จากความรู้สึก ของคนที่ไม่อยากเป็นเกย์

ตามหัวข้อกระทู้เลยครับ ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่าผมอายุ 20 + แล้วครับ ตอนนี้กำลังเรียนอยู่มหาลัยครับ 
ผมเป็นผู้ชายที่ชอบผู้ชายด้วยกันครับ หรือจะเรียกว่าเกย์ก็ได้ 
จากนนี้จะเป็นมุมมองของผมครับ คนที่ดูไม่มีอะไร คนที่ดูมีความสุข แต่ก็มีเรื่องบางอย่างที่อยู่ในหัวตลอดเวลา...

ผมโตมาเรื่อยๆ ผมทำกิจกรรมทุกอย่างแบบปกติที่ผู้ชายทำ ออกกำลังกาย เล่นกีฬา เที่ยวปกติตามประสา 
พอโตขึ้นเรื่อยๆ พ่อแม่ก็จะพูดถึงเรื่องการมีแฟน (ซึงก็คือการมีแฟนเป็นผู้หญิงเหมือนผู้ชายปกติ) ซึ่งทุกครั้งที่ท่านถาม ผมก็ได้แต่หัวเราะ แล้วก็ไม่ตอบอะไร ความรู้สึกแต่ละครั้งคือเราแค่ไม่อยากโกหกครับ ตอบแค่ยังไม่มีๆ แล้วก็เก็บเอามาคิดอยู่ตลอด ว่าทำไมเราถึงไม่เกิดมาเป็นผู้ชายปกติ
ผมไม่ได้ดูถูกเหยียดหยามเพศที่สามนะครับ แต่ความต้องการของผมคือการเป็นผู้ชายที่ชอบผู้หญิง 

ความรู้สึกของผมตั้งแต่เด็กจนโต
ผมโตมากับครอบครัวที่ฐานะปานกลางครับ ที่บ้านขายของ ผมก็ช่วยงานพ่อแม่ งานร้าน งานบ้าน ตั้งแต่งานหนักๆจนถึงงานเล็กๆอย่างกวาดถูบ้าน อะไรที่ช่วยได้ก็ช่วย 
ในบ้าน ผมเป็นน้องคนสุดท้อง พี่ของผมชีวิตไม่ค่อยประสบความสำเร็จมากนัก แล้วความคาดหวังเรื่องเรียนกับอนาคตการสร้างครอบครัวจากพ่อแม่ เหมือนท่านจะคาดหวังที่ผม ด้วยความเป็นคนที่เรียนเก่งถ้าเทียบกับพี่ของผม แล้วสอบได้ทุน ได้โครงการอะไรต่างๆก็เยอะ ทุกคนในบ้านเลยเลือกทุ่มทุกอย่างมาที่ผม และตอนนี้ผมก็เป็นคนเดียวที่ยังเรียนอยู่ 
ผมเริ่มรู้ตัวว่าตัวเองชอบผู้ชายด้วยกันช่วงขึ้นมัธยมครับ ตอนนั้นสับสนไปหมด มันเป็นความรู้สึกที่อธิบายไม่ถูกเหมือนกันครับ
หลายคนชอบบอกว่าเกย์ชอบใส่เสื้อผ้าผู้หญิง ชอบไปกับกลุ่มผู้หญิง แต่งตัวหรือทำอะไรแบบผู้หญิง สำหรับผมแล้วขอปฏิเสธเรื่องนี้ครับ 
ผมไม่มีความรู้สึกอยากใส่เสื้อผ้าผู้หญิง ไม่ได้อยากเป็นผู้หญิง สไตล์การฟังเพลงเราก็ไม่ใช่แนวที่สาวประเภทสองเขาฟังกัน เราไม่มีความรู้สึกอยากไปกับกลุ่มเพื่อนผู้หญิงแบบที่เขาว่ากัน และสิ่งที่ดูต่างจากผู้ชายหลายๆคนหน่อยคือการที่ผมเป็นคนใจเย็น ไม่ค่อยชอบความรุนแรง กิจกรรมที่ดูท้าทายหรือเสี่ยงหน่อยย ผมก็เลือกที่จะไม่ทำ ชีวิตแทบทุกอย่างของผมคือการผู้ชายปกติ ส่วนหนึ่งก็คิดว่าคงเป็นเพราะฮอร์โมนในร่างกายมันกำหนดมาแบบนี้ 

