การเดินทางไปเหยียบทวีปอเมริกาใต้ครั้งแรกของเรานั้นเหมือนไม่ใช่เรื่องจริง เหตุเกิดจากอารมณ์ชั่ววูบที่ปิดเทอมนี้อยากลองไปทวีปที่ตัวเองไม่เคยไป ลองสิ่งที่ตัวเองไม่เคยทำมาก่อน คือการเดินเขา เราสนใจเส้นทาง Inca Trail ไป Machu Picchu มากๆ จึงตัดสินใจขอพ่อแล้วรีบจอง permit ทันทีทันใด นี่ซื้อ 6 เดือนล่วงน้านะยังเกือบไม่ทัน! หลังจากนั้นก็ค่อยๆแพลนทริปที่เหลือ จนมันค่อยๆออกมาเป็นรูปเป็นร่าง โชคร้ายที่ช่วงก่อนบิน เราติดไฟนอลโปรเจคของมหาลัยและต้องปั่นงานหนักมาก เรียกได้ว่าทำจนวินาทีสุดท้ายก่อนขึ้นเครื่อง แทบไม่มีเวลาได้เตรียมตัวเตรียมใจกันเลยทีเดียว เช้าวันที่บินคือแบบ อ้าว นี่เราต้องบินแล้วหรอ?! นี่เรากำลังเดินทางไปอเมริกาใต้คนเดียวจริงๆแล้วใช่มั้ย มันกำลังจะเกิดขึ้นแล้ว! วันนี้เอมมี่จะมารีวิวการผจญภัยของเราให้อ่านกันค่ะ (:
เปรูเป็นประเทศที่อะเมซิ่งมากๆ ทริปนี้เราได้มาอยู่กับธรรมชาติกับภูเขาอย่างแท้ทรู มาเรียนรู้หนึ่งในอารยธรรมที่น่าสนใจมาก ซึ่งก็คืออารยธรรมอินคา ได้มาเจออะไรที่ completely แตกต่างจากทุกที่ที่เคยไปมา เป็น eye opening experience มาก อยากให้คนไทยลองมาเที่ยวแนวนี้มากขึ้น
ภาษา: ภาษาสเปนค่อนข้างสำคัญเลย ถ้าพูดได้คุณจะสบายสุดๆ อย่างน้อยก็มีพื้นฐานนิดหน่อย เพราะที่นี่คนท้องถิ่นพูดภาษาอังกฤษไม่ค่อยได้เลย ตามป้ายตามไรงี้ก็ไม่มีให้เห็น ที่ bus terminal ก็ประกาศทุกอย่างเป็นภาษาเสปนอะแม่ รู้สึก grateful มากที่ตัดสินใจเรียนก่อนมา มีความ survival 555
ค่าเงิน: ที่นี่ใช้หน่วยเงิน Sol (โซล) ประมาณ 9 บาทไทย ปกติเวลาคิดเลข เราก็เติมศูนย์ตามหลังไปเลยง่ายๆ ถ้าขี้เกียจ ค่าครองชีพถูกมาก พอๆบ้านเราเลย แต่ค่าตั๋วเครื่องบินจากไทยมาเอาเรื่องมาก เพราะฉะนั้นเพื่อความคุ้มค่าตั๋ว ควรหาวันหยุดยาวๆ แล้วก็อยู่หลายๆเดือนไปเลยในประเทศหรือทวีปนี้
นี่คือแผนการเดินทางของเราคร่าวๆจ้า เราไปทั้งหมด 4 เมืองจ้า เริ่มต้นที่ Lima > Cusco > Arequipa > Huaraz การเดินทางแบบละเอียดๆ เดี๋ยวอธิบายแยกแต่ละเมืองอีกทีนะ
ขอพื้นที่ระบายนิด.. จริงๆอยากไปเมือง Puno ด้วย แต่ skip ไปเพราะเวลาจำกัด เสียดายที่สุด ที่นั่นมี Lake Titicaca เป็นทะเลสาบขนาดใหญ่ที่อยู่สูงที่สุดในโลก (3,800 m) ไฮไลท์คือมันมี man made floating island ที่คนพื้นเมืองเค้าใช้อาศัยอยู่ น่าสนใจมากๆ แต่ทะเลสาบนี้เราสามาถไปเยี่ยมชมได้จากอีกเมืองก็คือ La Paz ประเทศ Bolivia ซึ่งเราขอเก็บไว้สำหรับทริปหน้าที่ไม่รู้จะมีโอกาสเกิดขึ้นเมื่อไรละกัน555
