เศรษฐกิจปัจจุบันเป็นทุนนิยม สนับสนุนโดยนักลงทุนเก็งกำไรนิยมที่มีทุน ต้องการให้โตไปเรื่อยๆ ทรัพย์สินของตนราคาสูงไปเรื่อยๆคือดี ไม่ได้คิดเพื่อให้ทุกคนมีกิน พวกเขาก็แค่ต้องการให้คนกลัวเศรษฐกิจตกต่ำ เหมือนกลัวคอมมิวนิสต์
ต่อให้บ้านที่ดินคอนโดราคาสูงขึ้นอีกสิบเท่าจนรายได้ตามไม่ทัน ต้องผ่อนกันตลอดชีวิต ยิ่ง 30ปีขี้นไปได้ หรือยิ่งมากยิ่งดี(เพราะนายทุนถือครองไว้รอ)
พอความบริโภคเกินความจำเป็นถึงขึดสุด ก็อ้างความหรูหราได้อีก ความหรูหราคือเกินความจำเป็น
การกระจายความเจริญก็เพื่อหลอกรัฐบาลทั่วโลกให้ปั่นราคาที่ดินมูลค่าต่ำให้สูงขึ้น โดยไม่ศึกษาจุดเหมาะสมของจำนวนประชากรต่อความเจริญต่อพื้นที่
ทำให้เกิดปัญหาประชากรอยู่ในที่ไม่ควรอยู่ เช่น รุกป่า แนวทางไหลของน้ำท่วม แก้มลิง
ทั้งๆที่
หากเศรษฐกิจหดตัว การเก็งกำไรจากอินฟินิตี้จะเข้าสู่ 0 ในที่สุด
คนจะผ่อนบ้านในราคาเหมาะสมกับรายได้และงาน ในราคาที่ไร้ค่าการเก็งกำไร
ผลเสียของการไม่ปล่อยให้เศรษฐกิจหด คือ การเพิ่มขึ้นของความเหลื่อมล่ำ
เช่น รัฐบาลไม่ปล่อยให้เศรษฐกิจตกต่ำเลยกู้มา 1ล้านล้าน เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ก็ต้องกู้จากต้นทางคือนายทุน
เอาแค่ดอกเบี้ยก็ 30,000ล้านต่อปีละ แล้วเจ้า 1ลล ที่กู้มาก็ดเพื่อดันมูลค่าทรัพย์สินของนายทุนไม่ให้ตกซะส่วนใหญ่
ระดับล่างจะได้แค่บางส่วนน้อยเสมอ แต่สุดท้ายก็ต้องจ่ายคืนไปทางภาษีทางอ้อม
30,000ที่เสียไป ไม่ได้ได้มาฟรีหรืองอกจากแสงอาทิตย์
ส่วนเรื่องคนว่างงานเพราะเศรษฐกิจหดตัวน่ากลัวแต่ไม่ถึงกับตาย เจ็บแต่จบ
มันก็เหมือนช่วงเลิกทาสที่กลัวว่าคนจะว่างงาน คนจะไร้บ้าน สุดท้ายคนก็ยังมีงานทำ หาบ้านอยู่กันเอง เพียงแต่ทำเบาลงเพราะไม่ต้องเลี้ยงนายทาส
ตอนนี้เราก็จะทำเบาลงอีกยุคที่สอง ยุคเลิกนายทุน(แต่ยังมีทุนนิยมอยู่แต่เลิกนิยมนายทุน) เพราะไม่ต้องทำเพื่อนายทุน
ปัจจุบันหากเอาจริงโดยไม่คำนึงถึงเรื่องเงิน คนจำนวนนิดเดียวบวกเครื่องจักรสามารถผลิตสินค้าเลี้ยงคนทั้งประเทศได้ถ้าการแบ่งยุติธรรม
จากสมัยโบราณที่แต่ก่อนมีบ่อน้ำ ใครอยากกินก็ตักเอาเอง
กลายเป็นมีคนใช้เครื่องจักรตักมาคนเดียว ตักเลี้ยงได้ทั้งหมู่บ้าน
ผมหมายถึงแต่ละคนจะทำงานกันน้อยลง บริโภคน้อยลง คนไม่จำเป็นต้องทำงานเยอะก็ไม่ได้หวังที่จะเป็นนายทุนอีกต่อไป
เศรษฐกิจพอเพียงก็ไม่เคยกลัวเศรษฐกิจตกต่ำ เรียกว่าเศรษฐกิจกล้ามกระชับหรือ6packดีกว่า
เราไม่ได้รัดเข็มขัดตอนอ้วนจนเจ็บท้องแต่ผอมสุขภาพเศรษฐกิจดีจนกางเกงหลวมจนรัดเข็มขัด
ประเทศไทน gdp สูง หนี้สูง ส่งออกต่ำ นำเข้าสูง ประชาชนบริโภคสูง ถือว่าเกินพอดี
ประเทศไหน gdp ต่ำ gnp สูง หนี้ต่ำ ส่งออกสูง นำเข้าต่ำ ประชาชนบริโภคต่ำ ถือว่าเก่ง
เหมือนยุคที่อาหารสมบูรณ์ไดโนเสาร์ได้เปรียบ แต่ยุคอาหารน้อยบรรพบุรษของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมขนาดเล็กกลับได้เปรียบ