เรื่องการมีแฟน 
ผมเคยมีแฟนทั้งผู้หญิงและผู้ชายครับ ช่วงม.3 ความอยากลองมีแฟนเป็นผู้หญิง ความพยายามที่จะจีบมีมาก แต่สุดท้ายตอนนั้นเราทำได้มากสุดแค่จูบ เพราะอารมณ์ทางเพศเราไม่มีเหมือนคนอื่น สุดท้ายก็เลิกกันตามประสาวัยรุ่นโดยที่เธอก็ไม่รู้ว่าผมเป็นเกย์ จนช่วงม.4 ม.5 ผมอยาพัฒนาเรื่องเรียนให้ดี เลยได้ไปตามปรึกษาพี่ๆ ที่เรียนเก่ง ติดท็อปของโรงเรียน ตอนนั้นได้คุยกับพี่ผู้ชายคนหนึ่งที่เป็นท็อป ได้ปรึกษาอะไรต่างๆมากมาย จนกลายเป็นผมชอบพี่เค้า รู้สึกอยากที่จะเก่ง และปลื้มพี่เค้าเอามากๆ เลยตัดสินใจจีบ จนสุดท้ายจีบติดก็ตัดสินใจเป็นแฟนกันครับ ผมกับพี่ก็แอบคบกันโดยที่ไม่มีใครรู้  และครั้งนี้เปนครั้งแรกที่ผมมีอะไรกับผู้ชายแล้วรู้สึกตัวและมั่นใจว่ตัวเองไม่เหมือนผู้ชายปกติ ชีวิตเดินไปเรื่อยๆเหมือนจะไปได้ดี จนสุดท้ายก็เลิกกัน ด้วยเหตุที่เขาเข้ามหาลัยก่อนผมไปเจอคนมากมาย และความงี่เง่าและการเก็บเอาเรื่องคำพูดพ่อแม่เรื่องการมีครอบครัว มีลูก มีหลานให้ท่านมาคิดมากของผม สุดท้ายผมเป็นฝ่ายบอกเลิกครับ
ตั้งแต่ตอนนั้นอายุ16 จนตอนนี้ ผมไม่มีเเฟนอีกเลย 

ช่วงชีวิตมหาลัย
     การทำกิจกรรมต่างๆในมหาลัยทำให้ผมเจอผู้คนมากมาย มีผู้หญิงและผู้ชายหลายคนเข้ามาและหลายคนที่เราอยากเข้าไปหา แต่สุดท้ายก็เลือกที่จะตัดใจก่อน แล้วทำหน้าที่อื่นๆไปให้ลืมเรื่องพวกนี้ เคยมีช่วงไปค่ายที่มีการทำกิจกรรม่วมกับเอกอื่น แล้วได้เจอผู้หญิงที่น่ารักมาก ขอใช้นามสมมุติว่าแพท ในค่ายนี้ผมได้ทำกิจกรรมกลุ่มเดียวกันกับแพท กลายเป็นทัศนคติทุกอย่างมันดูไปด้วยกัน  ผมเองก็มองว่าเธอน่ารัก ตัดสินใจขอเฟสและแอดไป รวมถึงเพื่อนๆรุ่นเดียวกันต่างพากันเเซวกันใหญ่ ตัวผมเองก็ได้แต่บอกว่าไม่ได้ชอบ
      หลังจบค่าย ทุกคนต่างรุมถามเรื่องผมกับแพท เพราะทุกคนคิดว่าผมจะจีบเธอแน่ๆ แต่สุดท้ายเรื่องนี้ก็เงียบไปเพราะผมไม่ได้จีบเธอเลย แต่กลับมีคำถามตามมาจากเพื่อนฝั่งเธอว่าทำไมถึงเงียบไป ทำไมถึงไม่จีบ เพราะดูเหมือนแพทเองก็จะชอบผมเหมือนกัน ความรู้สึกตอนนั้นของผม คือผมไม่อยากหลอกใครอีกแล้ว ไม่อยากให้ใครมาเป็นคนบังหน้าการเข้าสังคมให้เรา มันไม่มีความสุข แต่ละคำถามเรื่องผมกับแพทผมเองก็ไม่รู้ว่าจะต้องตอบทุกคนว่ายังไง มันคงเป็นความผิดผมเองที่เข้าหาเธอมากเกินไป
     อีกหลายๆครั้ง เรื่องการถูกแซวของผมมีอยู่บ่อยๆ ซึ่งก็คือการถูกแซวเกี่ยวกับผู้ญิง และทุกครั้งที่ที่กลุ่มเพื่อนพูดเรื่องผู้หญิง ผมก็จะเออออตามไปด้วย โดยที่ผมเองก็แค่พูดตามความคิด เรื่องการเเซว หรือการมองผู้หญิง พออยู่ในกลุ่มเพื่อนผู้ชายมันเปนเรื่องปกติที่จะเกิดขึ้น มันทำให้เราเป็นผู้ชายปกติในสายตาของเพื่อนทุกคน