การเดินทางในประเทศ:
เราแนะนำให้นั่ง overnight bus เวลาเปลี่ยนเมือง ประหยัดค่าโฮสเทล ไม่เสียเวลาเที่ยวตอนกลางวัน ถูกด้วย ราคาไม่ถึงพัน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับระยะทางกับคลาสที่เลือก มีหลายบริษัทหลาย option มาก เราใช้บริการของบริษัท Cruz del Sur จ้า เบาะเค้าเอนได้ถึง 160 องศาเลยแก นอนสบายมีผ้าห่มกับหมอนให้ มีของว่างเสิร์ฟ มีจอทีวีไว้ดูหนังฟังเพลงได้ แต่ถ้านั่งตอนกลางคืนเราไม่มีอารมณ์ดูเพราะง่วง555 มีครั้งนึงนั่งตอนกลางวันถึงได้มีโอกาสดู อย่าลืมเตรียมหูฟังไปเอง และถ้านั่งกลางวันเค้ามีข้าวเสิร์ฟเป็นมื้อแบบอิ่มท้องเลยย มองวิวข้างนอกก็เห็นอะไรเยอะ ทั้งภูเขาบ้านเมือง มันทำให้เราเห็นประเทศเค้าในมุมอื่น ที่ไม่ใช่มุมท่องเที่ยวด้วย
อีก option คือ Peru Hop ที่เราเห็น backpacker หลายคนใช้กัน มันอารมณ์แบบ hop on hop off bus ก็คือเราซื้อแพกเกจเมืองที่เค้ามี แล้วก็ customize ทริปของเราเองว่าจะไปที่ไหนเมื่อไร สำหรับเรามันไม่ค่อยคุ้มค่า เพราะเมืองที่อยากไปไม่อยู่ในแพกเกจ ราคาแอบแพงด้วย
สำหรับคนที่ไม่ชอบนั่งบัสนานๆ สายการบินราคาประหยัดก็มีเยอะนะ domestic flight แบบถูกๆที่เราเคยหาได้ ราคาก็ไม่เกิน 2000 บาท
LIMA
(กรุงลิม่า)
มาเริ่มกันที่ลิม่า เมืองหลวงสีเทากันเลย มันเป็นเมืองที่โคตรครึ้ม อยู่ 3 วันเล่นเอาเราหดหู่ไปนิดนึงเลย555 เมฆหมอกเยอะตลอดแบบไม่มีแดดโผล่มาซักนิดในช่วงหน้าหนาว เป็นเมืองชายฝั่งที่อากาศแปลกมากๆ ค่อนข้างชื้น ก็เลยจะมีแต่ละอองฝนปรอยๆแฉะๆ บริเวณชายหาดมี public space กับพื้นที่สีเขียวเยอะมาก แต่มีหลายพื้นที่ที่กำลังก่อสร้างอยู่ เราว่าช่วง summer บรรยากาศน่าจะดีไม่น้อยย
เมืองลิม่ามี Neighbourhood หลักๆ 3 ย่านที่ tourist เค้าไปกัน คือ
ย่าน Miraflores
ที่พักส่วนใหญ่จะอยู่ย่านนี้กัน ซึ่งปลอดภัยมาก แต่เรารู้สึกว่ามันไม่ค่อยมีอะไรให้ทำ ที่เราคิดว่าน่าสนใจก็มีสวนสาธารณะที่เต็มไปด้วยแมว ชื่อ Kenedy Park กับ Huaca Pucllana เป็น clay pyramid ซึ่งเป็นซากโบราณของอารยธรรมอินคาแห่งเดียวที่มีอยู่ในเมืองหลวง
ย่าน Barranco
ที่นี่เป็นเหมือนถิ่นรวมศิลปินและร้านค้าติ้สๆ มีกราฟิตี้สวยๆเยอะมาก คาเฟ่น่ารักๆ แล้วก็ art museums กลางคืนก็มีบาร์เยอะ เหมาะสำหรับคนที่ชอบ night life ถ้าได้มาใหม่ เราคงเลือกที่พักอยู่ย่านนี้แทน Miraflores