ประเทศที่เศรษฐกิจโตการบริโภคสูงก็เหมือนไดโนเสาร์ตัวโตๆ ที่เหลือๆมาปัจจุบันมักมีแต่พวกที่ลดขนาดลงหากินง่ายอิ่มง่าย พวกตัวใหญ่แล้วยังเลือกกินสูญพันธ์หมดละ
เศรษฐกิจหดตัวไม่ใช่เรื่องไม่ดี หรือน่ากลัว ตรงข้ามเลย
ต่อให้บ้านที่ดินคอนโดราคาสูงขึ้นอีกสิบเท่าจนรายได้ตามไม่ทัน ต้องผ่อนกันตลอดชีวิต ยิ่ง 30ปีขี้นไปได้ หรือยิ่งมากยิ่งดี(เพราะนายทุนถือครองไว้รอ)
พอความบริโภคเกินความจำเป็นถึงขึดสุด ก็อ้างความหรูหราได้อีก ความหรูหราคือเกินความจำเป็น
การกระจายความเจริญก็เพื่อหลอกรัฐบาลทั่วโลกให้ปั่นราคาที่ดินมูลค่าต่ำให้สูงขึ้น โดยไม่ศึกษาจุดเหมาะสมของจำนวนประชากรต่อความเจริญต่อพื้นที่
ทำให้เกิดปัญหาประชากรอยู่ในที่ไม่ควรอยู่ เช่น รุกป่า แนวทางไหลของน้ำท่วม แก้มลิง
ทั้งๆที่หากเศรษฐกิจหดตัว การเก็งกำไรจากอินฟินิตี้จะเข้าสู่ 0 ในที่สุด
คนจะผ่อนบ้านในราคาเหมาะสมกับรายได้และงาน ในราคาที่ไร้ค่าการเก็งกำไร
ผลเสียของการไม่ปล่อยให้เศรษฐกิจหด คือ การเพิ่มขึ้นของความเหลื่อมล่ำ
เช่น รัฐบาลไม่ปล่อยให้เศรษฐกิจตกต่ำเลยกู้มา 1ล้านล้าน เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ก็ต้องกู้จากต้นทางคือนายทุน
เอาแค่ดอกเบี้ยก็ 30,000ล้านต่อปีละ แล้วเจ้า 1ลล ที่กู้มาก็ดเพื่อดันมูลค่าทรัพย์สินของนายทุนไม่ให้ตกซะส่วนใหญ่
ระดับล่างจะได้แค่บางส่วนน้อยเสมอ แต่สุดท้ายก็ต้องจ่ายคืนไปทางภาษีทางอ้อม
30,000ที่เสียไป ไม่ได้ได้มาฟรีหรืองอกจากแสงอาทิตย์
ส่วนเรื่องคนว่างงานเพราะเศรษฐกิจหดตัวน่ากลัวแต่ไม่ถึงกับตาย เจ็บแต่จบ
มันก็เหมือนช่วงเลิกทาสที่กลัวว่าคนจะว่างงาน คนจะไร้บ้าน สุดท้ายคนก็ยังมีงานทำ หาบ้านอยู่กันเอง เพียงแต่ทำเบาลงเพราะไม่ต้องเลี้ยงนายทาส
ตอนนี้เราก็จะทำเบาลงอีกยุคที่สอง ยุคเลิกนายทุน(แต่ยังมีทุนนิยมอยู่แต่เลิกนิยมนายทุน) เพราะไม่ต้องทำเพื่อนายทุน
ปัจจุบันหากเอาจริงโดยไม่คำนึงถึงเรื่องเงิน คนจำนวนนิดเดียวบวกเครื่องจักรสามารถผลิตสินค้าเลี้ยงคนทั้งประเทศได้ถ้าการแบ่งยุติธรรม
จากสมัยโบราณที่แต่ก่อนมีบ่อน้ำ ใครอยากกินก็ตักเอาเอง
กลายเป็นมีคนใช้เครื่องจักรตักมาคนเดียว ตักเลี้ยงได้ทั้งหมู่บ้าน
ผมหมายถึงแต่ละคนจะทำงานกันน้อยลง บริโภคน้อยลง คนไม่จำเป็นต้องทำงานเยอะก็ไม่ได้หวังที่จะเป็นนายทุนอีกต่อไป
เศรษฐกิจพอเพียงก็ไม่เคยกลัวเศรษฐกิจตกต่ำ เรียกว่าเศรษฐกิจกล้ามกระชับหรือ6packดีกว่า
เราไม่ได้รัดเข็มขัดตอนอ้วนจนเจ็บท้องแต่ผอมสุขภาพเศรษฐกิจดีจนกางเกงหลวมจนรัดเข็มขัด
ประเทศไทน gdp สูง หนี้สูง ส่งออกต่ำ นำเข้าสูง ประชาชนบริโภคสูง ถือว่าเกินพอดี
ประเทศไหน gdp ต่ำ gnp สูง หนี้ต่ำ ส่งออกสูง นำเข้าต่ำ ประชาชนบริโภคต่ำ ถือว่าเก่ง
เหมือนยุคที่อาหารสมบูรณ์ไดโนเสาร์ได้เปรียบ แต่ยุคอาหารน้อยบรรพบุรษของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมขนาดเล็กกลับได้เปรียบ
ประเทศที่เศรษฐกิจโตการบริโภคสูงก็เหมือนไดโนเสาร์ตัวโตๆ ที่เหลือๆมาปัจจุบันมักมีแต่พวกที่ลดขนาดลงหากินง่ายอิ่มง่าย พวกตัวใหญ่แล้วยังเลือกกินสูญพันธ์หมดละ