และก็มีครั้งหนึ่งที่มีคำพูดที่ทำให้ผมหยุดชะงักและเกิดคำถามกับตัวเอง
     มีช่วงที่ต้องเตรียมงานแล้วกับเพื่อนมาทำงานกลุ่ม มีคนพูดเรื่องซีรีย์ผู้ชายกับผู้ชาย แล้ว็พูดต่อกันว่า ถ้าในชีวิตจริงคงดูไม่ออกว่าใครเป็นเกย์หรือไม่เป็น 
แล้วเพื่อนผู้หญิงก็จี้ถามพวกผมกลุ่มผู้ชายว่าใครเป็น บางคนก็ตอบแบบติดตลก เล่นท่าตลกๆแล้วตอบกลับไปว่าเป็น แบบขำๆกัน แต่พอเพื่อนถามมาที่ผม ผมในตอนนั้นคือในใจมันสั่นไปหมด แม้จะเป็นแค่คำถามที่ติดตลก แต่ก็ทำให้หยุดคิดเรื่องงานที่ทำอยู่ไปได้เลย คำตอบของผมคือการตอบว่า ถามอะไรกันเนี่ย
แล้วก็มีเพื่อนแซวว่าเป็นรึเปล่าเนี่ย จนสุดท้าย มีเพื่อนผู้หญิงคนหนึ่งพูดขึ้นมาว่า ''ถ้าเอ็ก(ชื่อผมนามสมมติ)เป็นเกย์ ผู้ชายทั้งโลกก็เป็นเกย์กันหมดแล้วมั้ง'' พอมีคนพูดแบบนี้ ทุกคนต่างหัวเราะกัน รวมถึงตัวผมเองด้วย แล้วก็ต่างเออออกัน แล้วก็คุยเรื่องใหม่ต่อไป
     ต้องยอมรับว่าประโยคนี้จากเพื่อนมันทำให้ผมเกิดคำถามกับตัวเอง ว่ากำลังทำอะไรอยู่ กำลังหลอกทุกคนอยู่ไหม กลายเป็นความไม่สบายใจในหัวตลอดเวลา

ชีวิตของผมที่ต้องโตไปเรื่อยๆมีหน้าที่การงาน
     ผมโตมาแบบที่รู้สึกว่าถ้าจะชอบใครจริงๆ คงเป็นรุ่นพี่คนเดียวตอนที่ผมคบช่วงอยู่มัธยม ทุกวันนี้ผมเองก็ไปส่องเขา ตามความเคลื่อนไหวของเขาตลอด แต่ไม่ได้ติดต่อกันแล้ว ถ้าพูดแบบตรงๆ มันเป็นความรู้สึกที่ในเมื่อเราชอบผู้ชาย เขาเป็นคนที่ทำให้เรารู้ตัว และผมเลือกที่จะไม่สนเรื่องพวกนี้อีก ให้ชีวิตอยู่ที่การเรียนและการทำกิจกรรมกับหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบ 
     ความรู้สึกของผมจริงๆ คือผมไม่อยากเป็นเกย์ แต่สิ่งที่ต้องรับให้ได้คือไม่มีทางหาย ผมอยากเป็นผู้ชายที่ทีครอบครัวได้เหมือนผู้ชายทั่วไป คงเพราะความรักต่อครอบครัวที่อยากเห็นพ่อกับแม่มีความสุข ผมเองตอนนี้ก็คงต้องบอกว่ายังไม่โตมาก แต่ก็กังวลเรื่องที่ไม่ได้บอกทุกคนมาตลอด และความคาดหวังของพ่อกับแม่ที่มีต่อผม
ผมอยากบอกทุกคนนะครับ แต่ติดที่คำเดียว คือไม่กล้าบอก การใช้ชีวิตปกติของเราที่เป็นผู้ชายธรรมดาคนนึง มันยิ่งทำให้เรื่องการบอกพ่อกับแม่เป็นเรื่องยาก แต่ไม่ต้องกังวลว่าผมจะเอาแต่คิดกังวลเรื่องพวกนี้ ผมเป็นคนมองโลกในแง่ดีครับ แต่ว่าผมอยากมาแชร์เรื่องราว และมุมมองของผม ผู้ชายที่ชอบผู้ชายด้วยกัน ให้ใครหลายๆคนได้เข้าใจครับ

และก็อยากฝากคำถามทิ้งท้ายหน่อยครับ มีใครที่เป็นแบบผมบ้างไหมครับ แล้วเริ่มที่จะบอกกับพ่อแม่ หรือครอบครัวยังไงครับ
ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านครับ 
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่