ย่าน Centro Histórico หรือ Historic Center
คือย่านเมืองเก่าที่เราจะเห็นสถาปัตยกรรมอาณานิคมของสเปน ก็เลยมีความยุโรปขึ้นมาหน่อย เราแนะนำให้ทำ free walking tour กับ Lima by Walking เมื่อก่อนเราไม่เคยสนใจพวก free tour เลย คิดว่าเดินเองก็คงเหมือนกัน แต่พอได้ลองแล้วแบบเฮ้ย น่าสนใจว่ะ ได้รู้อะไรเยอะขึ้นมาก ได้เพื่อนใหม่ด้วย หลังจากนี้คือไปเมืองไหนก็คือเราก็จะต้องหา free walking tour ตลอด 555
Getting around:
จากสนามบินเข้าตัวเมืองเราใช้บริการ Lima Airport Express Bus ราคา 25 โซล (200 บาทนิดๆ) บัสนี้จะวิ่งจากสนามบินไปย่าน Miraflores ประมาณ 1 ชั่วโมง แล้วหยุดตามป้ายของเค้าเอง เราต้องไปดูว่าโฮสเทลเราอยู่ใกล้ป้ายไหนที่สุดของเค้า
ลิม่าเป็นเมืองที่ใหญ่มาก แต่ละสถานที่ท่องเที่ยวอยู่ค่อนข้างไกลจากกัน โชคดีหน่อยที่เค้ายังมี public transportation ที่ใช้ง่ายแบบนักท่องเที่ยวอย่างเรายังไม่งง555 เราใช้บัส Metropolitanoอารมณ์เหมือน BRT บ้านเรา ที่จะวิ่งบนเลนพิเศษแล้วหยุดตามสถานี ราคา 2.50 โซลต่อเที่ยว (ประมาณ 22 บาทเองแก) นั่งไปลงไหนก็ได้ แต่เราต้องมีบัตรเติมเงิน ซื้อได้ตามตู้อัตโนมัติที่สถานี รู้สึกว่าราคา 4.50 โซล (40บาท)
ตอนนี้ก็มีรถไฟใต้ดิน 1 สาย เราไม่ได้ใช้เพราะมันยังไม่ครอบคลุมเท่าไร ตอนนี้เค้ากำลังสร้างเพิ่มซึ่งมันจะเชื่อมสนามบินกับตัวเมืองด้วย สะดวกไปอีก
ถ้ามาหลายคนหารแท็กซี่เราว่าก็โอเคนะ มันไม่ได้แพงแบบยุโรป แต่ที่นี่ไม่มีมิเตอร์ เพราะฉะนั้นเราต้องต่อรองราคากับคนขับเองจ้ะ
Accommodation:
เราพักที่ Selina Hostel เขาเป็น boutique hostel chain ในอเมริกาใต้ที่เก๋มาก ใส่ใจดีไซน์โคตร เราพักห้องรวม 12 เตียง แต่พอไปถึงจริงๆห้องมันไม่เคยเต็มอยู่แล้ว ราคา 300 กว่าบาท ช่วงเดือนกรกฎาคม ที่นี่จะแต่แพงกว่าโฮสเทลทั่วไป บรรยากาศไม่ค่อยเอื้อให้เจอ traveler คนอื่นๆเท่าไร เพราะไม่ค่อยมี activity ซึ่งเป็นจุดนึงที่เราไม่ชอบ เหตุผลที่มาพักเพราะชอบแบรนดิ้งเค้า
CUSCO
(กุสโก้)
มาถึงเมืองไฮไลท์เลย ที่นี่นักท่องเที่ยวเยอะมากๆๆ วิวก็สวยมากเช่นกัน เราจะถูกร้อมลอบด้วยหุบเขาที่มีบ้านคนอยู่เต็มไปหมด ยิ่งตอนกลางคืน เราจะเห็นไฟเป็นดวงๆ ร้อมลอบเรา คืองดงาม ที่นี่เป็นเมืองหลวงเก่าของชาวอินคาเมื่อ 500 ปีที่แล้ว ตั้งอยู่ในเทือกเขาแอนดีส ที่ระดับความสูง 3400 m จากระดับน้ำทะเล ฟังดู unreal มากกก
Getting there:
เราเดินทางมาจากลิม่าด้วยสายการบิน Peruvian Airlines ราคา 1500 บาท วิวบนเครื่องบินเห็นเทือกเขาแอนดีส มันอะเมซิ่งมาก ตอนมาถึงคือมีอาการมึนหัวนิดหน่อย เพราะเมืองที่อยู่สูงแบบนี้ ร่างกายคนไทยอย่างเราไม่ชิน เนื่องจากออกซิเจนเบาบางมากในอากาศ เดินขึ้นมันไดไม่กี่ขั้นก็หอบแล้วอะ บางคนอาจจะแพ้ความสูงได้ (Altitude Sickness) เพราะฉะนั้นควรศึกษาเรื่อง acclimatization หรือการให้ร่างกายปรับตัวกับ high altitude ก่อนมานี่ด้วยนะจ้ะ
Accommodation:
เราพักที่โฮสเทลที่ลือกันว่าดีที่สุดในเมือง ชื่อ Pariwanna Hostel จ้า เราชอบ atmosphere และความ lively มากๆ มีความเอื้อให้เราได้พบปะกับ traveler คนอื่นๆ มีกิจกรรมให้ทำเยอะ มี courtyard ชิลๆตรงกลาง #เริ้บบ ที่ Lima ก็มีอีกสาขานะ เรานอนห้องรวม 14 เตียง ตกคืนละ 300 บาท ฟรีอาหารเช้าด้วยจ้า แต่โฮสเทลนี้คนเยอะมาก ห้องใหญ่แบบนี้ก็คือเต็ม แล้วแต่ละคนก็เข้าออกแบบคนละเวลา ยิ่งแบบตี่สี่ คนก็เริ่มตื่นแล้วเพราะส่วนใหญ่ทัวร์มารับเช้ามาก เลยรู้สึกว่าหลับไม่ค่อยสบายเท่าไร นอนห้องเล็กๆ คนน้อยน่าจะดีกว่า แต่ก็ต้องจ่ายเพิ่มแหละนะ
ที่ Cusco ควรแพลนเวลาอยู่นานๆหน่อย เพราะมีอะไรให้ทำเยอะมาก และด้วยความที่กิจกรรมส่วนใหญ่มันเกี่ยวข้องกับ Hiking ซึ่งร่างกายมันต้องใช้เวลาปรับตัวกับความเบาบางกับออกซิเจนในอากาศก่อนที่จะทำอะไรแอคทีฟๆ สองวันแรกควร take it easy ก่อน บางคนอาจจะป่วย นอนอยู่ที่พักทั้งวันก็ได้ เราไม่สามารถรู้ล่วงหน้าได้ เพราะฉะนั้นก็เซฟๆไว้
Recommended things to do:
Rainbow Mountain (5200 m)
ไม่ได้ไปเพราะไม่มีเวลา เสียดายมากแก มันคือภูเขาที่เป็นสีๆ เหมาะถ่ายรูปลงไอจีมาก ต้องซื้อทัวร์ไปเต็มวัน ออกเดินทางแต่เช้ามืด นั่งรถสามชั่วโมงครึ่ง แล้ว hike ขึ้นไปอีกสองชั่วโมง
Humantay Lake (4200 m)
ไม่ได้ไปเช่นกันแม่ เหมือนเซคชั่นนี้ไว้เขียนระบาย8;k,glupสิ่งที่ตัวเองไม่ได้ทำแล้วบอกต่อให้คนอื่นไปทำแทน555 เพื่อนบอกว่าทะเลสาบนี้สวยมากก แต่กว่าจะ hike ไปถึงก็เหนื่อยเอาเรื่องเช่นกัน
Sacred Valley, Moray, Maras Salt Ponds
พวกนี้จะเป็นซากโบราณของอารยธรรมอินคา ซื้อ day tour ไปชมได้แบบชิวๆ ไม่ต้องออกแรงเยอะเหมือนอันอื่นๆ
Machu Picchu
อันนี้ไฮไลท์ฝุดๆ เดี๋ยวมาต่อนะคะ
[CR] แบ็คแพ็คไปเปรูแบบลุยๆ อยู่กับป่าบนเทือกเขาแอนดีสเพื่อเดินทางไปเยือนเมืองสาบสูญแห่งอินคา
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้