อยู่คนเดียวทุกครั้ง ต้องเปิดเพลงดังๆเอาไว้คลายเหงา
ถ้าเป็นผมในตอนที่ยังไม่เคยได้ดูหนังเรื่อง Where We belong ก็คงรู้สึกเฉยๆกับเพลงนี้
ครั้งแรกที่ได้ยินท่อนฮุกของเพลงนี้ในหนัง ผมก็คิดแค่ว่า "เพราะดีนะ" ก็แค่นั้น
แต่พอได้ดูจนจบ ได้ลองเข้าไปฟังเพลงของต้นฉบับดู กลับทำให้ผมรู้สึกว่าผู้กำกับคนนี้ (พี่คงเดช)
เลือกเพลงได้เหมะสมกับเนื้อเรื่องจริงๆ เพลงแค่ท่อนเดียวกลับมีความหมายแฝงถึงความรู้สึกเอาไว้มากมายขนาดนี้

อีกแล้ว............นี่ฉันต้องคิดถึงเธออีกแล้ว
แต่ถ้าจะให้เข้าใจความรู้สึกของเพลงให้มากกว่านี้ เราคงต้องได้ดูหนังสั้นเรื่อง
Stratosphere (Official The Documentary : Where We Belong)
เพราะในตัวหนัง WWB สื่อในส่วนนี้น้อยมาก แต่ก็พอมีอยู่บ้าง
แต่จะมาเด่นจริงๆ ในหนังสั้นเรื่องนี้มากกว่า ไม่ใช่เพียงในความสัมพันธ์ของเบลกับซู
แต่ยังรวมถึงสมาชิกคนอื่นๆในวงอย่างป่านกับแพรด้วย ที่ถึงแม้จะทะเลาะกันด้วยเรื่องอะไรก็ตาม
แต่พวกเขาก็ยังคงคิดถึงกันอยู่เสมอ

เธอทำให้ฉันเข้าใจว่าความเหงา นั้นมันเป็นอย่างไร
สำหรับผมๆรู้สึกอินกับหนังสั้นเรื่องนี้มากกว่าหนังโรงซะอีก ไม่ใช่เพราะหนังโรงไม่ดี
แต่เพราะตัวผมอยู่ไกลจากความรู้สึกของตัวครซูมากพอสมควร แต่กับเบล
ผมอินกับตัวละครนี้ เด็กที่ต้องย้ายบ้านตามพ่อแม่ ทำให้ไม่ค่อยจะมีเพื่อนเยอะเท่าไหร่
การที่ได้มีเพื่อนสักหนึ่งคน ที่เราจะกล้าเรียกเขาว่าเป็น "เพื่อนสนิท" จึงเป็นอะไรที่มีคุณค่ามากๆ
สำหรับคนอย่างเบล แต่สุดท้ายถ้าวันหนึ่งเราจำเป็นต้องจากกับเพื่อนคนนั้น
แน่นอนว่าผมก็คงทำเหมือนเบล คือปล่อยเขาไปตามทางของเขา และขอให้เขาโชคดี
แต่มันก็อดไม่ได้ ที่จะคิดถึงความทรงจำที่เคยมีรวมกันมาก่อน
และหวังว่าสักวันเราคงจะได้พบกันอีกครั้ง
(ฟังแบบนี้ แล้วอาจจะรู้สึกแปลกๆ แต่ถ้าเป็นผู้หญิงน่าจะเข้าใจความรู้สึกนี้ได้มากกว่า )
ทำให้ต่อแต่นี้เวลาที่ผมได้ฟังเพลงนี้ ก็จะไม่มีวันรู้สึกเหมือนเดิมอีกต่อไป
คงมีแต่คิดถึงความสัมพันธ์ของซูกับเบลและสมาชิกวงสตราโตสเฟียร์ไปตลอดกาล (อินจัดๆ)
อีกแล้ว
ถ้าเป็นผมในตอนที่ยังไม่เคยได้ดูหนังเรื่อง Where We belong ก็คงรู้สึกเฉยๆกับเพลงนี้
ครั้งแรกที่ได้ยินท่อนฮุกของเพลงนี้ในหนัง ผมก็คิดแค่ว่า "เพราะดีนะ" ก็แค่นั้น
แต่พอได้ดูจนจบ ได้ลองเข้าไปฟังเพลงของต้นฉบับดู กลับทำให้ผมรู้สึกว่าผู้กำกับคนนี้ (พี่คงเดช)
เลือกเพลงได้เหมะสมกับเนื้อเรื่องจริงๆ เพลงแค่ท่อนเดียวกลับมีความหมายแฝงถึงความรู้สึกเอาไว้มากมายขนาดนี้
อีกแล้ว............นี่ฉันต้องคิดถึงเธออีกแล้ว
แต่ถ้าจะให้เข้าใจความรู้สึกของเพลงให้มากกว่านี้ เราคงต้องได้ดูหนังสั้นเรื่อง
Stratosphere (Official The Documentary : Where We Belong)
เพราะในตัวหนัง WWB สื่อในส่วนนี้น้อยมาก แต่ก็พอมีอยู่บ้าง
แต่จะมาเด่นจริงๆ ในหนังสั้นเรื่องนี้มากกว่า ไม่ใช่เพียงในความสัมพันธ์ของเบลกับซู
แต่ยังรวมถึงสมาชิกคนอื่นๆในวงอย่างป่านกับแพรด้วย ที่ถึงแม้จะทะเลาะกันด้วยเรื่องอะไรก็ตาม
แต่พวกเขาก็ยังคงคิดถึงกันอยู่เสมอ
เธอทำให้ฉันเข้าใจว่าความเหงา นั้นมันเป็นอย่างไร
สำหรับผมๆรู้สึกอินกับหนังสั้นเรื่องนี้มากกว่าหนังโรงซะอีก ไม่ใช่เพราะหนังโรงไม่ดี
แต่เพราะตัวผมอยู่ไกลจากความรู้สึกของตัวครซูมากพอสมควร แต่กับเบล
ผมอินกับตัวละครนี้ เด็กที่ต้องย้ายบ้านตามพ่อแม่ ทำให้ไม่ค่อยจะมีเพื่อนเยอะเท่าไหร่
การที่ได้มีเพื่อนสักหนึ่งคน ที่เราจะกล้าเรียกเขาว่าเป็น "เพื่อนสนิท" จึงเป็นอะไรที่มีคุณค่ามากๆ
สำหรับคนอย่างเบล แต่สุดท้ายถ้าวันหนึ่งเราจำเป็นต้องจากกับเพื่อนคนนั้น
แน่นอนว่าผมก็คงทำเหมือนเบล คือปล่อยเขาไปตามทางของเขา และขอให้เขาโชคดี
แต่มันก็อดไม่ได้ ที่จะคิดถึงความทรงจำที่เคยมีรวมกันมาก่อน
และหวังว่าสักวันเราคงจะได้พบกันอีกครั้ง
(ฟังแบบนี้ แล้วอาจจะรู้สึกแปลกๆ แต่ถ้าเป็นผู้หญิงน่าจะเข้าใจความรู้สึกนี้ได้มากกว่า )
ทำให้ต่อแต่นี้เวลาที่ผมได้ฟังเพลงนี้ ก็จะไม่มีวันรู้สึกเหมือนเดิมอีกต่อไป
คงมีแต่คิดถึงความสัมพันธ์ของซูกับเบลและสมาชิกวงสตราโตสเฟียร์ไปตลอดกาล (อินจัดๆ)