เดี๋ยวนี้คนหาเงินยากขึ้นหรือไม่วางเเผนการเงินที่ดีเอง

เห็นคนค้างงวดรถเยอะขึ้นตามกลุ่มในเฟสบุ๊คมาปรึกษาว่าต้องทำอย่างไรดี
เเถวบ้านจากไม่มีรถเก็บของเก่าตามถังขยะเดี๋ยวนี้เเย่งกันเลยไม่รู้ว่าคนผ่อนบ้านโดนด้วยไหมเพราะรถซื้อง่ายกว่าบ้านไม่มีเงินก็ออกรถได้ เเล้วเดี๋ยวนี้เห็นรถมือสองขายดาว์นเเบบผ่อนมาเเค่2-5 เดือนอันนี้คือเค้าขายจริงๆหรือเต้นท์รถขายไม่ได้จึงใช้โปรเเบบนี้ให้สามารถขายได้ง่ายขึ้น

สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 24
ผมว่าส่วนนึงมันมาจากเทคโนโลยีที่รียกว่าโซเชียล เนตเวิร์กด้วย ที่ดันเข้ามาตรงกับจริตของคนไทยพอดีในเรื่องของการอวด และการอยากได้อยากมีเหมือนคนอื่น

ยกตัวอย่าง รอบตัวผมที่เป็นพวกท่องเที่ยว  สมัยก่อน กว่าจะไปเที่ยวกันได้ ต้องเป็นคนที่สนใจจริงๆ สื่อที่มีก็ทีวี หนังสือ ต้องเสียเงินไปซื้อ เดินเข้าร้านหนังสือไปหมวดหมู่ที่ตนสนใจ มันเป็นการคัดกรองว่าคนๆไหนอยากไปเที่ยว อยากไปเปิดโลก หาประสบการณ์จริงๆ ถึงยุคถัดมาจะมีอินเตอร์เนต มีเวบ แต่ก็ต้องเป้นคนที่สนใจอยู่ดีที่จะพิมพ์ เข้าเวบเที่ยวนั้นๆ แม้กระทั่งพันทิพก็ต้องไปกดเอาตามห้อง

แต่เดี๋ยวนี้กลายเป็นว่า แค่กดFacebook IG ก็มีมาเสนอถึงที่ ไม่ต้องออกแรงใช้ความพยาม มันเหมือนการตลาดแบบเสนอถึงเตียงนอน จากคนไม่คิดที่จะไปเที่ยว ก็ตามรอย(เลียนแบบ) รุปสวยๆ(ที่เกิดจากโฟโตชอปเกินครึ่ง) ใครไปก็มาอวดมารีวิว กลายเป็นการเอาอย่างกัน กลัวตกกระแส ไม่ทันกระแส (ดูตัวอย่างทุ่งหญ้าหิมะที่เกษตรนวมินทร์ ทั้งๆที่มันมีอยู่ทั่วไป แม้ในกทม แต่พอลงโซเชียลปุบ แห่กันตามทันที บางคนไม่ทันสังเกตว่าข้างบ้านตัวเองก็มีด้วยซ้ำ แต่ขอไปตามๆเค้าก่อน) บางคนไม่ได้อยากไปจริงๆหรอก แต่เห็นเค้าไปก็ไปๆกัน ตัวอย่างคลาสสิคสมัยนี้คือ ไอซ์แลนด์ สมัยก่อน คนไทยรู้จักประเทศนี้ผ่านนักบอลและภูเขาไฟระเบิดบางคราว น้อยคนไปยุโรปแล้วไปประเทศนี้ แต่พอมามีรีวิวในพันทิพ เฟสบุค ก็เกิดปรากฏการณ์แห่ตามๆกันขึ้น จากคนไม่สนใจไปไอซ์แลนด์ เพราะไปแต่ฝรั่งเศส เยอรมัน อิตาลี ก็เกิดจะไปเอาดื้อๆ

ที่น่าตลกก็คือ บางคนยังรู้แค่ว่าแสงเหนือเห็นได้เฉพาะที่ไอซ์แลนด์ก็มี ที่เที่ยวหลายๆที่กลายเป็นเกร่อๆ ดาดๆ ไปเพราะการรรีวิวของพวกบล็อกเกอร์(ซึ่งสายท่องเที่ยวมันให้ผลตอบแทนต่ำกว่าสายอื่น ส่วนใหญ่แค่อยากอวด)

ถ้าเอากรอบตรงนี้ไปจับกับสินค้าอื่นๆเช่น อาหาร ร้านหรู เสื้อผ้า เครื่องสำอางค์ แบรนเนม จิปาถะ มันทำให้เห็นว่าคนไทยที่ก่อหนี้เหล่านี้ไม่คิดและคำนวนชีวิตหลังเกษียนเลยแม้แต่น้อย จึงสะท้อนมาให้เห็นถึงหนี้ภาคครัวเรือนขนาดนี้ ภูมิต้านทานของคนไทยต่อการเย้ายวนมันต่ำเสียจนไม่น่าเชื่อ

รู้ไหมว่า ถ้าคุณอยากมีเงินใช้คร่าวๆ3หมื่นต่อเดือน ไปจนตายที่อายุ90 คุณต้องออมเงินคร่าวๆ เดือนละ30000ไปจน25ปี ผมเคยถามเพื่อนๆสายแบกเป้ท่องเที่ยว ว่าออมได้ถึงขนาดนั้นรึยัง เพราะจำนวนนั้นจะทำให้คุณได้เที่ยวไปจนตายได้ด้วย 80% ไม่มีครับ ไปตายเอาดาบหน้า ขอเที่ยวก่อน

ผมเคยคุยกับเพื่อนชาวเยอรมัน พวกเขาบอกว่า พวกเขาเคยผ่านจุดนี้มาก่อน เค้าหวังว่าคนไทยจะผ่านจุดนี้เช่นกัน One day ,Thai people will know how to use their money.

นี่ผมขอพูดเฉพาะเหล่าชนชั้นกลางที่เป็นสังคมรอบๆตัวของผมนะ บางทีก็ไม่ต้องไปว่าพวกรากหญ้าเล่นหวย กินเหล้าหรอก ชนชั้นกลางนี่ก็ไม่ได้ดีไปกว่ากันเลย
ความคิดเห็นที่ 6
คิดว่าปัญหาหลักคือใช้เงินเกินตัวค่ะ
แสดงความคิดเห็น
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ  สินเชื่อรถยนต์ ปัญหาชีวิต รถยนต์
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่