำลังคิดผิด และผิดอย่างมหันต์! หลีกทางให้ฉันเดี๋ยวนี้นะ" เธอเริ่มขึ้นเสียง
"ถ้าพวกเราไม่หลีกล่ะ จะมีอะไรไหม" หนุ่มอีกคนหนึ่งยิ้มกริ่ม พอก้าวเข้ามาประชิดตัวเธอ คนอื่นๆ ก็ตามเข้ามาจับแขนขาและลำตัวของเธอ
น่าแปลกใจ ที่เมดูซซ่าไม่ดิ้นรนเลยสักนิด เพียงจ้องมองแต่ละคนด้วยสายตาเย็นชา แล้วพูดอีกหนึ่งประโยค
"ฉันขอเตือนพวกเธอเป็นครั้งสุดท้าย พวกเธอคิดผิด และทำผิดอย่างมหันต์! แต่ยังไม่สายเกินไป จงปล่อยฉันไปซะ แล้วกลับบ้านของพวกเธอไป"
"โอ้...เธอเป็นปีศาจหรือไง ถึงได้ขู่พวกเราแบบนี้" ผู้ชายคนแรกพูดแล้วยื่นมือมาจับใบหน้าของเธอซึ่งสวมหน้ากากอยู่ "ไหนขอดูใบหน้าที่แท้จริงของเธอหน่อยซิ ว่าจะสวยขนาดไหน เธอถึงต้องปกปิดมันไว้ด้วยหน้ากากตลอดเวลาแบบนี้"
เมดูซซี่ยืนนิ่งเหมือนเดิม ตาจ้องตาหนุ่มรุ่นพี่นั้นอย่างไม่สะทกสะท้าน
ชายหนุ่มคนนั้นคลำหาขอบหน้ากากจนเจอ แล้วกระชากหน้ากากนั้นออกมาด้วยกำลัง!
ทันทีที่หน้ากากพ้นไปจากใบหน้าของหญิงสาว หนุ่มๆ ทั้งหลายซึ่งกำลังเตรียมตัวจะ "ลงแขก" กับเธอ ก็เปิดตากว้าง จ้องมองเธอด้วยความตกใจกลัว และทุกคนยืนนิ่งเหมือนถูกสาป หน้าซีดกันหมด
เส้นผมยาวสลวยของเมดูซซี่ พลันแปรเปลี่ยนเป็นงูจำนวนนับไม่ถ้วนเต็มศีรษะ ทุกตัวชูคออ้าปากแลบลิ้นเป็นแฉกๆ ขู่ฟ่อๆ กันระงม!
นั่นก็น่าสยองพออยู่แล้ว แต่ที่เป็นที่สุดแห่งฝันร้ายสำหรับทุกคนที่ยืนนิ่งจ้องมองอยู่ตอนนี้ ก็คือ ใบหน้าที่แท้จริงของเมดูซซี่ ซึ่งน่าเกลียดน่ากลัวเกินกว่าจะบรรยายได้
และปรากฏการณ์ที่เหลือเชื่อที่ตามมาอย่างฉับพลันก็คือ ชายหนุ่มทุกคน แปรสภาพแข็งกระด้างกลายเป็นหินด้วยใบหน้าท่าทางตกใจหวาดกลัวสุดขีด!
ห่างออกไป เบื้องหลังของเมดูซซี่ เอ็ดเวิร์ด แอบมองดูเหตุการณ์อยู่หลังต้นโอ๊คต้นใหญ่อย่างตื่นตะลึง แต่พอเมดูซซี่ทำท่าจะหันหน้ามา เขาก็รีบหลบแอบข้างหลังต้นโอ๊คนั้นทัน ก่อนที่เธอจะหันมาเต็มตัว
แต่ก็ยังได้ยินเสียงแหบๆ น่าขนลุกของเธอ พูดมาว่า
"บอกแล้วว่าอย่าสนใจฉันเลย อยู่ห่างๆ ฉันไว้จะดีกว่า"
เมดูซซี่ก้มลงเก็บหน้ากากซึ่งตกอยู่ที่พื้นดินมาสวม และทันทีที่เธอสวมมัน งูทั้งหลายบนศีรษะก็หายไป กลายเป็นเส้นผมธรรมดาๆ เหมือนเดิม
เอ็ดเวิร์ดแง้มหน้าออกมาแอบดู และได้เห็นเหตุการณ์ตอนนี้เช่นกัน
เมดูซซี่ กลับหลังหัน ก้าวเดินไปข้างหน้าสองสามก้าว แล้วหยุดชะงัก พูดออกมาอีกหนึ่งประโยค
"หวังว่า เธอคงไม่ใช่ เพอร์ซีอุส กลับมาเกิดใหม่หรอกนะ เอ็ดเวิร์ด! แต่ถ้าใช่ ก็อย่ามายุ่งกับฉัน!"
แล้วเธอก็เดินต่อไป และหายไปกับความมืด